📌Everest Base Camp จุดที่ใกล้ยอดเขาที่สูงในโลกที่สุด📌
สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปเดินเข้าใกล้จุดที่มองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ Everest Base Camp ประเทศเนปาลนั่นเองครับ ตั้งแต่ผมรู้จักการเดินป่า ยอดเขาแห่งนี้คือ ความฝันของผมเลย
🏔แต่ผมก็ยังไม่กล้าคิด ผมไม่กล้าจะยอมรับว่าฝันถึงเอเวอร์เรสต์ ทั้งที่จริงๆ แล้วเราแอบฝันถึงมันมาตลอด
ผมเลยซ้อมเดินป่าทั้งในและต่างประเทศ เพียงเพื่อเวลา 20 นาทีที่ได้ใกล้ชิดกับยอดเขาแห่งนี้ให้มากที่สุดครับ 5555
🛩 แผนการเดินทาง
D1 : BKK-KATH
D2 : Fly KATH - Lukla(2800m.) and Trek Namche Bazaar(3440m.) 8h.
D3 : Namche Bazaar(3440m.) for acclimatization
D4 : Namche Bazaar(3440m.) - Tengboche(3870m.) 4h.
D5 :Tengboche(3870m.) - Dingboche(4410m.) 3.30h.
D6 : Rest day in Dinboche, hike to Nagar Tshang Ri - Dingboche 4410m
D7 : Dingboche(4410m.) - Kongma la(5535m.) - Lobuche(4950m.) 9h.
D8 : Lobuche(4920m.) - Gorakshep(5180m.) 2.30h. *Kala Pattar(5545m.)
D9 : Gorakshep(5180m.) and trek continue to Everest Base camp (5364m)- Gorakshep (5180m)
D10 : Gorakshep(5180m.) - Early morning Hike to kalapatthar (5545m) and back to Pheruche (4200m) 7h.
D11 : Pheruche (4200m) - Namche Bazaar (3440m)
D12 : Namche Bazaar (3440m) - Lukla(2800m.)
D13 : Fly Lukla(2800m.)- KATH
D14 : Kathmandu Free day
D15 : KATH-BKK
🚧 14 ข้อ ที่ควรรู้ก่อนไป Everest Base Camp 🚧
1. เส้นทาง EBC ย่อมาจาก Everest Base Camp Trekking เป็นเส้นทางที่จะพาไปเราเดินเข้าใกล้จุดที่มองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ใกล้ที่สุด เริ่มต้นจากเมืองหลวงของเนปาล คือ กาฐมาณฑุ ต้องเดินทางไปยังเมือง Lukla มี 3 วิธีคือ เดิน (6-7 วัน) , นั่งรถ (4-5 วัน) และนั่งเครื่องบิน (30 นาที)
2. เมือง Lukla จะมีสนามบินที่อันตรายที่สุดติดอันดับต้น ๆ ของโลก ชื่อว่า Tenzing-Hillary Airport ความยาวรันเวย์แค่ 527 เมตรแค่นั้นเองครับ และเอียงลาดลงทำมุมกับเขา แถมสภาพอากาศก็ไม่ดี ทริปนี้ผมต้องเจอกับพายุ ทำให้เครื่องบิน Landing ไม่ได้ เพื่อให้ตรงเวลาตามแผน ทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นเฮลิคอปเตอร์ เสียตังเพิ่มอีกหลายพันบาทเลยครับ 5555 ฉะนั้น "ประกันการเดินทาง" สำคัญครับ
3.ที่นี่ใช้ระยะเวลาเดินไป-กลับประมาณ 14-20 วัน ช่วงที่เหมาะสมกับการเดินทางที่สุดคือเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม
4.จุดสูงสุดในเส้นทางนี้อยู่ที่ยอดเขา Kala Patthar 5,545 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ ส่วน Everest Base Camp อยู่ที่ความสูง 5,360 เมตร ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้อยู่ไม่ห่างกันมากนัก
5.ถ้ามีเวลายืดออกไปอีกถึง 18 วัน แนะนำให้เดินข้าม พาส ครับ ซึ่งจะมีอีก 3 พาส แต่อาจไม่ได้เป็นที่นิยมของนักเดินเทรคนักเพราะมีเวลายาวนานกว่า EBC ตั้งเกือบสัปดาห์ แต่มันทำให้เราได้เห็น Everest Region ในมุมต่างๆ ได้มากกว่าและสวยกว่า EBC
6. 3 พาสที่ว่านั้นคือ Kongma La (5,535m) , Cho La (5,420m), และ Renjo La (5,360m) ที่มีความสูงเกิน 5,300m ทั้งหมด มันสูงกว่า Everest Base Camp ทำให้เห็น Everest อย่างชัดเจน แถมเห็น Lake ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยครับ
