รู้จัก ฝรั่งเศส ผ่าน 10 บริษัท ที่ใหญ่สุดในประเทศ /โดย ลงทุนแมน
เมื่อเอ่ยถึง ฝรั่งเศส สิ่งแรกที่คนทั่วโลกจะนึกถึงก็คือ “ความหรูหรา”
วงการศิลปะแทบทุกแขนงของยุโรปล้วนมุ่งหน้าสู่ฝรั่งเศส
และผู้คนที่นี่ก็คลั่งไคล้ศิลปะมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม วรรณกรรม เครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่อาหารการกิน
ในยุคก่อนที่วัฒนธรรมอเมริกันจะครองโลก ฝรั่งเศสคือผู้ส่งออกวัฒนธรรมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
และแน่นอนว่าวัฒนธรรม ก็ยังคงสร้างมูลค่าให้ฝรั่งเศสอย่างมหาศาลในปัจจุบัน..
10 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องดื่ม เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นอกจากบริษัทแบรนด์หรูทั้งหลายแล้ว
ก็ยังมีบริษัทยา และบริษัทเทคโนโลยีอยู่ใน Top 10 ด้วย
เรื่องราว 10 บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ราชสำนักฝรั่งเศสคือจุดเริ่มต้นของความหรูหรา
ศตวรรษที่ 15 พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดิชี เป็นผู้ริเริ่มอุตสาหกรรมน้ำหอมในฝรั่งเศส
ศตวรรษที่ 16 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ริเริ่มนำวิกมาสวมศีรษะ และใส่รองเท้าส้นสูง
และศตวรรษที่ 19 จักรพรรดินีเออเฌนี เป็นผู้ผลักดันให้เกิดโรงเรียนสอนการออกแบบ และผลักดันให้เกิดแบรนด์แฟชั่นชั้นนำมากมาย
ถึงแม้ราชสำนักฝรั่งเศสจะต้องประสบกับการปฏิวัติหลายต่อหลายครั้ง แต่ความหรูหราที่ได้ทิ้งไว้ก็ยังถูกนำมาสานต่อ และผ่านการพัฒนาอย่างเป็นระบบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องแต่งกาย ที่มีการจัดตั้งสถาบันสอนออกแบบ ให้กำเนิดการเดินแฟชั่นโชว์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ดึงดูดนักออกแบบเสื้อผ้าจากทั่วฝรั่งเศสและทั่วโลกให้เข้ามาแสดงฝีไม้ลายมือ จนทำให้กรุงปารีสกลายเป็นเมืองศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลก
การวางแผนอย่างเป็นระบบระเบียบนี้เอง ส่งผลให้วิถีชีวิตแบบฝรั่งเศสกลายเป็น Story และนำมาสู่การสร้างแบรนด์ที่เป็นตำนานระดับโลก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หาก 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท
ซึ่งหลายบริษัทเกิดจากการควบรวมหลายแบรนด์เข้าไว้ด้วยกัน
หากเรียงตามลำดับอายุที่ก่อตั้ง จะได้เป็น..
- LVMH
ถึงแม้บริษัทนี้จะเกิดจากการควบรวมบริษัทในปี 1987 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
Moët & Chandon เป็นผู้ผลิตแชมเปญ ก่อตั้งในปี 1743
Hennessy ผู้ผลิตบรั่นดีคอนญัก ก่อตั้งในปี 1765
และ Louis Vuitton ผู้ผลิตกระเป๋าเดินทางแบบทรงเหลี่ยม ในปี 1854 เพื่อให้ชนชั้นสูงวางบนรถม้าได้อย่างสะดวกสบาย ก่อนจะกลายเป็นตำนานของกระเป๋าในเวลาต่อมา
ทั้ง 3 บริษัทได้ควบรวมกันในปี 1987 แต่หลังจากนั้น 2 ปีก็เกิดสงครามแย่งกิจการ จนท้ายที่สุดก็ได้ Bernard Arnault บุคคลภายนอก เข้ามามีอำนาจในการบริหาร LVMH นับตั้งแต่นั้นมา
Arnault ได้ขยายอาณาจักร LVMH ด้วยการเข้าครอบครองกิจการแบรนด์หรูชื่อดังอย่างต่อเนื่อง
ทั้งเครื่องแต่งกาย ไวน์ นาฬิกา จน LVMH ครอบครองแบรนด์หรู กว่า 75 แบรนด์
ปัจจุบัน LVMH กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก และถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในฝรั่งเศสและยุโรป ด้วยมูลค่า 13.5 ล้านล้านบาท
- Hermès
กิจการนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1837 โดย Thierry Hermès
แรกเริ่มบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอานม้าสำหรับชนชั้นสูง ต่อมาลูกชายก็ได้ขยายธุรกิจ และให้กำเนิดกระเป๋าเพื่อแบกสัมภาระไปกับการเดินทางบนหลังม้า จนกลายเป็นกระเป๋าที่มีรูปแบบเอกลักษณ์ และขยายไปสู่เครื่องแต่งกายต่าง ๆ
ปัจจุบัน Hermès เป็นแบรนด์หรูที่ไม่ได้ควบรวมกับแบรนด์อื่น ๆ
