หูฟัง Bluetooth 5.1 แบบ True wireless iSuper Evo Buds (Sound Tuned Edition) มี Game Mode ที่จะลด Latency ทำให้เล่นเกมออกท่าไม้ตายหรือหลบได้แทบไม่มีดีเลย์ รวมถึงการประชุมออนไลน์ที่ปากตรงกับภาพ (599.-)...
มาเล่าประสบการณ์หลังใช้งานหูฟังตัวนี้มาให้ฟังกันครับ สำหรับหูฟัง iSuper Evo Buds (Sound Tuned Edition) ตัวนี้จัดอยู่ในหูฟังบลูทูธราคาช่วงไม่เกิน 600 บาท หลังจากลองใช้งานกับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ก็รู้สึกว่าเสียงต่าง ๆ ทำได้ดี ไม่มีปัญหาในการเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องระวังเรื่องเสียงดีเลย์เพราะ ถ้าช้าเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้หลบพลาดหรือโจมตีไม่ทันได้...
อุปกรณ์ในกล่อง ก็มีตัวหูฟัง, ตลับชาร์จ ที่แสดงไฟสถานะแบตเตอรี่ มีปุ่มที่สามารถกดจากตลับเพื่อรีเซ็ตบลูทูธได้ เช็คไฟได้, สายชาร์จ USB C และ จุกยางสำหรับเปลี่ยนมาให้อีก 2 ขนาด อย่างละคู่...
เท่าที่ลองต่อกับโทรศัพท์มือถือใช้งาน ก็พบว่าสามารถใช้งานได้ดีในการเล่นเกม แม้จะไม่เปิด Game Mode สามารถกดท่าไม้ตายต่าง ๆ และได้ยินเสียงเอฟเฟคหลังกดท่าได้ทันที ไม่มีปัญหาเรื่องเสียง Delay...
ส่วนที่พิเศษ บนหูฟังข้างขวาถ้ากด 3 ครั้งจะเป็นการเปิดปิด Game Mode ที่จะลด Latency ในการเชื่อมต่อลง สำหรับเกมที่ต้องไวต่อการได้ยินเสียงต่าง ๆ โดยเฉพาะเกมออนไลน์ที่ต้องแข่งกับทีมตรงข้าม หรือศัตรู...
ตัวหูฟังจะให้ Driver ลำโพงขนาด 7.2 มิลลิเมตรมา ให้เสียงที่คมชัด ให้ไมค์มา ข้างละ 2 ตัว เพื่อช่วยในการจับเสียงและตัดเสียงรบกวน...
โดยในคอมเมนต์โพสต์นี้จะมีตัวอย่างของคลิปเสียงที่อัดจากการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ว่าเสียงที่ได้เป็นอย่างไร ถ้าเดินออกไปไกลประมาณ 10 เมตร เสียงจะเป็นอย่างไร...
และอีกแบบคือการลองต่อกับคอมพิวเตอร์อย่าง MacBook เพื่อทดสอบการอัดเสียงที่ใช้ผ่านหูฟัง และการประชุมออนไลน์ด้วยแอป Zoom ให้เห็นว่า การจับเสียงที่จะเข้าไปในไมค์นั้นชัดแค่ไหน...
เท่าที่ลองใช้งานมาก็พบว่าเรื่องของการอัดเสียงผ่านโปรแกรมประชุมออนไลน์นั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างไร สามารถใช้คุยงานได้ อาจจะคมชัดทุกย่านสู้ไมค์แบบต่อสายตรงเข้าคอมไม่ได้ แต่ก็จะได้เรื่องของความคล่องตัวในการใช้งานขึ้นมาแทน...
นอกจากนี้ ตัวหูฟังเองมีแบตเตอรี่ที่รองรับการทำงานฟังเพลงได้ราว ๆ 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้เพื่อทำงานในแต่ละวัน ขณะที่ใช้เวลาชาร์จจากแบตตเอรี่หมดจนถึงเต็มทั้งตลับหูฟังใช้เวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น...
ส่วนนึงที่ค่อนข้างชอบหูฟังตัวนี้ก็จะเป็นเรื่องของขนาดตัวตลับที่มีขนาดเล็กก็จริง แต่สามารถที่จะกดเพื่อเช็คสถานะของแบตเตอรี่ รวมถึงถ้าจะรีบใช้กับอุปกรณ์ตัวอื่น ก็เอาหูฟังไปวางในตลับแล้วกดปุ่มบนตลับค้างไว้ซักพักก็จะเป็นการรีเซ็ตค่าหูฟังทันที อุปกรณ์อื่นก็จะมองเห็นหูฟังตัวนี้ ทำให้ไว้ต่อการนำไปใช้งานแบบสลับไปมาระหว่างโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ได้สะดวก...