7.เวลาผมเดินป่า หลาย ๆ คนมักจะถามผมว่า จะพาตัวเองไปลำบากทำไม ผมค้นพบแล้วครับว่า มันเป็นจุดลำบากที่ผมทนได้ รับได้ และมีความสุข แต่กับเจ้า Kongma La Pass (5,535m) เดินวันเดียว 13 ชั่วโมง อากาศแย่ ขึ้นลงเนินเหมือน Rinjani Indonisia กว่า 8 ลูก มันทำให้ผมค้นพบอีกครับว่า "ผมเจอคำตอบแล้วว่ากุไม่ควรพาตัวเองมาลำบากขนาดนี้ มันไม่มีความสุขเลย 5555 "
8. ถ้าหากเรามีอุปกรณ์ trekking ไม่ครบ สามารถมาซื้อที่ได้ย่าน Thamel ในเมืองกาฐมาณฑุ โอ้โห มีทุกอย่างจริง ๆ ครับ ทั้งของแท้และของก็อป สามารถต่อรองราคากันเหมือนเมืองไทยได้เลยครับ 55555
9. ในหนึ่งวันจะเดินเท้าประมาณ 5-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับที่พักในแต่ละหมู่บ้านว่าห่างกันแค่ไหน เส้นทางเดินทางเป็นทางเดินสัญจรของชาวบ้าน เดินสบายๆ มีเดินขึ้นเขาลงเขาสลับกันไปในแต่ละวัน ต้องข้ามสะพานแขวนที่สูงลิบลิ่ว บางช่วงเป็นทางเดินผาริมเขาที่ค่อนข้างชัน วิวทิวทัศน์ภูเขาสวยงามเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง และความสูงจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลักษณะภูมิประเทศ
10.ระหว่างการเดินทาง ถ้าเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์ไม่พร้อม หรือแลกเงินไว้ไม่พอ โอกาสสุดท้ายของคุณอยู่ที่เมือง Namche Bazaar ที่นี่มีขายของทุกอย่างเหมือน Thamel แต่ราคาก็จะแพงขึ้นด้วย
11. ยิ่งสูง อาหารยิ่งแพง รวมไปถึงน้ำด้วยครับ โรงแรมที่ใกล้ Everest Base Camp ที่สุด ผมยกตัวอย่าง อาหารที่ถูกที่สุด คือ ไข่ต้ม ฟองละ 150 บาท ข้าวปล่าว 400 บาท ครับ
12.อาบน้ำอุ่นยังต้องเสียตังครับ สูงสุดครั้งนึง 350 กว่าบาทครับ
13.ควร Save แบตเตอรี่ไว้ให้ดีดีเลยครับ ถ้าความสูงต่ำ ๆ คิดราคาชาร์จเป็นครั้ง ครั้งละ 30- 200 บาท แต่ถ้ายิ่งสูง ๆ ๆ เค้าคิดราคาชาร์จเป็น ชั่วโมงเลยครับ สูงสุดชั่วโมงละ 300 บาทเลยครับ
14. จะต้องเจออาการ AMS หรือ อาการแพ้ความสูง ประมาณว่าเวียนหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร เหนื่อยง่ายมาก หนักหน่อยก็จะทำอะไรไม่ได้เลยทีนี้ อาการแก้ที่ดีที่สุดจริง ๆ คือการลงมาจากที่สูงครับ ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเราฝืนตัวเองขึ้นไป อาจจะเจ็บป่วยหนักกว่าเดิม มันค่อนข้างร้ายแรง วิธีทำให้อาการนี้เกิดน้อยที่สุดคือ กินน้ำเยอะ ๆ ทำตัวช้า ๆ ไม่ดื่มพวกแอลกอฮอลล์ ครับ หรือ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะมียาที่ชื่อ diamox แต่ยาตัวนี้ไม่ใช่ยาแก้ AMS โดยตรงครับ จริง ๆ มันคือยาแก้ความดันในลูกตา พอทานเข้าไป มันจะมีผลข้างเคียงคือฉี่บ่อย มือชา ปากชา ผมเนี่ยเจอกับตัวเลยครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นอนหลับไม่พอ นอนดึกทุกวัน อาการของโรคนี้ทำให้ทริปนี้ ความสุขของผมลดลงเยอะเลยทีเดียวครับ
น้ำขิงจินเจน Gingen Thailand
#Gingen #ดื่มดีมีประโยชน์ปรุงอาหารก็อร่อย
อย่าปล่อยความฝันของคุณทิ้งไว้ โดยไม่มีใครดูแลนะครับ
-----------------------------------------------
เราจะหัดแบกเป้ไปด้วยกัน
Youtube : http://bit.ly/2GZF8Ua
IG : gowentgonetrip
IG : https://goo.gl/XKDp7b
#GoWentGoneไปไม่เว้น #กูเที่ยวไปเรื่อย #uptomego