ซึ่งถึงแม้จะเป็นแบรนด์เดี่ยว แต่มูลค่าของ Hermès ก็สูงถึง 5.3 ล้านล้านบาท
- EssilorLuxottica
สมาคมช่างทำแว่นตาแห่งปารีส หรือ Société des Lunetiers (SL) หรือ Essel ได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1849 ให้เป็นศูนย์รวมของช่างฝีมือ เพื่อพัฒนากระบวนการทำแว่นตา ทั้งกรอบแว่นและเลนส์แว่นตา
ต่อมา Essel ได้ควบรวมกับบริษัททำเลนส์ Silor กลายเป็น Essilor
และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายเลนส์สายตา โดยเฉพาะกลุ่มเลนส์ตระกูล Varilux และล่าสุดได้ควบรวมกับบริษัท Luxottica บริษัทผลิตกรอบแว่นตาที่ใหญ่สุดในโลกของอิตาลี
ทำให้บริษัทนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเรื่องแว่นตาของโลก ที่ครอบคลุมตั้งแต่เลนส์ ไปจนถึงแว่นตา
และมีมูลค่าตลาด 2.6 ล้านล้านบาท
- Kering
เช่นเดียวกับ LVMH ถึงแม้ Kering จะก่อตั้งในปี 1963 แต่ประวัติของแต่ละบริษัทที่อยู่ในเครือถูกย้อนไปไกลกว่านั้น
บริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในเครือ ก็คือ Boucheron แบรนด์เครื่องประดับสุดหรูของฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1858 และเป็นที่โปรดปรานอย่างมากของชนชั้นสูงในยุคนั้น
Kering ยังเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับชั้นนำอีกมากมาย
ทั้ง Yves Saint Laurent ของฝรั่งเศส และของประเทศอื่น ๆ เช่น Gucci และ Bottega Veneta ของอิตาลี
ด้วยความที่มีแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย มูลค่าบริษัทของ Kering จึงสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาท
- L'Oréal
ก่อตั้งในปี 1909 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส ชื่อ Eugène Schueller ได้คิดค้นน้ำยาย้อมสีผม แล้วได้รับเสียงตอบรับจากช่างทำผมในเมืองปารีสเป็นอย่างมาก
จนทำให้เขาตั้งเป็นบริษัท Société Française de Teintures Inoffensives pour Cheveux ขึ้นมา และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น L'Oréal
แต่หลังจากที่ Eugène Schueller เสียชีวิต แล้ว François Dalle ได้เข้ามาบริหารงานแทน
Dalle ก็ได้ขยายตลาดด้วยการซื้อบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์อื่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ และเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า
หลังจากนั้น L'Oréal ก็ซื้อบริษัทอื่นเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เวชสำอาง เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ
จนในที่สุด L'Oréal ก็กลายเป็นบริษัทเครื่องสำอางที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 8.4 ล้านล้านบาท
- Dior
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง Christian Dior ดีไซเนอร์อิสระ ได้รับจ้างออกแบบหมวกให้กับแวดวงไฮโซ ที่ผ่านชีวิตล้มลุกคลุกคลานจนได้เปิดห้องเสื้อของตัวเองในปี 1946
เขาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการแฟชั่นของปารีส ด้วยคอลเลกชันแรก ที่มีชื่อว่า “New Look” เป็นชุดเข้ารูป และกระโปรงสุ่มบาน ก่อนจะขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่น้ำหอม “Miss Dior” อันโด่งดัง
หลังจากนั้นแบรนด์ Dior ก็ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน จนท้ายที่สุดก็ได้มาอยู่ภายใต้การบริหารของ Bernard Arnault แห่ง LVMH ในปี 1984
Dior ก็เติบโตจนเป็นอาณาจักรแฟชั่นที่มียอดขายหลักล้านล้านบาท และมีมูลค่าตลาด 4.8 ล้านล้านบาท..
แต่ฝรั่งเศสไม่ได้มีแค่แบรนด์หรูเท่านั้น..
นอกจากทั้ง 6 บริษัทแบรนด์หรูที่กล่าวมาข้างต้น บริษัท Top 10 ของฝรั่งเศสยังประกอบไปด้วย
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า 1 บริษัท
- ยารักษาโรค 1 บริษัท
- ก๊าซ 1 บริษัท
- และพลังงาน 1 บริษัท
และเช่นเดียวกับแบรนด์หรู หากเรียงลำดับอายุของการก่อตั้ง จะเริ่มต้นจาก..
