物聯網的資安攻防大戰!臺灣該如何見招拆招?
110/09/22
曾繁安
科技大觀園特約編輯
資策會資安科技研究所王仁甫策略總監專訪
5G 科技讓萬物聯網的新紀元已經來臨,代表著機器與機器溝通,人類過上全自動化的超便捷生活不再是夢。但這同時也意味著科幻電影中,邪惡駭客組織攻占重要機關的主機系統,引發一連串資安問題,甚至攸關社會國家安危的重大事件,也可能在現實中發生!
科技帶來的便利與風險並存的這個世代,來聽聽資安專家——資策會資安科技研究所王仁甫策略總監的精彩分享,一起思考 5G 物聯網下面對的資安挑戰。
一起跟資安達人瞭解 5G 如何翻轉我們的生活!
「16 年前一個月黑風高的夜晚,博士班學姐的一通電話,讓我踏上資安這條不歸路……」
問起投入資安領域的契機,王總監用打趣的口吻開場。當時在學姐的建議下,他參與了設計國内第一個資安指標的工作,從此開啓與資安的不解之緣。自稱「資安界 56 哥」的王總監,雖非一般人熟悉的另一位仁甫兄,但他對科技資安研究的敏銳觀察與豐富經驗,肯定令人甘拜下風。
他談到,4G 網絡的發展令網紅經濟崛起,你我都不曾想像『點讚、訂閲、打開小鈴鐺』會變成一種常態。而接下來的 5G 物聯網,將帶來更大的轉變與衝擊。
為什麽比起 4G,5G 有「大頻寬、高速率、低延遲」的特性?這是因為目前 4G 所在電磁波區間(約 450 MHz ~ 3800 MHz)已塞滿用戶,讓網速變得越來越慢,因此人類便把腦筋動到頻率更高的毫米波頻段(約30 GHz ~ 300 GHz)。增加了 5G 的區段,就像從塞爆的車流中,移到空曠的新路上。而頻率越高,頻寬也越寬,這條道路不止空曠而且比原先的更寬闊,於是訊息的傳遞能暢行無阻,理論上可比 4G 快一百倍!
「5G 最重要的,就是可以達成邊緣運算(Edge Computing)。」
王總監舉例,自動駕駛和遠距醫療還未普及,是因為傳統仰賴的雲端運算(Cloud Computing),傳輸訊息的速度不夠快,且成本高。雲端運算可以比喻作中央集權制,凡事都要經過朝廷皇上批閲議決,效率自然較低;但邊緣運算就像地方分權,讓數據可以直接在收集端附近實時處理和分析,無需先上報到雲端進行存儲、管理和分析運算,節省了上傳等待運算的時間,也減輕網絡和服務器的負擔。
在高速公路和手術檯上,微秒之差就是生死關頭。而 5G 搭配邊緣運算,大大提高的數據傳輸速率與極低的延遲,讓自動車之間可以維持安全的相對距離,遠端控制的手術刀可以精準無差地落在正確的部位。
也有賴於 5G 科技,需要大量運算資源的人工智慧(Artificial Intelligence,AI)也可以實現。這些發展促成物聯網(Internet of Things, IOT)的建立,機器和機器之間可以達成溝通,整合各方數據資訊,迅速有效率地完成各種指令。小至個人智能家居,大至工廠機械、重要基礎設備如水壩、發電廠等等,都能踏入數位自動化的新境界。
越方便就越危險?機器與機器的連接也要小心
不過,5G 的特性也改變了用戶與網絡間的關係。傳統 4G 是直鏈狀的系統,由電信商自上而下提供網絡,再經由應用程式界面(Application Programming Interface,API)提供服務給用戶,存在一個封閉式的層級關係。但速率快、訊號覆蓋範圍較小的 5G(注1), 則是由邊緣端、應用裝置及用戶組成,數據傳輸相互往來的三角形體系,不再有上下權限差別的限制。為了形成物聯網提供更多應用,5G 網絡也變得更對外開放,被駭入的風險也會提高。
研究專長為駭客行爲的王總監提到,如今網絡犯罪的作案手法越來越多元。過去搶匪洗劫銀行,還要擔心實體鈔票金條太重,扛不動。現在駭客只要動一動手指,就能利用惡意程式讓銀行的上億元瞬間消失;或使用勒索病毒,鎖定廠商的資料庫,再以巨額款項要挾,否則就把重要生產機密銷毀或公諸於世。
「5G 應用得越深,危害的情境就越高。」
未來 5G 物聯網可能面對的兩大資安威脅,包括用戶 IP 可能被駭入後,可能被用作惡意中繼站或跳板繼續攻擊另一方,讓受害者同時也成了加害者。再來,當物聯網涉及的層面越來越廣,假如被不法分子入侵掌控的是自駕車、基地台,甚至是重大國家基礎建設如水壩、發電廠等等,造成的損失傷害不堪設想!
