ดีทรอยต์ จากเมืองแห่งยานยนต์ สู่เมืองแห่งล้มละลาย /โดย ลงทุนแมน
Ford Motor, General Motors และ Chrysler
3 บริษัทนี้ ในอดีตเคยถูกขนานนามว่า Big 3 แห่งวงการรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา
และรู้ไหมว่า ทั้ง 3 ชื่อนี้ มีจุดเริ่มต้นในเมืองเดียวกัน ที่ชื่อว่า “ดีทรอยต์”
ดีทรอยต์ เคยเจริญรุ่งเรือง เป็นฐานการผลิตที่สำคัญของรถยนต์แบรนด์ดังมากมาย จนได้ฉายาว่า เมืองแห่งยานยนต์ (The Motor City)
แต่ ดีทรอยต์ ในวันนี้ กลับถูกเรียกว่า เมืองแห่งการล้มละลาย
เกิดอะไรขึ้นกับเมืองแห่งนี้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ดีทรอยต์ เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมิชิแกน ในสหรัฐอเมริกา
ในปี 2019 ดีทรอยต์ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 670,031 คน หรือประมาณ 7% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในรัฐมิชิแกน
ถ้าพูดถึงเมืองดีทรอยต์ สิ่งแรกที่คนอเมริกันและคนทั่วโลกจะนึกถึง คือ อุตสาหกรรมยานยนต์
หลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายบริษัท ก็เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันที่นี่
ในปี 1903 Henry Ford ก่อตั้งบริษัท Ford Motor หลังจากที่เขาสามารถพัฒนารถยนต์สี่ล้อคันแรกได้สำเร็จ
และ Ford Motor ยังเป็นบริษัทแรกที่ผลิตรถยนต์ได้แบบ Mass Production ซึ่งทำให้สามารถขายรถยนต์ได้ในราคาถูก จนทำให้คนในสหรัฐฯ และทั่วโลกเริ่มหันมาใช้รถยนต์เดินทางบนท้องถนนแทนการนั่งรถม้า
ในปี 1908 William Durant อดีตผู้ก่อตั้งบริษัทขนส่งด้วยรถม้าก็ได้ก่อตั้งบริษัท General Motors หรือ GM เจ้าของรถยนต์แบรนด์ดัง เช่น Chevrolet
ในปี 1925 Walter Chrysler อดีตพนักงานด้านรางรถไฟ ก็ได้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ Chrysler ซึ่งปัจจุบัน Chrysler เป็นบริษัทลูกของ Fiat Chrysler Automobiles บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอิตาลี-อเมริกัน ที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก
ช่วงต้นทศวรรษที่ 20 เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตอย่างรวดเร็ว ชนชั้นกลางเริ่มมีรายได้มากขึ้น ขณะที่รถยนต์ของบริษัทอเมริกันทั้ง 3 ที่ผลิตออกมาเริ่มมีราคาถูกลงมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงก่อนปี 1950
ในขณะที่ Ford, GM และ Chrysler ก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถูกขนานนามว่า Big 3 แห่งวงการรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา
พอเป็นแบบนี้ เศรษฐกิจของเมืองดีทรอยต์ ที่เป็นที่ตั้งของทั้ง 3 บริษัท ก็ขยายตัวตามไปด้วย และเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดประชากรให้หลั่งไหลเข้ามาที่เมืองแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
ปี 1900 ประชากรในเมืองดีทรอยต์เท่ากับ 285,704 คน
ปี 1950 ประชากรในเมืองดีทรอยต์เท่ากับ 1,849,568 คน
แต่ใครจะไปคิดว่า ดีทรอยต์ ที่กำลังรุ่งเรืองในตอนนั้น กำลังจะเจอกับพายุที่โหมเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง..
