การเพิ่มขึ้นของ Bond Yield จะกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือ Bond Yield ในช่วงที่ผ่านมา
โดยเฉพาะ Bond Yield ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปี กำลังเป็นปัจจัยทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
และหลายคนก็อาจกำลังสงสัยว่า
เรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะมาวิเคราะห์ให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สำหรับ Bond Yield ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ
คือ Bond Yield ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปี
ในทางทฤษฎีนั้น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Bond Yield มักเป็นการส่งสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวในตลาดการเงิน กำลังจะปรับตัวสูงขึ้น จากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา
ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็เพราะรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ให้เดินหน้าจากวิกฤติให้เร็วที่สุด
อย่างเช่น มาตรการก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา นำมากระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ก็เป็นเม็ดเงินสูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นกว่า 59 ล้านล้านบาท
โดยมีทั้งการนำเงินไปช่วยคนตกงาน สนับสนุนเงินช่วยเหลือแก่ภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ หน่วยงานต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้
เมื่อประชาชนมีเงินในมือหรือได้รับการช่วยเหลืออุดหนุน จึงทำให้มีการคาดกันว่า ชาวอเมริกันจะออกมาจับจ่ายใช้สอย ท่องเที่ยว หลังจากอัดอั้นมานาน จนทำให้เศรษฐกิจเติบโตในปีนี้
แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ อีกด้านหนึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า เงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา จะปรับเพิ่มขึ้นมากในอนาคตอันใกล้
และพอเป็นแบบนั้น สุดท้ายธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดกั้นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
นักลงทุนที่คาดการณ์แบบนี้ และกำลังถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปีอยู่ จึงเริ่มพากันเทขายพันธบัตรดังกล่าวออกมา เพราะคาดว่าพันธบัตรรุ่นที่จะออกมาใหม่ในอนาคต จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรชุดปัจจุบันตามการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยนโยบาย
การเทขายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นปัจจุบัน จึงทำให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการุ่นอายุ 10 ปีนั้นลดลง และทำให้อัตราผลตอบแทน ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสวนทางกันตามกลไกของพันธบัตร
- สิ้นปี 2563 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 0.916%
- มีนาคม 2564 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 1.674%
การเทขายพันธบัตร แล้วหันกลับมาถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ
หมายความว่า ความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังกลับมาเพิ่มขึ้น
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD Index) ปรับเพิ่มขึ้น
ซึ่งหมายความว่า เงินดอลลาร์สหรัฐ กำลังแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น
- สิ้นปี 2563 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD Index) อยู่ที่ประมาณ 89.894
- มีนาคม 2564 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD Index) อยู่ที่ประมาณ 92.714
การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เงินบาทนั้นอ่อนค่าลงในเชิงเปรียบเทียบ
โดยค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงต้นปี อยู่ที่ประมาณ 29.87 บาท
ในวันนี้ ค่าเงินบาทปรับตัวมาอยู่ที่ประมาณ 31.32 บาท
หรืออ่อนค่าลงมาแล้ว ประมาณ 4.9%
แน่นอนว่า เมื่อรวมกับการที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด 19 การอ่อนค่าของเงินบาท ก็จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออก และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย
เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยในปี 2563 สัดส่วนมูลค่าการส่งออกของไทยมีสัดส่วนกว่า 7.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 45% ของมูลค่า GDP
ค่าเงินที่อ่อนค่ายังจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมองว่าการท่องเที่ยวไทยมีต้นทุนที่ต่ำลง เมื่อเงินบาทอ่อนค่าลง
แม้ว่าตอนนี้ประเทศไทยจะยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เต็มที่เหมือนช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศเริ่มฟื้นตัว ในช่วงเวลาเดียวกับที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง
สรุปแล้ว การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยทำให้ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลบวกตามไปด้วย
แต่รู้ไหมว่า เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา รุ่นอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้น เรื่องนี้ก็ส่งผลทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี
โดยจากสิ้นปีที่ประมาณ 1.165% มาวันนี้ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 1.733%
ในทางเศรษฐศาสตร์นั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี มักเป็นปัจจัยที่ใช้กำหนดแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
นั่นหมายความว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของไทยนั้นปรับตัวสูงขึ้นไปด้วย
แล้วเรื่องนี้จะกระทบอะไรกับเราบ้าง ?
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น
ทำให้หากรัฐบาลไทยหรือบริษัทเอกชนไทย ต้องการจะออกหุ้นกู้ระยะยาว ก็จะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
งบประมาณของภาครัฐ รวมทั้งงบประมาณของภาคเอกชน ที่จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนก็อาจลดลง เนื่องจากงบประมาณบางส่วนต้องถูกแบ่งไปชำระภาระหนี้ในอนาคตที่เพิ่มสูงขึ้น
แต่ที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงที่สุด น่าจะเป็นภาคครัวเรือนไทย
ปัจจุบันหนี้สินของภาคครัวเรือนไทย พุ่งไปถึง 87% ของมูลค่า GDP
หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 14 ล้านล้านบาท
ซึ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเริ่มปรับเพิ่มขึ้น ภาระหนี้สินของครัวเรือนไทยก็จะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
พอภาระของภาคครัวเรือนมีมากขึ้น ก็จะมีกำลังมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มากเพียงพอในวันนี้และในอนาคต
สรุปแล้ว การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวพวกเรา
แต่เมื่อลองมาวิเคราะห์กันดูแล้ว กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวพวกเราและเศรษฐกิจไทย ไม่น้อยเลยทีเดียว...