網絡戰資訊戰開打,台灣如何接招還擊?
從個人角度,平時養成謹慎小心的習慣,不隨便亂點不明連接,隨時留意最新的網絡犯罪手法,是保護自己的不二法門。但在通訊科技發達的今時,第三次世界大戰很可能就在網路上發生,資安可是攸關國家安危的重大議題。
自 2016 年起,台灣便喊出「資安即國安」的口號,而王總監也參與在草擬「資安即國安」1.0 與 2.0 戰略的工作中。在1.0 戰略中,首要步驟就是將資安鐵三角(資訊安全、通訊安全、國家安全)正規化。政府也修訂相關法規,將資訊和網際空間延伸為國家主權的一環,並把駭客攻擊與竊取智慧財產,納入情報蒐集的工作,才能為網絡戰做好準備。
「守護要自己來,就需要有人才。沒有資安人才,就沒有基礎的資安;沒有錢投入,也不會有資安人才。」
王總監强調,一個國家的資安要做好,最重要的就是資源與人力的投入。如果國内資安產業沒有妥善發展,資安人才缺乏,就必須仰賴國外的產品。若系統程式都不是由自己人開發,而是假手於他人,便難以確保檢測過程的可靠性,往往等到資安事件發生後,才驚覺漏洞的存在。因此,政府也編組了多支專業團隊,培訓資通電軍與資安產業人才,為國内資安把關。
而「資安即國安 2.0」的重點,除了規劃新設數位發展部、成立專責的資通安全署,就是主動式防禦(注 2)——與其乖乖等著被人打,不如自己先請外部團隊攻擊自己,作資安測試,去找出資安漏洞和弱點!舉例來說,業界為了找出系統防禦上的漏洞盲點,常會委外進行紅隊演練(Red Teaming)。就像在進行軍事演習,紅隊扮演進攻方,以無所不用其極的方法嘗試入侵,同時驗證藍隊防守方的偵測與回應能力。這樣的演練成本可不低,一次就要三五百萬臺幣起跳。
但台灣不用付錢,就有免費的資安攻防演練!王總監如此笑言。這是因為,在全球最常受駭客攻擊的國家排行榜上,台灣可是位居前列。根據網路資安商 Fortinet 的報告,2021 年第一季台灣遭受到超過兩百萬次的駭客攻擊,平均每分鐘就會遭遇逾 15 次的攻擊!所謂危機就是轉機,這些源源不絕的攻擊,也讓台灣深具適合發展資安產業的龐大潛力。王總監認為,資安產業要像台灣未來的台積電,扮演護國神山般的角色。
想投身資安產業?不需要獻出心臟,只要有一顆熱忱的心
「投入資安產業不要限科系,但是要有一顆熱忱、學習的心。」對於有心想往資安領域發展的年青人,王總監給出這樣的建議。
雖非資訊科學出身,但大學的工程背景,讓王總監有了程式語言的基礎。後來他取得經濟學、法學雙碩士,前者使他瞭解產業界的趨勢走向,法學則令他知曉資安重合規性與合法性的重要。在科技管理與智慧財產權領域的博士論文中,他則從社會學、科技研究的方法分析駭客行為。他表示,跨領域的學習可以讓他從更廣濶的視角,釐清各方問題之後,找到痛點,來提供更好、更全面的科技與資安政策。
王總監指出,這一代除了要與人溝通,還要學會與機器溝通,所以掌握好程式語言的邏輯基礎是重要的,因此王總監所在的資策會資安所,除了研發研發資安監控平臺,將研發的成果技轉給業界,同時他也擔任台灣駭客協會(HITCON)理事和社團法人臺灣校園資訊安全推廣暨駭客培育協會(TDOH)理事,推展培育資安人才的各項活動,未來希望能舉辦小朋友駭客營,讓孩子在小學階段就能接觸和體會程式語言是有趣的。他也勉勵年輕人,能力好的可以負責找漏洞和抵禦攻擊,站在資安攻防戰最前線;即使程度不夠拔尖,也可肩負資安維運的工作,在各自的崗位上適才所用,都能為守護資安和國安,盡一份心力。
根據光速等於波長乘以頻率(c = f × λ)關係式,我們知道頻率越高的波段,波長越短,穿透能力強。所以 5G 電磁波訊號遇到障礙物時,會想强行穿越而非「繞」過,繞射能力弱,造成散失的能量大。因此 5G 雖然有著高速率、低延遲的優勢,弱點就是訊號覆蓋範圍小,故需要設置夠多的基地台方可實現,而電信服務商會提供用戶建設專網——既不同於覆蓋範圍大的公網,而是擁有特地目的、獨立運作的網絡系統。
此外,主動式防禦也包含三要素:歸因、阻斷、減災。歸因便是找出攻擊的背後原因,釐清駭客的犯案動機,才能對症下藥。再來,對惡意程式來源進行阻斷,往後才可以減少再次被入侵的風險。
附圖:王仁甫
和台灣知名藝人同名同姓的王總監,説話風趣幽默,整個採訪過程充滿笑聲。圖/台灣資安大會
邊緣運算架構
邊緣運算架構與傳統雲端架構不同的地方是,資料將改放在網際網路和本地網路之間的邊緣運算層作處理,等資料變少了,再將處理後的資料回傳雲端。
攻擊
台灣平均每分鐘就會遭遇逾 15 次的攻擊,源源不絕的攻擊讓台灣深具適合發展資安產業的龐大潛力。圖/pexels