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過8萬的網紅Go Went Gone ไปไม่เว้น,也在其Youtube影片中提到,?Everest Base Camp จุดที่ใกล้ยอดเขาที่สูงในโลกที่สุด? สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปเดินเข้าใกล้จุดที่มองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ Everest...
ams region 在 Hứa Vĩ Văn Facebook 的最佳解答
Gặp Gỡ Mùa Thu 2016
AUTUMN MEETING 2016 ACTIVITIES
#AutumnMeeting #Gapgomuathu2016
Organized by: DNY Productions – In Co-operation with VUS (Vietnam – USA Society English Center)
Organizers: Director Phan Dang Di, Producer Tran Thi Bich Ngoc.
Media Sponsor: Thanh Nien News.
Main Partners: People’s Committee of Da Nang; Kaohsiung Film Archive (Taiwan), Red Ruby entertainment, Hoa Sen University
Main sponsors: CGV, CJ E&M, SIFS, VNG Corporation, Vingroup
Date: from November 8th to November 16th , 2016.
Other related programs by AM 2016 will take place beginning 05/2016.
Main Location: Da Nang City and Hoi An Ancient Town.
Some AM 2016 courses will also take place in Ho Chi Minh City.
Other Media Partners: VNExpress News, Vietnamnet, Tuoi Tre News, The Thao & Van Hoa. Lao Dong News, Dep, Elle, The Thao & Van Hoa Men, Da Nang Newspaper. Culture – Events – People Program by VTV3. Young Cinema by VTV6, Cinema Program by VTV2. VTV4 channel, VTV Da Nang, DRT Da Nang.
PROGRAM SUMMARY:
Autumn Meeting 2016 is organized by DNY Productions in cooperation with local and international organizations. Since the first Autumn Meeting in 11/2013, the program has been on its way to become an annual cinema event in late autumn in Da Nang beach city and Hoi An ancient town.
Autumn Meeting 2016 continues to be the converging spot for the most familiar and successful faces in Vietnamese cinema through its professional exchange activities, Gala screenings, awards, and fundraising programs. Furthermore, since 2014, Autumn Meeting has welcomed important international guests from Korean Academy of Film Arts, Motion Picture Association of America as well as members of Cannes and Venice International Film Festivals. This year, apart from the familiar faces above, AM will for the first time welcome filmmakers from South East and East Asia and other delegates from Berlin International film festival, Hong Kong International Film Festivals, Kaohsiung Film Archive and Kaohsiung International Film Festival, Fukuoka Asian Film Festival…
Retaining the same guiding principle of discovering and providing support for new cinema talents, Autumn Meeting 2016 will select and invite young filmmakers in the country with promising short projects to present and complete their works in workshops guided by established local and international filmmakers. Additionally, since 2015, AM courses have also begun to welcome young filmmakers from South East Asian and East Asian countries. As the workshops conclude, the best projects selected by a jury of leading movie professionals will be awarded valuable prizes to help propel these projects into future films.
