The Corrupted Blood Incident
ในปี 2005 บนโลกของ Azeroth ในเกม MMORPG ชื่อดัง World of Warcraft (WoW) ผู้เล่นคนหนึ่งกระทำสิ่งสิ่งหนึ่งที่จะทำให้โลกทั้งโลกออนไลน์และโลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล...
ท้าวความกลับมานิดหนึ่ง World of Warcraft เป็นเกมออนไลน์ MMORPG ที่ผู้เล่นแต่ละคนจะควบคุมตัวละครหนึ่งตัว ท่องผจญภัยไปบนโลกอันกว้างใหญ่ เก็บเลเวล เก็บ loot รวมกลุ่มกันตามเมืองเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า หรือรวม party เพื่อจะไปตี raid boss
Raid boss ตัวสุดท้ายของ Zul'Gurub ชื่อ Hakkar the Soul Flayer มีท่าโจมตีท่าหนึ่งที่ทำให้ตัวละครของผู้เล่นติด debuff ที่มีชื่อว่า "Corrupted Blood" โดยจะทำดาเมจให้กับตัวละครทุกๆ วินาที (Damage over Time - DoT) และสามารถแพร่ debuff นี้ให้กับตัวละครของคนอื่นๆ รอบๆ ข้าง ปรกติแล้ว debuff นี้จะอยู่แค่ 10 วินาทีเพียงเท่านั้น แต่หากผู้เล่นยืนอยู่ติดกันและไม่มีการแยกจากกันได้เร็วเพียงพอ ไม่นานทั้ง party อาจจะติดโรคนี้ และทำให้แพ้ไปในที่สุด แต่หากผู้เล่นที่ติดโรคนั้นออกห่างจากคนอื่นแต่เนิ่นๆ และได้รับฮีลอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถรอดชีวิตไปได้
ปรกติแล้วนั้นโรคนี้จะไม่สามารถเอาออกไปข้างนอก raid instance นี้ได้ แต่ด้วย glitch บางอย่างที่โปรแกรมเมอร์คิดไม่ถึง ทำให้โรคนี้สามารถติดกับสัตว์เลี้ยงของตัวละครที่เป็น hunter ได้ ซึ่งหาก hunter นั้นเอาสัตว์เลี้ยงเก็บไปก่อน สัตว์เลี้ยงนั้นก็จะถูกเก็บเอาไว้พร้อมกับ debuff ที่ถูกหยุดเวลาเอาไว้ จนกระทั่งผู้เล่นคนนั้นเรียกสัตว์เลี้ยงของตัวเองกลับมาอีกทีหนึ่ง ท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้เล่นอย่างหนาแน่นเช่น Ironforge หรือ Orgrimmar...
ทันทีที่โรคถูกปล่อยไปในที่ชุมชน มันก็สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว คร่าชีวิตผู้เล่นเลเวลต่ำๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้เล่นเลเวลสูงๆ ก็พยายามฮีลตัวเองเพื่อยื้อเวลาเอาไว้ ก่อนที่จะกลับมาติดโรคอีกครั้งโดยผู้เล่นคนอื่นที่เข้ามาใกล้ๆ ภายในเวลาไม่นานทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยโครงกระดูกจากการตายของผู้เล่นจำนวนมาก เมืองเกิดความโกลาหล ผู้คนแตกตื่นและเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้เล่นไปโดยสิ้นเชิง การค้าขายในเมืองหลวงทั้งหมดได้สิ้นสุดลง และผู้คนจำนวนมากหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปในเมือง (รวมไปถึงผู้เล่นบางกลุ่มหลีกเลี่ยงที่จะล๊อกอินเข้ามาในเกมเลยด้วยซ้ำ) เมืองถูกทิ้งร้างและเต็มไปด้วยโครงกระดูกเป็นจำนวนมากอยู่หลายวัน จนในที่สุดโปรแกรมเมอร์ก็ต้องออก hotfix มาเพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรคนี้ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นก็กลายเป็นตำนานเล่าขานกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ที่ผู้เล่นเรียกถึงมันว่า "The Corrupted Blood Incident"
ถ้าหากเรื่องราวของโลกออนไลน์นี้ฟังดูคุ้นๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าการระบาดของโรคในเกมออนไลน์นั้นมีความใกล้เคียงกับการระบาดของโรคในโลกแห่งความเป็นจริงเสียเป็นอย่างมาก เสียจนนักวิจัยหลายกลุ่มได้นำกรณี The Corrupted Blood Incident นี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อศึกษากลไกบางอย่างที่ simulation ธรรมดาไม่สามารถทำได้ เพื่อให้เราเข้าใจถึงกลไกของการระบาดของโรคเพื่อเป็นองค์ความรู้ให้กับโรคระบาดวิทยาต่อไป
