เพราะโลกก็มีเดดไลน์และขีดจำกัด! ผุด Climate Clock นาฬิกานับถอยหลังสู่หายนะโลกร้อน เราเหลือเวลาแค่ 7 ปี! ในการช่วยโลกมุ่งสู่คาร์บอนศูนย์ ไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5 องศา ก่อนที่เราจะเผชิญหายนะโลกร้อน แบบไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม (หรือเวลาอาจจะน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเราทุกคน)
•
ขณะนี้โลกกำลังเผชิญอุณหภูมิที่สูงขึ้นเฉลี่ย 1.1 องศา (หากเปรียบเทียบกับระดับอุณหภูมิเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรม ปี 1850-1900) ที่ทำให้เราเผชิญสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ร้อนหนัก แล้งหนัก ไฟป่า น้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูญพันธุ์ และอื่นๆที่คาดการณ์ไม่ได้
•
ทั่วโลกจึงมีข้อตกลงร่วมกันในความตกลงปารีสที่จะให้อุณหภูมิโลกไม่สูงกว่า 2 องศา และพยายามลิมิตไม่ให้เกิน 1.5 องศา
•
เพราะหากโลกร้อนเกิน 1.5 หรือ 2 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น เราอาจจะเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศนั้นจะรุนแรงกว่านี้หลายเท่าตัว
•
ซึ่งสิ่งที่ทำให้อุณภูมิโลกสูงขึ้นก็คือก๊าซเรือนกระจก ก๊าซคาร์บอน ที่ถูกปล่อยออกมาอย่างมหาศาลจากกิจกรรมต่างๆของเรา ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกฝาชีครอบความร้อน
•
ทั่วโลกจึงมีความมุ่งมั่นในการลิมิตจำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อที่จะไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เราจึงมีปริมาณจำกัดของก๊าซเรือนกระจกที่สามารถปล่อยได้ เรียกว่า "Carbon Budget"
•
และหากเรายังปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่แบบนี้ เรามีเวลาเหลือเท่าไหร่กัน ก่อนที่เราจะใช้ Carbon Budget นี้หมด? (ปล่อยคาร์บอนเกิน) และทำให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศา หรือ 2 องศา
•
จากรายงานในปี 2018 IPCC Special Report on Global Warming of 1.5°C เผยว่าเรามีลิมิตปริมาณคาร์บอนที่สามารถปล่อยได้ (Carbon budget) ไม่เกิน 420 gigatonnes (Gt CO2) ในการที่จะทำให้อุณหภูมิไม่สูงเกิน 1.5 องศา
และเรามีลิมิตปริมาณคาร์บอนที่สามารถปล่อยได้ (Carbon budget) ไม่เกิน 1170 Gt CO2ในการที่จะทำให้อุณหภูมิไม่สูงเกิน 2 องศา
•
โดยในปัจจุบันนี้โลกเราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซ์ประมาณ 42 Gt CO2 ในแต่ละปี และหากเรายังปล่อยอยู่แบบเดิม เราจะเหลือเวลาอีกนานเท่าไหร่ที่จะใช้ Carbon Budget หมดกันนะ?
•
และทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของ Carbon Clock และ Climate Clock ซึ่งเป็นนาฬิกาที่นับถอยหลังนี้สู่วันที่เราจะใช้ Carbon budget หมดนั่นเอง โดยทำเพื่อที่จะตอกย้ำให้เรามุ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยที่สุด หรือจนกระทั่งเป็น 0
•
Carbon Clock และ Climate clock (แถบสีแดง) นาฬิกาที่นับถอยหลังนี้เผยให้เห็น Deadline ว่าตอนนี้ (วันที่ 26 กันยายน 63)
1. เราเหลือ Carbon Budget 305 Gt CO2 ที่สามารถปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ โดยที่จะทำให้อุณหภูมิโลกไม่สูงเกิน 1.5 องศา ซึ่งหากเราปล่อยก๊าซคาร์บอนแบบในปัจจุบันนี้ ในอีก 7 ปี คาร์บอน Budget นี้จะหมด (เราเหลือเวลา 7 ปีในการมุ่งสู่คาร์บอนศูนย์)
2. และเราเหลือ Carbon Budget 1055 Gt CO2 ที่สามารถปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้ โดยที่จะทำให้อุณหภูมิโลกไม่สูงเกิน 2 องศา ซึ่งหากเราปล่อยก๊าซคาร์บอนแบบในปัจจุบันนี้ ในอีก 25 ปี คาร์บอน Budget นี้จะหมด (เราเหลือเวลา 25 ปีในการมุ่งสู่คาร์บอนศูนย์)
•
