💡 สวัสดีจ้าเพื่อน ๆ วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับ Operator จาก JavaScript ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าถึงข้อมูลใน Object ได้ง่ายมากขึ้น !!
.
🌈 และเจ้านี่คือ...Optional chaining (?.) นั่นเองจ้า จะเป็นยังไง มีรายละเอียด และวิธีการใช้งานยังไง ไปติดตามกันได้ในโพสต์นี้เลยจ้า ~~
.
✨ Optional chaining (?.) - เป็นตัวดำเนินการที่ทำให้เราสามารถอ่านค่าใน Object ที่ซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นได้ง่ายมากขึ้น เขียนง่าย และทำให้โค้ดสั้นลงนั่นเอง
.
จริง ๆ แล้วมันก็เหมือนเราใช้ เครื่องหมายจุด (.) นั่นแหละ แต่ความพิเศษของมันก็คือถ้าในกรณีไม่มีค่าใน Object หรือ Function มันจะ Return เป็น Undefined แทน Error
.
👨💻 Syntax
.
obj.val?.prop
obj.val?.[expr]
obj.arr?.[index]
obj.func?.(args)
.
📑 วิธีการใช้งาน
.
❤️ ตัวอย่าง 1 : ใช้เข้าถึงข้อมูลใน Object
let customer = {
name: "Mew",
details: {
age: 19,
location: "Ladprao",
city: "bangkok"
}
};
let customerCity = customer.details?.city;
console.log(customerCity);
//output => bangkok
.
❤️ ตัวอย่าง 2 : ใช้กับ Nullish Coalescing
let customer = {
name: "Mew",
details: {
age: 19,
location: "Ladprao",
city: "bangkok"
}
};
const customerName = customer?.name ?? "Unknown customer name";
console.log(customerName); //output => Mew
.
❤️ ตัวอย่าง 3 : ใช้กับ Array
const obj1 = {
arr1:[45,25,14,7,1],
obj2: {
arr2:[15,112,9,10,11]
}
}
console.log(obj1?.obj2?.arr2[1]); // output => 112
console.log(obj1?.arr1[5]); // output => undefined
.
📑 Source : https://developer.mozilla.org/en-US/docs/Web/JavaScript/Reference/Operators/Optional_chaining
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#javascript #optionalchaining #BorntoDev
const array 在 BorntoDev Facebook 的最佳解答
💡 เมื่อเราได้เรียนรู้วิธีการเขียนเว็บมาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เช่น HTML, CSS และ JavaScript แล้วเราอยากจะอยากไปลองใช้ Library หรือ Framework เจ๋ง ๆ ที่ช่วยในการเขียนเว็บ อย่าง React ต้องรู้อะไรบ้าง ??
.
👉 ซึ่งไอเจ้า React เนี่ยมันมีพื้นฐานจาก JavaScript นั่นเอง เราจึงจำเป็นต้องรู้ Concept ที่สำคัญ ๆ ก่อนจะไปใช้งานเจ้า React นั่นเอง
.
มีอะไรบ้าง?? ไปดูกันเลยจ้า 🔥
.
⚙️ Basic Data Structure
Data Structure เป็นหัวใจหลักในการเขียนโปรแกรม ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ Data Structure ประเภทต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อน ตัวอย่างเช่น การรับ-ส่ง Request จาก API มายัง JS เราก็ต้องมีวิธีที่จะจัดการกับโครงสร้างของข้อมูลที่ดึงมาจาก API เพื่อให้เราสามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ได้ตามต้องการ
.
🌟 DOM
DOM หรือ Document Object Model เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง HTML ให้เป็นแบบ Object โดยให้ JavaScript สามารถจัดการกับ HTML ผ่านโครงสร้างของ DOM ได้นั่นเอง ซึ่งเจ้า React จะใช้โครงสร้าง DOM เป็นหลัก เพื่อสร้างการโต้ตอบบนหน้าเว็บที่สะดวกยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคลิกปุ่มสามารถแสดงข้อความ หรือเปลี่ยนสีของข้อความนั่นเอง
.