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investing.com/currencies/us-dollar-index
-https://www.investing.com/rates-bonds/u.s.-10-year-bond-yield-historical-data
-https://kasikornbank.com/th/k-expert/knowledge/articles/savings/Pages/Invest_A125.aspx#
-https://www.cnbc.com/2021/01/11/forex-markets-dollar.html
-http://tradereport.moc.go.th/Report/Default.aspx?Report=TradeBalanceMonthly&Lang=Th
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=409&language=TH
-https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=615
-https://th.investing.com/rates-bonds/thailand-10-year-bond-yield
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過115萬的網紅Rayner Teo,也在其Youtube影片中提到,If you want to learn more and get a free trading education, go to https://www.tradingwithrayner.com So… Since this is the first week of the month, I...
forex rates 在 食在好玩 Eatlicious Facebook 的最佳解答
【台币、泰币、人民币、韩币统统跌跌跌!!】💰💷
谁即将前往台湾、泰国、中国、纽西兰、印尼、韩国的话!! 是时候换一些外币啦!! 这些外币统统插水啦😍😍
⛔️以下显示为兑换商汇率,并非FOREX或Google汇率,也就说你们去换钱时大约这个汇率哦~
✅7月以下这些适合换一些:
🇹🇭泰铢 100THB = MYR12.31 🔥🔥
🇹🇼台币 100TWD = MYR13.14🔥🔥
🇨🇳人民币 100RMB = MYR60.40🔥
🇮🇩印尼盾 1000000IDR = MYR285 🔥
🇳🇿纽币 1NZD = MYR2.785🔥
🇰🇷韩币 1000KRW = MYR3.65🔥(3个月最低)
🇵🇭菲律宾 100Peso = MYR7.57
🇯🇵日元 1000Yen = MYR36.45
🇦🇺澳币 1AUD = MYR3.035
📲泰国、台湾、欧洲、澳洲、中国(免翻墙)、港澳上网Sim卡这里买:
http://bit.ly/2pM06hy
❎以下这些目前升高不适宜换:
🇺🇸美金1USD = MYR4.05(升到很高!!)
🇸🇬新币 1SGD = MYR2.97
🇭🇰港币 100HKD = MYR51.45(升到很高!!)
🇻🇳越南盾 1000000VND = MYR179.50
🇪🇺欧元 1EURO = MYR4.74
🇬🇧英镑 1GBP = MYR5.39
✅以上是我们常去 Queensbay Mall换钱的Money Changer,其他Branch和完整汇率查询:http://suriamuhabat.com.my/money-changing-rates/
如果要马币换外币,请看We Sell/Selling Rate;如果外币换回马币,请看We Buy/Buying Rate。
⛔️以上纯粹建议,汇率未来还会否升跌我们也不懂。
⛔️以上汇率截止18-Jul 2018, 10AM
⛔️这不是炒外汇资讯,要炒外汇的请绕道。
-------------------------------------------------------
Subscribe食在好玩►►http://bit.ly/2rZ5Q6D
食在好玩Youtube ►►http://bit.ly/2txjFLw
食在好玩instagram ►►@eatlicious_my
食在好玩Blog ►►http://bit.ly/1qokzzA
forex rates 在 Mohd Asri Facebook 的精選貼文
Day 2: Seminar Dunia Pelaburan Saham sesi terakhir Kuala Lumpur 2014 bersama Dato' Dr Nazri Khan, First Vice President Affin Hwang Capital & President of MATA.
"Trading is For Living"....
[MY FORECAST NEW YEAR 2015]
Alhamdulillah. Looking forward to my first political seminar along with Malaysian respectable politicians on 2015 Economic & Stock Market Outlook.
All friends invited to attend. 27th January, Sunway Resort Hotel.
My humble FORECAST in 2015 :
2015 will see USA Federal Reserve unwind its huge USD3 trillion financial stimulus and start to hike interest rates, first time in eight years.
2015 will see Bank Of Japan and European Central Bank to start pumping in USD1 trillion yen and Euro 1 trillion to boost their flagging economies.
2015 will see Malaysia chairing ASEAN and the launch of Asean Economic Community and ASEAN stock exchange by October 2015.
2015 will see the start of mega bank merger in Malaysia. Expect the biggest Malaysian Bank to be born with more than RM100 billion market cap next year.
2015 will see Malaysia finally implement Good Service Tax at 6% (lowest in ASEAN) after the long planning since 1992, Mahathir Prime Minister and Anwar Ibrahim, Finance Minister era. Malaysia are the third last ASEAN countries to implement GST.