- Schneider Electric
ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ถึงแม้อุตสาหกรรมในฝรั่งเศสจะไม่ได้โดดเด่นเท่าอังกฤษหรือเยอรมนีในยุคเดียวกัน แต่องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของฝรั่งเศสก็ไม่น้อยหน้าใคร
นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Pierre-Émile Martin เป็นผู้พัฒนาเตากระทะ หรือ Open Hearth Furnace เพื่อใช้สำหรับหลอมเหล็กกล้าซึ่งต้องใช้อุณหภูมิสูงมาก
2 พี่น้องครอบครัว Schneider เดินทางจากเมืองบ้านเกิดที่อยู่ไม่ไกลจากชายแดนเยอรมนี มาลงทุนสร้างเตาหลอมเหล็กในเมือง Le Creusot ในปี 1836 จนกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและเครื่องจักร
ไม่นานก็ได้ขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมก่อสร้างและไฟฟ้า
ปัจจุบัน Schneider Electric คือผู้นำในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติ การควบคุมอาคาร และการบริหารจัดการพลังงานระดับโลก มีมูลค่าบริษัท 3.3 ล้านล้านบาท
- Sanofi
ปี 2020 ฝรั่งเศสส่งออกยารักษาโรค มากเป็นอันดับ 4 ของโลก คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.3 แสนล้านบาท
หนึ่งในจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมยาในฝรั่งเศส มาจากห้องทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ที่คนทั้งโลกจะต้องคุ้นเคยกับชื่อของเขา คือ Louis Pasteur ผู้ให้กำเนิดกระบวนการพาสเจอไรซ์ หรือการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค
Louis Pasteur เป็นผู้วิจัยและพัฒนาวัคซีนพิษสุนัขบ้า และผู้ก่อตั้ง Pasteur Institute สถาบันวิจัยด้านวัคซีนในปี 1887
จนในปี 1974 Pastuer Production ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงงานผลิตวัคซีน และได้ถูกควบรวมเข้ากับบริษัทยาอีกหลายแห่ง จนท้ายที่สุดก็อยู่ภายใต้บริษัทยา Aventis
ต่อมาในปี 2004 Aventis ก็ได้ควบรวมกับบริษัท Sanofi และทำให้ Sanofi กลายเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งยารักษาโรคเรื้อรัง ยารักษาโรคมะเร็ง วัคซีน
รวมถึงวัคซีนโควิด 19 ที่กำลังทำการวิจัยอยู่ในระยะที่ 3 ด้วย
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย Sanofi จึงมีมูลค่าตลาดมากถึง 4.3 ล้านล้านบาท
- Air Liquide
Georges Claude วิศวกรชาวฝรั่งเศส ได้พัฒนากระบวนการทำให้อากาศกลายเป็นของเหลว เพื่อแยกส่วนประกอบสำคัญในอากาศ คือก๊าซไนโตรเจน และก๊าซออกซิเจนออกจากกัน
กระบวนการนี้ทำให้ได้ก๊าซบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ก๊าซไนโตรเจน ใช้สำหรับการถนอมอาหาร อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี
ในขณะที่ก๊าซออกซิเจน นอกจากจะใช้ทางการแพทย์แล้ว ยังสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็กและกระจกอีกด้วย
ความสำเร็จนี้ทำให้ Georges Claude ได้ก่อตั้งบริษัท Air Liquide ในปี 1902
ปัจจุบัน Air Liquide ให้บริการแก๊สสำหรับอุตสาหกรรมและทางการแพทย์ เคมี และอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
- TotalEnergies
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพฝรั่งเศสประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก จนต้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเวลานั้น อุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐอเมริกาครองสัดส่วนกว่า 70% ของโลก
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้มอบหมายให้ Ernest Mercier จัดตั้งบริษัทปิโตรเลียมแห่งฝรั่งเศส (CFP) ในปี 1924 เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของฝรั่งเศสเอง
ในปัจจุบัน CFP ได้เปลี่ยนชื่อเป็น TotalEnergies เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส
เป็นผู้ผลิตน้ำมันเครื่อง และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นทั้งกับยานยนต์และอุตสาหกรรม
มีมูลค่าบริษัทกว่า 3.9 ล้านล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส
ทุกบริษัทล้วนมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นมูลค่าที่ใหญ่กว่าบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย อย่างบริษัท ปตท.