Autumn Meeting 2016 will continue to welcome the world acclaimed Vietnamese director Tran Anh Hung as the instructor for the Directing Workshop. Mister Tran Anh Hung will also be the Jury President for the “Short Film of the Future” Award. French editor Julie Beziau will be in charge of the Editing Workshop. French Colorist Yov Moor will be in charge of Color-grading Workshop, Indonesian filmmaker Joko Anwar and Tia Hasibuan will be in charge of Specialized Workshop “Making movies with a super low budget”. The first ever Acting Workshop by AM will be led by Korean professor Lydia Park, with a special appearance by acclaimed actress Moon So-ri.
Well known Vietnamese actors/actresses and directors will take part in various Autumn Meeting 2016 activities as the event’s official guests.
With the mission of unifying and developing Vietnamese cinema as well as stimulating cinematic discourses with other countries in the region (South East Asia and Asia-Pacific), Autumn Meeting 2016 is a non-profit cultural event that aims to assist young cinema talents. The three AMs so far in 2013, 2014, and 2015 have received enormous support from Vietnamese media outlets and adoration from both Vietnamese and international artists. Most importantly, AM is at the receiving end of the immense support from the people and governmental bodies of the cities it resides. As it grows, AM strives to become a significant International Film Festival in the near future.
AUTUMN MEETING 2016 ACTIVITIES
I. Workshops with well-known filmmakers.
AM 2016 filmmaking courses will be divided into 5 workshops.
Directing Workshop will still be under the guidance of director Tran Anh Hung. 12 young Vietnamese and international filmmakers with exciting short film projects will be chosen to attend the 7-day workshop.
English will be the official language in this workshop.
Editing Workshop, 20 young directors and editors will take part in an 8-day course in Ho Chi Minh City taught by veteran French editor Julie Beziau. Besides editing theories, the course will focus on practice. Attendants will be instructed on how to re-edit and renovate their previous projects.
This workshop will take place from May 10 to May 18 in Ho Chi Minh City.
Color-grading Workshop, 20 young directors and colorists will take part in an 8-day course in Ho Chi Minh City taught by veteran French Colorist Yov Moor. Besides color-grading theories, the course will focus on practice. Attendants will be instructed on how to do color-grading and renovate their previous projects.
This workshop will take place from October 5th to October 13th in Ho Chi Minh City
Acting Workshop: AM will orchestrate a 20 student course with Vietnamese young talents. Attendants will learn under renowned acting coach, Ms. Lydia Park. After completion, Acting Workshop attendants will have the chance to perform alongside movie stars in selected short projects that will be screened in AM 2016 Closing Gala. Attendants can also find acting prospects from other film projects participating in AM program. In November 15th, attendants will join the Panel Discussion with the acclaimed actress Moon So-ri (South Korean) on a subject of: “The co-operation between director and actor/actress in filming”.
Specialized Workshop – Making movies with a super low budget. AM has designed this special course for 12 young Vietnamese and International filmmakers who had taken part in AM before along with other filmmakers in the region who are getting ready to make their first feature. Guest lecturers are director Joko Anwar, producer Tia Hasibuan (Indonesia) – who have made successful movies with very low budget (under 50,000 USD) but are still invited to the most prestigious film festivals in the world.
II. Feature Project Market
This is the third year this format is adapted into AM program. During Feature Project Market, commercial and art-house film projects will be presented in search of investors or buyers.
Art-house Film Corner is reserved for art-house film projects. 6 to 8 projects from Vietnam and Asia will be selected for presentation before a panel of judges including respected Vietnamese and international art film directors and curators film prestigious film festivals like Hong Kong, Venice, Berlin. The judges will pick the best project for the Autumn Meeting Grand Prix. Additionally, projects competing at Art-house Film Corner will have the chance to be invited to other film project markets at notable film festivals or receive sponsorship from international movie funds depending on the ingenuity and potential of each project.
In the third year of Art-house Film Corner, AM organizers expect to welcome Mr. Paolo Bertolin, curator for Venice Film Festival in South East Asia, Mr. John Badalu, curator for Berlin Film Festival, director Tran Anh Hung, director Joko Anwar, and a respected Vietnamese producer as the judges for Autumn Meeting Grand Prix.
The counterpart of Art-house Film Corner for commercial projects is Entertainment Film World.
At Entertainment Film World, 8 high quality Vietnamese commercial projects will be presented through pitching sessions and personal interactions with producers from various production companies in the country.
After getting to know the projects, producers will be invited to sit on a judging panel headed by director Victor Vu. The judges will select the best project in Entertainment Film World to give the Producers’ Choice Award.
III. In Focus: Short film collection from Kaohsiung.
“Short film collection from Kaohsiung” is a collaboration between Autumn Meeting and Kaohsiung Film Archive. This program showcases 8 short films made by young Taiwanese filmmakers and funded by Kaohsiung Film Archive. Four representatives from Kaohsiung Film Archive and 4 young Taiwanese film directors will be invited to Ho Chi Minh City and Da Nang to present their films. They also join the panel discussion with other young Vietnamese filmmakers in the subject of “Establishing a filmmaker’s identity through short films”. The filmmakers are also invited to join Autumn Meeting’s activities and closing ceremony on November 16 in Da Nang.
IV. “Voices of Vietnamese Filmmakers” forums and convention.
“Voices of Producers” forum gathers well-regarded producers from Vietnam (see list in appendix) to discuss issues relating to their works. The anticipated topic for the forum this year is: “How to produce a high quality film with a low budget”.
“Voices of Directors” forum also welcomes the best Vietnamese directors (see list in appendix) to talk about the most essential aspects of their careers. Expected topic: “Establishing the Directors Guild of Vietnam”.
Convention –“Establishing a Da Nang – Hoi An International Film Festival – from the experience of professional film festival organizers around the world.”
AM and People Committee of Hoi An this year invites representatives, organizers, and managers from reputable Asian film festivals such as: Hong Kong Film Festival, Busan Film Festival, Fukuoka Film Festival as well as representatives of top international film festivals in the world: Cannes Film Festival, Berlin Film Festival, and Venice Film Festival to a convention with Da Nang, Hoi An government committee, travel agencies, and event organizers. This convention will focus on getting idea and creating a model for an international film festival in the area in the near future.
V. Autumn Meeting 2016 Awards.
One of the most important feature of AM is aiding young movie talents through awards. They are:
1. Autumn Meeting Grand Prix Award.
For the best project at Art-house Film Corner. The winner will receive a cash prize of $5,000 and an AM Grand Prix certificate. The winning director will use this money to continue developing their project until it becomes a feature film.
2. Producers’ Choice Award.
For the best project at Entertainment Film World. The winner will receive a cash prize of $3,000 and an AM Producers’ Choice certificate.
3. Short Film of the Future Award.
For the best project at the Directing Workshop. Young filmmakers will pitch the projects they’ve developed after the 6-day course before a judging panel led by director Tran Anh Hung. The winning entry will receive a cash prize, certificate, and an equipment package at AM Gala Screening and closing ceremony.
4. Emerging Star Awards.
For the best attendants in the Acting Workshop. There are:
- Best Actor Award (selected by judges).
- Best Actress Award (selected by judges).
- Best Actor Award (selected by audience).
- Best Actress Award (selected by audience).
Expected value of each award is $1,000.
VI. Gala Screening and Closing Ceremony.
A red carpet event will commence AM 2016 Closing Gala. Movie stars and valuable guests from within and outside of Vietnam will appear before the fans and audience. Here selected short films by previous Autumn Meetings attendants, exclusive works by 2016 Acting Workshop students and guest stars will be screened. The Closing Ceremony will see the awards (Autumn Meeting Grand Prix, Producers’ Choice, Short Film of the Future, Stars’ Choice, and Emerging Star Award) given to the best new faces of cinema. Last but certainly not least, this night will also be devoted in gratitude of the sponsors whose tremendous contribution has built and strengthened Autumn Meeting.
ams region 在 Go Went Gone ไปไม่เว้น Youtube 的最讚貼文
?Everest Base Camp จุดที่ใกล้ยอดเขาที่สูงในโลกที่สุด?
สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปเดินเข้าใกล้จุดที่มองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ Everest Base Camp ประเทศเนปาลนั่นเองครับ ตั้งแต่ผมรู้จักการเดินป่า ยอดเขาแห่งนี้คือ ความฝันของผมเลย
?แต่ผมก็ยังไม่กล้าคิด ผมไม่กล้าจะยอมรับว่าฝันถึงเอเวอร์เรสต์ ทั้งที่จริงๆ แล้วเราแอบฝันถึงมันมาตลอด
ผมเลยซ้อมเดินป่าทั้งในและต่างประเทศ เพียงเพื่อเวลา 20 นาทีที่ได้ใกล้ชิดกับยอดเขาแห่งนี้ให้มากที่สุดครับ 5555
? 14 ข้อ ที่ควรรู้ก่อนไป Everest Base Camp ?
1. เส้นทาง EBC ย่อมาจาก Everest Base Camp Trekking เป็นเส้นทางที่จะพาไปเราเดินเข้าใกล้จุดที่มองเห็นยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ใกล้ที่สุด เริ่มต้นจากเมืองหลวงของเนปาล คือ กาฐมาณฑุ ต้องเดินทางไปยังเมือง Lukla มี 3 วิธีคือ เดิน (6-7 วัน) , นั่งรถ (4-5 วัน) และนั่งเครื่องบิน (30 นาที)
2. เมือง Lukla จะมีสนามบินที่อันตรายที่สุดติดอันดับต้น ๆ ของโลก ชื่อว่า Tenzing-Hillary Airport ความยาวรันเวย์แค่ 527 เมตรแค่นั้นเองครับ และเอียงลาดลงทำมุมกับเขา แถมสภาพอากาศก็ไม่ดี ทริปนี้ผมต้องเจอกับพายุ ทำให้เครื่องบิน Landing ไม่ได้ เพื่อให้ตรงเวลาตามแผน ทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นเฮลิคอปเตอร์ เสียตังเพิ่มอีกหลายพันบาทเลยครับ 5555 ฉะนั้น "ประกันการเดินทาง" สำคัญครับ
3.ที่นี่ใช้ระยะเวลาเดินไป-กลับประมาณ 14-20 วัน ช่วงที่เหมาะสมกับการเดินทางที่สุดคือเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม
4.จุดสูงสุดในเส้นทางนี้อยู่ที่ยอดเขา Kala Patthar 5,545 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ ส่วน Everest Base Camp อยู่ที่ความสูง 5,360 เมตร ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้อยู่ไม่ห่างกันมากนัก
5.ถ้ามีเวลายืดออกไปอีกถึง 18 วัน แนะนำให้เดินข้าม พาส ครับ ซึ่งจะมีอีก 3 พาส แต่อาจไม่ได้เป็นที่นิยมของนักเดินเทรคนักเพราะมีเวลายาวนานกว่า EBC ตั้งเกือบสัปดาห์ แต่มันทำให้เราได้เห็น Everest Region ในมุมต่างๆ ได้มากกว่าและสวยกว่า EBC
6. 3 พาสที่ว่านั้นคือ Kongma La (5,535m) , Cho La (5,420m), และ Renjo La (5,360m) ที่มีความสูงเกิน 5,300m ทั้งหมด มันสูงกว่า Everest Base Camp ทำให้เห็น Everest อย่างชัดเจน แถมเห็น Lake ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยครับ
7.เวลาผมเดินป่า หลาย ๆ คนมักจะถามผมว่า จะพาตัวเองไปลำบากทำไม ผมค้นพบแล้วครับว่า มันเป็นจุดลำบากที่ผมทนได้ รับได้ และมีความสุข แต่กับเจ้า Kongma La Pass (5,535m) เดินวันเดียว 13 ชั่วโมง อากาศแย่ ขึ้นลงเนินเหมือน Rinjani Indonisia กว่า 8 ลูก มันทำให้ผมค้นพบอีกครับว่า "ผมเจอคำตอบแล้วว่ากุไม่ควรพาตัวเองมาลำบากขนาดนี้ มันไม่มีความสุขเลย 5555 "
8. ถ้าหากเรามีอุปกรณ์ trekking ไม่ครบ สามารถมาซื้อที่ได้ย่าน Thamel ในเมืองกาฐมาณฑุ โอ้โห มีทุกอย่างจริง ๆ ครับ ทั้งของแท้และของก็อป สามารถต่อรองราคากันเหมือนเมืองไทยได้เลยครับ 55555