2015 will see more than 10 mega IPO in Bursa Malaysia which includes 1MDB, Malakoff, Weststar, Iskandar Waterfront, Al Medini, Khazanah Theme Park, Ekuinas Ilmu, Sunway Construction, Sime Auto and Ecoworld International.
2014 will be officially Bursa Malaysia fourth WORST year in history, after 2008, 1997 and 1994. Year to date, Bursa has dipped 226 points or 11.8% ever since it
touched the highest record on the 8th July 2014.
2014 will be the first Bursa losing year after five straight profitable years since 2008. Not bad, given that Bursa has gained a whopping 1095 points or 135% since 28th October 2008 bottom.
2014 Bursa worst sectors are plantation and oil gas while the best Bursa sectors are technology and construction. All four sectors should be a good buy next year especially technology stocks if USA solid economy continue.
2015 should see Bursa renew momentum and continue the uptrend driven by the return of foreign inflows. As at today, foreign investors hold 45% of Malaysian Bonds and 23% of Malaysian equities, among the lowest in history.
2015 hottest economic issues will be falling ringgit, falling oil, rising inflation, rising interest rates, rising household debt, illicit money outflow and New Economic Model of Malaysian 11th Economic Plan.
2015 hottest political issues will be 1MDB Berhad, Anwar Sodomy Verdict, Seditious Act, Hudud Row, Pakatan Solidarity, Felda Group, Malaysia Airlines Berhad and UMNO New Political Model. Expect to see the rise of Malaysian political temperature and more confrontation Malay liberals vs Malay extremes.
2015 will see oil even cheaper than water. Within five months, oil price has crashed from USD110 to USD55 per barrel. It now costs RM1 to buy a litre of oil, compare
to water which is RM2 a litre. Ironically, RON 95 and Milo Tarik have not fallen as much.
2015 will see more currencies volatility. Forex traders are set to return. Top Five worst currencies in 2014 are Russian Rouble, Chilean Peso, Argentina Peso, Colombian Peso and Ukraine Hryvnia which have tumbled more than 20%. Ringgit which is already down 12% is yet to join the fray. Russia has shockingly raised its key interest rate to 17% from 10% after the collapse of the rouble currency.
2015 will see the return of Avian Influenze H5. Japanese officials slaughtered 4,000 chickens after confirming the H5 strain of bird flu at a poultry farm in the
southwest of the country. More widespread H5 will push Malaysian healthcare and glove stocks higher.
2015 will see the return of El Nino. Australian Weather Bureau confirmed 70% probabilities of El Nino emerging by February 2015 in the Pacific Ocean. This should be supportive of global aggro commodities including Malaysian Palm Oil.
2015 biggest DANGER to Global Stock Market will be GREECE. Signs suggest Greece may leave European Union if the left radicals, Syriza Party win the Greece general election this month. If this materialize, expect Greece exit to tear off Euro.
My overall take : 2015 will be the Best Stock Picking year for all investors and traders, despite higher Malaysian political temperature and rising interest rate, given the solid USA economy, cheaper Bursa stocks, super attractive risk-reward and huge selling seen over the last six month.
~ Nazri Khan, Affin Hwang Investment Bank.
forex rates 在 Rayner Teo Youtube 的最佳貼文
If you want to learn more and get a free trading education, go to https://www.tradingwithrayner.com
So…
Since this is the first week of the month, I’m doing my “monthly special”.
I’ll analyze 11 different markets and give you X-RAY insight into what’s going on in the financial markets.
You’ll discover:
• Is the EURUSD rally over or just a normal pullback?
• Which is the strongest stock market right now (hint: it’s not the S&P)
• Interest rates are on the rise, here’s how to trade this fundamental view…
• This FATAL pinbar mistake that has destroyed many traders
Ready?
Then click the link below and get started now.
If you want to learn more and get a free trading education, go to https://www.tradingwithrayner.com
Thanks for watching!
FOLLOW ME AT:
Facebook: https://www.facebook.com/groups/forextradingwithrayner
Twitter: http://www.twitter.com/rayner_teo
My YouTube channel: https://www.youtube.com/tradingwithrayner
forex rates 在 Xe Currency Converter - Live Exchange Rates Today 的相關結果
Calculate live currency and foreign exchange rates with the free Xe Currency Converter. Convert between all major global currencies, precious metals, ... ... <看更多>
forex rates 在 Currency Converter | Foreign Exchange Rates | OANDA 的相關結果
Free currency converter or travel reference card using daily OANDA Rate® data. Convert currencies using interbank, ATM, credit card, and kiosk cash rates. ... <看更多>
forex rates 在 黃金期貨實時行情- 外匯即時報價 - Dailyfx 的相關結果
通過實時變動的表格,快速查看外匯即時報價、全球股市實時行情和國際黃金期貨實時行情,查詢多種交易商品的買入價及賣出價,並快速了解情緒指數等相關市場信息。 ... <看更多>