อ่านจบ ทำตาม เอาชนะ "ความท้อ"
สู้ๆ!🔥
การหาแรงบันดาลใจ ที่จะทำให้คุณไม่พบเจอกับ “ความท้อ”
.
ลองจินตนาการดูว่า...หากเราสามารถ “มีไฟ” ต่อเนื่องได้เป็นสิบๆ ปี มันจะดีขนาดไหนกัน? ทุกวันเราตื่นแต่เช้าไปออกกำลังกายได้ หลังเลิกงานเรียนทักษะอื่นๆ เพิ่มเติม วันเสาร์-อาทิตย์ อ่านหนังสือที่ซื้อไว้จบ เรียนคอร์สบริหารธุรกิจ หากิจกรรม หรืองานอดิเรกในการพัฒนาตัวเองเพิ่มเติม
.
มันฟังดูน่าสนุกและน่าจะดีมากๆ แต่ความจริงแล้ว... คนส่วนใหญ่ตื่นเช้ามาพบแค่ 2 อย่าง คือ ข้ออ้าง กับข้อต่อรอง
.
“ฉันเหนื่อย งานเยอะ เดือนนี้เครียดจะตาย”
“วันนี้ขอนอนตื่นสายสักวันแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยออกไปวิ่ง”
.
ถ้าคุณอยากมีไฟในทุกๆ วัน ผมแนะนำว่าให้ถามตัวเองว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร หาแรงบันดาลใจและค่อยๆ “เปลี่ยนแปลง” ตัวเองในทุกๆ วัน
.
Motivation (แรงกระตุ้น, แรงบันดาลใจ) มี 2 แบบ
.
(1) Extrinsic Motivation หรือ แรงบันดาลใจจากภายนอก
เช่น ทำอะไรบางอย่างเพราะอยากได้รางวัล หรือกลัวถูกลงโทษ
.
(2) Intrinsic Motivation หรือ แรงบันดาลใจที่เกิดมาจากข้างในตัวเรา "เนื้อแท้ของเรา" คือ การที่เราทำอะไรบางอย่างเพราะเราเชื่อว่ามันถูกต้อง มันดี มันใช่ และเรารักที่จะทำมันเมื่อได้ทำสิ่งนั้นแล้วมันเกิดความรู้สึก “เติมเต็มชีวิต”
.
ปัญหาที่ทำให้เราห่อเหี่ยวไร้แรงบันดาลใจ คือ การใช้ชีวิตตามแบบแผน (Pattern) เดิมๆ ต่อรองกับตัวเองทุกครั้ง บ่ายเบี่ยง รักที่จะสบายไม่อยากเริ่มลงมือทำ
.
ทำให้เรายังไม่เจอ Intrinsic Motivation บางคนอาจจะเจอ...แต่ไม่ค่อยได้ลงมือทำตาม Intrinsic Motivation ของตัวเอง
.
สังเกตุง่ายๆ อะไรหลายๆ อย่างที่เราทำเป็น Pattern ในชีวิต เราทำเพราะ “กลัว” เป็นส่วนใหญ่ เราต้องหางานมั่นคงทำไม่ใช่เพราะเรารักงานนั้น แต่เพราะกลัวไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง กลัวเพราะรายได้จะน้อย ซึ่งไม่ผิดครับ...แต่เราต่างรู้ว่ามันไม่เติมเต็มชีวิตของเรา
.
จึงไม่แปลก...ที่เราเลยหมดไฟในการทำงาน เวลาเราเหนื่อย
จึงไม่แปลก...ที่เราหมดไฟในการออกกำลังกายในช่วงที่งานเรายุ่ง
จึงไม่แปลก...ที่เรายังถามตัวเองตลอด ว่า “เราเกิดมาเพื่อเป็นอะไร?”
.
โพสต์นี้เลยอยากให้ทุกๆ คน เริ่มลองมองย้อนกลับมาในชีวิตตัวเองและตั้งคำถามว่า “สิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันของเรา เราทำไปเพื่ออะไร เราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร และเมื่อถึงแล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป” แล้วสักวันเราจะเจอสิ่งที่ “เติมเต็มชีวิตของเรา” อย่างแน่นอน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผมขอยกตัวอย่างการหา Intrinsic Motivation ของผมเองเพื่อเป็นตัวอย่างให้ทุกๆ คนเห็นภาพชัดขึ้น
.
เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ผมทำงานหนักเพราะหนีความจนและผมอยากสร้างร่างกายเพื่อให้เราทำงานได้มากกว่าคนทั่วไป (และอยากให้สาวๆ สนใจด้วยแหละ 🤓) แต่ผมก็พบว่าก็ยังมีอาการท้อ หรือสับสนใจชีวิตเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
.
ช่วงเรียนต่างประเทศประมาณปี 2 ผมได้ทำคลิปสอนเพ้นท์สีโมเดลลงบน Youtube เล่นๆ เพราะส่วนตัวผมชอบงานศิลปะแบบนี้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าตอนนั้นเราทำได้ดีหรือแค่โชคดี คลิปนั้นคลิปเดียวมีคนสนใจงานของผมพอเยอะสมควร หลายคนติดต่อมาให้ผมเพนท์โมเดลให้ จนช่วงนั้นผมสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ดีเลย
.
แต่สิ่งที่มันเติมเต็มชีวิตผมมากๆ นอกจากเงินที่ได้มา คือ ช่วงเวลาที่ได้ทำงานศิลปะ ได้สอน ได้ถ่ายทอดสิ่งที่เราเรียนรู้มาให้กับคนอื่นๆ ที่เขาชอบแบบเดียวกันกับเรา รวมถึงคำขอบคุณที่เราช่วยแนะนำ ช่วยสอน สิ่งเหล่านี้มันทำให้เกิดความสุขแบบที่เงินซื้อไม่ได้จริงๆ
.
แต่ผมก็ยังจำเป็นต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้ เลยเอาความรักในการ “ถ่ายทอดความรู้” แต่เปลี่ยนจากด้านศิลปะมาเป็นด้านสุขภาพและการออกกำลังกายแทน ผมทำมันในทุกๆ วัน จนเกิดเป็นพี่ฟ้าใส และ Fit Junctions ในวันนี้
.
ปัจจุบันผมทำงานมีความสุขมากและไม่เจอความรู้สึก “ท้อ” มาเกือบ 10 ปีแล้ว เพราะผมรู้แล้วว่า
ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
.
เกิดมาเพื่อเป็นพี่ฟ้าใส
เกิดมาถ่ายทอดความรู้
เกิดมาเป็นพี่ชายของน้องๆ อีกหลายคน
เกิดมาเป็นผู้ให้กำลังใจกับทุกๆ คน
.
แล้วคุณล่ะ เกิดมาเพื่ออะไร? และคุณได้เริ่มทำสิ่งนั้นหรือยัง?
.
ถ้ายัง ผมขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้เสมอ ส่วนใครเจอแล้ว ลุยเลย ไม่ต้องรอ สู้ๆ! 🔥
Search