กรณีศึกษา ฟองสบู่หุ้นรถไฟ ที่เคยเกิดขึ้นหลัง ปฏิวัติอุตสาหกรรม /โดย ลงทุนแมน
เมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศอังกฤษ ได้มีการคิดค้นสิ่งที่เรียกว่าเครื่องจักร เพื่อเอามาใช้ในกระบวนการผลิตแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่เรียกว่า “การปฏิวัติอุตสาหกรรม”
หลังจากนั้น เครื่องจักร ก็ถูกใช้แพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงระบบขนส่ง ที่มีการพัฒนาหัวรถจักรไอน้ำ ก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น “รถไฟ” ในเวลาต่อมา
การเดินทางรูปแบบใหม่นี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับคนอังกฤษในยุคนั้นมาก ถึงขนาดที่ทำให้เกิดการเก็งกำไร “หุ้นบริษัทรถไฟ” อย่างร้อนแรง จนฟองสบู่แตกในที่สุด
เรื่องราวเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะย้อนอดีตให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เส้นทางรถไฟสาธารณะเชิงพาณิชย์สายแรกของโลก เริ่มให้บริการเมื่อปี 1830 หรือ 191 ปีที่แล้ว โดยเชื่อมระหว่างเมือง แมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีระยะทางยาว 56 กิโลเมตร
นับตั้งแต่นั้นมา คนอังกฤษก็สามารถเดินทางและขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้บริการรถไฟ ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมรถไฟ จึงอยู่ในช่วงเวลาที่เฟื่องฟูมาก
โดยในปี 1845 มีบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ถึง 259 บริษัท
สาเหตุเนื่องจาก รัฐบาลอังกฤษมีนโยบายเปิดเสรี ให้บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ หรือเพิ่งก่อตั้งใหม่ สามารถยื่นเสนอแผนก่อสร้างเส้นทางเดินรถไฟต่อรัฐสภาได้ รวมทั้งยังไม่ค่อยมีการตรวจสอบฐานะทางการเงินที่เข้มงวดมากด้วย
ซึ่งต่อมา รัฐสภาอังกฤษ มีการเห็นชอบแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟ รวมระยะทาง 15,300 กิโลเมตร
ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลมายังอุตสาหกรรมรถไฟในอังกฤษ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 7% ของมูลค่า GDP ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้ เราคงจะพอรู้กันแล้วว่า มีผู้ประกอบการสนใจทำธุรกิจรถไฟเต็มไปหมด
ทีนี้มาลองดูในฝั่งของนักลงทุนกันบ้าง
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนอังกฤษมีฐานะร่ำรวยขึ้นและมีเงินเก็บออม
ประกอบกับในช่วงต้นทศวรรษ 1840s ธนาคารกลางอังกฤษ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เงินทุน เริ่มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง หุ้น
และกลุ่มธุรกิจที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุน ก็หนีไม่พ้น “หุ้นรถไฟ” ที่กำลังเติบโตดี และผลตอบแทนสูง
ต้องบอกว่า ในช่วงดังกล่าว สื่อหนังสือพิมพ์ มีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารเป็นอย่างมาก และสำนักข่าวต่าง ๆ มีการเขียนถึงธุรกิจรถไฟแทบทุกวัน ซึ่งยิ่งทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังสูงต่อผลประกอบการในอนาคต
นอกจากนั้น กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นรถไฟได้ โดยจ่ายเงินเพียง 10% ของมูลค่าทั้งหมดก่อน แล้วค่อยชำระส่วนที่เหลือเมื่อบริษัทเริ่มก่อสร้างโครงการ
เท่ากับว่า นักลงทุนบางรายอาจใช้เงินลงทุนเกินตัวได้ คล้ายกับการซื้อขายหุ้นแบบใช้มาร์จินในปัจจุบัน
เมื่อปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นเช่นนี้ ฟองสบู่ของการเก็งกำไร จึงก่อตัวขึ้น..
ในปี 1843 ถือเป็นจุดเริ่มต้น ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง
หลายคนที่เริ่มมีเงินเก็บเงินออมเมื่อได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าราคาหุ้นกลุ่มรถไฟเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ก็เริ่มทยอยเอาเงินเก็บมาลงทุนในหุ้นรถไฟ
บางคนทุ่มเงินเก็บทั้งหมดซื้อหุ้นรถไฟ บางคนถึงกับไปกู้เงินมาซื้อหุ้น เพราะต่างก็หวังว่าราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แล้วตัวเองก็จะได้กำไรก้อนโต
ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ทำจุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม ปี 1845 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 100% ภายใน 2 ปีครึ่ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนกลับพบความจริงว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเหล่านั้น ไม่เป็นไปตามคาดหวังสักเท่าไรนัก..
