ทำไม บางบริษัทมีกำไร แต่ไม่ยอมจ่ายเงินปันผล /โดย ลงทุนแมน
สำหรับคนที่ลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ
1. กำไรจากการขายหุ้น (Capital Gain) และ
2. เงินปันผล (Dividend)
ซึ่งโดยพื้นฐาน ทั้ง 2 ส่วนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเรื่องของ กำไรของกิจการเป็นหลัก
เพราะโดยทั่วไปแล้ว ถ้าบริษัทมีกำไรเติบโตมาก
ราคาหุ้นก็จะปรับเพิ่มขึ้น รวมไปถึงจ่ายเงินปันผลมากขึ้น
แต่ประเด็นของบทความนี้ก็คือ มีบางบริษัท ที่แม้ว่าจะมีกำไรมาก แต่กลับเลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเลย
มีเหตุผลอะไรที่บางบริษัทแม้ว่าจะมีกำไรมหาศาล
แต่เลือกที่จะไม่จ่ายเงินปันผลออกมา
แล้วถ้าเราอยู่ในฐานะนักลงทุน เราควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผลหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า นักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนในหุ้น หวังจะได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้น นักลงทุนในกลุ่มนี้ จึงชอบมองหา บริษัทที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงอาจมีนักลงทุนจำนวนหนึ่ง
ที่มีกฎเหล็กเลยว่า จะไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล
ในมุมของบริษัท หลัก ๆ แล้วจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ เมื่อในรอบปีบัญชีนั้น บริษัทมีกำไร และไม่มีผลขาดทุนสะสม
อย่างไรก็ตาม ก็มีบริษัทจำนวนไม่น้อย ที่เลือกไม่จ่ายเงินปันผล ทั้งที่บริษัทก็มีกำไร และไม่ได้ขาดทุนสะสม
ซึ่งก็มีเหตุผลที่ไม่จ่ายหลากหลายกรณี เช่น
กรณีแรก: บริษัทต้องการนำผลกำไรนั้น ไปลงทุนต่อ
การนำผลกำไรกลับไปลงทุนต่อ (Reinvesting Profits)
คือสิ่งที่หลายบริษัทเลือกทำ โดยเฉพาะถ้าบริษัทนั้น กำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต ซึ่งต้องการทุ่มเงินลงทุนไปในโครงการต่าง ๆ
บางบริษัทเชื่อว่า การนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า การที่ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล
ซึ่ง Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอรายใหญ่ของโลก ก็คือกรณีศึกษาที่ดีของเรื่องนี้
เราลองมาดูผลประกอบการของ Netflix ในช่วงปี 2018-2020
ปี 2018 รายได้ 521,000 ล้านบาท กำไร 40,000 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 666,000 ล้านบาท กำไร 62,000 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 833,000 ล้านบาท กำไร 92,000 ล้านบาท
รู้ไหมว่า สิ้นปี 2020 Netflix มีกำไรสะสมมากถึง 252,000 ล้านบาท แต่ที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเลย
เนื่องจากบริษัทนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อในการผลิตคอนเทนต์ เช่น สร้างภาพยนตร์ สร้างแอนิเมชัน ซีรีส์ รวมไปถึงการจ่ายคืนหนี้ และซื้อหุ้นคืน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ได้เงินปันผล แต่มูลค่าบริษัทของ Netflix ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 119,000 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนในหุ้น Netflix 1 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ เงิน 1 ล้านบาทนั้นของเรา จะกลายเป็น 71 ล้านบาท
และนั่นคงไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น Netflix มีปัญหาอะไร แม้ว่าจะไม่เคยได้รับเงินปันผลเลยก็ตาม..