อีกส่วนที่ชื่นชมก็คือเรื่องของคู่มือที่เป็นภาษาไทยทั้งหมด มาให้ 2 แบบ คือแบบสั้น ๆ แผ่นเดียวสำหรับอ่านใช้งานง่าย ๆ รวมถึงวิธีการดูแลรักษาและข้อควรระวัง และแบบแผ่นพับยาว ๆ ที่จะมีข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์หูฟังตัวนี้มาให้แบบครบถ้วน...
iSUPER Evo Buds (Sound Tuned Edition) หูฟังสำหรับเล่นเกม มี Game Mode ลดดีเลย์ ใช้ประชุมออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ได้ มีขายแล้วที่ Thaisuperphone ทุก Platform...
Shopee > https://shp.ee/cqv6rf3 (599.-)
Lazada > https://bit.ly/2XAGsJU (599.-)
JD Central > https://u.jd.co.th/tgtOdua (599.-)
*Disclosure: เนื้อหานี้ ได้รับการสนับสนุนหูฟัง iSuper Evobuds (Sound Tuned Edition) จากร้าน Thaisuperphone
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅kormaruR,也在其Youtube影片中提到,TERA: The Exiled Realm of Arborea JP Open Beta Test Just some combat clips since the questing is the usual kill or collect or go to this location thi...
latency delay 在 Extreme IT Facebook 的最讚貼文
ไมค์+ขาจับไมค์ครบเซต เสียงดี ราคาคุ้ม ในงบ 2000 บาท กับ Fifine T670 ไมค์ USB เสียบปุ้บใช้ปั้บ
ราคา 2,190 บาท
Link สินค้า
- สนใจสั่งซื้อ Fifine T670 คลิก https://zoomc.am/4uDf (จัดส่งฟรี)
- สนใจสั่งซื้อ Fifine T670 ผ่าน Shopee คลิก https://zoomc.am/4f_m
ไมค์คอนเดนเซอร์ USB แบบ Plug and Play
ขนาดกะทัดรัดพร้อมสายถอดได้
ไม่ต้องกังวลกับเสียงรบกวน
เสียงรบกวนที่ต่ำ เนื่องจากการปรับจูนระบบวงจรมาเป็นอย่างดี ให้ประสบการณ์การทำ Live Streaming หรือการประชุมที่ดีขึ้น
ไมโครโฟน USB FIFINE T670 ขนาดกะทัดรัดพร้อมสายถอดได้พกพาสะดวกมาพร้อมกับชุดแขนจับไมค์ช่วยประหยัดพื้นที่ตั้งไมค์บนโต๊ะ ให้ประสบการณ์การเล่นเกมหรือการประชุมที่ดีขึ้น มีปุ่มปรับระดับเสียงที่สามารถปรับได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดการสตรีมมิ่ง รูปแบบ cardioid และแคปซูลขนาด 16 มม. รับเสียงจากด้านหน้าได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพูดใกล้ๆไมค์
การรับเสียงรูปแบบ Cardioid ลดเสียงรบกวนของแป้นพิมพ์และเสียงรบกวนของเมาส์ระหว่างการประชุมออนไลน์
ความไวที่ยอดเยี่ยมหมายถึงเสียงของคุณจะไม่เบาลงแม้ไมค์ไม่ได้อยู่ใกล้กับปาก
โครงสร้างผลิตจากโลหะตัวขาตั้งยังป้องกันการลื่นและการสั่นสะเทือน
สามารถปรับความสูงและมุมมองให้ความยืดหยุ่นกับมุมที่คุณต้องการ
ปุ่มปรับระดับเสียงช่วยให้ปรับเปลี่ยนได้ทันที ไม่จำเป็นต้องหยุดระหว่างการถ่ายทอดสดหรือการประชุมผ่านเว็บ