เพราะโครงการเส้นทางรถไฟ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง และใช้เวลาก่อสร้างนาน ทำให้กำไรของบริษัทโตไม่ทันตามนักลงทุนคาด และบริษัทก็จ่ายเงินปันผลได้น้อยลง
นักลงทุนหลายคนที่เริ่มหมดหวังและเห็นท่าไม่ดี ก็เริ่มเทขายหุ้นรถไฟออกมา
และสุดท้าย หุ้นรถไฟ จึงเริ่มถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
ในปี 1850 ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟ ปรับตัวลดลงต่ำสุดกว่า 67% เทียบกับจุดสูงสุดเมื่อ 5 ปีก่อนหน้า และต่ำกว่าตอนก่อนเกิดการเก็งกำไรถึง 33%
วิกฤติฟองสบู่ในครั้งนั้น ได้ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุนหนัก บางคนที่ไปกู้มาหรือใช้มาร์จินซื้อหุ้นก็เสียหายหนัก จนบางรายสูญเสียเงินเก็บไปหมด ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม หรือกระทั่งล้มละลาย
และเมื่อนักลงทุนไม่สามารถชำระเงินระดมทุนได้ตามสัญญา ก็ทำให้บริษัทรถไฟหลายแห่ง ต้องปิดตัวลงไป หรือยอมขายกิจการให้กับผู้เล่นรายใหญ่ ในราคาที่ถูกมาก
ไม่เว้นแม้แต่ บริษัทของคุณ George Hudson ซึ่งมีฉายาว่า “ราชาแห่งรถไฟ (The Railway King)” เนื่องจากเขาเป็นผู้บริหารเส้นทางรถไฟที่มีความยาวกว่า 1,600 กิโลเมตร
ในภายหลัง เขากลับถูกเปิดโปงว่า บริษัทมีการตกแต่งบัญชี และจ่ายปันผลจากเงินของนักลงทุนรายใหม่ ในลักษณะเดียวกับแชร์ลูกโซ่
โดยในปี 1850 มีบริษัทรถไฟ หลงเหลืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เพียง 87 บริษัท จากก่อนหน้านี้ที่มีอยู่มากกว่า 250 บริษัท
นอกจากนั้น เส้นทางรถไฟจากเดิมที่ตามแผนต้องสร้างให้เสร็จรวม 15,300 กิโลเมตร ก็ถูกสร้างเสร็จราว 10,000 กิโลเมตร หรือแค่ 2 ใน 3 ของระยะทางที่รัฐสภาเคยอนุมัติและตั้งเป้า
อย่างไรก็ตาม หลายปีหลังจากนั้น อุตสาหกรรมรถไฟ ก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว และไม่เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรอย่างร้อนแรงซ้ำอีก เพราะภาครัฐมีบทเรียนในอดีต และเข้ามากำกับดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
สรุปข้อคิดที่ได้จากวิกฤติฟองสบู่ทุกครั้งคือ
เมื่อมนุษย์ได้รู้จักกับของสิ่งใหม่ ย่อมเกิดความสนใจเป็นพิเศษ
แต่ถ้าความตื่นตาตื่นใจที่มากเกินไป จนกลายเป็นความคลั่ง รวมตัวเข้ากับ “ความโลภ”
มันก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรในลักษณะนี้ อยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Railway_Mania
-https://www.focus-economics.com/blog/railway-mania-the-largest-speculative-bubble-you-never-heard-of
-https://mpra.ub.uni-muenchen.de/21820/1/MPRA_paper_21820.pdf
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅Untyped 對啊我是工程師,也在其Youtube影片中提到,黑人也懂電腦 黑人也寫程式【她也懂電腦】| BLM - Black Women in Tech - 相信你聽說了 George Floyd 喬治·佛洛伊德 的事情。 如果你不知道我在說什麼的話,請你先去了解一下這個事件(下面有貼連結),了解這位非裔美國人是如何因為膚色的不同,因為種族歧視,而被惡意...
「george wiki」的推薦目錄:
- 關於george wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於george wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於george wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於george wiki 在 Untyped 對啊我是工程師 Youtube 的最讚貼文
- 關於george wiki 在 寶博士 Youtube 的最讚貼文
- 關於george wiki 在 メンタリスト DaiGo Youtube 的最佳解答
- 關於george wiki 在 【中文翻譯】George 連續2 分鐘直呼Dream 的真實名字 ... 的評價
- 關於george wiki 在 Learn English with George喬治美語 - Facebook 的評價
george wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่รวยสุดในโลก ผู้สร้าง Star Wars /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกได้สูงสุดตลอดกาล
ก็ต้องมีชื่อ Avatar, Avengers: Endgame และ Titanic
แต่ถ้าเรารวมค่าเข้าชมภาพยนตร์กับยอดขายจากสินค้าและค่าลิขสิทธิ์ที่ต่อยอดจากภาพยนตร์เข้าไปด้วย
ภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรายได้ไปได้มากที่สุดในโลกจะเป็น “Star Wars”
และนั่นก็ได้ทำให้ผู้สร้างจักรวาล Star Wars อย่าง “George Lucas”
กลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท
แล้วเบื้องหลังเรื่องราวชีวิตของ George Lucas เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
George Lucas เกิดในปี 1944 และเติบโตที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่ออายุได้ 11 ปี Lucas ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Disneyland ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงใหลในการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวและนวนิยายแนววิทยาศาสตร์
แต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขามีความสนใจอีกอย่างเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ การแข่งรถ