หลายคนอาจคิดว่า แบรนด์ฝรั่งเศส สร้างเพียงแค่ Story ก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถส่งออกไปขายได้ทั่วโลก
แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ วิจัยและพัฒนาต่อยอดอย่างเป็นระบบ
และผ่านการบริหารกิจการ โดยเฉพาะการควบรวมแบรนด์ ที่ทำให้การบริหารมีประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าได้มากขึ้น
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ประเทศฝรั่งเศสไม่ได้เชี่ยวชาญแต่แวดวงศิลปะเท่านั้น
เพราะการพัฒนาศิลปะจะเติบโตได้ ส่วนหนึ่งจะต้องเกิดจากการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไป โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากการสังเกตบริษัทชั้นนำ 10 บริษัทของแต่ละประเทศ เราก็สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าประเทศเหล่านั้นมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านไหน และให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไรในอนาคต
สำหรับฝรั่งเศส คงบอกได้ว่า
ประเทศนี้สามารถนำโลกแห่งศิลปะ กับวิทยาศาสตร์ ซึ่งดูเหมือนอยู่คนละขั้วกัน
มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://companiesmarketcap.com/france/largest-companies-in-france-by-market-cap/
-https://www.essilor.co.th/about-essilor
-https://www.vogue.co.uk/article/christian-dior
-https://www.airliquide.com/shareholders/stock-share/focus-on/air-liquide-118-years-history-individual-shareholders
-https://www.se.com/th/en/about-us/company-profile/history/schneider-electric-history.jsp
-https://www.worldstopexports.com/drugs-medicine-exports-country/
-https://www.sanofi.com/en/about-us/through-time
-https://totalenergies.com/group/identity/history
同時也有14部Youtube影片,追蹤數超過5萬的網紅Papuean Skulthai,也在其Youtube影片中提到,วันนี้ค่ะทำตามสัญญาแล้วน้าาาาา ที่ขอเรามาแนะนำ Outfit idea หรือ Mix & Match การแต่งตัวให้ดู ไหน ๆ ช่วงนี้ก็เป็นช่วง Summer แล้วเนอะ เราก็เลยเลือกมาให้...
gucci stock 在 Vegesoup Facebook 的最讚貼文
部落格有更新: 快衝! Chloe新款皮革拼接小水桶包跟Woody Tote有貨 + Gucci好看托特包 + Essentials上新碼齊 + Selfridges美國免運費, 還有補上必買的Tumi托特包有特價, 這種疫情時刻最實用 買回家濕布擦還是水洗都不用擔心: https://vegesoup.blogspot.com/2021/06/642021.html
***************
想要即時收到我的更新可以下載以下工具喔:
■ 菜湯的telegram頻道: https://telegram.me/vegesoup
■ 菜湯APP: https://summitloop.net/help_tw.html
***************
台灣區 https://bit.ly/3z6c2xJ
美國區 https://bit.ly/3wYXzBL
(快快快! 這個Chloe的皮革搭配Raffia的小水桶包居然有現貨!!! 而且還可以用首單九折碼: FIRST10 我測試過了可以打折! 這個其他地方不是完全沒貨, 就是要預購等到九月的喔! 如果運氣好可能會看到棕色 , 霧藍色版本目前有貨喔! 結帳預收所有稅費, 免國際運費)
***********
https://slooks.top/4S74/63 (參考一下NAP台灣區)
https://slooks.top/4S75/63 (也可以參考一下NAP美國區, 也缺貨了!)
https://slooks.top/4S76/63 (NAP英國區有藍色的也是low stock喔!)
***********
https://slooks.top/4S77/63 (英國區 小尺寸的woody托特包有現貨, 這是皮革版喔! 很好看耶! 不過我看起來像是中尺寸, 因為可以肩背)
https://slooks.top/4S79/63 (英國區 這個應該才是小尺寸吧, 不能肩背的手把, 快要賣完了喔!)
***********
https://bit.ly/2SecUQb (無敵難得! 這咖到處都沒貨的Gucci托特包居然被我在男裝區找到! 我覺得很好看)
***********
https://slooks.top/4S7c/63 (順便說一下, 這是Chloe的最新Daria用異材質拼接, 我覺得很有夏天的感覺喔!)
gucci stock 在 Trí Minh Lê Facebook 的最佳貼文
THỰC TRẠNG – ĐẤT CHƯA LÀNH NÊN CHIM KHÔN CHƯA ĐẬU?
(Theo quan điểm cá nhân)
Vấn đề này không chỉ diễn ra ở thời trang mà nó đã xảy ra ở Việt Nam trong khoảng thời gian trước (Trong trí nhớ của mình là khoảng giai đoạn trước khi nước ta phi mã là 2000-2003. Đó có thể gọi là “Chảy máu chất xám” khi những người sinh viên tài giỏi của nước ta đi du học nước ngoài (có thể là học bổng, có thể là tự túc). Ngoài việc tiếp xúc với các hệ thống giáo dục tân tiến với mindset/kiến thức mới thì việc tìm được một công việc xứng đáng với trình độ trong một môi trường hợp lí là điều mà các tiền bối trước đã làm. Có nhiều trường hợp (Mình đã gặp) là đi “du học” về, anh/chị ấy thực sự có thực lực nhưng môi trường Việt Nam lúc đó chưa tận dụng được khả năng ấy. “Võ thì phải có đất dụng, dao muốn sắc thì cũng phải mài thường xuyên”, những con người tài năng gần “lụi tàn” khi thị trường chưa đáp ứng kịp. Đó là trở thành một bài học cho nhiều anh chị khác khi tốt nghiệp tại nước ngoài thường có xu hướng đầu quân cho các công ty MNCs để làm việc và định cư – đó là “Chảy máu chất xám”.