กรณี The Corrupted Blood Incident นั้นมีสิ่งที่คล้ายกันกับโรคระบาดจริง รวมไปทั้งโรคโควิด-19 อยู่หลายอย่าง เช่น เรามีทั้งผู้เล่นเลเวลต่ำๆ ที่สามารถตายจากโรคได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที และผู้เล่นเลเวลสูงๆ ที่สามารถยื้อเอาไว้ได้นานขึ้นหน่อย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเหล่า NPC (non-player character) ในเมืองที่สามารถติดโรคและแพร่โรคนี้ได้เช่นกัน แม้ว่าโรคนี้จะไม่ทำอันตรายใดๆ ให้กับ NPC กรณีของเหล่า NPC นี้เปรียบได้กับเหล่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ที่ไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้
นอกจากนี้การแพร่ระบาดก็ยังมีผลต่อพฤติกรรมของผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นหลีกเลี่ยงที่ชุมชน และเกิดการระแวงต่อผู้เล่นที่เข้ามาใกล้ เศรษฐกิจในเกมหยุดชะงักลง เมืองถูกทิ้งให้ร้างและเต็มไปด้วยซากศพ
แน่นอนว่าโลกออนไลน์นั้นไม่เหมือนชีวิตจริง สิ่งที่แตกต่างกันจากโลกแห่งความเป็นจริงก็มี เช่น การตายในโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่สิ่งถาวร และไม่นานผู้เล่นก็สามารถ resurrect กลับมาได้ใหม่ (ก่อนที่จะติดโรคตายอีกรอบ) ซึ่งก็ทำให้ผู้เล่นในโลกออนไลน์นั้นไม่ได้หวาดกลัวความตายของตัวละครเท่าที่ควร และอาจจะมองมันเป็นเรื่องสนุกเสียด้วยซ้ำ นอกไปจากนี้โรคนี้ก็มีการ "แสดงอาการ" ที่ชัดเจน โดยมีสัญญลักษณ์ debuff แจ้งเตือนอย่างชัดเจน ต่างจากโรคจริงที่บางครั้งอาจจะไม่มีอาการแสดง
แต่อย่างหนึ่งที่นักวิจัยหลายๆ คนอาจจะไม่ได้คาดคิดมาก่อน ก็คือพฤติกรรมของผู้เล่นที่ติดเชื้อที่เปลี่ยนไป ผู้เล่นหลายๆ คนในตอนแรกแม้จะเกรงกลัวกับโรค แต่หลังจากที่ติดเชื้อไปแล้ว ผู้เล่นบางคนก็กลับรู้สึกว่า "กูติดมึงก็ต้องติด" และเปลี่ยนพฤติกรรมไปเป็นการพยายามแพร่ระบาดโรคให้มากที่สุด (griefing) โดยการตั้งใจวิ่งไปหาผู้เล่นผู้อื่นเพื่อแพร่เชื้อให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าพฤติกรรมอันบ้าระห่ำนี้ฟังดูไม่สมเหตุสมผล และน่าจะเกิดขึ้นกับเฉพาะโลกออนไลน์ แต่ในทุกวันนี้ในโลกแห่งความเป็นจริงของโควิด-19 เราก็ยังพบ super spreader จำนวนมาก ทั้งที่ทำโดยตั้งใจป้ายน้ำลายตัวเองตามที่สาธารณะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเหล่าผู้ที่มองว่าโรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรง ยังคงเดินทางไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ไปคอนเสิร์ต ใช้ชีวิตอย่างปรกติ และเพิกเฉยต่อมาตรการ social distancing และกลายไปเป็น super spreader ไปโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งถึงแม้เกมส์ก็ยังเป็นเพียงแค่เกมส์ แต่เกมส์ออนไลน์ที่เกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ที่มีปัจเจกบุคคล มีการตัดสินใจเป็นของตัวเอง การศึกษาปฏิสัมพันธ์และสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีนี้นั้น ช่วยให้นักวิจัยสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในระหว่างการเกิดโรคระบาดได้ ดียิ่งกว่า simulation ใดๆ ที่จะสามารถทำได้
Dr. Eric Lofgren นักวิจัยผู้ที่ศึกษา The Corrupted Blood Incident ณ ตอนนั้น ปัจจุบันนี้ก็ได้นำโมเดลที่ได้จากการศึกษามาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับกรณีของโรคโควิด-19 นำความคล้ายคลึงกันที่ได้พบและพยายามนำความรู้ที่ได้จากเหล่าเกมเมอร์เพื่อมาช่วยชีวิตผู้คนในชีวิตจริง[2]
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม:
[1] https://en.wikipedia.org/wiki/Corrupted_Blood_incident
[2] https://www.pcgamer.com/the-researchers-who-once-studied-wows-corrupted-blood-plague-are-now-fighting-the-coronavirus/
[3] https://www.rocketchainsaw.com.au/corrupted-blood-incident/
ironforge 在 Ironforge - Music & Ambience - World of Warcraft - YouTube 的推薦與評價
Carved into the stone heart of Khaz Modan, the mighty city of Ironforge is a testament to the dwarves' strength and resilience. ... <看更多>