Lucas จึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักแข่งรถ แต่ต่อมาแผนการนี้ก็ถูกล้มเลิก
เพราะในวัยเพียง 18 ปี Lucas ได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำอย่างรุนแรงจนเขาต้องรักษาตัวอยู่นาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำให้ความตั้งใจที่จะเป็นนักแข่งรถหมดลง
เขาจึงนำความหลงใหลในวัยเด็กหรือ “การ์ตูน” กลับมาเป็นเครื่องนำทาง
แม้ว่าพ่อของ Lucas ที่เปิดกิจการขายเครื่องเขียน อยากให้ลูกชายมาช่วยกิจการครอบครัว
แต่ Lucas ที่ตั้งใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อในด้านศิลป์ จึงได้ตัดสินใจออกจากบ้าน
พร้อมกับบอกครอบครัวของเขาว่าจะมีเงิน 30 ล้านบาท ก่อนอายุ 30 ปีให้ได้
Lucas จึงเลิกเรียนมัธยมกลางคันทั้งที่ใกล้จะจบแล้ว
และไปสมัครเรียนที่ Modesto Junior College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนแทน
ซึ่งในตอนแรก Lucas ได้ลงเรียนหลายแขนงวิชามาก เพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่
ระหว่างเรียนอยู่ที่นี่ Lucas ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวและการสร้างภาพยนตร์
เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้าน Cinematic Arts ที่มหาวิทยาลัย Southern California
ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสนิทของ Lucas ที่มหาวิทยาลัยก็คือ Steven Spielberg ผู้กำกับระดับตำนานอีกคนหนึ่ง
หลังเรียนจบในปี 1967 Lucas เลือกเรียนต่อปริญญาโทด้าน Film Production ที่มหาวิทยาลัยเดิม
และได้ทำหนังสั้นประเภท Sci-Fi ที่ชื่อ Electronic Labyrinth: THX 1138 4EB โดยได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแข่งขันในงาน National Student Film Festival และได้รับรางวัลชนะเลิศ
รางวัลที่ Lucas ได้รับ นอกจากทาง Warner Bros. จะให้ทุนการศึกษาแล้ว
บริษัทยังให้สิทธิ์กับเขาไปดูงานเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ได้หนึ่งครั้ง
ซึ่ง Lucas ได้เลือกภาพยนตร์ที่กำกับโดย Francis Ford Coppola
Coppola ประทับใจความสามารถของ Lucas จึงชักชวนเขามาร่วมกันเปิดสตูดิโอ
ที่ชื่อว่า American Zoetrope ในปี 1969 และแนะนำให้ Lucas ดัดแปลงภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัล
มาทำเป็นภาพยนตร์ยาว แต่ผลตอบรับของผลงานชิ้นนี้กลับไม่ดีเท่าที่ควร
ปี 1971 Lucas จึงตัดสินใจขอออกมาเปิดบริษัทของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “Lucasfilm”
ซึ่งหลังจากนั้น ปี 1972 Coppola ได้กลายเป็นผู้กำกับระดับตำนานจากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather
และแม้ว่า Lucas จะออกมาแล้ว แต่ทาง Coppola ก็ยังคงคอยให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด
ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Lucasfilm อย่าง American Graffiti ที่เข้าฉายในปี 1973
ซึ่งสามารถทำรายได้กว่า 4,500 ล้านบาทจากทุนสร้างเพียง 25 ล้านบาท
โดยถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ ที่มีอัตรากำไรมากที่สุดในขณะนั้น
American Graffiti ได้กลายเป็นผลงานแจ้งเกิดในฐานะผู้กำกับดาวรุ่งของ Lucas
และทำให้เขามีเงินถึง 30 ล้านบาทได้ในวัย 29 ปี ตามที่เคยบอกกับครอบครัวก่อนออกจากบ้านมา
ในปีเดียวกันนี้เอง ช่วงระหว่างรอ American Graffiti เริ่มเข้าฉาย
Lucas ก็เดินหน้าเสนอบทภาพยนตร์แนวที่เขาอยากทำมากที่สุดมาโดยตลอด
โดยเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มีเรื่องราวการต่อสู้ในอวกาศ นั่นก็คือเรื่อง “Star Wars”
แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์ Sci-Fi ในสมัยนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม บวกกับต้นทุนการถ่ายทำที่สูง
เพราะยังแทบไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ CG จึงมีตัวอย่างภาพยนตร์แนวนี้ที่เจ๊งแทนที่จะแจ้งเกิดมาแล้วหลายเรื่อง จนไม่มีบริษัทไหนสนใจให้ทุนเขาเลย แม้แต่ Universal Pictures ที่เป็นผู้ให้ทุนสร้าง American Graffiti
จนกระทั่ง Lucas ได้มาเจอกับผู้บริหารของ 20th Century Fox ที่รู้สึกสนใจในไอเดียของเขา
จึงตอบตกลงเป็นผู้ให้ทุนสร้างและเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ Star Wars ให้ Lucasfilm
หลังจาก Lucas เริ่มเจรจากับ 20th Century Fox ไปได้ 3 เดือน ภาพยนตร์เรื่อง American Graffiti ที่เพิ่งเริ่มเข้าฉายได้รับกระแสตอบรับดี จึงทำให้ 20th Century Fox เสนอเพิ่มทุนสร้างให้กับ Star Wars เข้าไปอีก
และเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อจากนี้ ก็น่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของ Lucas เลยก็ว่าได้..