พายุลูกแรก คือ วิกฤติการณ์น้ำมันในปี 1973
เมื่อกลุ่ม OPEC ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 4 เท่า จาก 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลไปสู่ 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน
เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์อย่างมาก
เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูง ทำให้ต้นทุนในการจะขับรถยนต์ออกนอกบ้านแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้นมาก จนส่งผลต่อยอดขายรถยนต์
และในแง่การผลิตรถยนต์ที่มีน้ำมันเป็นหนึ่งในปัจจัยการผลิต
พอราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย
พายุลูกที่สอง คือ การเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์จากต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตขึ้นมา หลังจากฟื้นตัวจากการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี 1945 ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมเด่นของญี่ปุ่น ก็คืออุตสาหกรรมยานยนต์
ไม่นาน ประสิทธิภาพของรถยนต์ญี่ปุ่นก็พัฒนาขึ้นมาเทียบเท่ารถยนต์แบรนด์อเมริกัน
ที่สำคัญคือ ต้นทุนในการผลิตโดยเฉพาะค่าแรงในญี่ปุ่น ถูกกว่าในสหรัฐอเมริกามาก
เรื่องนี้จึงทำให้รถยนต์จากญี่ปุ่นมีราคาถูกกว่า และสามารถเข้ามาตีตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ
พายุสองลูกที่โหมเข้าใส่ ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของดีทรอยต์ ค่อยๆ ตกต่ำนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ผลกระทบของเรื่องนี้ รุนแรงถึงขนาดทำให้บริษัท Chrysler หนึ่งใน 3 ยักษ์ใหญ่บริษัทรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาเกือบล้มละลายในช่วงปลายทศวรรษ 1970
ส่วนบริษัท Ford Motor และบริษัท General Motors ก็มีสถานะการเงินที่สั่นคลอนในช่วงเวลาดังกล่าว
หลายบริษัทยานยนต์ทั้งเล็กและใหญ่เริ่มไล่พนักงานออกและปรับลดค่าแรง
บางรายย้ายฐานการผลิตออกจากดีทรอยต์ไปยังเมืองอื่นหรือประเทศอื่นที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เพื่อให้สามารถแข่งขันภายในอุตสาหกรรมได้
แรงงานในเมืองดีทรอยต์จำนวนไม่น้อยต้องตกงาน ไม่มีรายได้ จนต้องย้ายออกไปหางานที่เมืองอื่น
ประชากรในเมืองดีทรอยต์ในปี 2019 เหลือเพียง 670,031 คน หรือหายไปเกือบ 3 เท่าจากจุดสูงสุดในปี 1950
ประชากรที่ลดลง เศรษฐกิจภายในเมืองที่ตกต่ำ และการที่หลายบริษัทย้ายฐานการผลิตออกไป เรื่องทั้งหมดนี้ตามมาด้วยปัญหาคือ รัฐบาลท้องถิ่นของดีทรอยต์เริ่มเก็บภาษีได้น้อยลง
เมื่อเก็บภาษีภายในรัฐได้น้อยลง รัฐบาลท้องถิ่นก็เริ่มขาดงบประมาณที่จะนำไปใช้บริหารงาน จ่ายสวัสดิการ และเงินเกษียณอายุให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
ปัญหาการขาดแคลนงบประมาณ ยังทำให้จำนวนตำรวจในเมืองลดลงเพราะไม่มีงบประมาณจ่ายเงินเดือนให้ตำรวจ
จนเป็นสาเหตุให้อัตราการเกิดอาชญากรรมของเมืองดีทรอยต์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นเมืองที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ
บทสรุปของเรื่องนี้ คือ ในปี 2013 รัฐบาลท้องถิ่นของดีทรอยต์ต้องยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อขอความคุ้มครองการล้มละลาย หลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่นของดีทรอยต์มีหนี้สินล้นพ้นตัวกว่า 600,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการล้มละลายของรัฐบาลท้องถิ่น ที่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีว่า ช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองของบางสิ่ง อาจไม่ได้คงอยู่ตลอดไป
ดังนั้น ถ้าวันนี้เรากำลังอยู่บนความสำเร็จ ก็อย่าได้ชะล่าใจ
เหมือนอย่างกรณีของ ดีทรอยต์
จากเมืองที่เคยรุ่งเรืองเป็นอาณาจักรแห่งรถยนต์
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเมืองล้มละลาย ไปเสียแล้ว..