資料來源:https://scitechvista.nat.gov.tw/Article/C000003/detail?ID=0853796d-0b42-4a72-a0cb-ed70ddad9f77&fbclid=IwAR2H03H3PtQ6JhtQIy6KpMaz78iFa7NBgfizoTzEbAGba_58W6guaSHYBkg
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過25萬的網紅iT24Hrs,也在其Youtube影片中提到,เคยรู้สึกว่าเห็นของมากมาย โปรโมชันลายตา มันดูจะมีให้เลือกเยอะเกินไปแล้ว กว่าที่จะเลือกอันที่ถูกใจได้จริงๆก็เสียเวลามาก แต่ทุกวันนี้เรามี AI ที่จะช่วยเ...
「artificial intelligence application」的推薦目錄:
- 關於artificial intelligence application 在 台灣物聯網實驗室 IOT Labs Facebook 的精選貼文
- 關於artificial intelligence application 在 StarFab Accelerator Facebook 的最讚貼文
- 關於artificial intelligence application 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於artificial intelligence application 在 iT24Hrs Youtube 的最佳貼文
- 關於artificial intelligence application 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
artificial intelligence application 在 StarFab Accelerator Facebook 的最讚貼文
💥 #StarFab特報 💥 第六期 產業優勢+聯盟策略 AI生態系搶攻國際
近期甫完成A輪募資的 InfinitiesSoft 數位無限軟體 透過平台型產品「AI-Stack」協助客戶快速建立AI運算環境去進行AI模型的開發與機器學習訓練,同時更鏈結了許多生態夥伴在AI-Stack Ecosystem中共同堆疊出更多的應用場景與AI解決方案,策略聯盟共創AI產業新機。
此期我們很開心邀請到 第二屆 台灣雲谷雲豹育成計畫 的大學長 #數位無限 陳文裕 總經理 來分享AI產業的全球佈局機會與募資經驗談!
📌 台灣產業在人工智慧應用上面臨的挑戰及產業優勢為何?
📌 如何鏈結大企業並取得商業訂單?
📌 新創如何選擇適合的投資人?
⭐️【StarFab特報】第六期:https://pse.is/3ms8g7
💥 #StarFabNewsletter 💥 Issue 6
Competitive Advantages with Strategic Alliances
to Enter the Global Market in Artificial Intelligence
Just completing an A round of fundraising, InfinitiesSoft helps its clients establish an AI computing environment on AI-Stack to combine their knowledge with machine learning. Also, InfinitiesSoft has enabled many ecosystem partners to stack more tools or AI applications to promote the business development in AI industry through strategic alliances.
In this week’s issue, we will be sharing how InfinitiesSoft Solutions Inc., a firm that was the runner up on Demo Day for the 2014 CIAT Accelerator Program, positions itself in the global market and keeps its competitive edge in the AI industry with Wenyu Chen, General Manager of InfinitiesSoft!