นั่นก็เพราะว่า Lucas เลือกปฏิเสธเงินทุนที่มากขึ้น แต่เขากลับเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมดแทน
ซึ่งทาง 20th Century Fox ก็ตอบตกลงแต่โดยดี เพราะแม้จะสนใจในเรื่องราวของ Star Wars
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากนั้น Star Wars จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
หลังจากซุ่มเขียนบทและเตรียมตัวอยู่ 3 ปี Star Wars ก็ได้เริ่มถ่ายทำในปี 1976
และผลจากการที่ Lucas ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนสร้าง ทำให้เขาต้องเครียดจากการมีงบประมาณที่จำกัด
ด้วยเหตุผลที่ Star Wars คือเรื่องราวในโลกเสมือน ตัวละครที่ Lucas สร้างสรรค์มาจึงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ อย่างเช่น โยดาและชิวแบคคา รวมไปถึงฉากหลักที่เป็นโลกอวกาศ อุปกรณ์ประกอบฉากอย่างยานอวกาศหรือแม้แต่ดาบไลท์เซเบอร์
การแปลงภาพจากจินตนาการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้มาปรากฏในภาพยนตร์ ยังเป็นยุคที่ต้องให้คนสร้างของจริงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งจำเป็นต้องบริหารงบประมาณอย่างรอบคอบ
แต่ด้วยความประณีตและใส่ใจรายละเอียดของทั้ง Lucas และทีมงาน จึงทำให้ภาพยนตร์มีภาพออกมาสมจริงรวมถึงเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่
และเมื่อ Star Wars: Episode IV - A New Hope ได้เข้าฉายในปลายปี 1977 ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับผลตอบรับดีแบบถล่มทลาย จนดังระเบิดไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องไปจนทั่วโลก
ทาง 20th Century Fox เลยให้ Lucas เริ่มถ่ายทำภาคต่อในทันที
แต่ Lucas ตระหนักดีว่าทุนสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับ จะทำให้มีข้อจำกัดในการผลิตมากมายจากผู้ให้เงิน
เขาจึงขอใช้เงินทุนตัวเองในการสร้างภาคต่อที่เหลือ
โดยยังมี 20th Century Fox เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้อยู่
ภาพยนตร์ไตรภาคชุดแรกของ Star Wars ก็จบลงอย่างสวยงามในปี 1983 และได้ทำให้ Lucas กลายเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชั้นนำของโลก ที่กวาดรางวัลใหญ่ไปมากมาย
นอกจากบทบาทการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมไปทั่วโลกแล้ว
ในด้านของการผลิตภาพยนตร์ Lucas ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งเขามุ่งมั่นและทุ่มงบประมาณให้ Lucasfilm วิจัยพัฒนา โดยได้แบ่งออกเป็นบริษัทย่อยที่เน้นโฟกัสคนละอย่าง
จนสามารถเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ได้มาจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น
- ILM ที่ก่อตั้งในปี 1975 เน้นพัฒนาการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยคอมพิวเตอร์
- Skywalker Sound ที่ก่อตั้งในปีเดียวกัน เน้นพัฒนาการใส่เสียงประกอบภาพยนตร์
- Pixar ที่ก่อตั้งในปี 1979 เน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสร้างแอนิเมชัน 3 มิติ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น
ส่งผลให้ Lucasfilm ประสบปัญหาทางการเงินจนได้ตัดสินใจขาย Pixar
ให้กับ Steve Jobs ในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่ Steve Jobs เพิ่งโดนไล่ออกจาก Apple
ในตอนนั้น George Lucas ผู้เป็นเจ้าของ ได้ขาย Pixar ให้กับ Steve Jobs ด้วยราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายให้กับ George Lucas
และอีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นเงินทุนของ Pixar
ก่อนที่ Disney จะขอซื้อ Pixar ต่อจาก Steve Jobs อีกทีในปี 2006
และทั้ง 2 บริษัทที่มีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันอย่าง Pixar กับ Lucasfilm ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่อทาง Disney เจรจาขอซื้อ Lucasfilm จาก Lucas ในปี 2012
ด้วยมูลค่า 4.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากถึง 1.31 แสนล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่สร้างมูลค่าให้กับ Lucasfilm และความมั่งคั่งของ Lucas อย่างมหาศาล
กลับไม่ได้มาจากรายได้ของภาพยนตร์ Star Wars ที่ทำเงินได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกภาครวมกันในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
นั่นก็เพราะว่าความนิยมของจักรวาล Star Wars ไม่ได้จบลงที่จอภาพยนตร์เท่านั้น
แต่ยังถูกต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากภาพยนตร์ อย่างเช่น หุ่นจำลองของตัวละครหรือดาบไลท์เซเบอร์ หรือจะเป็นในสื่อชนิดอื่น อย่างซีรีส์ที่ฉายในโทรทัศน์ วิดีโอเกม หรือหนังสือ
โดยสินค้าทั้งหมดนี้ทำรายได้ให้ Star Wars มากกว่าค่าเข้าชมภาพยนตร์เกือบ 6 เท่า
ซึ่งเราก็ต้องกลับไปดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของ Lucas ที่ได้เลือกเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมด มันส่งผลให้ Lucas มีช่องทางรายได้ที่มั่นคงกว่ามากในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Forbes ได้จัดอันดับให้ Lucas เป็นเซเลบริตีที่รวยสุดในโลกในปี 2018 และครองตำแหน่งผู้กำกับที่รวยสุดในโลกได้อย่างยาวนาน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท
นึกย้อนกลับไปถึง Lucas ในวัย 11 ปี
ที่เริ่มหลงใหลในตัวละครโลกเสมือนจากการไป Disneyland เป็นครั้งแรก
มาถึงวันนี้ Disneyland แห่งเดิม ได้มีโซนใหม่ที่ชื่อว่า “Star Wars: Galaxy's Edge”
ซึ่งมันก็เป็นผลงานของ Lucas ที่เกิดขึ้นได้เพราะการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเขาเอง ที่สถานที่แห่งนี้ในวันนั้น
และเมื่อ 3 สิ่งนี้มาบรรจบกัน ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกจริง ดูน่าตื่นเต้นไม่แพ้โลกในภาพยนตร์เช่นกัน..