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Detroit
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_states_and_territories_of_the_United_States_by_population
-https://en.wikipedia.org/wiki/Automotive_industry_in_the_United_States
-https://en.wikipedia.org/wiki/Decline_of_Detroit
-https://www.khanacademy.org/humanities/us-history/rise-to-world-power/1920s-america/a/1920s-consumption
-https://en.wikipedia.org/wiki/1973_oil_crisis
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過76萬的網紅Singha ha Channel,也在其Youtube影片中提到,สนใจติดตั้ง ย้าย ล้าง เครื่องปรับอากาศ http://www.acairets.com Facebook https://www.facebook.com/SinghahaChannel สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่าน เ...
chevrolet wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ทำไม General Motors ไม่พอใจแมนยู / โดย ลงทุนแมน
ผลงานของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่ไม่ค่อยดี
ไม่เพียงแต่ทำให้แฟนบอลของทีมไม่ค่อยพอใจ
แต่ยังรวมไปถึง บริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง General Motors ด้วย
แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้ต้องย้อนไปในปี 2012 เมื่อ CHEVROLET แบรนด์รถของ General Motors ได้ตกลงที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์บนเสื้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตั้งแต่ปี 2014-2021 เป็นระยะเวลา 7 ปี
ซึ่งข้อตกลงดังกล่าว มีมูลค่าสัญญากว่า 15,700 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 2,243 ล้านบาท
ถ้าเทียบกับ AON บริษัทรับประกันภัยรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสปอนเซอร์บนเสื้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในช่วงระหว่างปี 2009-2013 นั้น สัญญาดังกล่าวกลับมีมูลค่าเพียง 3,110 ล้านบาท ตลอด 4 ปี หรือเฉลี่ยปีละ 778 ล้านบาทเท่านั้น
นั่นหมายความว่า CHEVROLET นั้นจ่ายค่าสปอนเซอร์แพงกว่า AON ถึง 3 เท่า
ที่น่าสนใจคือ ไม่ถึง 2 วันหลังจากที่ CHEVROLET เข้าทำสัญญา ผู้บริหารที่ทำสัญญากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจึงถูกไล่ออกทันที
ทั้งนี้ สัญญาของ CHEVROLET นั้นจะหมดลงใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งล่าสุด มีแนวโน้มว่า General Motors จะไม่ให้ CHEVROLET ต่อสัญญากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เนื่องจากไม่พอใจในผลงานที่ตกต่ำของสโมสรในช่วงที่ผ่านมา
ที่เห็นชัดเจนคือ ในช่วงระหว่างที่ AON เป็นสปอนเซอร์นั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้แชมป์พรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษ 2 ครั้ง
ขณะที่ยังไม่เคยได้แชมป์ดังกล่าวเลยนับจาก CHEVROLET เข้ามาเป็นสปอนเซอร์..
แล้วที่ผ่านมารายได้และกำไรของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นอย่างไร
ปี 2017 รายได้ 22,626 ล้านบาท กำไร 1,526 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 22,969 ล้านบาท ขาดทุน 1,525 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 24,390 ล้านบาท กำไร 737 ล้านบาท
แม้ว่ารายได้ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยังเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเนื่องจาก รายได้ของสปอนเซอร์ การขายของที่ระลึก สินค้าของสโมสร
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมองว่า อนาคตรายได้อาจลดลงเนื่องจากสโมสรไม่ได้เข้าร่วมรายการฟุตบอลรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งรายการนี้จะสามารถทำรายได้ให้กับสโมสรทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทุกคนรู้ดีว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ New York ย้อนหลังไปก่อนหน้านั้นประมาณ 1 ปี มูลค่าหุ้นของสโมสรเคยเพิ่มสูงถึง 130,000 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าของสโมสรลดลงเหลือเพียง 80,000 ล้านบาท ซึ่งหายไปกว่า 50,000 ล้านบาท
แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนกังวลถึงผลประกอบการในอนาคตที่อาจยังไม่ดี จากผลงานในสนาม ณ เวลานี้
ซึ่งแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ต้องเอาใจช่วยกันต่อไปให้ผลงานในสนามดีขึ้น เพื่อทำให้สโมสรกลับมาประสบความสำเร็จทั้งในสนามและนอกสนามอีกครั้งหนึ่ง
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า ปัจจุบัน มูลค่าของสัญญาสปอนเซอร์บนเสื้อของสโมสรฟุตบอลที่แพงที่สุดต่อปีคือ สัญญาระหว่างสโมสรรีลมาดริดจากสเปน
โดยสัญญาระหว่างรีลมาดริดกับ Fly Emirates ผู้ให้บริการสายการบินเอมิเรตส์นั้น สูงถึงปีละ 2,540 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2017-2022
ทำไมสายการบินเอมิเรตส์ถึงจ่ายค่าสปอนเซอร์มากขนาดนี้ได้?