May thay, thời thế thay đổi – Việt Nam giờ đã khác hơn rất nhiều và tỉ lệ phát triển cao, rất nhiều công ty thế hệ mới – không thua kém gì ở ngoài nước. Dân ta thì lại tắm ao ta nên vấn đề “chảy máu chất xám” vào những năm nay đã giảm bớt rất nhiều. Nhiều anh, chị, bạn bè giỏi giang khi tu nghiệp xong ở nước ngoài đã quyết tâm về Việt Nam. Có thể là vì đất nước, nhưng rõ ràng – với khả năng và kiến thức của mình, họ thấy tiềm năng phát triển ở quê hương còn đang cao hơn nước ngoài. Dù môi trường sống có thể chưa cao bằng nhưng ở Việt Nam – những người đó được tôn trọng, không phải lo lắng về racism.
NHƯNG
Vấn đề này lại đang xảy ra ở thời trang Việt Nam , nó là một dạng không giống hẳn “Chảy máu chất xám” mà mình nói ở phía trên mà giống như tiêu đề hơn “Đất chưa lành nên chim khôn chưa đậu?”
Có nghĩa là sao?
Nghĩa là như thế này nè – chúng ta cảm thấy tự hào khi Rosé (Blackpink) diện đầm của nhà thiết kế Nguyễn Công Trí trong các MVs gần đây. Đúng, là một điểm tự hào đúng không. Nhưng nếu không phải là Rosé của BlackPink mà là một celebs người Việt khác mặc – chúng ta có để ý tới nhiều. Mình nghĩ là không. Tất nhiên chẳng phải so sánh gì với tầm ảnh hưởng của một ngôi sao quốc tế và một ngôi sao nội địa vì nó là khập khiễng. Nhưng đó là một minh chứng cho việc “Đất chưa lành”
Chắc chắn rằng, với tầm cỡ của NTK Nguyễn Công Trí thì ông không thể nào nằm trong thị trường nội địa mà sẽ hướng tới là 1 global brands. Vào trong các website online của Công Trí thì từ giao diện đến cả model, tên sản phẩm và giá bán hầu hết là người nước ngoài, Tiếng Anh – thứ tiếng phổ biến nhất. Theo bạn mình – là 1 fangirl của Nguyễn Công Trí, nhiều lần đã từng tới hệ thống cửa hàng của nhà thiết kế này nhưng hầu hết stock còn lại là những mẫu đã out-season vì những đồ mới đã dành cho hoặc bán cho thị phần nước ngoài. Vì sao chiến lược lại như vậy, có phải vì “Đất chưa lành nên chim chưa đậu hay không?”
Lại nhắc tới 1 brand/thương hiệu mà mình vô cùng yêu thích về tầm nhìn và câu chuyện. Đó là Kilomet109 của chị Thảo. Chị Thảo là một người không biết mệt mỏi trong việc đưa các nguyên liệu bền vững và văn hóa của những dân tộc thiểu số tại Việt Nam lên thời trang. Đó là một điều mà mình luôn đau đáu mà chưa thể nào truyền tải cụ thể đến thế hệ trẻ được.
Nào – chúng ta hãy cùng nhìn qua website của Kilomet109 và fanpage của họ. Có thể thấy rõ ràng, đối tượng chính của Kilomet109 muốn nhắm tới không phải là thị trường Việt Nam. Từ tên sản phẩm, caption và đặc biệt là giá bán – tất cả đều là Eng Us và dollar Mĩ. Tất nhiên, vẫn có thể có người Việt mua – nhưng mình suy đoán đa phần là những người Việt đang sống ở nước ngoài, hoặc đang làm việc và sinh sống tại Việt Nam nhưng đã có thời gian du học/làm việc ở nước ngoài. Với giá bán đó có thể là cao so với mặt bằng chung – từ $300 đến $400, nhưng mình đảm bảo – giới trẻ thừa sức mua được. Vì mấy đôi Gucci, đồ LV các bạn up ầm ầm trên mạng xã hội toàn chục triệu. Trăm triệu chứ có rẻ đâu mà úp nhiều là đằng khác.
“Đất chẳng lành” – buồn thay khi một sản phẩm mình làm ra hoàn toàn thuần “Việt”, mang tinh thần, mang tinh hoa, mang bản sắc văn hóa của người Việt lại không được “đón nhận” tại thị trường Việt mà lại “thành công” tại thị trường nước ngoài. Người nước ngoài rất thích văn hóa đa dạng của Việt Nam nhé – như mình đã từng nói về thổ cẩm, về tranh Đông Hồ. Và rất nhiều tranh của họa sĩ Việt Nam bán giá cả triệu đô, chục triêu đô trên thị trường quốc tế. Nhưng nó lại không “welcome” tại Việt Nam.