Lucas | Star Wars | Disney
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/how-star-wars-made-george-lucas-a-billionaire-2015-12
-https://www.businessinsider.com/star-wars-george-lucas-net-worth-movies-house-spending-2019-7
-https://www.theatlantic.com/magazine/archive/1979/03/the-man-who-made-star-wars/306228
-https://www.radiotimes.com/movies/how-to-watch-the-star-wars-movies-in-the-right-order/
-https://clubjade.net/nine-ways-george-lucas-changed-movies-forever/
-https://en.wikipedia.org/wiki/George_Lucas
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_media_franchises
-https://www.forbes.com/profile/george-lucas/?sh=35340de56e63
george wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
สตีเวน สปีลเบิร์ก หนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์ รวยสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
จากคนที่เคยถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยในการเข้าเรียนสาขาภาพยนตร์ ถึงสองครั้ง
ได้เข้าฝึกงานกับ Universal Studios โดยไม่รับค่าจ้างเพียงเพราะอยากเรียนรู้การสร้างภาพยนตร์
แถมการสร้างภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต ก็ทำกำไรได้เพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวในอดีตของสตีเวน สปีลเบิร์ก
ผู้ที่ปัจจุบัน ได้รับฉายาว่าเป็น “พ่อมดแห่งฮอลลีวูด”
และได้กลายมาเป็นเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเกินกว่า 1 แสนล้านบาท
แล้วพ่อมดคนนี้ เปลี่ยนชีวิตตัวเองได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สตีเวน สปีลเบิร์ก เกิดเมื่อปี 1946 ที่เมืองซินซินแนติ
รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอายุ 74 ปี
ในวัยเด็ก เขาไม่ใช่เด็กที่มีอะไรโดดเด่นมาก
มีผลการเรียนกลาง ๆ เหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาหลงรักมาตั้งแต่เด็ก คือ “การสร้างภาพยนตร์”
เขาจึงได้เริ่มสร้างภาพยนตร์สั้น ๆ เองที่บ้าน ด้วยวัยเพียง 12 ปี
หลังจากนั้น โอกาสการกำกับหนังครั้งแรกในชีวิตของสตีเวน สปีลเบิร์ก ก็เกิดขึ้นในวัยเพียง 16 ปี
กับภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องว่า Firelight
ภาพยนตร์ดังกล่าวได้เข้าฉายในโรงหนังท้องถิ่น โดยใช้ต้นทุนสร้าง 15,000 บาท และทำกำไรได้เพียงแค่ 30 บาท (อิงกับอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน)
ด้วยผลการเรียนที่ไม่ได้โดดเด่น ทำให้เขาถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยในสาขาภาพยนตร์ถึง 2 ครั้ง
แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ทำให้เขาได้เข้าฝึกงานที่ Universal Studios แต่มีเงื่อนไขคือจะไม่ได้รับค่าจ้าง
แม้ว่าจะดูเป็นการเดินทางที่ไม่สวยหรู
แต่การเข้ามาฝึกงานของสตีเวน สปีลเบิร์ก ครั้งนี้
ก็ได้กลายมาเป็นก้าวสำคัญในชีวิตที่ทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จัก
เพราะในปี 1974 สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับ จอห์น วิลเลียมส์ นักประพันธ์เพลงชื่อดัง
ในภาพยนตร์เรื่อง The Sugarland Express ที่มีทุนสร้างราว 90 ล้านบาท
แต่สามารถสร้างรายได้มากถึง 360 ล้านบาท
นอกจากผลตอบแทนที่ดีแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล Best Screenplay
ซึ่งทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการ
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของ สตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นที่รู้จักอย่างมาก
เกิดขึ้นในปี 1975 เขาได้มีโอกาสกำกับภาพยนตร์เรื่อง “Jaws” หนังสยองขวัญฉลามกินคน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้สูงถึง 14,000 ล้านบาท โดยมีต้นทุนในการสร้างเพียง 90 ล้านบาท
หลังจากนั้นมา เขาได้สร้างผลงานระดับโลกอีกมากมาย โดยมีผลงานที่เรารู้จักกันดีคือ
- Jurassic Park รายได้ 31,000 ล้านบาท ต้นทุน 1,890 ล้านบาท
- The Lost World: Jurassic Park รายได้ 18,500 ล้านบาท ต้นทุน 2,190 ล้านบาท
และภาพยนตร์ชุด Indiana Jones ที่ร่วมสร้างกับทางจอร์จ ลูคัส ผู้สร้าง Star Wars
โดยที่จอร์จ ลูคัส เป็นคนเขียนเนื้อเรื่อง
สตีเวน สปีลเบิร์ก ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ
รวมผลงานร่วมกันทั้งหมด 4 ภาค กวาดรายได้ไปมากถึง 59,600 ล้านบาท
โดยมีต้นทุนในการสร้าง 8,370 ล้านบาท
ซึ่งในภายหลัง ทั้งจอร์จ ลูคัส และสตีเวน สปีลเบิร์ก ก็ได้ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี Billionaires
ที่มีทรัพย์สินมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,000 ล้านบาท
จากทั้งความสำเร็จในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ รวมถึงธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้นมา
แล้วสตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอะไรบ้าง ?