📌 What are the challenges and advantages of the AI application in industries in Taiwan?
📌 How do startups connect with big companies and get orders from them?
📌 How do startups choose the right investors?
【StarFab Newsletter】Issue 6:https://pse.is/3p3sgp
------------------------------------
【Follow us】
Website:https://www.starfabx.com/
Facebook:https://www.facebook.com/StarFabX
Twitter:https://twitter.com/starfabx
Youtube:https://pse.is/3lb5g4
Linkedin:https://www.linkedin.com/company/starfab
Medium:https://medium.com/@starfabaccelerator
artificial intelligence application 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
ธุรกิจ New S-Curve ของ ปตท. คืออะไร ?
ปตท. x ลงทุนแมน
ในช่วงที่ผ่านมา เราจะเริ่มเห็นการดิสรัปชันในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก
โดยเฉพาะในช่วงปีที่แล้วที่โรคระบาด ได้ทำให้หลายบริษัทเร่งปรับตัว
หากเรามาดูสถานการณ์ในประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน
ด้วยผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ได้เร่งให้หลายบริษัทจำเป็นต้องมองหาธุรกิจใหม่
เพื่อโอกาสการเติบโตในอนาคตรวมถึงเพื่อกระจายความเสี่ยงในธุรกิจเดิม
ไม่เว้นแม้แต่ ปตท. บริษัทที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย ก็มีสัญญาณการเข้าไปลงทุนทั้งในอุตสาหกรรมเดิม รวมถึงธุรกิจใหม่
สะท้อนให้เห็นจากในปีที่ผ่านมา ปตท. ได้มีการลงทุนในธุรกิจเดิมอย่างการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติ ต่อยอดไปเป็นศูนย์กลางการซื้อขายก๊าซธรรมชาติระดับภูมิภาค หรือ LNG Hub
รวมไปถึงการกระจายการลงทุนไปพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับ Life Science หรือวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและสุขภาพ เช่น ยา ฟิวเจอร์ฟู้ด และอุปกรณ์ทางการแพทย์และได้เข้าไปลงทุนใน Lotus Pharmaceutical บริษัทวิจัย และพัฒนายารักษามะเร็งที่ใหญ่สุดในไต้หวัน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แล้ว ปตท. ยังมีกลยุทธ์หาช่องทางการเติบโตกับธุรกิจอะไรอีกบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบัน ปตท. ยังมีโครงการที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลักดันธุรกิจใหม่และธุรกิจที่มีแนวโน้มจะสร้างการเติบโตในระยะยาวโดยเฉพาะ หรือที่เรียกกันว่าธุรกิจ New S-Curve แบ่งออกเป็น
1. Express Solutions Project หรือ ExpresSo
2. Booster Project
แล้วแต่ละโครงการ มีแนวทางการค้นหาธุรกิจ New S-Curve กันอย่างไร ?
เริ่มกันที่โครงการ “ExpresSo” ที่ก่อตั้งและเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 หรือราว 4 ปีก่อน
เป็นการรวมตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ของ ปตท. ที่จะเข้าไปค้นหาโอกาสในธุรกิจสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีแนวโน้มจะเติบโตเป็นธุรกิจใหม่ได้ในอนาคต
โดยมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก แบ่งออกเป็น
กลุ่มแรก Corporate Venture Capital หรือ CVC เป็นธุรกิจที่จะค้นหาและเข้าไปลงทุนในกองทุน
หรือสตาร์ทอัพ ที่มีศักยภาพช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความสามารถในการแข่งขันของ ปตท. ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
ปัจจุบัน ExpresSo กระจายการลงทุนในกองทุนพลังงานและความยั่งยืน 7 กองทุน
และสตาร์ทอัพจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3 บริษัท ได้แก่
- HG Robotics สตาร์ทอัพไทย ผู้พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติหลากหลายรูปแบบ รวมถึงโดรนเพื่อการสำรวจ และ โดรนเพื่อการเกษตร
- Baania สตาร์ทอัพไทย ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อใช้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
- Sunfolding สตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา ผู้คิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์ติดตามแสงอาทิตย์ในลักษณะแกนเดียว ใช้ระบบหัวขับลมมีตัวควบคุมความดันที่คำนวณและปรับแกนการเอนตัวแผ่นโซลาร์ตามทิศทางของดวงอาทิตย์
โดย ExpresSo มีธีมการลงทุนหลักให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ของ ปตท. โดยมองหาสตาร์ทอัพผู้คิดค้น
และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพลังงานใหม่และการจัดการพลังงานเพื่อความยั่งยืน
นอกเหนือจากมุมการเป็นผู้ลงทุนแล้ว ExpresSo ก็ยังมีกลุ่มธุรกิจ Venture Builder หรือ VB
เป็นการจัดตั้งโครงการหรือบริษัทเพื่อทดสอบแนวคิดทางธุรกิจ และพัฒนาต้นแบบที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นธุรกิจใหม่ให้กับ ปตท. ตัวอย่างเช่น
- Renewable Energy Acceleration Platform หรือ ReAcc ทำธุรกิจแพลตฟอร์มระบบบล็อกเชนเพื่อรองรับธุรกรรมเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนอย่างครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ที่ช่วยให้บริษัทต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยให้เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียน
- Swap & Go ธุรกิจให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ
- Mekha Tech ธุรกิจให้บริการคลาวด์กับลูกค้าทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท.