กรณีที่สอง: เก็บเงินสดไว้ซื้อกิจการเป้าหมาย
อีกหนึ่งบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นมานานแล้ว คือ Berkshire Hathaway ที่มีวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังระดับโลกเป็นผู้บริหารอยู่
รู้ไหมว่า ปัจจุบัน Berkshire Hathaway นั้นมีเงินสดอยู่ในบริษัทกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งการที่ Berkshire Hathaway เลือกถือเงินสดไว้มาก ๆ เหตุผลหนึ่งก็คือ เก็บเอาไว้ใช้ซื้อกิจการที่น่าสนใจ
ตัวอย่างกิจการที่ Berkshire Hathaway เข้าไปซื้อในอดีตที่ผ่านมา เช่น
ปี 2010 ซื้อหุ้น 100% ของบริษัท BNSF Railway ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟรายใหญ่ ที่มีเครือข่ายในทวีปอเมริกาเหนือ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ปี 2013 ซื้อหุ้น 50% ใน The H. J. Heinz Company บริษัทแปรรูปอาหารและผลิตซอสมะเขือเทศ มูลค่ากว่า 410,000 ล้านบาท
แม้ว่าหลัง ๆ มา Berkshire Hathaway จะไม่ได้เข้าซื้อกิจการด้วยมูลค่ามาก ๆ เท่าในอดีต
แต่การที่บริษัทมีเงินสดอยู่มหาศาล ก็ทำให้บริษัทสามารถเข้าไปซื้อกิจการเป้าหมายได้ เมื่อไรก็ตามที่บริษัทต้องการ
กรณีที่สาม: ปัญหาทางการเงินของบริษัท
นอกเหนือจากการนำผลกำไรนั้นกลับไปลงทุนต่อ และเก็บเงินไว้เพื่อซื้อกิจการเป้าหมายแล้ว การที่บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอาจเกิดจากปัญหาทางการเงินของบริษัทเอง
บางบริษัทแม้ว่า จะมีกำไรในบางปี แต่ก็ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลออกมาได้ เนื่องจากบริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ ซึ่งตามกฎแล้ว บริษัทจะยังไม่สามารถที่จะจ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้นได้
หรือแม้แต่กรณีที่บริษัทมีกำไรสะสม และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ แต่บริษัทก็อาจจะยังไม่จ่าย เนื่องจากสถานะการเงินที่ยังไม่แข็งแรง จึงเลือกที่จะเก็บเงินสดไว้ระดับหนึ่งก่อน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะพอได้ไอเดียแล้วว่า
ทำไมบางบริษัทที่มีกำไรแต่ไม่จ่ายเงินปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น
เพราะว่าบริษัทเหล่านั้น ต้องการที่จะนำผลกำไรไปลงทุนต่อในธุรกิจตัวเอง ไปซื้อกิจการอื่น จ่ายคืนหนี้ ซื้อหุ้นคืน หรือแม้แต่เก็บเงินสดไว้ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน
ดังนั้น ก่อนที่เราจะปฏิเสธไม่ลงทุนในบริษัทที่ไม่จ่ายเงินปันผล เราต้องดูให้ดีก่อนว่า ที่บริษัทไม่ยอมจ่ายเงินปันผลนั้น เพราะอะไร หรือมีแผนเอาเงินที่ไม่จ่ายออกมาเป็นปันผลนั้น ไปต่อยอดได้ดีแค่ไหน
ถ้ามองแล้วว่า ถึงแม้บริษัทจะไม่จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น
แต่มีการเอาเงินส่วนนั้น ไปต่อยอดสร้างอนาคตที่ดีให้กิจการ
หุ้นที่เราถืออยู่ ก็สามารถมีมูลค่าที่เติบโตเพิ่มขึ้น
จนทำให้สุดท้ายแล้ว เราในฐานะผู้ถือหุ้น ก็อาจได้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ซึ่งถ้าผู้ถือหุ้นอยากได้เงินสดมาใช้ ก็อาจแบ่งขายหุ้นออกมาได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.suredividend.com/why-companies-never-pay-dividends/
-https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/files/20200914_Dividend.pdf
-https://ir.netflix.net/financials/financial-statements/default.aspx
-https://www.investopedia.com/ask/answers/12/why-do-some-companies-pay-a-dividend.asp
-https://www.wallstreetzen.com/stocks/us/nasdaq/nflx/dividends
-https://finance.yahoo.com/quote/NFLX/balance-sheet?p=NFLX
-https://www.investopedia.com/ask/answers/021615/why-doesnt-berkshire-hathaway-pay-dividend.asp