สายการบินเอมิเรตส์มีรายได้ 902,000 ล้านบาท ค่าสปอนเซอร์ดังกล่าวคิดเป็นเพียง 0.28% ของรายได้สายการบินเอมิเรตส์เท่านั้นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://finance.yahoo.com/quote/manu/financials/
-http://manunitedbusiness.blogspot.com/2013/02/uniteds-5-shirt-Sponsors-in-134-year.html
-https://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/manchester-united-shirt-Sponsor-contract-chevrolet-how-much-a9151201.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Aon_(company)
-https://www.marca.com/en/football/international-football/2019/07/11/5d27616646163f138c8b45aa.html
-https://www.macrotrends.net/stocks/charts/MANU/manchester-united/market-cap
-https://the18.com/soccer-entertainment/most-expensive-shirt-sponsorship-deals-2019
-https://www.forbes.com/sites/mikeozanian/2019/05/29/the-worlds-most-valuable-soccer-teams-2019/#39fce3fc40d6
-https://www.emirates.com/media-centre/emirates-group-announces-2018-19-results/
chevrolet wiki 在 Singha ha Channel Youtube 的精選貼文
สนใจติดตั้ง ย้าย ล้าง เครื่องปรับอากาศ http://www.acairets.com
Facebook https://www.facebook.com/SinghahaChannel
สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่าน เข้าสู่สิงหา ชาแนล
Chevrolet Camaro สัญลักษณ์แห่งพลัง ของอเมริกา และนักแสดงผู้โด่งดังจากบท Bumblebee ในภาพยนต์อย่าง Transformers ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ
วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปพบกับ เชพโรเลต คามาโร
เชฟโรเลต คามาโร เปิดตัว รถต้นแบบครั้งแรก ในวันที่ 29 กันยายน ปี 1966 เพื่อออกมาแข่งกับเจ้าตลาดสุดซิ่ง ในยุคนั้นอย่าง
ฟอร์ด มัสแตง (Ford Mustang) ก่อนที่จะส่งมาลงตลาดจริง ในปี 1967 มีทั้งแบบคูเป้ และแบบเปิดประทุน
ข้อมูล https://en.wikipedia.org/wiki/Chevrolet_Camaro
chevrolet wiki 在 Chevrolet - Pixar Cars Wiki - Fandom 的相關結果
Chevrolet (colloquially known as Chevy) is a famous American trademark and car company. Some characters throughout the Cars franchise are based on Chevrolet ... ... <看更多>
chevrolet wiki 在 Chevrolet - Wikidata 的相關結果
Chevy ; Chevrolet Division of General Motors Company y Nahuelito Gimenez. In more languages. Spanish. Chevrolet. empresa fabricante de automóviles ... ... <看更多>
chevrolet wiki 在 Chevrolet - Wikipedia 的相關結果
Chevrolet (/ˌʃɛvrəˈleɪ/ SHEV-rə-LAY) (colloquially referred to as Chevy and formally the Chevrolet Motor Division of General Motors Company) is an American ... ... <看更多>