- Smart Energy Platform: P2P โครงการทดลองการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างบุคคล โดยร่วมมือกับ Sertis GPSC และ VISTEC
ExpresSo ยังมีกลยุทธ์การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทอื่น ๆ ผ่านกลุ่มธุรกิจ Venture Partner หนึ่งในนั้นคือการร่วมมือกับ Elemental Excelerator องค์กร Nonprofit ด้าน Climate tech เพื่อสร้างความยั่งยืนในกับโลก ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยขับเคลื่อนเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 แบบยั่งยืนด้วยองค์ความรู้ระดับสากล
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการดำเนินธุรกิจภายใต้โครงการ ExpresSo
ที่แบ่งกลยุทธ์การหาโอกาสการเติบโตใหม่ทั้งในรูปแบบการลงทุน
การจัดตั้งบริษัทขึ้นเอง และการเข้าไปเป็นพันธมิตรกับผู้อื่น
นอกจากโครงการ ExpresSo แล้ว ยังมีอีกโครงการที่เน้นการค้นหาโอกาสการเติบโตใหม่เหมือนกัน
แต่มุ่งเน้นไปที่ กลุ่ม Food Value Chain เป็นหลัก รวมถึงเป็นศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพให้กับโครงการนวัตกรรมที่มีอยู่แล้วใน ปตท. และมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ได้ โดยโครงการนี้ชื่อว่า “Booster Project” ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา
การดำเนินงานของ Booster จะเน้นไปที่การวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจของโครงการในด้านต่าง ๆ เช่น Strategic fit, market, business model และ financial model ตลอดจนค้นหาโอกาสการเติบโตของธุรกิจนั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Fishery Technology & Innovation
ที่เป็นการพัฒนาให้ประมงไทยกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง
โดยนำเทคโนโลยีนวัตกรรมและระบบการจัดการใหม่ มาพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงแบบครบวงจร
รวมทั้งการแปรรูป จำหน่าย และบริหารโลจิสติกส์ เพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน
เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ ยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้แก่เกษตรกรไทย และสร้างโอกาสใหม่เพื่อการเติบโตทางธุรกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยได้คัดเลือกปลาเศรษฐกิจ 2 ชนิดมาเป็นโมเดลต้นแบบ ได้แก่
Sugi Model หรือ โมเดลปลาช่อนทะเล เป็นโครงการเพื่อพัฒนาปลาเศรษฐกิจในอนาคต
ซึ่งจะนำเทคโนโลยีและการจัดการแบบใหม่มาพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยงในกระชังต้นแบบ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบกระบวนการเพาะเลี้ยง และการทดสอบเรื่องอาหาร
เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อและสารอาหารในปลาให้ดีขึ้น
ตลอดจนวิจัยผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อให้สามารถใช้ผลผลิตทั้งหมดอย่างคุ้มค่าไม่มีของเหลือทิ้ง
และหาช่องทางจัดจำหน่ายแบบ online offline และ modern trade
โดยที่ผ่านมา ได้มีการจัดการแข่งขัน Sugi Hackathon
ที่เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาเข้ามาประกวดแผนธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อนำแนวคิดของคนรุ่นใหม่ มาช่วยขับเคลื่อนแผนพัฒนาปลาเศรษฐกิจดังกล่าว
อีกหนึ่งปลาเศรษฐกิจที่ Booster มีส่วนร่วมพัฒนา คือ Gourami Model หรือ โมเดลปลาสลิด
ตั้งแต่การเพาะพันธุ์ เพาะเลี้ยงไปจนถึงการแปรรูป สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค ว่าแต่ละกระบวนการเป็นไปตามมาตรฐานและตรวจสอบได้
ปัจจุบันก่อสร้างโรงงานแปรรูปแล้วเสร็จ 95% อยู่ระหว่างการทดสอบกระบวนการแปรรูป และเริ่มมีการติดตั้งระบบ IoT และระบบอัตโนมัติหรือ Automation สำหรับการผลิตภายในโรงงานแปรรูปเพื่อตรวจสอบและวัดผลตลอดกระบวนการแปรรูป โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นโรงงานผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค
โครงการ Fishery Technology & Innovation ยังมุ่งมั่นพัฒนาประมงไทย โดยใช้ระบบ IoT (internet of Things) ร่วมกับการจัดทำ mobile application เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรบันทึกข้อมูลการเพาะเลี้ยง ที่จะช่วยให้การเพาะเลี้ยงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในส่วนของผลิดภัณฑ์ และ คุณภาพ
รวมทั้งยังมีการพัฒนา Platform ให้มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
โดยอาศัยเทคโนโลยีของ Blockchain ให้สามารถตรวจสอบได้ตลอด Supply Chain
ในอนาคตอันใกล้ จะมีการนำข้อมูลที่ได้ไปใช้งานร่วมกับ AI (Artificial Intelligence) สำหรับกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานในการออกแบบการผลิตให้เป็นไปความต้องการของตลาดได้ในอนาคต
นอกเหนือจากการสนับสนุนการพัฒนาประมงไทย โครงการ Booster ยังนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับภาคการเกษตร โดยมุ่งเน้น สมุนไพรไทย ครอบคลุมทั้งกระบวนการ
ตั้งแต่การปลูก การสกัด การแปรรูป ไปจนถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์
ด้วยความตั้งใจที่จะส่งต่อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการสู่มือผู้บริโภค
จะเห็นได้ว่าแม้ ExpresSo และ Booster จะเป็นโครงการที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้เพียงไม่กี่ปี
แต่ทั้ง 2 โครงการมีลักษณะการดำเนินธุรกิจเฉพาะที่ชัดเจนและมีเป้าหมายร่วมกันคือ การมองหาโอกาสการเติบโตทั้งในรูปแบบของการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือการวิเคราะห์ตลาดและหาแนวโน้มในการเติบโตในอนาคตเพื่อนำเทคโนโลยีเข้าไปเสริมให้ธุรกิจ มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น
ก็น่าติดตามกันต่อไปว่าในระยะยาว ทั้ง 2 โครงการของ ปตท. จะสร้าง New S-Curve อะไรให้กับบริษัทได้บ้าง
แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนตอนนี้ คือ ปตท. พร้อมแล้วที่จะรุกเข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่
ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่เพียงคำว่าธุรกิจพลังงาน อีกต่อไป
artificial intelligence application 在 iT24Hrs Youtube 的最佳貼文
เคยรู้สึกว่าเห็นของมากมาย โปรโมชันลายตา มันดูจะมีให้เลือกเยอะเกินไปแล้ว กว่าที่จะเลือกอันที่ถูกใจได้จริงๆก็เสียเวลามาก แต่ทุกวันนี้เรามี AI ที่จะช่วยเลือกสิ่งที่คิดว่าน่าจะถูกใจผู้ใช้จริงๆมาให้ได้เลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลือกแล้วเลือกอีก ว่าแต่ AI มันรู้ใจเราได้ยังไงไปติดตามกันได้เลย
สำหรับใครที่สนใจลองสอบถามได้ที่ line แอด @SCBmydeals นะคะ
On Air 03-12-2560
รายการไอที24ชั่วโมง ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ทางช่อง 9MCOT HD และ Modern 9 TV เวลาประมาณ 22.05 น.