-https://kunaldesai.blog/berkshire-hathaway-acquisitions/
apple financial statements 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
รู้จัก ACV บริษัทเจ้าของ เกือบทุกสนามบิน ในเวียดนาม /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงบริษัทเจ้าของสนามบินในประเทศไทย
ทุกคนต้องนึกถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
และถ้าถามว่า ในตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเราอย่างเวียดนาม มีหุ้นที่ดำเนินธุรกิจคล้าย AOT หรือไม่ คำตอบก็คือ “มี” นั่นคือหุ้น ACV หรือบริษัท Airports Corporation of Vietnam
ACV บริหารสนามบินกี่แห่งในเวียดนาม มีผลประกอบการเป็นอย่างไร และวันนี้มูลค่ากิจการเท่าไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนที่จะเข้าเรื่อง เรามาดูตัวเลขการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังเวียดนามกันก่อนว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไร
- ปี 2010 จำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังเวียดนาม 5 ล้านคน
- ปี 2019 จำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังเวียดนาม 18 ล้านคน
การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติ มาจากการที่เวียดนามมีนักธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
รวมไปถึงการที่รัฐบาลเวียดนาม ได้ทำแผนแม่บทการท่องเที่ยวแห่งชาติขึ้น ตั้งแต่ปี 2013 เพื่อพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของประเทศ จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในเวียดนามได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับอดีต
อีกประเด็นคือ การที่รายได้ของชนชั้นกลางในประเทศเวียดนาม กำลังเพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจที่เติบโต จึงทำให้การเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ ที่สะดวกกว่า ประหยัดเวลากว่าการเดินทางรูปแบบอื่น มีความต้องการที่เติบโตสูงขึ้นตามไปด้วย
รู้ไหมว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศเส้นทางระหว่างเมืองโฮจิมินห์และเมืองหลวงฮานอย ถือว่าเป็นเส้นทางการบินภายในประเทศที่มีเครื่องบินขึ้น-ลง มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลดีจากเรื่องนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ธุรกิจผู้ให้บริการสนามบินอย่าง “ACV”
ACV หรือ Airports Corporation of Vietnam ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของเวียดนาม เพื่อทำธุรกิจบริหารจัดการ ท่าอากาศยานภายในประเทศเวียดนาม
ACV เข้าจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นโฮจิมินห์ในปี 2015 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีรัฐบาลเวียดนามเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 95.4% ที่เหลืออีกประมาณ 4.6% ถือโดยนักลงทุนทั่วไป
ปัจจุบัน ACV บริหารจัดการสนามบินในประเทศเวียดนามทั้งหมด 22 แห่ง จากทั้งหมด 33 แห่ง (รวมสนามบินที่ใช้ทางการทหาร) ในเวียดนาม โดยแบ่งเป็น
- สนามบินระหว่างประเทศจำนวน 7 แห่ง
- สนามบินภายในประเทศจำนวน 15 แห่ง
โดยในบรรดาสนามบินทั้งหมดที่ ACV บริหารอยู่นั้น มี 3 สนามบิน ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของบริษัท คือ
- Tan Son Nhat สนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 41.2 ล้านคน
- Noi Bai สนามบินนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเวียดนาม โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 29.3 ล้านคน
- Da Nang สนามบินนานาชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในเวียดนาม โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารมาใช้บริการ 15.5 ล้านคน