นอกจากนี้บน Climate Clock ยังมีตัวหนังสือสีเขียวที่แสดงถึงเปอร์เซ็นต์การเติบโตของการผลิตพลังงานจากแหล่งที่หมุนเวียน เรียกว่า Lifeline ที่ ณ วันนี้ คิดเป็น 27% โดยเราต้องทำให้ Lifeline หรือการผลิตพลังงานจากแหล่งหมุนเวียนให้เป็น 100% ก่อนที่ Deadline ของเราจะถึง 0 หรือ ก่อนวันที่ Carbon Budget หมดนั่นเอง
•
นาฬิกานับถอยหลังนี้คงเป็นสิ่งย้ำเตือนให้เราเร่งลงมือปฏิบัติในวันนี้ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกิจกรรมต่างๆในชีวิตของเรา เพื่อไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 1.5 หรือ 2 องศาที่จะทำให้เราเผชิญหายนะในอีก 7 ปี หรือ 25 ปีข้างหน้า
•
โดยนาฬิกานี้เปรียบเสมือนการนับถอยหลังสู่หายนะ ที่เราทุกคนจะต้องเผชิญเหมือนกัน หากไม่ลงมือทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นเราทุกคน ทุกภาคส่วน จะต้องร่วมมือกันในการมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยคาร์บอนศูนย์ เพื่อเราทุกคนเอง
•
ขณะนี้หลายๆเมืองที่ได้นำ Climate Clock นี้ไปติดตามตึกต่างๆ อย่างใน Berlin, New York, และ Paris เพื่อย้ำเตือนผู้คนถึงให้ตื่นละตระหนักถึงความเร่งด่วนในการลงมือ Take Action กับเรื่องสภาพภูมิอากาศ โดยทุกท่านเองก็สามารถมีนาฬิกาถอยหลังนี้ไว้ที่บ้าน มือถือ หรือเมืองของตัวเองได้ เพื่อย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่านี่คือเวลาที่เหลือที่เราจะช่วยโลกได้
•
และอย่าลืมว่าโลกก็มีเดดไลน์ และขีดจำกัดของมัน
•
Climate Clock https://climateclock.world/…
https://climateclock.world/mobile/index.html
Carbon clock https://www.mcc-berlin.net/en/research/co2-budget.html
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5 องศา ของ IPCC
https://www.ipcc.ch/sr15/
https://www.ipcc.ch/…/…/sites/2/2018/12/SR15_FAQ_Low_Res.pdf
หวั่นช่วยโลกไม่ทัน! รายงาน UN ชี้ โลกอาจร้อนเกิน 1.5°C เลยเกณฑ์ข้อตกลงปารีสตั้งไว้ ภายในไม่เกิน 10 ปี! ขณะนี้สูงขึ้น 1.1°C 5 ปีที่ผ่านมาร้อนสุด จ่อเผชิญภัยภิบัติรุนแรงหนักขึ้น วอนตัดมลพิษ-มุ่งคาร์บอน 0 ภายใน 2050
https://www.facebook.com/…/a.17572495377…/3027944964000597/…
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
ณิชากร บัวทรัพย์
environman
•
ขอชวนทุกคนเข้าร่วมงาน The EnDay วันรวมพลคนรักษ์โลก ตอน โรคไป ใครเจ็บ? วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ ณ Siam Discovery โซน Ecotopia ชั้น 3-4 เวลา 11:00 - 20:00 น. มาหาทางออกโลกร้อนร่วมกัน
กดเข้าร่วม และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://m.facebook.com/events/688603932010819/
Because the world has a deadline and a limit! Climate Climate Clock. Countdown to global warming disaster. We have only 7 years left! In saving the planet, aiming to zero carbon, not over 1.5 degrees, before we face a never-ending global warming disaster. (or less time, it's up to us all)
•
The world is currently facing a temperature of an average of 1.1 degrees (compared to pre-industrial average temperature of 1850-1900) that has us facing climate change, hot warming, heavy drought, wildfires, melting ice, sea level rise, extinction, etc. Unpredictable
•
Globally, there is a mutual agreement in Paris agreement to provide global temperatures not higher than 2 degrees and try Limit not to get above 1.5 degrees.
•
Because if the global warming is above 1.5 or 2 degrees Celsius or more, we might face an irreversible climate crisis. The climate impact is slightly more severe.
•
What makes the world higher is the greenhouse gases, carbon gases released greatly from our activities, causing the greenhouse, heated capsules.