รูปแบบ cardioid ไดอะเฟรมขนาด 16 มม. ทำให้เสียงการรับเสียงของคุณทำได้ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องพูดใกล้ไมโครโฟน
มีช่องเสียบหูฟังสำหรับการตรวจสอบแบบ Low Latency ไม่เสียเวลากับการตั้งค่าขนาดบัฟเฟอร์เพื่อลดความ Delay คุณสามารถได้ยินสิ่งที่คุณพูดเหมือนคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการผลิตรายการ
ขอขอบคุณ ZoomCamera
รับชมผ่าน
Youtube : https://www.youtube.com/extremeit/live
Facebook : https://www.facebook.com/extremeitreview/
Instagram : @extremeit.ig
สนับสนุนเรา : https://www.youtube.com/channel/UC1l9NQ__kCp9JoBnuZsaUjA/join
latency delay 在 2how Facebook 的最讚貼文
Review “Shure Aonic 50 หูฟังไร้สาย แบบ Full Size”
•ราคา 14,900 บาท
เมื่อเดือนที่แล้วทางมหาจักรฯ ตัวแทนจำหน่าย Shure ติดต่อมาว่าต้องการส่งหูฟัง Shure Aonic 50 มาให้
“อันนี้จะให้ถ่ายรูปหูฟังตัวนี้ใช่ไหมครับ อยากได้โทนประมาณไหน เดี๋ยวหาคนถ่ายให้ครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ ส่งมาให้พี่ใช้ฟังเพลงตามสบายค่ะ”
อืม ... ปกติพี่ก็ไม่ได้สบายอะไรขนาดนั้นนะ ยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาดื่มด่ำกับการฟังอะไรมากมาย ล่าสุดที่ดูวนไปไม่ได้ฟัง ก็คลิปเมาคลีล่าสัตว์ที่มีน้อง ๆ เนตรนารีออกมาเต้น ตื๊ด ๆ อันนั้นก็เพลินดี “เมาคลีล่าสัตว์ เมาคลีล่าสัตว์”
“หนูส่งให้พี่ก่อน ไว้พี่สบายเมื่อไหร่ค่อยฟังก็ได้ค่ะ”
ฟังดูแปลก ๆ เนอะ
“แล้วนึกยังไงถึงส่งมาให้พี่”
“พอดีหูฟังรุ่นนี้ Adam Levine เป็น Presenter ... “
“อ่อ พี่เข้าใจแล้ว เพราะอดัมกับพี่รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายกันมาก ถ้าไม่ได้สนิทกันจริง ๆ ก็ต้องมีทักผิดทักถูกกันบ่อย ๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
...
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังไร้สายแบบ Full Size ครอบเต็มใบหู (ถ้าเป็นคนหูใหญ่มากก็ครอบไม่เต็ม)
สัญญาณไร้สายเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5 แต่ถ้าใครอยากจะต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ช่อง Jack 3.5 มม. ก็ทำได้นะครับ มีสายมาให้ในชุด นอกจากนั้นแล้วยังต่อผ่าน USB-C เพื่อชาร์จ และรับสัญญานเสียงดิจิตอลความละเอียดสูงได้อีกด้วย
สรุปว่าเชื่อมต่อได้ 3 แบบ
•Bluetooth 5
•Phone Jack 3.5 mm
•USB-C
ขาดก็แต่ทางกระแสจิต ถ้าใครอยากได้ แนะนำให้ปรึกษาร่างทรง เทคโนโลยีนี้วิทยาการยังไปไม่ถึง
...
•หูฟังรุ่นนี้ใส่สบายหรือเปล่า?
ก่อนจะไปเรื่องสบายไม่สบาย ขอคุยเรื่องรูปร่างหน้าตาการออกแบบ และวัสดุหูฟังรุ่นนี้ก่อน Shure Aonic 50 สไตล์การออกแบบดูเรียบหรู ดูดี มีคลาส ตัวที่ได้มาเป็นโครง และหนังสีดำตัดกับสีเงินด้าน (มีหนังสีน้ำตาลให้เลือก)
วัสดุที่ใช้ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมได้ตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อได้สัมผัสยิ่งรู้สึกพรีเมี่ยมขึ้นไปอีกระดับ โดยเฉพาะหนังสังเคราะห์เกรดดี ที่ใช้หุ้มบริเวณตัวหูฟัง และใต้โครงรับด้านบน เดินตะเข็บด้ายสวยงามเหมือนเครื่องหนังชั้นดี หรือเบาะรถแพง ๆ
ตอนที่ได้มาแรก ๆ ลองสวมดูรู้สึกนุ่มในระดับนึง แต่เมื่อใช้ไปสัก 2-3 สัปดาห์ ผิวสัมผัส และความนุ่มดีขึ้นชัดเจนแบบรู้สึกได้ ส่งผลเรื่องสวมใส่สบายขณะใช้งานได้อย่างชัดเจน
Shure Aonic 50 รุ่นนี้ เป็นหูฟังที่ใส่สบาย ใช้งานขณะใส่แว่นได้อย่างไม่มีปัญหา หูฟังไม่กดขาแว่น ใส่ฟังยาว ๆ ได้ไม่เจ็บ
ส่วนวัสดุที่หุ้มบริเวณครอบหู (Ear Pad) ก็เป็นแบบเดียวกัน ให้ความสบายไม่เสียดสี หรือสร้างความรำคาญขณะใช้งาน นุ่มและผิวสัมผัสดีขนาดที่ว่าบางทีอยากหยิบมาใช้นิ้วกด ๆ เพลิน ๆ เหมือนของเล่นฟองน้ำที่เด็ก ๆ เล่น
ที่ชอบมากคือโครงด้านบนที่รับกับศรีษะนุ่มสบายดีมาก ไม่กดทับด้านบนศรีษะ ให้ความสมดุลย์ในการสวมใส่ที่ดีแม้ว่าหูฟังรุ่นนี้จะค่อนข้างเป็นหูฟังที่มีน้ำหนัก (หูฟังตัวนี้มีน้ำหนัก 334 กรัม)
รวมถึงการออกแบบให้หูฟังตัวนี้มีส่วนหูที่พับปรับมุมได้ ทำให้เวลาใช้แนบรับกับโครงศรีษะของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ต่างจากการออกแบบที่ใช้โครงบิดตัวเพียงอย่างเดียว ถ้าทำมามีการให้ตัวไม่ดี จะกดทับสร้างความรู้สึกอึดอัดไม่สบายเวลาฟังต่อเนื่องได้
การใส่นาน ๆ ในสภาพอากาศแบบบ้านเรา ก็มีเหงื่อซึมนิด ๆ เหมือนกันนะครับ วิธีแก้คือฟังสักพักก็ขยับหูฟังเพื่อระบายซักทีนึง
แต่ถ้าฟังอยู่ในบ้าน หรือในที่อากาศเย็นก็ไม่เป็นปัญหา สามารถใส่ทำงานออฟฟิศได้ เจ้านายต่อว่า หรือเพื่อนร่วมงานนินทาเราก็ไม่ได้ยิน (เพราะอะไรเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง) ที่แปลกคือหูฟังตัวนี้ถ้าได้ลองใช้งาน แม้ขณะที่เราไม่ได้สวมใส่ เราจะนึกถึงความรู้สึกตอนสวมใส่ได้อย่างชัดเจนมาก
สรุปว่าเรื่องใส่สบาย ถือว่าสอบผ่านแบบที่ต้องยืนขี่คอปรบมือให้
ถ้าเทียบเรื่องการออกแบบกับหูฟังในระดับเดียวกันของ Sony รุ่น WH-1000XM4 ของ Sony ต้องบอกว่าคนละแนวทางอย่างชัดเจน Sony เป็นแนว Modern เส้นสายเรียบง่าย ส่วน Shure Aonic 50 จะออกไปทางหรูหรา แต่ก็ดูดีทั้งคู่อยู่ที่ความชอบของแต่ละคน
ยังมีอีกตัวนึงคือ Sennheiser Momentum 3 ตัวนั้นการออกแบบเป็นแนวคลาสสิคสไตล์
เวลาใส่ใช้งาน Sony จะดูเรียบกว่า ไม่เป็นที่สังเกตของคนรอบข้าง
ส่วนเรื่องการสวมใส่ ส่วนตัวได้มีโอกาสไปลอง Sony WH-1000XM4 ความรู้สึกคือโครงสร้างเล็ก และเบากว่า* Shure Aonic 50 อย่างรู้สึกได้ สวมใส่สบายเช่นกันครับ
* เบากว่าประมาณ 80 กรัม
...