บริษัทแห่งแรกก็คือ “DreamWorks Pictures”
ในปี 1994 สตีเวน สปีลเบิร์ก กับ Jeffrey Katzenberg และ David Geffen
ได้ทำการก่อตั้ง DreamWorks Pictures ซึ่งเป็นบริษัท ผู้ผลิตแอนิเมชันและภาพยนตร์
โดยมีผลงานที่เรารู้จักกันดี เช่น Shrek, Madagascar และ How to Train Your Dragon
ด้วยผลงานที่โดดเด่น บริษัทสามารถสร้างรายได้ กว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี
ในปี 2005 Viacom บริษัทคอนเทนต์ด้านความบันเทิงระดับโลก
ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Paramount Pictures
ประกาศเข้าซื้อ DreamWorks เป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท
บริษัทถัดมาก็คือ “Amblin Partners”
เป็นอีกบริษัทที่ก่อตั้งโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก
ซึ่งทำหน้าที่ผลิตภาพยนตร์ แอนิเมชัน ผ่านแบรนด์ต่าง ๆ
ซึ่งในช่วงแรกส่วนใหญ่เป็นบริษัทในเครือของเขาเอง เช่น Amblin Entertainment และ DreamWorks
แต่ต่อมาด้วยผลงานที่มีคุณภาพ ทำให้มีลูกค้าหลากหลายมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น Warner Bros. Pictures, Universal Pictures
ล่าสุดได้ประกาศว่าจะร่วมงานกับทาง Netflix ในเรื่อง The Trial of the Chicago 7
ซึ่งคาดว่าจะเริ่มฉายในเดือนกันยายน 2021
นอกจากนี้เขายังมีรายได้อื่นอีก เช่น ส่วนแบ่ง 5% ของรายได้จากสวนสนุกจากการเป็นที่ปรึกษาให้ Universal Studios อีกด้วย
เรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็ได้ทำให้สตีเวน สปีลเบิร์ก กลายมาเป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์
ที่มีทรัพย์สินมูลค่ามากที่สุดในโลก โดยปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมกันกว่า 1.2 แสนล้านบาท
ทั้ง ๆ ที่ในอดีต โดนทั้งมหาวิทยาลัยปฏิเสธและต้องเข้าฝึกงานโดยที่ไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลย
และผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีทรัพย์สินมากกว่าเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
นั่นก็คือ จอร์จ ลูคัส เจ้าของทรัพย์สิน 2 แสนล้านบาท
ผู้สร้างสรรค์จักรวาล Star Wars ขึ้นมานั่นเอง
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
ครั้งหนึ่ง จอร์จ ลูคัส เคยพนันกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก ไว้ว่า “เขาจะให้ 2.5% จากรายได้ของ Star Wars ภาค 4 ชื่อภาค A New Hope หาก สตีเวน สปีลเบิร์ก ให้ 2.5% จากรายได้ของ Close Encounters ก่อนที่ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องจะฉาย”
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น Star Wars ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ระดับโลก
จึงทำให้สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้ส่วนแบ่ง 1,200 ล้านบาทจากการตกลงกันในครั้งนั้น
โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://celebanswers.com/how-did-steven-spielberg-make-his-money/
-https://www.forbes.com/profile/steven-spielberg/?sh=4fbe9cfa228a
-https://www.businessinsider.com/steven-spielberg-net-worth-lifestyle-career-home-photos-2019-6
-https://en.wikipedia.org/wiki/Steven_Spielberg
-https://www.tradeschool.com/blog/steven-spielbergs-education-background/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Firelight_(1964_film)
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Sugarland_Express
-https://en.wikipedia.org/wiki/Indiana_Jones
-https://en.wikipedia.org/wiki/Jurassic_Park
-https://www.theverge.com/2021/6/21/22543807/netflix-amblin-partners-steven-spielberg-film-deal
-https://en.wikipedia.org/wiki/DreamWorks_Pictures
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amblin_Entertainment
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amblin_Partners
-https://www.nytimes.com/2005/12/09/business/media/viacoms-paramount-to-buy-dreamworks-for-16-billion.html
-https://www.businessinsider.com/george-lucas-star-wars-bet-made-steven-spielberg-millions-2014-3
george wiki 在 Untyped 對啊我是工程師 Youtube 的最讚貼文
黑人也懂電腦 黑人也寫程式【她也懂電腦】| BLM - Black Women in Tech
-
相信你聽說了 George Floyd 喬治·佛洛伊德 的事情。
如果你不知道我在說什麼的話,請你先去了解一下這個事件(下面有貼連結),了解這位非裔美國人是如何因為膚色的不同,因為種族歧視,而被惡意殺死的,再回來看這支影片,你會更有收穫。非常感謝!