•
Globally, it's determined to limit atmospheric carbon emissions limit, so that it won't be higher than 1.5 degrees Celsius. We have limited quantities of greenhouse gases that can be released as ′′ Carbon Budget
•
And if we still have greenhouse gases like this, how much time do we have before we use this carbon Budget? (Over Carbon Release) and make the temperature higher than 1.5 degrees or 2 degrees.
•
According to a report in 2018, IPCC Special Report on Global Warming of 1.5°C reveals that we have limited quantity of carbon that can be released (Carbon Budget) under 420 gigatonnes (Gt Gt) in the temperature. Not higher than 1.5 degrees
And we have a loose carbon limit (Carbon Budget) under 1170 Gt Gt to make the temperature higher than 2 degrees.
•
At this time, the world we emit approximately 42 GT Gt carbon dioxide each year, and if we keep releasing the same old way, how long will we have to spend our Carbon Budget?
•
And all of this is Carbon Clock and Climate Clock which is a clock that counts down to the day we use carbon budget. It's done to ensure we focus on minimal greenhouse gases or until 0
•
Carbon Clock and Climate Clock (red strip). The clock that countdown reveals Deadline now (September 26, 63)
1. We have a carbon Budget 305 Gt CO2 that can be released into the atmosphere, causing the Earth's temperature to not exceed 1.5 degrees, which is if we release the current carbon gas in the next 7 years. This Budget is almost gone (we have 7 years left to go to zero carbon)
2. and we have a carbon Budget 1055 Gt CO2 that can be released into the atmosphere, which will make the world temperature not higher than 2 degrees, if we release this current carbon gas in the next 25 years, Carbon. This Bon Budget is going to be sold out (we have 25 years left to reach zero carbon)
•
In the Climate Clock, there is a green book that represents the percentage of growth of energy production from renewable sources called Lifeline today. It's 27 % responsible for us having to make Lifeline or energy production from renewable sources to 100 % before our Deadline. Until 0 or before the day that Carbon Budget is sold out.
•
This countdown clock is a reminder to us to speed up today's action to reduce carbon emissions from activities in our lives, so that the world temperature is higher than 1.5 or 2 degrees will make us face disaster in our lives. 7 years or 25 years later
•
This clock is like a countdown to disaster that we all have to face if we don't do anything. Therefore, we all, all sectors, must cooperate to target carbon zero for all of us.
•
Now, many cities that are leading the Climate Clock follow buildings like Berlin, New York, and Paris to remind people to wake up and realize the urgency to take Action Action on climate matter. Everyone can have a clock backwards. It's your mobile home or city to remind yourself all the time that this is the rest of our time to save the world.
•
And don't forget that the world has a deadline and its limits.
•
Climate Clock https://climateclock.world/?fbclid=IwAR3TG3UfrwaFxXYW6uJ7n6OgDvZ05ktkEPxl00HXS13DbMhM54xJjaeHsW8
https://climateclock.world/mobile/index.html
Carbon clock https://www.mcc-berlin.net/en/research/co2-budget.html
Learn more about limited temperatures above 1.5 degrees of IPCC
https://www.ipcc.ch/sr15/
https://www.ipcc.ch/site/assets/uploads/sites/2/2018/12/SR15_FAQ_Low_Res.pdf
Fearless to save the world! UN reports indicate that the world could be hotter than 1.5°C. The Paris Agreement criteria set in under 10 years! Now it's up to 1.1°C 5 years ago. The hottest, severe disaster, heavier. Won cutting pollution - aiming carbon 0 within 2050
https://www.facebook.com/environman.th/photos/a.1757249537736819/3027944964000597/?type=3
Dharma Umbrella. Laughing Narak.
Nicha Khon Bua Sao
About Man
•
Inviting everyone to attend The EnDay, World Lovers Day, when the disease is gone. Who is hurt? Saturday October 10th at Siam Discovery son Ecotopia, 3-4th floor, 11:00 pm-20:00 pm. Let's find solutions to global warming together.
Press join and follow for more information at https://m.facebook.com/events/688603932010819/Translated
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,Nissan today unveiled the Z Proto, signaling the company's intent to launch a new generation of the legendary Z sports car. Shown at a virtual event b...
carbon clock 在 吳承泰 / Wu Cheng Tai Facebook 的最讚貼文
carbon clock 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
Nissan today unveiled the Z Proto, signaling the company's intent to launch a new generation of the legendary Z sports car. Shown at a virtual event beamed around the world from the Nissan Pavilion in Yokohama, the prototype car features a new design inside and out, as well as a V-6 twin turbocharged engine with a manual transmission.
First hinted at in a video named "Nissan A-Z" in May, the Nissan Z Proto pays full respect to 50 years of Z heritage. At the same time, it's a thoroughly modern sports car.