Bài học từ những thương hiệu trên sẽ là một hướng đi, một minh chứng cụ thể dẫn tới những con chim “Khôn” và trẻ khác trong ngành thời trang sẽ không chọn một vùng “Đất chưa lành” này để thể hiện mình. Người Việt bỏ rất nhiều tiền cho việc thể hiện bản thân – nhưng không phải bởi sản phẩm Việt. Mình đang nói tới giới trẻ và đa phần những người thuộc Gen X/Y. Rất nhiều brands mà mình biết đã, đang và sẽ có hướng đi về việc đưa sản phẩm của họ ra nước ngoài.
Không phải là đưa local brands sánh vai quốc tế, mà chủ đích là việc đưa sản phẩm của họ ra nước ngoài để bán chứ không phải là ở Việt Nam. Những lời phiền muộn “ Giới trẻ chưa đánh giá đúng về chất lượng đồ” “Giới trẻ còn sính ngoại quá”.. mình đã nghe chia sẻ rất nhiều từ các founders. Dù họa hoằn lắm mới có những thương hiệu thành công tại thị trường Việt nhưng đó không phải là con số đáng kể. Nó cũng sánh ngang với việc “Chảy máu chất xám” xưa kia.
Có nhiều người sẽ phản bác mình rằng – Vì giá thành các sản phẩm kia quá cao nên giới trẻ chưa chạm tới được. Đúng, mình không hề phản đối. Nhưng chí ít, tinh thần của Gen Z phải thể hiện được đây là một vùng “Đất lành” cho những chú chim khôn chứ không phải là “Đất dữ” nơi sính ngoại và ăn liền làm bá chủ. Và nên nhớ rằng, thị trường chính bây giờ là ai? Đó là sự pha trộn giữa Gen Y và Gen Z. Nhưng chỉ cần tầm 5 năm nữa thôi, lứa tuổi đầu tiên của Gen Z ( 96-2000) sẽ trở thành chủ lực của thị trường này. Nếu bây giờ không nói thì khi nào nói?
Đối với các local brands về streetwear đang có hướng đi rõ ràng và tập trung vào sản phẩm. Mình chỉ có thể động viên mọi người rằng – ngày xưa Việt Nam mình cũng thế, cũng chảy máu chất xám và giờ nhìn xem. Ai học xong nước ngoài cũng về Việt Nam khởi nghiệp. Thời trang cũng vậy – hãy kiên trì, dũng cảm và bất khuất và tiếp tục thể hiện câu chuyện Việt đầy sức mạnh ngay tại vùng “Đất chưa lành” này.
Ta làm vua xứ ta trước khi đánh sang ngoại bang khác.
Cảm ơn mọi người.
Ủng hộ cho Bi tại:
Paypal: https://www.paypal.me/triminhle0808
Banking account: Vietinbank
STK: 104005424124 - Chủ tài khoản: Lê Minh Trí.
momo: https://nhantien.momo.vn/triminhle
gucci stock 在 Papuean Skulthai Youtube 的最佳貼文
วันนี้ค่ะทำตามสัญญาแล้วน้าาาาา ที่ขอเรามาแนะนำ Outfit idea หรือ Mix & Match การแต่งตัวให้ดู ไหน ๆ ช่วงนี้ก็เป็นช่วง Summer แล้วเนอะ เราก็เลยเลือกมาให้ดูกันแบบกรุบ ๆ 6 Looks ด้วยกันค่ะ แต่ที่พิเศษไปมากกว่านั้นคือเราจะมาแต่งหน้าให้ทุกคนดูด้วยยยยยย บอกเลยว่าลุคของวันนี้ทั้งฉ่ำ ทั้งปังเหมือนได้ไปรับแดดซัมเมอร์มากันเลยทีเดียว
สำหรับ Products ทั้งหมด เพื่อนจะใช้เป็นของ Hourglass นะคะ
- Skincare Line -
1. Equilibrium Restoring Essence : 2,600 THB
2. Equilibrium Intensive Hydrating Eye Balm : 3,800 THB
3. Equilibrium Day Fluid Sunscreen Broad Spectrum SPF 30 : 3,950 THB
- Make up -
1. No.28 Lip Treatment Oil : 2,050 THB
2. Veil™ Mineral Primer : 2,250 THB
3. Vanish™ Airbrush Concealer : 1,450 THB
4. Vanish™ Seamless Finish Concealer Brush : 1,600 THB
5. Illume Sheer Color Trio : 2,350 THB
6. Vanish™ Blush Stick : 1,950 THB
7. Vanish™ Foundation Brush : 1,900 THB
8. Veil™ Translucent Setting Powder : 1,900 THB
9. Ambient™ Powder Brush : 1,600 THB
10. Arch™ Brow Micro Sculpting Pencil : 1,150 THB
11. Arch™ Brow Shaping Gel 3 : 1,150 THB
12. Hourglass Ambient Lighting Edit Unlocked Palette : Out of Stock
13. Unlocked Instant Extensions Mascara : 1,200 THB
14. Veil™ Powder Brush : 2,650 THB
15. Ambient™ Lighting Infinity Powder : 2,100 THB
16. Velvet Story Lip Cream : 1,450 THB
17. Veil™Soft Focus Setting Spray : 2,020 THB
สามารถไปหาซื้อ Hourglass กันได้ที่....