🚚 API
API ย่อมาจาก Application Program Interface ซึ่งเราต้องมีพื้นฐานการใช้งาน API เพื่อนำข้อมูลมาใช้บนหน้าเว็บนั่นเอง อาจจะไม่ต้องถึงกับสร้าง API ใช้ก็ได้นะ เพียงแค่รู้โครงสร้าง และวิธีการดึงมาใช้งานพื้นฐานก็พอแล้ว !!
.
🔧 Axios / Fetch
เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราดึง API ต่าง ๆ มาใช้งานได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง !! ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการพัฒนาหน้าเว็บ เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถรับ-ส่งข้อมูลแบบไดมามิก และเชื่อมต่อระหว่าง Back-end ได้ง่าย
.
📚 ES6+
สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้วิธีเขียน JavaScript มาตรฐานใหม่ ซึ่งจะช่วยให้โค้ดของเรามีรูปแบบที่อ่านง่ายมากขึ้น !! ซึ่งใน React ที่จะนิยมใช้ ได้แก่ Template Literals, Arrow Functions, Promise, Async / Await, const & let vs var และ Spread Operator นั่นเอง
.
🗂️ JS Array Methods
เมื่อเราสามารถดึงข้อมูลจาก API มาใช้ได้แล้วนั้น เราก็ต้องรู้จักวิธีจัดการกับข้อมูลนั้น ๆ ด้วยนะ ซึ่งมันจะง่ายขึ้นถ้าเรารู้จักใช้ความสามารถของ Array Methods ต่าง ๆ ซึ่งที่นิยมใช้กัน ได้แก่ map(), forEach(), find(), และ filter() เป็นต้น บอกเลยว่าถ้าใช้พวกนี้เป็น ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแน่นอน!! 5555
.
อะทั้งหมดนี้คือ Concept JavaScript พื้นฐานที่สำคัญที่คนเขียน React ต้องมีนะ หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบกันน้าาาา ใครมีอะไรเพิ่มเติมคอมเมนต์ไว้ได้เลย 🥰
.
📑 Source : https://lorenzejay.hashnode.dev/javascript-concepts-you-should-know-before-jumping-into-react-or-any-other-frontend-framework
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
const array 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
☀️ สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนจ้าาา วันนี้แอดมาแชร์ทริคเด็ด ในการรวม Array ง่าย ๆ ด้วยฟังก์ชัน concat() นั่นเอง จะเป็นยังไงนั้น ไปดูกันโลดดดด !!
.
✨ ฟังก์ชัน concat() - ใช้เพื่อรวม Array ตั้งแต่ 2 Array ขึ้นไป วิธีนี้จะไม่เปลี่ยน Array ที่มีอยู่ แต่จะคืนค่าเป็น Array ใหม่แทนนั่นเอง
.
ไปดูตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน concat() กันเลย !!
.
👨💻 ตัวอย่างที่ 1 : รวม Array
const array1 = ["Lisa", "Rose"]
const array2 = ["Jisoo","Jennie"]
const newArray = [].concat(array1, array2);
.
// output => [ 'Lisa', 'Rose', 'Jisoo', 'Jennie' ]
จากโค้ดจะทำการรวม array1 และ array2 เข้าด้วยกัน และสร้างเป็น array ใหม่ด้วย [] นั่นเอง
.
หรือ
const newArray = array1.concat(array1, array2);
.
👨💻 ตัวอย่างที่ 2 : แปลง Array ที่ซ้อนกันให้เป็น Array เดียว
const array1 = ["A","B",["C","D"],["E","F"], "G", "H"];
const newArray = [].concat(...array1);
.
// output => ['A', 'B', 'C', 'D', 'E', 'F', 'G', 'H']
.
จากโค้ดด้านบนมี Array ที่ซ้อนกันอยู่ เราอยากให้ผลลัพธ์เป็น ['A', 'B', 'C', 'D', 'E', 'F', 'G', 'H'] สามารถใช้ concat() จัดการ Array ได้ง่าย ๆ นั่นเอง
.
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะ หากชอบเนื้อหานี้ฝากกดไลก์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยน้าาาาา 🥰
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน