William Li ใช้เวลา 6 ปี สร้างรถไฟฟ้า NIO ให้มูลค่าบริษัทมากกว่า BMW /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงแบรนด์รถหรู เชื่อว่าคำตอบในใจของหลาย ๆ คน
คงหนีไม่พ้น Mercedes-Benz กับ BMW
ซึ่งหากเราเอาอายุของทั้ง 2 แบรนด์มารวมกันจะอยู่ที่ 200 ปีพอดี
แต่รู้หรือไม่ว่า ? มีบริษัทรถยนต์ที่มีอายุได้เพียง 6 ปี
แต่กลับมีมูลค่าที่สูสีกับแบรนด์รถในตำนานทั้งสอง
บริษัทนั้นคือ “NIO Inc.” บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน โดยปัจจุบัน
- Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz มีมูลค่าอยู่ที่ 3.1 ล้านล้านบาท
- NIO Inc. มีมูลค่าอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาท
- BMW มีมูลค่าอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท
โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NIO Inc. คือ “William Li” ซึ่งในวัยเด็กเขาไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่สุขสบายนัก เขาเกิดมาท่ามกลางหุบเขาที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เลย
แต่วันนี้เขาสามารถพาบริษัท NIO Inc. ขึ้นมาจนมีมูลค่าเทียบเคียงกับ Mercedes-Benz และ BMW ได้
เรื่องราวนี้เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
William Li หรือ Li Bin เกิดเมื่อปี 1974 ที่ Anhui จังหวัดทางฝั่งตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยภูเขา ซึ่งในเวลานั้นเป็นเมืองที่ยากจน จึงทำให้ในช่วงที่เขาเกิด ที่บ้านเขายังไม่มีไฟฟ้าใช้
กว่าที่บ้านเขาจะได้มีไฟฟ้าใช้ เขาก็อายุได้ 10 ขวบแล้ว
พ่อกับแม่ของเขาทำงานอยู่ในเหมืองถ่านหิน ซึ่งมีระยะทางไกลจากบ้านถึง 300 กิโลเมตร เขาจึงเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของตากับยายเป็นหลัก
ด้วยความที่เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างยากจน คุณตากับคุณยายจึงสอนให้ William Li รู้คุณค่าของการทำงานหนัก
ทำให้เขาเป็นคนที่มีความขยันและชอบทำงานตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นช่วยทำฟาร์ม หรือช่วยงานที่ร้านสะดวกซื้อของคุณตา
ด้วยความขยันและตั้งใจของ William Li ทำให้เขาสามารถเข้าเรียนที่ Peking University ได้ ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในจีน
ระหว่างเรียนที่มหาวิทยาลัย เขาทำงานพาร์ตไทม์หลายงาน เช่น ติวเตอร์ เซลส์ขายของ และรับจ้างเขียนโปรแกรม เพื่อนำเงินมาช่วยจ่ายเป็นค่าเรียน
แม้จะทำงานและเรียนไปพร้อม ๆ กัน แต่เขาก็สามารถเรียนจบระดับปริญญาตรีได้ถึงสองสาขา
คือ สาขาสังคมวิทยา และ Computer Science ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่เขาถนัด ทำให้เขาอยากทำงานที่ได้ใช้ความสามารถในด้านนี้
ในช่วงปี 1989 เป็นช่วงเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน และเริ่มมีการใช้กันแพร่หลายมากขึ้นในปี 1994 ซึ่งเป็นช่วงปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยของเขาพอดี
เมื่อเขาเห็นโอกาสตรงจุดนี้ เขาจึงชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกคน มาก่อตั้งบริษัทชื่อ Beijing Antarctic Technology Development ซึ่งถือเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตแรก ๆ ในจีน
และต่อมา เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัท Bitauto Holdings Limited ขึ้นมาในปี 2000
Bitauto Holdings Limited เป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก จนสามารถนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2010
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ William Li ถูกเรียกว่าเป็น “Serial Entrepreneur” ซึ่งเป็นคำที่มักใช้เรียกนักธุรกิจที่มีความคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา โดยเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและร่วมลงทุน มาแล้วมากถึง 40 บริษัท
และแม้ว่าเขาคือคนที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่ William Li ไม่ได้หยุดแค่นี้และเดินหน้าหาความท้าทายกว่าเดิม ครั้งนี้คือการเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์แบบเต็มตัว
ในปี 2014 เขาก่อตั้งบริษัท NIO Inc. ขึ้นมา
บริษัททำธุรกิจพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยรถรุ่นแรกที่ NIO พัฒนาขึ้นมาเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าสองที่นั่ง
ชื่อรุ่น EP9 โดยชื่อย่อมาจาก Electric Performance 9
ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนมีบริษัทยักษ์ใหญ่และกองทุนขนาดใหญ่ทั้งหลายมาร่วมลงทุนด้วย เช่น Baillie Gifford, BlackRock, Temasek และ Tencent
จนในเดือนกันยายน ปี 2018 William Li ก็สามารถนำ NIO Inc. เข้าตลาดหลักทรัพย์ NYSE ได้สำเร็จ
แล้วปัจจุบัน NIO มีผลประกอบการเป็นอย่างไร ?
ปี 2018 รายได้ 23,500 ล้านบาท ขาดทุน 46,891 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 35,294 ล้านบาท ขาดทุน 54,288 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 77,595 ล้านบาท ขาดทุน 27,177 ล้านบาท
แม้ว่าผลประกอบการของ NIO จะกำลังเติบโตได้ดี แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจของ NIO อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นเมกะเทรนต์อย่าง รถยนต์ไฟฟ้า ก็เลยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้ไม่น้อย
ทำให้ปัจจุบัน NIO Inc. มีมูลค่าอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาท
และทุกวันนี้ แบรนด์รถเกือบทุกแบรนด์ กำลังมุ่งเข้าสู่เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า อย่างในจีนและฮ่องกงก็มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามากมาย เช่น XPeng, BYD และ NIO
ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน ปัจจุบันมีการแข่งขันที่เรียกได้ว่าดุเดือดมาก ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตลาดนี้
แต่สำหรับ William Li ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ NIO
ตอนนี้ เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลร่ำรวยของจีนและของโลกไปแล้ว
โดยมีมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกประเมินอยู่ที่ 230,000 ล้านบาท
หลายคนคงคิดว่า หากเราเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ และบริษัทหนึ่งที่กำลังอยู่ในสมรภูมิรบแห่งนี้ เราอาจมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหา
แต่สำหรับ William Li แล้ว เขากลับมองว่าเรื่องยาก ยิ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า
“ถ้าผมสามารถทำสำเร็จได้ในจีน คงไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่สามารถทำมันสำเร็จในที่อื่นบนโลกนี้”
ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ เขาได้วางแผนนำรถยนต์ไฟฟ้า NIO ไปเจาะตลาดนอร์เวย์ เป็นตลาดต่างประเทศแรก ๆ อีกด้วย
หากดูจากวิสัยทัศน์ และผลงานที่ผ่านมาของ William Li ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่วันนี้ เขาจะเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ
และก้าวจากเด็กที่เกิดในหุบเขา ที่ไฟฟ้าเคยเข้าไม่ถึง มาเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายสำคัญของโลก เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.forbes.com/sites/ywang/2021/06/03/ev-billionaire-william-li-is-chasing-growth-overseas/?sh=5feaa5171a80
-https://www.youtube.com/watch?v=JmjvVTxcWAk&t=499s
-http://www.niocapital.com/index.php?m=content&c=index&a=show&catid=223&id=1
-https://en.wikipedia.org/wiki/NIO_(car_company)
-https://artsandculture.google.com/entity/william-li/g11fjwxjps5?hl=en
-https://companiesmarketcap.com
-https://en.wikipedia.org/wiki/Internet_in_China
-NIO Inc. Annual Report 2020
-https://www.nio.com/news/nio-announces-norway-strategy
daimler wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
BYD รถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติจีน ใหญ่เป็นรองเพียง Tesla และ Toyota /โดย ลงทุนแมน
ชั่วโมงนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Tesla บริษัทผู้นำนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
ที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
หากเรามาดูมูลค่าบริษัทที่มีรายได้จากการผลิตรถยนต์ ที่ใหญ่สุดในโลก 3 อันดับแรกในตอนนี้
อันดับ 1 Tesla มูลค่าบริษัท 24.3 ล้านล้านบาท
อันดับ 2 Toyota มูลค่าบริษัท 7.2 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 BYD มูลค่าบริษัท 3.2 ล้านล้านบาท
แน่นอนว่าหลายคนรู้จัก Tesla และ Toyota
แต่หลายคนน่าจะไม่รู้จัก BYD ว่าคือบริษัทอะไร
แล้ว BYD เป็นใครมาจากไหน?
ทำไมถึงมีมูลค่ามาก จนตอนนี้แซงหน้าบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่
อย่าง Volkswagen, Daimler, GM รวมถึง BMW
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
BYD ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
แต่เป็นบริษัทจากประเทศจีน ที่ก่อตั้งโดยคุณ Wang Chuanfu ซึ่งเป็นผู้ที่เกิดในครอบครัวชาวนาที่ยากจนในมณฑลอานฮุย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ตั้งแต่ปี 1995 หรือราว 26 ปีก่อน
โดยชื่อของ BYD นั้น ย่อมาจาก “Build Your Dream” หรือแปลเป็นไทยว่า “สร้างฝันของคุณ”
สำหรับเรื่องราวของคุณ Wang Chuanfu นั้น
คุณพ่อ คุณแม่ของเขาได้จากเขาไปตั้งแต่ยังเด็ก
ทำให้เขาถูกเลี้ยงมาโดยพี่ชาย และพี่สาวของเขา
การจากไปของพ่อแม่ ทำให้ชีวิตของคุณ Wang Chuanfu ประสบความยากลำบากตั้งแต่เด็ก
เขาต้องขอยืมเงินเพื่อนบ้านเพื่อเป็นทุนในการเรียนหนังสือ
แต่ความยากลำบากตั้งแต่เด็ก ทำให้เขามีความมุ่งมั่นในการเรียนอย่างมาก
จนกระทั่งเขาเรียนจบปริญญาโทจาก Beijing Non-Ferrous Research Institute
หลังจากเรียนจบ เขาทำงานให้กับหน่วยงานวิจัยของรัฐบาลจีนหลายปี ก่อนที่จะออกมาทำงานบริษัทเอกชน ระหว่างนั้นเขาศึกษา และพบว่าอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ในประเทศจีน มีโอกาสจะเติบโตอย่างมากในอนาคต
พอเรื่องเป็นแบบนี้ เขาจึงก่อตั้งบริษัท BYD Company Limited ขึ้นในปี 1995 โดยบริษัทของเขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี BYD สามารถครองส่วนแบ่งมากกว่า 50% ในตลาดผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตถ่านชาร์จรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
จุดเปลี่ยนของ BYD เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2002
เมื่อบริษัท BYD ได้ไปซื้อบริษัทรถยนต์ Tsinchuan Automobile เข้ามาเป็นบริษัทลูก
แล้วทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “BYD Auto”
ในช่วงแรกนั้น BYD Auto ยังเน้นผลิต และจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอยู่ โดยรูปลักษณ์รถยนต์ของ BYD นั้นจะเน้นไปที่รูปทรงเหมือนรถยนต์แบรนด์จากญี่ปุ่นและยุโรป
แต่ในปี 2008 BYD Auto สามารถผลิตรถพลังไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) คันแรกของโลกได้
โดยใช้ความชำนาญของการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่มาก่อน มาพัฒนาต่อยอด จนได้รับความสนใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมอย่างมาก
และเรื่องนี้โด่งดังมาก จนทำให้ในปีดังกล่าว วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก เข้ามาลงทุนในบริษัท BYD ด้วยมูลค่า 6,920 ล้านบาท
มาวันนี้มูลค่าหุ้นที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ถือใน BYD มีมูลค่าสูงกว่า 222,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3,200% ในระยะเวลาประมาณ 12 ปี ที่เขาเริ่มลงทุนมา
สำหรับ BYD นั้น จากที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก
มาวันนี้ BYD ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่
ที่ผลิตทั้ง รถยนต์ไฟฟ้า และรถบัสไฟฟ้า
ถ้าลองมาดูส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ McKinsey & Company
1. Tesla 16.2%
2. BYD 10.0%
3. BJEV 7.1%
โดยส่วนใหญ่แล้วรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ถูกวางขายในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน
ส่วนในประเทศไทย ก็ยังมีการนำเอารถยนต์ของ BYD มาใช้แล้วบ้าง
อย่างเช่น BYD รุ่น e6 ที่ถูกนำมาให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ
ผลประกอบการของ BYD Company Limited
ปี 2018 รายได้ 566,421 ล้านบาท กำไร 12,900 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 566,361 ล้านบาท กำไร 7,500 ล้านบาท
โดยที่รายได้ของ BYD ในปี 2019 มาจาก
- ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า 49%
- ธุรกิจผลิตและประกอบชิ้นส่วนมือถือ 43%
- ธุรกิจแบตเตอรี่ และแผงโซลาร์เซลล์ 8%
หมายความว่า BYD มีรายได้มาจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรายได้หลักแล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 277,500 ล้านบาท
ถ้าลองเอารายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้า มาเทียบกับ Tesla
ในปี 2019 Tesla มีรายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้า 625,000 ล้านบาท
ก็จะเห็นว่า รายได้จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla เป็น 2.3 เท่าของ BYD
ปัจจุบัน BYD Company Limited จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
และมีมูลค่าบริษัทประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท
และก็น่าติดตามว่า
ภายใต้กระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้
BYD จะสามารถเติบโตไปกับเทรนด์นี้ ได้ดีมากแค่ไหน ในอนาคต
และมันคู่ควรแล้วหรือไม่ ในการที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่าค่ายรถยุโรปทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็น Volkswagen, Daimler, BMW..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://finance.yahoo.com/quote/1211.HK/financials?p=1211.HK
-https://daydaynews.cc/en/emotion/681987.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Wang_Chuanfu
-https://dlmag.com/byd-is-the-worlds-largest-electric-vehicle-maker-5-things-you-should-know-about-byd/
-https://cntechpost.com/2020/10/31/why-did-buffett-invest-in-byd-and-not-tesla/#:~:text=In%20September%202008%2C%20Buffett%20bought,18.6%20times%20the%20original%20investment.
-https://en.wikipedia.org/wiki/BYD_Company
-https://markets.businessinsider.com/news/stocks/warren-buffett-berkshire-hathaway-gain-byd-electric-vehicles-investment-2021-1-1029995920
-https://www.mckinsey.com/industries/automotive-and-assembly/our-insights/mckinsey-electric-vehicle-index-europe-cushions-a-global-plunge-in-ev-sales
-https://www.autodeft.com/deftscoop/byd-e6-taxi-vip-ev-thailand
daimler wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รู้จัก Robin Zeng คนที่รวยสุดในฮ่องกง เจ้าพ่อแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า /โดย ลงทุนแมน
Robin Zeng หรือ Céng Yùqún ปัจจุบันอายุ 52 ปี และเป็นบุคคลที่ร่ำรวยสุดในฮ่องกง
ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 36,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,101,000 ล้านบาท
ในขณะที่ Li Ka-shing ซึ่งเคยเป็นคนที่รวยสุดในฮ่องกงมาก่อน
ปัจจุบันรวยเป็นอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 31,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 954,000 ล้านบาท
ซึ่งความมั่งคั่งของ Li Ka-shing มาจากหลากหลายธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์, ท่าเรือ, โทรคมนาคม, พลังงาน, ค้าปลีก
แล้ว Robin Zeng ทำธุรกิจอะไร ถึงได้กลายเป็นคนรวยสุดในฮ่องกง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Robin Zeng เป็นผู้ก่อตั้ง และประธานของบริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL)
ผู้พัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
โดยเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2020
CATL ครองส่วนแบ่งตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก อยู่ 23.8%
ทั้งนี้ Robin Zeng จบการศึกษา ป.ตรี วิศวกรรมต่อเรือ ที่ Shanghai Jiao Tong University
ป.โท วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ ที่ South China University of Technology
ป.เอก ฟิสิกส์ของสสารควบแน่น (Condensed Matter Physics) ที่ Chinese Academy of Sciences
ซึ่งเขาเป็นคนที่เติบโต และทำธุรกิจในเมืองหนิงเต๋อ มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน
แต่ตัวเขาเอง ถือสัญชาติฮ่องกง
ย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีก่อน
Robin Zeng มีวิสัยทัศน์ที่ว่า ต่อไปในอนาคต รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ
บวกกับรัฐบาลจีน เริ่มส่งสัญญาณที่จะออกนโยบายผลักดัน ให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ดังนั้น แบตเตอรี่ ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ และหัวใจหลัก ของรถยนต์ไฟฟ้า จึงต้องเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เขาเลยตัดสินใจก่อตั้ง CATL ขึ้นในปี ค.ศ. 2011
และหลังจากนั้น ธุรกิจแบตเตอรี่ของเขาก็รุ่งเรือง ตามตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
CATL ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เชินเจิ้น ในเดือนมิถุนายน 2018
ซึ่งปัจจุบัน ราคาหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นกว่า 663% ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
และมีมูลค่าบริษัท 4,405,000 ล้านบาท
ผลประกอบการย้อนหลังของ CATL
ปี 2017 มีรายได้ 92,563 ล้านบาท กำไร 18,037 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 136,931 ล้านบาท กำไร 15,754 ล้านบาท
ปี 2019 มีรายได้ 211,703 ล้านบาท กำไร 21,209 ล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ CATL เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ และซัปพลายเออร์ให้กับ บริษัทรถยนต์ชื่อดังเกือบทุกราย
ไม่ว่าจะเป็น Tesla, BMW, Daimler AG, Volkswagen, Volvo, Toyota, Honda, Hyundai, Geely และ SAIC เป็นต้น
นอกจากธุรกิจพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว
CATL ยังดำเนินธุรกิจอื่นๆ อีก อาทิ จัดหาโซลูชันสำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems) ในรูปแบบพลังงานหมุนเวียน อย่างพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม
รวมถึงพัฒนานวัตกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่ และนำกลับมาใช้อีกครั้ง (Battery Recycling) เพื่อลดต้นทุนด้านแบตเตอรี่ในอนาคต
โดย CATL มีโรงงานการผลิตทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วยในจีน 4 แห่ง และ เยอรมนี 1 แห่ง
มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 4 แห่ง ประกอบด้วย ในจีน 3 แห่ง และ เยอรมนี 1 แห่ง
สรุปแล้ว ด้วยเมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทำให้เกิดความต้องการในแบตเตอรี่มหาศาล
และยิ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งแข่งขันกัน หรือ มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากเท่าไร
ก็ยิ่งทำให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ โดยเฉพาะเจ้าตลาดอย่าง CATL ได้รับอานิสงส์ มากเท่านั้น
CATL จึงเป็นดั่งขุมทรัพย์ และเครื่องจักรผลิตความมั่งคั่งให้กับ Robin Zeng จนทำให้เขาได้ครองบัลลังก์ บุคคลที่รวยสุดในฮ่องกง นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Robin_Zeng
-https://en.wikipedia.org/wiki/Contemporary_Amperex_Technology
-https://www.bloomberg.com/billionaires/
-https://www.forbes.com/profile/robin-zeng/?sh=c52fb3397f2a
-https://www.catl.com/en/about/profile/
-https://www.wsj.com/market-data/quotes/CN/XSHE/300750/financials/annual/income-statement
-https://insideevs.com/news/442875/lg-chem-leads-ev-battery-market/
daimler wiki 在 How Daimler and Benz Built the World's Oldest Automaker ... 的推薦與評價
... wikipedia.org/ wiki /Carl_Benz https://www.carlbenzschool.kit.edu/cbs-history.php https://www. daimler.com/magazine/culture/100-things- daimler ... ... <看更多>