"The Z, as a pure sports car, represents the spirit of Nissan," said Nissan CEO Makoto Uchida. "It's a key model in our Nissan NEXT transformation plan, and it's proof of our ability to do what others don't dare to do, from A to Z. As a Z fan myself, I'm excited to announce that the next Z is coming."
A global community of fans young and old attended today's virtual unveiling. Members of the Z Club in Japan, ZCON participants in Nashville, Tennessee, and enthusiasts in various other markets tuned in for the event.
Exterior: past meets future
Penned and developed by the design team in Japan, the Z Proto boasts a fresh, attractive exterior design with a silhouette that communicates respect for the original model. It sports a bright yellow pearlescent paint – a tribute to a popular paint scheme on both the first generation Z (S30) and the 300ZX (Z32) – and a black roof.
Combining a retro theme with one that also projected futurism was challenging, said Alfonso Albaisa, head of design at Nissan.
The shape of the hood and the canted, teardrop-shaped LED headlights are both unmistakable reminders of the original Z. The rectangular grille's dimensions are similar to the current model with the addition of oval grille fins to offer an updated modern look. The form continues to exude both sportiness and elegance.
The link to the original Z is most striking when viewing the Z Proto from the side. The roofline flows from the nose to the squared-off rear to create a distinctive first-generation Z profile whose rear edge was slightly lower than the front fender height giving the Z its unique posture. The signature transition from the rear quarter glass to the low-slung position of the rear tail adds to the effect.
The rear takes inspiration from the 300ZX (Z32) taillights, reinterpreted for the modern world. Set within a rectangular black section that runs across the rear and wraps around the outer edges, the LED taillights convey a sharp glow.
Lightweight carbon fiber treatments on the side skirts, front lower lip and rear valance ensure nimble performance. 19-inch alloy wheels and dual exhausts complete the Z Proto's striking road presence.
Interior: modern tech with a vintage touch
Designed to fit driver and passenger like a glove, the Z Proto's cabin seamlessly blends modern technology with vintage Z touches.
The interior design team sought advice from professional motorsports legends to give the Z Proto an ideal sports car cabin, both for road and track. This can be seen in the Z's instrumentation. All vital information is found in the 12.3-inch digital meter display and arranged to help the driver grasp it at a glance, such as the redline shift point at the twelve o-clock position.
The new, deep dish steering wheel offers the driver quick access controls without losing its vintage aesthetic.
Yellow accents are found throughout the cabin, including stitching on the instrument panel. The seats feature special yellow accenting and a layered gradation stripe in the center of the seats to create depth.
Sports car joy: an exhilarating, dynamic performer
The original Z was built to bring the joy and excitement of sports car ownership to as many people as possible.
Each new generation had a more powerful engine, although the Z is about more than power increases.
"Z is a balance of power and agility," Tamura continued. "It is a vehicle that creates a connection with the driver not just on the physical level, but emotionally, and responds to the driver's impulses."
Make no mistake though, the Z Proto packs a powerful punch. Under the elongated hood is an enhanced V-6 twin-turbocharged engine mated to a six-speed manual gearbox. As a prototype, work is now underway on synchronizing the power with the grace and control that has defined the Z for the past 50 years.
"With the launch this summer of the groundbreaking Ariya EV, we've started a new era of electrification and autonomous driving technology," said Uchida. "With the Z, we're bringing drivers the excitement of a pure sports car. For more than 50 years we have been creating the legend of Z together. I'm glad you're with us for the next exciting chapter. The new Z is on its way."
Z Proto specifications
Engine V-6 twin turbo
Transmission 6-speed manual
Length 4,382 mm
Width 1,850 mm
Height 1,310 mm
Wheel and tire size Front: 255/40R19
carbon clock 在 Mekong today Youtube 的最佳貼文
Xem giá Lexus IS250c 2011 mui trần tại HK Team Cần Thơ
Phone & Zalo : 0939 080 609 gặp Mr Dũng
Đc : số 40 Ngô Sỹ Liên, Hưng Lợi, Ninh Kiều, Cần Thơ.
Lexus is250c - 2011 - V6 - 2.3 - Tubor - Mui Xếp
Odo zin 43k (Màu zin Trắng Camay)
Đồ chơi hơn 250tr
Pô On/Off, Cản Carbon, Mâm 19, Bộ Bodykit trước, Full Led Lightwater Xịn, Âm thanh, đồ chơi Nội thất, Võ Ferilli Chính hãng, Fim cách nhiệt UV usa, Gps Clock khóa máy xe,
- Giá chào bán 1,5 tỷ đồng
Rất cám ơn các bạn đã ghé thăm kênh của mình!
mkt mekong today can tho xe độ đẹp