【George Floyd 喬治·佛洛伊德 】
👉🏿 How George Floyd Was Killed in Police Custody
https://www.nytimes.com/2020/05/31/us/george-floyd-investigation.html
👉🏿 喬治·佛洛伊德 事件 維基百科 中文版
https://zh.wikipedia.org/wiki/%E4%B9%94%E6%B2%BB%C2%B7%E5%BC%97%E6%B4%9B%E4%BC%8A%E5%BE%B7%E4%B9%8B%E6%AD%BB
👉🏿 喬治·佛洛伊德之死:從「我會改變世界」到「我無法呼吸」的一生 BBC
https://www.bbc.com/zhongwen/trad/world-52988524
本頻道致力於“Untype” the Stereotype
想要打破大眾對軟體工程師的刻板印象
想要為在這個領域中的少數族群發聲
想要為性別與種族的平權而努力
這陣子真的因為這件事情很低潮,而且發現身邊台灣的朋友很多不知道發生了什麼事,覺得應該要做點什麼,讓大家能夠更關注種族歧視的問題!一直在想,除了發黑色方形,網路上我們還能做些什麼。後來靈機一動,決定透過YouTube去分享黑人女性在電腦科學領域的豐功偉業!
這次的內容:
🔹 黑人女性在電腦科學的歷史 2:14
🔹 介紹幾位很厲害的黑人女性 4:12
👩🏾 Window Snyder
👩🏾 Gladys West
👩🏾 Erica Baker
👩🏾 Lyndsey Scott
👩🏾 The Come Up https://www.youtube.com/channel/UC-bFgwL_kFKLZA60AiB-CCQ
🔹 電腦科學個種族的比例數據 7:52
🔹 反思在台灣種族歧視的問題 10:08
🔹 慶祝感謝本頻道破一千訂閱 13:10
這支影片只是想讓大家去多多思考種族歧視的問題,已經盡力用客觀的方式去敘述。希望不會引來爭議或不和平。
最後,再次感謝陪我一起破千訂閱的你們!
#黑人也懂電腦 #1KCreator #BlackWomenInTech
不知道ENIAC的看這邊👇🏿👇🏿👇🏿
世界上第一個程式是女人寫的【她也懂電腦】#0 在第一台電腦上編碼的6位拓荒者 | 6 Women Programmed the First Computer in the World
https://youtu.be/5nqkGz6U3sI
一定要看到影片最後面並且在「YouTube影片下方」按讚留言訂閱分享唷!
-
歡迎留言告訴我你的想法,或是你想認識的程式語言唷!
每(隔週)週四晚上9點更新,請記得開啟YouTube🔔通知!
-
【愛屋及烏】
Facebook 臉書粉專 👉🏿 https://www.facebook.com/untyped/
Instagram 👉🏿 https://www.instagram.com/untypedcoding/
合作邀約 👉🏿 untypedcoding@gmail.com
-
Untyped 對啊我是工程師 - There are so many data types in the world of computer science, so are the people who write the code. We aim to UNTYPE the stereotype of engineers and of how coding is only for a certain type of people.
凱心琳: 一個喜歡電腦科學邏輯推理,在科技圈努力為性別平等奮鬥的工程師。
-
圖片影片音效:[giphy.com] [pngwave.com][freesound.org][soundbible.org]

george wiki 在 寶博士 Youtube 的最讚貼文
【本集主角:霍茲(GeoHot)】錄音時間:2020.04.09
本名:喬治·法蘭西斯·霍茲(George Francis Hotz)
2007年,18歲,破解 iPhone
2009 年, iOS 越獄軟體 purplera1n(紫雨)
2011 年,破解 Sony PS3
2015 年,創立自動駕駛技術公司 Comma.ai
2019 年,宣布成立教會誓言破解上帝打造的世界模擬器
2020年,三月底社交隔離並決定開始逆向工程 Covid-19 病毒!
挑戰 @老高與小茉 Mr & Mrs Gao 剪接風!