9. ในหนึ่งวันจะเดินเท้าประมาณ 5-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับที่พักในแต่ละหมู่บ้านว่าห่างกันแค่ไหน เส้นทางเดินทางเป็นทางเดินสัญจรของชาวบ้าน เดินสบายๆ มีเดินขึ้นเขาลงเขาสลับกันไปในแต่ละวัน ต้องข้ามสะพานแขวนที่สูงลิบลิ่ว บางช่วงเป็นทางเดินผาริมเขาที่ค่อนข้างชัน วิวทิวทัศน์ภูเขาสวยงามเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง และความสูงจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามลักษณะภูมิประเทศ
10.ระหว่างการเดินทาง ถ้าเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์ไม่พร้อม หรือแลกเงินไว้ไม่พอ โอกาสสุดท้ายของคุณอยู่ที่เมือง Namche Bazaar ที่นี่มีขายของทุกอย่างเหมือน Thamel แต่ราคาก็จะแพงขึ้นด้วย
11. ยิ่งสูง อาหารยิ่งแพง รวมไปถึงน้ำด้วยครับ โรงแรมที่ใกล้ Everest Base Camp ที่สุด ผมยกตัวอย่าง อาหารที่ถูกที่สุด คือ ไข่ต้ม ฟองละ 150 บาท ข้าวปล่าว 400 บาท ครับ
12.อาบน้ำอุ่นยังต้องเสียตังครับ สูงสุดครั้งนึง 350 กว่าบาทครับ
13.ควร Save แบตเตอรี่ไว้ให้ดีดีเลยครับ ถ้าความสูงต่ำ ๆ คิดราคาชาร์จเป็นครั้ง ครั้งละ 30- 200 บาท แต่ถ้ายิ่งสูง ๆ ๆ เค้าคิดราคาชาร์จเป็น ชั่วโมงเลยครับ สูงสุดชั่วโมงละ 300 บาทเลยครับ
14. จะต้องเจออาการ AMS หรือ อาการแพ้ความสูง ประมาณว่าเวียนหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร เหนื่อยง่ายมาก หนักหน่อยก็จะทำอะไรไม่ได้เลยทีนี้ อาการแก้ที่ดีที่สุดจริง ๆ คือการลงมาจากที่สูงครับ ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเราฝืนตัวเองขึ้นไป อาจจะเจ็บป่วยหนักกว่าเดิม มันค่อนข้างร้ายแรง วิธีทำให้อาการนี้เกิดน้อยที่สุดคือ กินน้ำเยอะ ๆ ทำตัวช้า ๆ ไม่ดื่มพวกแอลกอฮอลล์ ครับ หรือ ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะมียาที่ชื่อ diamox แต่ยาตัวนี้ไม่ใช่ยาแก้ AMS โดยตรงครับ จริง ๆ มันคือยาแก้ความดันในลูกตา พอทานเข้าไป มันจะมีผลข้างเคียงคือฉี่บ่อย มือชา ปากชา ผมเนี่ยเจอกับตัวเลยครับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นอนหลับไม่พอ นอนดึกทุกวัน อาการของโรคนี้ทำให้ทริปนี้ ความสุขของผมลดลงเยอะเลยทีเดียวครับ
เดี๋ยวอีกไม่นานจะมีคลิปเต็ม 20 วันมาให้ชมกันด้วยฝากติดตามกันด้วยนะครับ 5555
อย่าปล่อยความฝันของคุณทิ้งไว้ โดยไม่มีใครดูแลนะครับ
---------------
พูดคุยทักทายกันได้เลย
►Facebook : Go Went Gone ไปไม่เว้น - https://bit.ly/2UR4Im8
►Instragam : gowentgonetrip - https://bit.ly/3bOUlX3
►TIKTOK : gowentgonetrip - https://bit.ly/39tZF0k
►Tel : 063-5979-141
ติดต่องานได้ที่
gowentgonetrip@gmail.com
ams region 在 Corinne Vigniel Youtube 的最佳解答
Crank up the volume for music and see the Annapurna Circuit through the eyes of a mischievous 11-year old boy. Watch us deteriorate as we drag ourselves over Thorong La 5,416 meters (17,769 feet). We trekked around Annapurna in Nepal with Lionel over Christmas (yes, boy with long hair!). Lionel was really determined to make it and was actually faster and stronger than his parents ... We were all pushed to our limits and left gasping for breath the day we crossed the high pass – but felt a real sense of achievement.