เฉพาะแค่สนามบินทั้ง 3 แห่งนี้ ก็มีจำนวนผู้มาใช้บริการรวมกันกว่า 86 ล้านคน และมีสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 75% ของรายได้ทั้งหมดของ ACV ในปี 2019
ปัจจุบัน ACV มีแหล่งที่มาของรายได้จาก 2 ส่วนคือ
- รายได้จากกิจการการบิน มีสัดส่วนประมาณ 80% ของรายได้รวม เช่น ค่าบริการในการขึ้นและลงจอดเครื่องบิน, บริการเช่าที่เก็บเครื่องบิน
- รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน มีสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ร้านค้าภายในสนามบิน
รายได้และกำไรของ ACV
ปี 2018 รายได้ 22,540 ล้านบาท กำไร 8,540 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 25,620 ล้านบาท กำไร 11,480 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 9,856 ล้านบาท กำไร 2,296 ล้านบาท
ที่รายได้ของ ACV ลดลง 62% ขณะที่กำไรลดลง 80% จากปีที่แล้ว ก็เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่สร้างปัญหาให้แก่ธุรกิจสายการบิน และธุรกิจบริหารจัดการสนามบินหลายแห่งทั่วโลก
ขณะที่รัฐบาลเวียดนามก็สั่งห้ามสายการบินจากต่างประเทศเดินทางเข้ามายังประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการที่เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในปีที่มีโรคระบาด และปัจจัยเรื่องวัคซีน ที่วันนี้ทั่วโลกรวมถึงเวียดนามกำลังระดมฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในประเทศ ก็น่าจะช่วยให้สถานการณ์ในเรื่องการเดินทางค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งก็คงทำให้ผลประกอบการของเจ้าของสนามบินในเวียดนามอย่าง ACV ค่อย ๆ ฟื้นตัวตามมา..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน มูลค่าของ ACV อยู่ที่ประมาณ 231,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าของ AOT มีมูลค่าบริษัทประมาณ 889,000 ล้านบาท ใหญ่เป็นเกือบ 4 เท่าของ ACV
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.vietnamairport.vn/en/tin-tuc/financial-informations/audited-consolidated-financial-statements-2020
-http://en.stockbiz.vn/Stocks/ACV/Overview.aspx
-https://en.wikipedia.org/wiki/Airports_Corporation_of_Vietnam
-https://www.flightglobal.com/airlines/vietnam-lifts-international-flight-suspension-to-main-gateways/143990.article
-https://www.vietnamairport.vn/en/about-acv
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Vietnam
-https://en.wikipedia.org/wiki/Transport_in_Vietnam
-https://yuanta.com.vn/wp-content/uploads/2019/09/ACV_Initiation_edited_final-1.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tan_Son_Nhat_International_Airport
-https://apea.asia/vietnam/hall-of-fame-vn-2019/airports-corporation/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Noi_Bai_International_Airport
-https://en.wikipedia.org/wiki/Da_Nang_International_Airport
-https://e.vnexpress.net/news/news/vietnam-air-passenger-numbers-nosedive-in-2020-4209786.html
-https://finance.vietstock.vn/ACV-airports-corporation-of-vietnam.htm?languageid=2&tab=BCTQ
apple financial statements 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
บริษัทเกาหลี ที่ไม่ได้ปลูกกล้วย แต่ขายนมรสกล้วย มูลค่าหมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าจะพูดถึง “นมกล้วย” ชื่อดังสักแบรนด์
ก็น่าจะมาจากประเทศที่ปลูกกล้วยได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่ในความเป็นจริง ภาพของแบรนด์นมกล้วยที่ลอยขึ้นมาอันดับแรก ๆ
กลับเป็นของแบรนด์ Binggrae จากเกาหลีใต้ ที่ปลูกต้นกล้วยไม่ได้ด้วยซ้ำ..