ติดต่อโฆษณา it24hrs@it24hrs.com www.it24hrs.com
artificial intelligence application 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
พบกับการเปิดตัว พร้อมราคา และรีวิวเบื้องต้น MG ZS รุ่นปี 2018 ที่ทาง SAIC Motor CP อ้างว่า เป็นสมาร์ทคาร์คันแรกของโลกกันครับ
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “NEW MG ZS” (เอ็มจี แซทเอส) รุ่นปี 2018 รถเอสยูวีเพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคาร์ ด้วยการติดตั้งระบบอัจฉริยะ i-SMART สามารถรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ครั้งแรกในโลก
NEW MG ZS คือรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบบสามารถควบคุมสั่งการได้ 3 วิธี คือ สั่งการผ่านระบบ Voice command ภาษาไทย สั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ และการสั่งการผ่านไอสมาร์ทแอปพลิเคชั่น (i-SMART application) จากสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่ และพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) สอดคล้องกับยุคอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งหรือ IoT (Internet of Things)
ระบบ i-SMART ยังรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรกผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ของรถที่ผิดปกติ ที่อาจเกิดจากการโจรกรรม ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ
รูปลักษณ์ของ NEW MG ZS ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (Brit Dynamic)ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ ที่นำสายตาสู่เส้นสายบนฝากระโปรงด้านท้าย ไฟท้ายแบบแอลอีดีทิวบ์ (LED tube) เพิ่มสุนทรียภาพในทุกการขับขี่ด้วยพาโนรามิกซันรูฟที่มีขนาด 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด การออกแบบด้านข้างเน้นความปราดเปรียวที่มีเส้นสายชัดเจน พาดจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Colour ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหราและความสปอร์ตสไตล์รถยุโรป ตกแต่งด้วยสีสันแบบทูโทนและวัสดุซอฟท์ทัช ที่บริเวณแผงประตูและแผงคอนโซล มาตรวัดเรืองแสง พร้อมหน้าจอแสดงผล มองเห็นชัดเจนในทุกสภาพแสง เบาะที่นั่งด้านหลัง พับแยกส่วน 60:40 พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้าย ปรับได้สองระดับ โดยปรับระดับเพิ่มขึ้นได้อีก 10 ซม.
นอกเหนือจากระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART ที่แสดงผลผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว NEW MG ZS ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย ที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งในรถระดับเดียวกัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต ควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ปุ่มสตาร์ท และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ พร้อมยูเอสบี (USB) ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ นอกจากนี้ ยังมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง
NEW MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ DOHC VTi-TECH 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 114 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดพร้อม Manual Mode เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เอ็มจี ให้ความสำคัญสูงสุดกับระบบความปลอดภัยเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) เทคโนโลยีปกป้องทุกชีวิตในห้องโดยสาร และระบบ Synchronized Protection System 9 ระบบ ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวมทั้งหมด 6 จุด รวมถึงกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์
NEW MG ZS มีสีให้เลือก ทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดงสกาเลตต์เรด (Scarlet Red) สีฟ้ามารีน่าบลู (Marina Blue) สีเงินซิลเวอร์เมทัลลิก (Silver Metallic) สีขาวอาร์คติคไวท์ (Arctic White) และสีดำแบล็คไนท์ (Black Knight) พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ NEW MG ZS จะได้รับแพ็คเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี เป็นระยะเวลา 5 ปี และได้รับความอุ่นใจกับการบริการแพสชั่น เซอร์วิส (Passion Service) ด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) ตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงบริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobile Services)
สำหรับราคาจำหน่าย The New MG ZS มีดังนี้
MG ZS รุ่น C ราคา 679,000 บาท
MG ZS รุ่น D ราคา 729,000 บาท
MG ZS รุ่น X ราคา 789,000 บาท
artificial intelligence application 在 AI Applications: Top 10 Real World Artificial Intelligence ... 的相關結果
AI Applications: Top 10 Real World Artificial Intelligence Applications · Applications: Banking · Applications: Finance · Applications: Agriculture. ... <看更多>
artificial intelligence application 在 Applications of artificial intelligence - Wikipedia 的相關結果
Artificial intelligence (AI) has been used in applications to alleviate certain problems throughout industry and academia. AI, like electricity or computers ... ... <看更多>
artificial intelligence application 在 Application of AI - Javatpoint 的相關結果
Artificial Intelligence has various applications in today's society. It is becoming essential for today's time because it can solve complex problems with an ... ... <看更多>