1. เคาเตอร์อาวร์กลาสทุกสาขา
2. Sephora ทุกสาขา
3. Central Online
4. M online
หรือสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ Line @Hourglasscosmetics เลยนะค้าาาา
--------------------------------------------------------------------------------------------------
- Wedding series -
1. ไปดูโลโก้ การ์ด งานแต่งงานของเรากันดีกว่า
https://youtu.be/Ovon6zR3rCs
2. พะเพื่อนจะเป็นเจ้าสาวแล้ว
https://youtu.be/a3I9RRVajwk
3. ไปลองชุดแต่งงานกันดีกว่า
https://youtu.be/35PavKHJzO4
4. ถึงคราวเจ้าบ่าวไปตัดสูทกันบ้างแล้วค่ะ
https://youtu.be/8eSg3-pGwbY
--------------------------------------------------------------------------------------------------
- Home series -
1. เปิดบ้าน (ที่กำลังสร้าง) ของพะเพื่อนกับแม่อุ๊ EP. 1
https://youtu.be/mWns2AzpiN8
2.พูดคุยเรื่องการสร้างบ้าน อะไรที่เราต้องรู้บ้างนะ
https://youtu.be/LZkTmnqdvzw
--------------------------------------------------------------------------------------------------
- Q & A -
1. Q&A ตอบทุกคำถามที่ทุกคนอยากรู้
https://youtu.be/HUAu07xfcgA
2. Q&A แม่อุ๊สัมภาษณ์คุณเบ๊บของพะเพื่อน
https://youtu.be/ltihSJXFCPA
3. Q & A ปรึกษาปัญหากับแม่อุ๊ EP.1
https://youtu.be/qOlGlHv_7q0
4. Q & A ปรึกษาปัญหากับแม่อุ๊ EP.2
https://youtu.be/4-uhWjItCrU
5. Q & A ชีวิตคู่? แพลนแต่งงาน? ทำไมถึงแต่ง?
https://youtu.be/2GXVEPONbsI
--------------------------------------------------------------------------------------------------
- Clip Suggestions -
1. ชวนแม่อุ๊มาโยคะ อยู่บ้านมานานมาออกกำลังกายกันหน่อยยย
https://youtu.be/WFX6oEoTy2U
2. พาไปชมธุรกิจใหม่ล่าสุดของพะเพื่อน! บอกเลยว่าทุ่มสุดตัวจ้าแม่
https://youtu.be/POOWByvqdrQ
3. เปิดคลินิกธุรกิจของแม่อุ๊ที่ WONJIN THAILAND
https://youtu.be/30HwTZf-HOQ
4. เมื่อสองแม่ลูกลุกขึ้นมาสลับลุค!!
https://youtu.be/RADzY_eeGkk
5. Life update + ตามกระแส Twitter trends ตอนนี้เรากับแม่ทำอะไรกันอยู่บ้างน้า
https://youtu.be/WN0xxT2ucWo
6. ตามแม่ไปช้อปที่ Comme Des Garçons (อีกครั้ง)
https://youtu.be/6EE7ZqLjBcg
7. แกะกล่อง Gucci สุดคิ้ววววว ไม่มีไม่ได้ร้าววว
https://youtu.be/jp8uyUhT0wQ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
- Clip with Taes -
1. Busan first time! ไปเที่ยวเองแบบงง งง แต่ไม่หลงนะบอกเลยย!!!
https://youtu.be/dWx0nhR1d1o
2. SEOUL VLOG - พาเที่ยว ช้อป กิน คาเฟ่ รัวๆ กันไปเลยยย
https://youtu.be/X7OoNFhAH3M
3. JAPAN VLOG 2019 กินแน่นๆ เที่ยวจุกๆ สายญี่ปุ่นไม่ควรพลาด
https://youtu.be/jTXhyoPjzoU
4. พาน้องแฝดตะลุย WONDERFRUIT
https://youtu.be/rialySzsRhE
5. Brother vs Boyfriend : มาดูกันว่าใครจะรู้จักพะเพื่อนดีกว่ากัน
https://youtu.be/_UIbQ9sSpy4
--------------------------------------------------------------------------------------------------
For work (only) :
Line@ : @papueanskulthai
Email: 1993fablab@gmail.com
Social Media :
Instagram : papuean_
Instagram : au_skulthai
Facebook Page : Papuean Skulthai
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Background music : BGM President
Song Title : Spacing Out
#PAPUEANSKULTHAI
gucci stock 在 世美晚安 Youtube 的最讚貼文
傳統藝術市場遇上區塊鏈會碰撞出什麼火花?答案就是近期最熱門的NFT(非同質化代幣)。隨著各領域名人開始關注並涉足NFT領域,如Elon Musk、周興哲到上原亞衣,NFT正式出圈。現在是個人人都得以將內容製作成NFT作品的時代,NFT的唯一性和不可分割性更促進「藝術民主化」,我們該如何看待以及購買NFT呢?這集影片將為大家詳細說明。
#NFT#加密藝術 #區塊鏈
gucci stock 在 ふたりごはん【料理家ぐっち夫婦の料理チャンネル】 Youtube 的精選貼文
ご覧いただきありがとうございます!
