ยาวหน่อยนะคะ แต่อ่านแล้วอยากพุ่งตัวไปซื้อมาใช้เลย ไหนใครใช้แบรนด์ยูเซอรินอยู่ยกมือขึ้น
เป็นรีวิวครีมที่ยาวมากๆแต่ตั้งใจเขียนจริงและอยากให้อ่านจริงๆ เพราะอะไรอ่ะหรอ
เพราะมันคือไวท์เทนนิ่งที่ดีที่สุด...ที่สุดจริงๆสำหรับเรา
เริ่มต้นจากว่ามีวันนึงน้องที่ยิมทักว่า...ทำไมหน้าพี่ป๊อบดูขาวขึ้นอะ ไปทำไรมา...ไม่กี่วันถัดมา เพื่อนที่บริษัทเก่าชวนกินข้าวกลางวัน พอเจอกันนางก็ทัก...แกทำไรมาปะ แกดูหน้าใสขึ้นนะ...เลยทำให้รู้ว่า อีไนท์ครีมที่น้องที่ออฟฟิศเอามาให้ใช้มันคือเวิร์คจริง
คือยูเซอรินมีสินค้าไวท์เทนนิ่งสูตรใหม่ แล้วเราตื่นเต้นกับมันมากๆ ไม่ใช่เพราะเคลมที่แรงว่าดีกว่าสูตรเดิมถึง 10เท่า หรือทำให้หน้าใสขึ้นใน 2 สัปดาห์ ...ส่วนตัวไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นอะไรมากมายกับ launchนี้ ขนาดนี้มาก่อน จนหลายเดือนก่อนได้ฟังอาจารย์แพทย์ผิวหนังที่มาเป็น guest speaker ในงาน internal launch คือฟังแล้วรู้สึกเลยว่า อาจารย์หมอเองก็ตื่นเต้นกับมันมาก มากกว่าเราอีก จนเราต้องเปลี่ยนใจใหม่ มาหาข้อมูลเพิ่ม มาลองใช้จริงๆจังๆ แล้วก็อยากเล่าให้คนรอบตัวฟังถึงความพิเศษของ Thiamidol หรือ ไทอามิดอล...สารไวท์เทนนิ่งทรงพลังที่อยู่ในครีมไวท์เทนนิ่งสูตรใหม่ UltraWHITE+ Spotless ตามนี้
คือปกติทั่วไปการทำให้หน้าขาวขึ้น การลดจุดด่างดำ การทำให้กระฝ้าต่างๆมันจางลงไม่ว่าจะด้วยเซรั่มหรือครีม หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันก็คือหาสารสำคัญบางอย่างที่มายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) เพราะว่าตัวเอนไซม์ไทโรซิเนสมันเป็นตัวที่ไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสี ซึ่งหากเม็ดสีมันถูกผลิตมากขึ้นและผลัดตัวขึ้นมาชั้นบนเรื่อยๆผิวก็จะหมองคล้ำ ดำ ยิ่งถ้าผลิตเยอะโคตรจนผิดปกติเวลาอายุมากๆก็นั่นแหละเป็นปื้นของกระฝ้า
1) สุดท้ายจะใช้ครีมกับผิวหน้าก็ต้องทดลองกับเซลล์ผิวมนุษย์สิ : ปกติทั่วไปการทดลองว่าสารสำคัญนั้นมันทำงานได้ดีเพียงไหน มักจะทดลองกับเซลล์ของเห็ด เพราะว่าเซลล์เห็ดมีโครงสร้างหลายอย่าง เช่นมีไทโรซิเนสเหมือนกับเซลล์มนุษย์ เหมือนกับที่เราเห็นตอนเห็ดมันออกดอกใหม่ๆมันขาวๆแล้วพอมันแก่ก็เป็นสีน้ำตาลนั่นแหละ อารมณ์เดียวกับผิวเรา เค้าเลยชอบทดสอบสารเหล่านี้กับเห็ด แต่ความพิเศษของไทอามิดอลคือ ทดสอบกับเซลล์ผิวหนังของคนจริงๆ เอาเซลล์ผิวหนังมาเพาะให้ห้องแลปและทดสอบผลจริงๆ ซึ่งเอาจริงๆไม่เป็นวิธีที่นิยมเพราะเป็นการลงทุนที่แพง และขั้นตอนในการเก็บรักษาต่างๆก็ซับซ้อนมาก แต่ก็นั่นแหละ ยูเซอรินก็ลงทุนค้นคว้ามากว่า 10ปี ลองแม่งเข้าไป 50,000กว่าสารจนได้สารไวท์เทนนิ่งตัวนึงที่เรียกว่า ไทอามิดอล ที่เข้าไปยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้ดีโคตรๆ คือเมื่อเทียบกับสารไวท์เทนนิ่งตัวอื่นๆด้วยความเข้มข้นของสารที่เท่ากัน ไทอามิดอลสามารถยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้ดีกว่ามาก แล้วถ้าดู clinical study ก็คือแสดงผลอย่างมีนัยสำคัญเริ่มต้นที่สองสัปดาห์
2) การค้นพบไทอามิดอลมันยิ่งใหญ่ยังไงหรอ : นี่ขอโควทคำพูดของอาจารย์หมอมาเลยนะ “การที่ยูเซอรินค้นคว้าวิจัยจนพบไทอามิดอล แล้วการค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ JID ( The Journal of investigative dermatology ) สำหรับแพทย์ผิวหนังแล้วมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก JID เป็น journal ที่แพทย์ผิวหนังทุกคนที่ตั้งใจทำงานวิจัยอยากให้ผลงานของตัวเองได้รับการตีพิมพ์ เพราะมันทรงอิทธิพลมาก” หูยยย ขนลุก นี่คือถึงกับต้องไปเสริชว่า JID คืออิหยังหว่ะ แล้วก็พบกว่า impact factor อยู่ที่ 6.448 (2017) ซึ่งถือว่าสูงมาก (มากกว่า American journal of dermatologyอี๊กกก) แล้วที่ปังมากคือ ส่วนมากพวก Journal เหล่านี้ ผลงานวิจัยที่มักจะได้รับการตีพิมพ์คือผลงานจากมหาลัย ไม่ใช่บริษัทเอกชน คือบับ ถ้าไม่ปังจริงๆ ยูเซอริน เทอก็คงไม่ได้รับการตีพิมพ์
3) ก็ได้ผลลัพทธ์เหมือนพวกเลเซอร์ทรีทเม้นต์เลยเทอจะเจ็บตัวทำไม : ตอนแรกอาจารย์หมอก็เริ่มการบรรยายว่า เอ้อ Hyperpigmentation มันมีกี่เคส บลาๆๆ นี่ฝ้าแดด นี่กระแดด นี่อันนี้ฝังลึกมาก ปกติหมอรักษาคนพวกนี้ด้วยการทำเลเซอร์นะ แล้วแบบถึงจะเป็นเลเซอร์ก็ต้องทำหลายรอบนะ ไม่ใช่รอบเดียวจะหาย ก็มีภาพ before-after ให้ดูว่าทำเลเซอร์แล้วรอยดำพวกกระฝ้ามันจางลงจริงๆ แต่สิ่งที่อาจารย์หมอขมวดปมตอบท้ายให้ตอนจบให้เราแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ในความเชื่อมั่นที่หมอบอกเราก็คือการเอารูปภาพผลจากห้องแล็ปเป็นภาพ before-after จากการใช้ครีมที่มีไทอามิดอลให้ดูว่ารอยกระฝ้าต่างๆมันจางลงแบบโคตรชัด...คุณคะ...ใช้ครีมไทอามิดอลพวกนี้เช้าเย็นก็ได้ผลลัพธ์แทบจะไม่ต่างกับการทำเลเซอร์เลย แล้วคุณจะอยากเจ็บตัวทำไม แต่สิ่งที่หมอทิ้งไว้ให้คิดก็คือว่า...แล้วมันจะดีแสนดีแค่ไหน ถ้าใช้ทั้งเลเซอร์ แล้วใช้ทั้งครีมคู่ไป ผลลัพธ์เทอจะปังขนาดไหน
เอาจริงๆไม่เคยสนใจใช้ไวท์เทนนิ่งเลย เพราะไม่ได้กังวลเรื่องความคล้ำอะ กังวลเรื่องตีนกาหน้าเหี่ยวมากกว่า แต่มีสิ่งนึงที่รู้ตัวเลยว่าพออายุเพิ่มแล้วมันเปลี่ยนไปคือ เวลาสิวหาย รอยดำจากสิวมันจางหายช้ามาก และตรงแก้มก็เริ่มมีกระกับฝ้าแดดซึ่งแบบอยากเอาเลเซอร์จี้ออกให้หมด แต่ตอนนี้ไม่ละ จะใช้ครีมเนี่ยแหละ ทาไป ทาไปเรื่อยๆทุกวัน มันทำได้เหมือนกัน จะเจ็บตัวทำไม
รู้ว่ามันยาวมาก ใครอ่านจบบ้างเม้นบอกกันหน่อย❤️
「journal of dermatology impact factor」的推薦目錄:
journal of dermatology impact factor 在 lifestylehattaya70 Facebook 的最佳解答
เป็นรีวิวครีมที่ยาวมากๆแต่ตั้งใจเขียนจริงและอยากให้อ่านจริงๆ เพราะอะไรอ่ะหรอ
เพราะมันคือไวท์เทนนิ่งที่ดีที่สุด...ที่สุดจริงๆสำหรับเรา
เริ่มต้นจากว่ามีวันนึงน้องที่ยิมทักว่า...ทำไมหน้าพี่ป๊อบดูขาวขึ้นอะ ไปทำไรมา...ไม่กี่วันถัดมา เพื่อนที่บริษัทเก่าชวนกินข้าวกลางวัน พอเจอกันนางก็ทัก...แกทำไรมาปะ แกดูหน้าใสขึ้นนะ...เลยทำให้รู้ว่า อีไนท์ครีมที่น้องที่ออฟฟิศเอามาให้ใช้มันคือเวิร์คจริง
คือยูเซอรินมีสินค้าไวท์เทนนิ่งสูตรใหม่ แล้วเราตื่นเต้นกับมันมากๆ ไม่ใช่เพราะเคลมที่แรงว่าดีกว่าสูตรเดิมถึง 10เท่า หรือทำให้หน้าใสขึ้นใน 2 สัปดาห์ ...ส่วนตัวไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นอะไรมากมายกับ launchนี้ ขนาดนี้มาก่อน จนหลายเดือนก่อนได้ฟังอาจารย์แพทย์ผิวหนังที่มาเป็น guest speaker ในงาน internal launch คือฟังแล้วรู้สึกเลยว่า อาจารย์หมอเองก็ตื่นเต้นกับมันมาก มากกว่าเราอีก จนเราต้องเปลี่ยนใจใหม่ มาหาข้อมูลเพิ่ม มาลองใช้จริงๆจังๆ แล้วก็อยากเล่าให้คนรอบตัวฟังถึงความพิเศษของ Thiamidol หรือ ไทอามิดอล...สารไวท์เทนนิ่งทรงพลังที่อยู่ในครีมไวท์เทนนิ่งสูตรใหม่ UltraWHITE+ Spotless ตามนี้
คือปกติทั่วไปการทำให้หน้าขาวขึ้น การลดจุดด่างดำ การทำให้กระฝ้าต่างๆมันจางลงไม่ว่าจะด้วยเซรั่มหรือครีม หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันก็คือหาสารสำคัญบางอย่างที่มายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) เพราะว่าตัวเอนไซม์ไทโรซิเนสมันเป็นตัวที่ไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสี ซึ่งหากเม็ดสีมันถูกผลิตมากขึ้นและผลัดตัวขึ้นมาชั้นบนเรื่อยๆผิวก็จะหมองคล้ำ ดำ ยิ่งถ้าผลิตเยอะโคตรจนผิดปกติเวลาอายุมากๆก็นั่นแหละเป็นปื้นของกระฝ้า
1) สุดท้ายจะใช้ครีมกับผิวหน้าก็ต้องทดลองกับเซลล์ผิวมนุษย์สิ : ปกติทั่วไปการทดลองว่าสารสำคัญนั้นมันทำงานได้ดีเพียงไหน มักจะทดลองกับเซลล์ของเห็ด เพราะว่าเซลล์เห็ดมีโครงสร้างหลายอย่าง เช่นมีไทโรซิเนสเหมือนกับเซลล์มนุษย์ เหมือนกับที่เราเห็นตอนเห็ดมันออกดอกใหม่ๆมันขาวๆแล้วพอมันแก่ก็เป็นสีน้ำตาลนั่นแหละ อารมณ์เดียวกับผิวเรา เค้าเลยชอบทดสอบสารเหล่านี้กับเห็ด แต่ความพิเศษของไทอามิดอลคือ ทดสอบกับเซลล์ผิวหนังของคนจริงๆ เอาเซลล์ผิวหนังมาเพาะให้ห้องแลปและทดสอบผลจริงๆ ซึ่งเอาจริงๆไม่เป็นวิธีที่นิยมเพราะเป็นการลงทุนที่แพง และขั้นตอนในการเก็บรักษาต่างๆก็ซับซ้อนมาก แต่ก็นั่นแหละ ยูเซอรินก็ลงทุนค้นคว้ามากว่า 10ปี ลองแม่งเข้าไป 50,000กว่าสารจนได้สารไวท์เทนนิ่งตัวนึงที่เรียกว่า ไทอามิดอล ที่เข้าไปยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้ดีโคตรๆ คือเมื่อเทียบกับสารไวท์เทนนิ่งตัวอื่นๆด้วยความเข้มข้นของสารที่เท่ากัน ไทอามิดอลสามารถยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสได้ดีกว่ามาก แล้วถ้าดู clinical study ก็คือแสดงผลอย่างมีนัยสำคัญเริ่มต้นที่สองสัปดาห์
2) การค้นพบไทอามิดอลมันยิ่งใหญ่ยังไงหรอ : นี่ขอโควทคำพูดของอาจารย์หมอมาเลยนะ “การที่ยูเซอรินค้นคว้าวิจัยจนพบไทอามิดอล แล้วการค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ JID ( The Journal of investigative dermatology ) สำหรับแพทย์ผิวหนังแล้วมันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก JID เป็น journal ที่แพทย์ผิวหนังทุกคนที่ตั้งใจทำงานวิจัยอยากให้ผลงานของตัวเองได้รับการตีพิมพ์ เพราะมันทรงอิทธิพลมาก” หูยยย ขนลุก นี่คือถึงกับต้องไปเสริชว่า JID คืออิหยังหว่ะ แล้วก็พบกว่า impact factor อยู่ที่ 6.448 (2017) ซึ่งถือว่าสูงมาก (มากกว่า American journal of dermatologyอี๊กกก) แล้วที่ปังมากคือ ส่วนมากพวก Journal เหล่านี้ ผลงานวิจัยที่มักจะได้รับการตีพิมพ์คือผลงานจากมหาลัย ไม่ใช่บริษัทเอกชน คือบับ ถ้าไม่ปังจริงๆ ยูเซอริน เทอก็คงไม่ได้รับการตีพิมพ์
3) ก็ได้ผลลัพทธ์เหมือนพวกเลเซอร์ทรีทเม้นต์เลยเทอจะเจ็บตัวทำไม : ตอนแรกอาจารย์หมอก็เริ่มการบรรยายว่า เอ้อ Hyperpigmentation มันมีกี่เคส บลาๆๆ นี่ฝ้าแดด นี่กระแดด นี่อันนี้ฝังลึกมาก ปกติหมอรักษาคนพวกนี้ด้วยการทำเลเซอร์นะ แล้วแบบถึงจะเป็นเลเซอร์ก็ต้องทำหลายรอบนะ ไม่ใช่รอบเดียวจะหาย ก็มีภาพ before-after ให้ดูว่าทำเลเซอร์แล้วรอยดำพวกกระฝ้ามันจางลงจริงๆ แต่สิ่งที่อาจารย์หมอขมวดปมตอบท้ายให้ตอนจบให้เราแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ในความเชื่อมั่นที่หมอบอกเราก็คือการเอารูปภาพผลจากห้องแล็ปเป็นภาพ before-after จากการใช้ครีมที่มีไทอามิดอลให้ดูว่ารอยกระฝ้าต่างๆมันจางลงแบบโคตรชัด...คุณคะ...ใช้ครีมไทอามิดอลพวกนี้เช้าเย็นก็ได้ผลลัพธ์แทบจะไม่ต่างกับการทำเลเซอร์เลย แล้วคุณจะอยากเจ็บตัวทำไม แต่สิ่งที่หมอทิ้งไว้ให้คิดก็คือว่า...แล้วมันจะดีแสนดีแค่ไหน ถ้าใช้ทั้งเลเซอร์ แล้วใช้ทั้งครีมคู่ไป ผลลัพธ์เทอจะปังขนาดไหน
เอาจริงๆไม่เคยสนใจใช้ไวท์เทนนิ่งเลย เพราะไม่ได้กังวลเรื่องความคล้ำอะ กังวลเรื่องตีนกาหน้าเหี่ยวมากกว่า แต่มีสิ่งนึงที่รู้ตัวเลยว่าพออายุเพิ่มแล้วมันเปลี่ยนไปคือ เวลาสิวหาย รอยดำจากสิวมันจางหายช้ามาก และตรงแก้มก็เริ่มมีกระกับฝ้าแดดซึ่งแบบอยากเอาเลเซอร์จี้ออกให้หมด แต่ตอนนี้ไม่ละ จะใช้ครีมเนี่ยแหละ ทาไป ทาไปเรื่อยๆทุกวัน มันทำได้เหมือนกัน จะเจ็บตัวทำไม
รู้ว่ามันยาวมาก ใครอ่านจบบ้างเม้นบอกกันหน่อย❤️
journal of dermatology impact factor 在 Impact Factor of... - International Society of Dermatology 的推薦與評價
Impact Factor of the International Journal of Dermatology jumped from 1.54 to 1.79 this year! The ranking of the journal increased from 39/63 journals... ... <看更多>