The Annapurna Circuit is widely regarded as one of the top 10 treks in the world. It has an incredible variety of landscapes. You start below 1,000 meters (3,280 ft) in rice paddies and banana plantations, go through pine forests, past Tibetan Buddhist villages, before tackling the high altitude pass of Thorong La. On the other side, you discover the high altitude desert of Mustang and the deepest valley in the world, the Kali Gandaki.
Lots of research and training went into this two-week trek. We love the great outdoors, and Lionel has been a keen hiker from a very young age. We’ve taken several family trips to the Tibetan plateau in winter, and Kirk and I trekked to the Gokyo Lakes in the Everest region 13 years ago. But this was the first time we tackled such a challenge as a family.
Most travel agencies recommend you should not take children above 3,000 meters (9,840 feet). We looked into easier options, including the Annapurna Sanctuary and Kopra Danda – but Lionel was very keen to scale Thorong La. And we felt he was ready to do it, and we had the experience to guarantee his safety. We played it safe, hiring a guide and two porters to help us -- and we would not have been able to make it carrying all the gear ourselves.
Winter offers clear blue skies and stunning views of the Himalayas. You only meet a handful of people every day, and it's easy to get a room in lodges. A total of 60 people crossed Thorong La on Dec 27, and only 30 the next day.
On the down side, it's bitterly cold at night in unheated lodges. And snow storms can cross the pass at any time. This would mean waiting for a few days for the pass to reopen, or turn back and hike for a week.
This is a high altitude trek. Best to resist the temptation to take the jeep road high up, as you increase your risk of suffering from acute mountain sickness. Give yourself time to acclimatise, and watch out for signs of Acute Mountain Sickness (AMS), or worse - HAPE or HACE. It is also essential to have proper equipment to trek in snow, not just for yourself, but for your porters and guide, if you have them.
Remember that over 40 people died around Thorong La on October 14, 2014 when a massive snowstorm hit the Annapurna, Dhaulagiri and Mustang areas. Hiking at that altitude always carries a risk.
We organised this trek through Friends in High Places Himalayan Trekking, who provided a guide (Pasang Dawa Sherpa) and two porters (Sonny and Pinju). We would not have been able to complete this trek without them.
++ALL VIDEOS/EDIT COPYRIGHT CORINNE VIGNIEL++
Location: Upper Pisang, Manang, Yak Kharka, Thorong Phedi, Thorong High Camp, Thorong La pass, Ranipauway, Muktinath, Lupra, Nepal
December 24-28, 2016
Camera: Panasonic GH3
Edited on Adobe Premiere CC2015
Music:
Little Drummer Boy Lyris lyrixpixie
Amazing Grace Pipes And Drums Of The 1st Bn. Scots Guards
Camille Saint-Saëns – Danse Macabre (YouTube Audio Library)
Om Mani Padme Hum Buddhist music
Beethoven - Egmont Overture (YouTube Audio Library)
++ALL VIDEO FOOTAGE COPYRIGHT CORINNE VIGNIEL ++
++MUSIC DOWNLOADED FROM YOUTUBE, SEE CREDITS ABOVE++
END
ams region 在 Centering Community in USDA AMS Regional Food Business ... 的推薦與評價
Description: On May 2, 2022, the Johns Hopkins Center for a Livable Future hosted a conversation for food policy councils about the Regional ... ... <看更多>