今日は「海鮮チャーハン」をご紹介します!
https://www.instagram.com/p/B-_L2IGAhWt/
インスタグラムでレシピを公開していたのですが、
多くの方から「子供がパクパク食べました!」「あっという間に」と
いったコメントをたくさんいただいたレシピです!
【材料】
シーフードミックス…200g
いんげん…3本
長ネギ…15㎝
にんにく…ひとかけ
あたたかいごはん…2人分(450gほど)
卵…2個
酒…大さじ1
ごま油…適宜
Aしょうゆ…小さじ2
A鶏がらスープの素…小さじ1
塩・こしょう…少々
【作り方】
1, 長ネギ、にんにくはみじん切りにする。いんげんをさっと茹で、5㎜幅に切る。卵はボウルなどに割り溶く。
2, フライパンにごま油、シーフードミックス、酒を入れて火にかける。全体に火が入ったら汁ごと取り出す。
3, フライパンにごま油大さじ1、みじんぎりにした長ねぎ、にんにくを入れて弱火でじっくりと。
4, 香りが出てきたら、ごはん、シーフードの汁を大さじ2。中火にしほぐしながら炒める。
5, ごはんをフライパンの端に寄せ、溶き卵を入れる。半熟状態に固まってきたら、ごはんと混ぜ合わせる。
6, シーフードミックス(ここでは汁をいれないように)、いんげんを入れてさっと炒め合わせる。
全体に味がなじんだら、Aを鍋肌から回しかけ、塩・こしょうで味を調え、皿に盛る。
-----------------------------------------------------------------------
[Ingredients]
Seafood mix ... 200g
Green beans ... 3
Long green onion ... 15cm
Garlic ...
Warm rice ... 2 servings (about 450g)
Eggs ... 2
Liquor ... 1 tbsp
Sesame oil ... appropriately
A soy sauce ... 2 tsp
A chicken soup stock ... 1 tsp
Salt and pepper ...
[How to make]
1, chopped leek and garlic. Boil the green beans and cut them into 5 mm width. Break eggs into a bowl.
2. Put sesame oil, seafood mix and sake in a frying pan and heat. When the whole is on fire, take out the juice.
3, Add 1 tablespoon of sesame oil, finely chopped green onion and garlic in a frying pan and slowly heat.
4, when the aroma comes out, add 2 tablespoons of rice and seafood soup. Fry on medium heat.
5, Bring the rice to the end of the frying pan and add the beaten egg. When it has hardened to a soft boiled state, mix it with rice.
6, Add seafood mix (do not add soup here), green beans, and fry them quickly.
When the taste is familiar to the whole, spin A over the skin of the pot, add salt and pepper to taste, and serve on a plate.
===============================================
Introducing delicious and popular recipes that are easy to make!
Even beginners can see how to cook with cooking videos
You can cook delicious food with confidence!
Breakfast / Lunch / Dinner Please make it when you like!
You can leave it as is and use it as a lunch box ingredient!
================================================
==============================================
簡単に作れて美味しいくて人気レシピを紹介しています!
料理動画で作り方を確認できるので、初心者の方でも
安心して美味しい料理を作ることができますよ〜!
朝ごはん/昼ごはん/晩ごはんお好きな時に作ってみてくださいね!
作り置きにしてお弁当の具材にしてもいいですね!
================================================
チャンネル登録はこちら☆
http://urx3.nu/ZO5b
-----------------------------------------------------------------------
☆活動/SNS
Twitter:https://twitter.com/gucci_fuufu
Instagram:https://www.instagram.com/gucci_fuufu
オフィシャルレシピサイト:https://gucci-fuufu.com/
オフィシャルブログ:https://ameblo.jp/guccifuufu/
note:https://note.com/guccifuufu
▼お仕事のご依頼はお気軽にこちらから▼
[email protected]
☆動画内でよく使う調理器具
包丁メイン(Zwilling Sellmax MD67 200m):https://amzn.to/2Nd0pxO
包丁ペティ(Zwilling Sellmax MD67 130m):https://amzn.to/2BJr6oi
鍋(STAUB) : https://amzn.to/31NhTpw
フライパン(Ballarini):https://amzn.to/2BGngw6
-----------------------------------------------------------------------
#チャーハン #海鮮 #おつまみ #時短 #簡単 #作り方 #ごはんがすすむ #シーフードミックス