【補充資料】
📍駭客組織 Anonymous https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%8C%BF%E5%90%8D%E8%80%85
📍Project Zero https://zh.wikipedia.org/wiki/Project_Zero_(Google)ee
📍Tesla struck and "killed" a robot at CES—or did it? https://archpaper.com/2019/01/tesla-killed-robot-ces/
📍geohot YouTube https://www.youtube.com/channel/UCx6g0AfA8YBkGqWwPxVYl3w
📍commaai archive YouTube https://www.youtube.com/channel/UCwgKmJM4ZJQRJ-U5NjvR2dg
📍Jailbreaking the Simulation with George Hotz | SXSW 2019🔆🔆🔆 https://youtu.be/ESXOAJRdcwQ
📍楚門的世界 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E6%A5%9A%E9%96%80%E7%9A%84%E4%B8%96%E7%95%8C
📍John Carmack https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B4%84%E7%BF%B0%C2%B7%E5%8D%A1%E9%A6%AC%E5%85%8B
📍John Carmack Magic Number:0x5f3759df = 1,597,463,007 https://blog.csdn.net/xuexiaokkk/article/details/49618687
📍反平方根快速演算法 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%B9%B3%E6%96%B9%E6%A0%B9%E5%80%92%E6%95%B0%E9%80%9F%E7%AE%97%E6%B3%95
📍Gabe Newell (G胖) https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%8A%A0%E5%B8%83%C2%B7%E7%BA%BD%E7%BB%B4%E5%B0%94
📍Half-Life: Alyx (戰慄時空:艾莉克絲) https://zh.wikipedia.org/wiki/%E5%8D%8A%E8%A1%B0%E6%9C%9F%EF%BC%9A%E7%88%B1%E8%8E%89%E5%85%8B%E6%96%AF
⭐葛如鈞(寶博士)
Facebook▶️https://www.facebook.com/dAAAb
YouTube▶️https://youtube.com/c/dAAAb
- - - - - -- - - - - -
📣訂閱SoundOn
APP▶️http://www.soundon.fm/download
Facebook⏩https://reurl.cc/1QxXzQ
官網▶️https://www.soundon.fm
Instagram▶️ https://reurl.cc/XX6Z3j
- - - - - -- - - - - -
🎵片頭:Music from https://icons8.com/music/author/savvier Fame Inc by SAVVIER
🎵片尾:Music from https://icons8.com/music/author/NORDGROOVE
- - - - - -- - - - - -
主持:北科大互動設計系 專任助理教授 葛如鈞/寶博士
感謝:北科大創新思考與區塊鏈應用社群計畫補助|北科大互動設計系 https://ixd.ntut.edu.tw |北科大創新創業情報站 https://fb.com/ntuticorner by NORDGROOVE
- - - - - -- - - - - -
主持:北科大互動設計系 專任助理教授 葛如鈞/寶博士
感謝:北科大創新思考與區塊鏈應用社群計畫補助|北科大互動設計系 https://ixd.ntut.edu.tw |北科大創新創業情報站 https://fb.com/ntuticorner
🎵探秘系列:Music from https://icons8.com/music/author/savvier MACHINE PARTY by SAVVIER

george wiki 在 メンタリスト DaiGo Youtube 的最佳解答
📘この動画内で紹介したおすすめ動画・ニコニコ動画は
知識のNetflix【Dラボ】で見放題!
今なら20日間無料→https://daigovideolab.jp/
🐈
続きは
いい人のふりして攻撃してくるカバートアグレッション対策 →【今なら20日間無料】https://daigovideolab.jp/
怒りをぶつけるてくる人【ストレスコミュニケーション】対策法→【今なら20日間無料】https://daigovideolab.jp/
今日のオススメ
文庫 他人を支配したがる人たち (草思社文庫)
https://amzn.to/307n5I5
この動画は、以下の参考文献を元にした、DaiGoの独断と偏見を含む考察により、科学の面白さを伝えるエンターテイメントです。そのため、この動画はあくまでも一説であり、その真偽を確定するものではありません。
より正確な情報が必要な方は参考文献・関連研究をあたるか、信頼できる専門家に相談することをオススメします。
訂正や追加情報があれば、コメントなどに随時追記します。
リサーチ協力 Yu Suzuki http://www.nicovideo.jp/paleo
George K., Jr., Ph.D. Simon (2010) In Sheep's Clothing: Understanding and Dealing With Manipulative People
まいじつ 9/2 19:00 公開記事
**メンタリストDaiGoの精神状態に心配の声「勝手にケンカ売っといて…」**
『まいじつ』は、『週刊実話』を刊行する株式会社日本ジャーナル出版、INCLUSIVE株式会社が運営するニュースサイト、だそうです
https://ja.m.wikipedia.org/wiki/%E3%81%BE%E3%81%84%E3%81%98%E3%81%A4 #今なら
#Dラボとオーディオブックが概要欄から無料

george wiki 在 Learn English with George喬治美語 - Facebook 的推薦與評價
誰說學英文一定要出國,在台灣土生土長還是可以一口流利道地的北美口音。這個社團本著希望大家能夠多使用英文和將英文生活化的初衷,歡迎大家訂閱我的YouTube頻道! ... <看更多>
george wiki 在 【中文翻譯】George 連續2 分鐘直呼Dream 的真實名字 ... 的推薦與評價
... <看更多>