女方丈為咗攻擊美帝可以去到幾盡?
(英國首相隔咗個大西洋都躺著中槍)
尋日美國眾議院議長女方丈Pelosi批評美帝對疫苗同特效藥嘅審批態度嘅時候,忍唔住連英國嘅藥物制度同首相肥波都鬧埋。
"My concern is that the UK’s system for that kind of judgment is not on a par with ours in the United States. So if Boris Johnson decides he is going to approve a drug and this president embraces that, that is a concern that I have."
(我擔心嘅係英國嘅藥品審批制度,根本及唔上我地美國嘅水平。所以如果Boris Johnson決定批准嘅藥而總統欣然接受嘅話,我本人就好有保留囉。)
呢番說話傳到英國之後,無論傳媒、政客去到政府藥物機構即時癲咗,英國衛生部(The UK Department for Health and Social Care)回應:
"the UK had some of the most robust standards for approving new treatments and vaccines in the world”.
英國Adam Smith Institute(亞當斯密研究所)首席研究員Matthew Lesh :
"Pelosi has no idea what she’s talking about — absolutely no evidence that the U.K. is lax on approving drugs compared to the US."
為咗攻擊美帝,搞到傷兩國民,尤其是醫療同研究人員嘅和氣,何必呢?
#女方丈份人
#疫苗同特效藥是蘑菇的
#肥波躺著也中槍
平和啲嘅大報報導:
《Financial Times》
US should not approve vaccine based on UK trials, says Pelosi
https://on.ft.com/31aZsxV
激動好多嘅小報報導:
《The Sun》
PRIME TARGET Pelosi slams Boris Johnson over ‘concern’ he could approve a substandard Covid drug that Trump may also ’embrace’
https://www.thesun.co.uk/news/12891860/nancy-pelosi-boris-johnson-covid-trump/
《Express》
Nancy Pelosi attacks Oxford scientists as she refuses to trust Britain on COVID vaccine
https://www.express.co.uk/news/uk/1345901/nancy-pelosi-boris-johnson-coronavirus-vaccine-oxford-university-covid19-trials
*********************************
請支持每日更新嘅Patreon:
https://www.patreon.com/goodbyehkhellouk
最新:
英國工黨影子外交大臣對中國大使嘅「有禮貌假身」
https://bit.ly/2GDzDQ1
民望低嘅首相成就財相,表演英國議會政治謀略
https://bit.ly/3iNH9o6
首相話95%按揭幫上車?請了解英國政府嘅「放風」施政風格
https://bit.ly/3jI5dKs
英國下議院各個委員會,有實權嘅立法跨黨組織
https://bit.ly/2GQ9nkO
英國搵地方落腳容易忽略嘅地區議會政治
https://bit.ly/3nwQ8xU
聯合38國,考慮杯葛冬奧,自知弱國嘅外交大臣意志
https://bit.ly/30F1wO2
英國Home Office官僚無情嘅歷史原因
https://bit.ly/2Stpbws
紐約時報篇文就係言論同新聞自由嘅最好例子
https://bit.ly/3nbFM68
人未到就搞衰「香港人」個朵嘅真實故事
https://bit.ly/30nUvkL
倫敦一場大火,令全國過百萬單位賣唔出
https://bit.ly/367Avqi
******************************
approve oxford 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
"รัสเซีย ประกาศรับรองวัคซีน Sputnik V สำหรับโรค COVID-19 ทั้งๆที่ยังไม่ผ่านการทดลองเฟสที่ 3"
คงพอจะได้เห็นข่าวผ่านตากันบ้างแล้วมั้งว่า ประเทศรัสเซียพึ่งประกาศรับรองวัคซีนสำหรับเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เพื่อใช้ฉีดคนในประเทศเป็นหมื่นๆ คน แต่ทราบกันหรือไม่ว่า มันยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบถึงประสิทธิภาพอย่างครบถ้วน
วัคซีนของประเทศรัสเซียพัฒนามาจากการใช้เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัดในคน กลุ่มอาดีโนไวรัส adenovirus 2 สายพันธุ์ เอามาดัดแปลงให้มันไม่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ แล้วเพิ่มยีนที่ทำให้เกิดโปรตีนลักษณะเป็นหนาม (spike) ของโคโรน่าไวรัส ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ไวรัสใช้ในการจับกับเซลล์ร่างกายของคนและทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น จึงเป็นจุดสำคัญที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราจะจดจำมัน และพยายามที่จะทำลายไวรัส
รัสเซียตั้งชื่อวัคซีนใหม่นี้ว่า สปุตนิค วี (Sputnik V) ตามชื่อของดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ถูกยิงขึ้นสู่อวกาศ เพื่ออุปมาถึงการแข่งขันกันในการพัฒนาวัคซีน ว่าเหมือนการแข่งขันกันด้านอวกาศ ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้อ้างว่า นี่เป็นชัยชนะของประเทศรัสเซียในการพัฒนาวัคซีนขึ้น เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีปูตินจะอ้างว่าวัคซีนนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ และสร้างภูมิคุ้มกันที่เสถียรกับผู้รับการฉีด แต่กลับไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการทดลองของวัคซีนนี้ในมนุษย์ตีพิมพ์ออกมาเลย
การที่เร่งรีบรับรองวัคซีนนี้ สร้างความกังวลให้กับนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก ทั้งในประเทศรัสเซียเองและในต่างประเทศ ที่มีความเห็นกันว่า การทดสอบในอาสาสมัครให้ได้หลายพันคน อย่างถูกต้องรัดกุมเท่านั้น ที่จะแสดงให้เห็นได้ว่าวัคซีนนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะใช้กับสาธารณะ
