[UPDATE] รายได้ Facebook โต 48% ดันมูลค่าบริษัท สู่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บริษัท Facebook ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2021
ซึ่งทางบริษัทได้รายงานว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งของบริษัท เนื่องจากผู้คนยังคงเชื่อมต่อกันมากขึ้น และทาง Facebook ยังมีส่วนช่วยในการเติบโตของธุรกิจจำนวนมาก
รายได้ 819,676 ล้านบาท เติบโต 48%
กำไร 297,636 ล้านบาท เติบโต 94%
╔═══════════╗
เพียงเทรดเหรียญ C8P ผ่าน Radars Point วันนี้ รับฟรี* 68 Point
╚═══════════╝
โดยสัดส่วนรายได้ของ Facebook ในไตรมาสที่ 1 นั้น แบ่งออกเป็น
- รายได้จากค่าโฆษณา 796,877 ล้านบาท เติบโตขึ้น 46%
โดยมีสาเหตุหลัก มาจากราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% และจำนวนโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 12%
และราคาของค่าโฆษณาจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนรายได้ในปี 2021
ในขณะที่นโยบายความเป็นส่วนตัวของระบบปฏิบัติการ iOS 14 ที่ส่งผลโดยตรงต่อการบูสต์โฆษณาเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จะเริ่มส่งผลกระทบในไตรมาส 2
- รายได้อื่น ๆ เช่น Oculus (แว่นตา VR), Portal (หน้าจออัจฉริยะสำหรับ Video Call) 22,897 ล้านบาท
เติบโตขึ้น 146%
แล้วปัจจุบัน Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานเท่าไร ?
ตัวเลขผู้ใช้งานล่าสุดของ Facebook
ผู้เล่นต่อวัน (DAU) 1,878 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 1 ของปีก่อน
ผู้เล่นต่อเดือน (MAU) 2,853 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส 1 ของปีก่อน
ตัวเลขผู้ใช้งานทุกแพลตฟอร์มรวมกัน (Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp)
ผู้เล่นต่อวัน (DAU) 2,720 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาส 1 ของปีก่อน
ผู้เล่นต่อเดือน (MAU) 3,450 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาส 1 ของปีก่อน
นอกจากนี้ Mark Zuckerberg ยังได้บอกว่า กำลังโฟกัสกับการพัฒนาฟีเจอร์ E-commerce
ซึ่งปัจจุบัน Facebook Marketplace มีผู้เข้ามาใช้งาน มากกว่า 1,000 ล้าน บัญชีต่อเดือนแล้ว
รวมถึงฟีเจอร์ Shops ที่เพิ่งเปิดให้บริการให้ปีก่อน ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 250 ล้าน บัญชีต่อเดือน
ที่น่าสนใจคือ Mark Zuckerberg เคยกล่าวเอาไว้ว่า
จริง ๆ แล้ว นโยบายความเป็นส่วนตัวของ iOS 14 อาจจะส่งผลดีกับ Facebook ก็เป็นได้
เนื่องจากนโยบายนี้ ก็ส่งผลต่อทุกแพลตฟอร์มเท่ากัน
ดังนั้นการเลือกขายสินค้าบนแพลตฟอร์มตัวเอง
อาจจะทำให้หาลูกค้าใหม่ ได้ยากกว่าการมาขายของโดยตรงบน Facebook
โดย Mark Zuckerberg ยังเสริมว่า จะมีการพัฒนาเครื่องมือระหว่างแอปพลิเคชันในเครือ
อย่าง WhatsApp Catalogs สำหรับให้ร้านค้าอัปเดตสต็อกสินค้า
หรือทางด้าน Instagram เอง ก็เริ่มมีฟีเจอร์สำหรับหารายได้ให้กับผู้ใช้งานเช่นเดียวกัน อย่างเช่น Marketplace
ซึ่งในอนาคต Facebook ก็กำลังพัฒนาในส่วนของเทคโนโลยีการชำระเงินของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัล Diem หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล Novi และเรื่องนี้ก็จะทำบริการด้าน E-commerce ของ Facebook แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ทั้งหมดนี้ก็ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของ Facebook นั้น เพิ่มขึ้นทันที 6% คิดเป็นมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท
ทำให้มูลค่าบริษัทของ Facebook แตะ 29 ล้านล้านบาท
อยู่ที่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ ในขณะนี้..
╔═══════════╗
เพียงเทรดเหรียญ C8P ผ่าน Radars Point วันนี้
รับฟรี* 68 Point จาก Radars Point
.
ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน
1. กดเทรดเหรียญ C8P ผ่านทาง Radars Point
https://bit.ly/2SerRS5
2. ซื้อขายเหรียญ ขั้นต่ำ 30 บาท
3. ส่งรูปหน้าจอการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (ขั้นต่ำ 30 บาท) ทาง Inbox เพจ Radars Point เพื่อรับ Point ฟรี!
.
*สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าใหม่เท่านั้น
#RadarsPoint
#ลงทุนง่ายๆไม่ต้องใช้เงิน
╚═══════════╝
References
-https://s21.q4cdn.com/399680738/files/doc_financials/2021/FB-03.31.2021-Exhibit-99.1_Final.pdf
-https://s21.q4cdn.com/399680738/files/doc_financials/2021/FB-Earnings-Presentation-Q1-2021.pdf
-https://www.cnbc.com/2021/04/28/facebook-fb-earnings-q1-2021.html
-https://www.cnbc.com/2021/04/28/zuckerberg-outlines-facebook-e-commerce-push.html