แล้วเรื่องราวของ “นมกล้วย” ที่ดูแสนธรรมดา
มีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจอะไรอยู่เบื้องหลัง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องราวทั้งหมดนี้ มีจุดเริ่มต้นจากบริษัท Binggrae (อ่านว่า บิงกือเร)
ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 หรือเมื่อประมาณ 54 ปีมาแล้ว
ซึ่งในขณะนั้น ยังใช้ชื่อบริษัทว่า “Daeil”
แต่ต่อมาในปี 1982 จึงได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Binggrae อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
สำหรับความน่าสนใจของบริษัทนี้
เกิดขึ้นเมื่อปี 1974 ที่บริษัทได้วางขายสินค้าสำคัญถึง 2 ชิ้น
ชิ้นแรก คือ “Together” ไอศกรีม สไตล์อเมริกัน
ซึ่งทาง Binggrae เป็นบริษัทแรกที่เริ่มผลิตและวางขายในเกาหลี
หลังจากวางขาย ก็ได้สร้างเทรนด์ขนมใหม่ให้เกาหลีทันที
ชิ้นที่สอง คือ “นมสด รสกล้วย” สินค้าที่สร้างชื่อให้กับบริษัทมากที่สุด
โดยเรื่องราวเบื้องหลังของนมกล้วย Binggrae เกิดขึ้นในช่วง 1970
เมื่อรัฐบาลเกาหลีใต้ ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคนมมากขึ้น
แต่ทว่า นมรสชาติปกติ กลับไม่ค่อยถูกปากชาวเกาหลีในสมัยนั้นเท่าไรนัก
เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ Binggrae ที่เล็งเห็นความต้องการของรัฐบาล
และปัญหาในสายตาผู้บริโภค
จึงออกสินค้าใหม่เป็น นมสด ที่แต่งเติมกลิ่นและรสชาติให้คล้ายกล้วย
ซึ่งในช่วงนั้น กล้วยเป็นสินค้าที่นำเข้า และหาทานได้ค่อนข้างยากในเกาหลี
ทำให้นมกล้วยของแบรนด์ Binggrae กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว
ซึ่งหลังจากวางขาย นมกล้วยได้เพียง 4 ปี
บริษัทก็สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นเกาหลีได้สำเร็จ
และนอกจากสินค้าขึ้นชื่ออย่าง นมกล้วยและไอศกรีม Together แล้ว
ปัจจุบัน บริษัทยังได้ออกสินค้าใหม่ รวมกันเกือบ 80 รายการ
ในขณะเดียวกัน สินค้าของ Binggrae ยังถูกส่งออกไปถึง 24 ประเทศอีกด้วย
โดยปัจจุบันบริษัท Binggrae มีมูลค่าอยู่ที่ 15,296 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 22,835 ล้านบาท กำไร 804 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 22,750 ล้านบาท กำไร 928 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 23,267 ล้านบาท กำไร 1,114 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัท Binggrae ยังครองส่วนแบ่งตลาดขนมในเกาหลี อยู่ที่ประมาณ 26.7%
และเมื่อปีที่ผ่านมานี้ บริษัท Binggrae ก็เพิ่งซื้อกิจการ Haitai Icecream
ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดขนมในเกาหลีอยู่ที่ประมาณ 14.0%
ดังนั้นเมื่อนำส่วนแบ่งตลาดของทั้ง 2 กิจการมารวมกัน
จะครองส่วนแบ่งตลาดขนมเกาหลีถึง 40.7% เลยทีเดียว
โดยมีการประเมินว่า ในปี 2020 ที่เพิ่งผ่านมานี้ บริษัท Binggrae จะทำรายได้มากขึ้นอีก เนื่องจากจะมีรายได้ในส่วนของ Haitai Icecream เพิ่มขึ้นมาด้วย
และเรื่องนี้จะทำให้ Binggrae กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตขนมรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของเกาหลีใต้เทียบชั้น LOTTE เลยทีเดียว
เรื่องราวของ Binggrae ทำให้เราเห็นว่า
ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้าออกมาให้มากมาย
เพียงแค่ผลิตสินค้าที่ดี และตอบโจทย์ความต้องการของคนได้จริง ๆ
เช่น นมรสกล้วย รสชาติที่เราคิดไม่ถึงว่าจะมีนมรสชาตินี้
ซึ่งถ้ามันสำเร็จ มันก็สามารถทำเงินได้มหาศาล แม้เวลาจะผ่านไปกี่สิบปีก็ตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-http://www.koreatimes.co.kr/www/tech/2020/
-http://eng.bing.co.kr/story/global
-http://eng.bing.co.kr/story/ceo
-http://eng.bing.co.kr/story/history/20c
-http://eng.bing.co.kr/story/invest_finance
-http://eng.bing.co.kr/brand/icecream/1118
-https://www.korea.net/NewsFocus/Business/view?articleId=122721
-http://eng.bing.co.kr/story/global
-Consolidated financial statements for the years ended December 31, 2018 and 2017
with the independent auditors’ report