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าวัคซีนของรัสเซียนั้นจะมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่ผ่านการตีพิมพ์ในวารสารวิจัย เพื่อให้เกิดการวิเคราะห์ว่ามันไม่ได้มีปัญหาในเชิงของคุณภาพข้อมูล
มีรายการการทดลองเบื้องต้นของวัคซีนจากประเทศรัสเซียนี้ ช่วงกลางเดือนมิถุนายน กับอาสาสมัคร 76 คน แต่ไม่เคยเปิดเผยผลการทดลองว่าเป็นเช่นไร ... ทำให้น่าเป็นห่วงว่า มันยะงไม่ได้มีการทดสอบทางคลินิก ระดับเฟส3 เกิดขึ้น ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องทำ ก่อนที่วัคซีนจะได้รับการยอมรับว่าใช้งานได้
การทดลองเฟสที่ 1 และเฟสที่ 2 นั้น มักจะใช้อาสาสมัครจำนวนหลายร้อยคน แล้วมีเป้าหมายที่จะทดสอบว่า วัคซีนนั้นสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้หรือไม่ โดยต้องไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตรายขึ้นในระยะสั้น เช่น การมีผื่นแดง เป็นไข้ และอาการปวดบวมตรงบริเวณที่ฉีด (มีรายงานว่า ลูกสาวของปูติน ที่เคยลองฉีดวัคซีนในขั้นนี้แล้ว เกิดอาการเป็นไข้ตามมาด้วย)
ขณะที่การทดลองเฟสที่ 3 จะใช้อาสาสมัครเป็นพันๆ หรือเป็นหมื่นๆ คน เพื่อจะได้เปรียบเทียบอัตราการติดเชื้อระหว่างผู้ที่ฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีนได้ โดยตามกฎของ อ.ย. สหรัฐอเมริกา (US FDA) วัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 ที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิตนั้น จะต้องผ่านการทดสอบเฟสที่ 3 เสียก่อน และแสดงประสิทธิภาพว่าสามารถลดโอกาสเป็นการติดเชื้อโรคลงมาได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับยาหลอด
แม้ว่าประเทศรัสเซียมีแผนจะเริ่มทำการทดลองเฟสที่ 3 ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยใช้อาสาสมัครหลายพันคนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย ฟิลิปปินส์ และบราซิล แค่รัสเซียก็จะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนให้ฉีดประชาชนของตนเองนับหมื่นคนในเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน (เน้นไปที่ครู และบุคลากรทางการแพทย์) แล้วจะฉีดอย่างกว้างขวางทั่วประเทศในเดือนตุลาคม
เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็คือ ถ้าขาดผลการทดลองเฟสที่ 3 ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าวัคซีนนั้นสามารถป้องกันการติดเชื้อได้จริงหรือไม่ และผลข้างเคียงเชิงลบที่ยังไม่ค่อยพบในระหว่างทดสอบอาสาสมัครเป็นจำนวนน้อยนั้น ก็จะปรากฏให้เห็นมากขึ้นและมากขึ้นเมื่อฉีดวัคซีนไปอย่างกว้างขวาง
รวมถึงผลข้างเคียงเมื่อผู้ที่รับวัคซีนไปแล้ว ไปเจอกับเชื้อไวรัสจริงๆ ซึ่งเรียกว่า antibody dependent enhancement (ADE) เป็นปรากฏการณ์ที่ร่างกายกลับอ่อนแอต่อการติดเชื้อมากขึ้น หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว
เคยมีตัวอย่างมาแล้วว่า วัคซีนที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ฉีดสัตว์ที่เป็นโรคซาร์ส (ซึ่งเป็นเชื้อ coronavirus คล้ายกับโรค covid-19) ในช่วงทศวรรษ 2000 ได้ทำให้เกิดภาวะ ADE ขึ้นในสัตว์ และนั่นก็ทำให้คาดเดาถึงความเสี่ยงแบบเดียวกันนี้ได้ เมื่อเป็นวัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 ที่คนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว น่าจะมีโอกาสเจอเชื้อไวรัสได้เป็นปริมาณมากกว่าในช่วงที่ทำการทดลอง ... และผลข้างเคียงเช่นนี้ก็ไม่ได้จะพบเห็นในช่วงเวลาที่ทดลองเพียงแค่ 2 เดือน อย่างที่รัสเซียทำไป
คำสรุปของเรื่องนี้คือ แม้ว่าจะมีกว่า 20 ประเทศแล้วที่ยื่นความจำนงจะขอใช้วัคซีนจากประเทศรัสเซีย แต่ก็เป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ที่มันไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดเลยว่า วัคซีนนี้จะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี
ที่น่าจะมั่นใจได้มากกว่าคือ วัคซีนที่เป็นคู่แข่งและกําลังอยู่ในระหว่างการทดสอบเฟสที่ 3 ตัวอย่างเช่น วัคซีนของบริษัท CanSino Biologics จากประเทศจีน แล้ววัคซีนของมหาวิทยาลัย oxford และบริษัท AstraZeneca จากประเทศสหราชอาณาจักร แต่ก็ยังต้องรอเวลาอีกหลายเดือนมาก กว่าจะรู้ผลการทดสอบทั้งหมด
ข้อมูลจาก https://www.livescience.com/russian-covid19-vaccine-sputnik-v-approved.html
ภาพจาก https://www.france24.com/en/20200811-putin-says-russia-first-to-approve-a-covid-19-vaccine-dubbed-sputnik-v
approve oxford 在 Gravitas: Ghana approves Oxford's new malaria vaccine 的推薦與評價
Ghana has approved Oxford's new vaccine for Malaria. The new vaccine is considered the best compared to the earlier versions. ... <看更多>