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Canceling (ANC)
ซึ่งขออธิบายวิธีการทำงานของระบบตัดเสียงของหูฟังประเภทนี้เพื่อเป็นพื้นฐานนิดนึงนะครับ
หูฟังที่มีระบบ Active Noise Canceling
จะใช้วิธีรับเสียงภายนอกเข้าไป แต่เสียงนั้นเขาไม่ได้ส่งผ่านให้เราได้ยิน แค่เปิดรับไปประมวลผล สร้างสัญญานหักล้าง แล้วค่อยปล่อยเสียงเพลงมาให้เราฟัง เหมือนเอาไปเป็นตัวเทียบเพื่อคัดแยก
แต่ด้วยความที่หูฟังดี ๆ ระบบมันทำงานเร็ว และค่อนข้างแม่นยำมาก อย่าง Shure Aonic 50 ถ้าเปิดระบบนี้เสียงรอบข้างนี่แทบจะไม่มีเลย
สำหรับ Shure Aonic 50 ขอบของหูฟังด้านขวาจะมีสวิตซ์สำหรับใช้ปรับระดับเสียงรอบข้างมาให้
•Max เงียบมาก
•Normal เงียบแต่ไม่สนิท พอฟังเสียงภายนอกได้
•Environment Mode เปิดรับเสียงภายนอกให้ได้ยินตามปกติ
(ถ้าใช้ App Shure Play จะปรับ Mode นี้ได้ 10 ระดับ)
สำหรับใช้งานปกติเปิด Normal ก็พอครับ Max เอาไว้เวลาฟังในที่เสียงรบกวนมาก ๆ เช่นเวลาเดินทางบนเครื่องบิน
และเวลาใส่ควรปรับมุมหูฟังให้แนบสนิทด้วยนะครับ จะช่วยเรื่องการฟัง และตัดเสียงรบกวน โดยเฉพาะ Shure Aonic 50 สามารถพับเป็นมุมเฉียงไปทางด้านหลังได้
...
ระบบการเข้ารหัสบีบอัดที่รองรับ
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่รองรับ Codec ได้หลายรูปแบบ เป็นลำดับต้น ๆ
Qualcomm® aptX™, aptX™ HD, aptX™ Low Latency audio, Sony LDAC, AAC, and SBC
ทำให้สามารถเลือกฟังเพลงจากแหล่งกำเนิดเสียงคุณภาพสูงได้แบบไม่ต้องกังวลว่ามีเพลงดี ๆ แต่เล่นไม่ได้เพราะหูฟังไม่รองรับ
Shure Aonic 50 มีช่อง Audio Jack แบบ 2.5 มม. บนหูฟัง สามารถใช้สายที่ให้มาเสียบ แล้วนำอีกด้านของสายที่เป็น Jacl 3.5 มม. ไปเสียบกับอุปกรณ์ที่รองรับเพื่อใช้ในการรับสัญญาณเสียงได้ เผื่อว่าใครไม่อยากฟังแบบ Bluetooth
นอกจากนั้นแล้วสามารถเชื่อมต่อแบบ USB เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์โดยตรงได้
สรุปว่าเรื่องการรองรับการเข้าหรัส และการเชื่อมต่อ Shure Aonic 50 มีมาให้ครบมาก...
ความสะดวกในการใช้งาน
Shure Aonic 50 มีระบบควบคุมการทำงานแบบตรงไปตรงมา เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ใช้ควบคุมผ่านสวิตช์บนตัวหูฟังเป็นหลัก เปิดปิด เชื่อมต่อ Bluetooth เบาค่อย หรือเลื่อนเพลงหน้าหลัง ก็กด ๆ เอา ระบบ Active Noise Canceling ก็ใช้สวิตช์ที่แยกมาต่างหาก
แรก ๆ ก็สับสนบ้างครับ แต่พอชินและจับจุดได้ โดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสเพื่อหาปุ่มกลาง (ปุ่มกลางจะมีส่วนที่นูนยื่นออกมามากกว่าปุ่มอื่น) เราก็จะเลือกสั่งงานได้โดยไม่ยาก
แต่ถ้าเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกันอย่าง Sony WH-1000XM4 หรือ Sennheiser Momentum 3 ตัว Shure Aonic 50 วิธีการควบคุมการทำงานจะไม่หวือหวาเท่า อย่างของ Sony แม้ว่าจะมีปุ่มไม่มาก แต่จะใช้ระบบสัมผัสที่อีกด้านของหูฟังสั่งงาน หรืออย่าง Momentum 3 ของ Senheiser ก็มีตัวตรวจจับ การใช้งาน เช่น ถ้าเราถอดวาง เพลงจะหยุดให้เอง หรือถ้าพับเก็บหูฟังก็จะปิด ซึ่งทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
Shure Aonic 50 มี App สำหรับควบคุมชื่อว่า Shure Play สามารถปรับตั้งฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในการทำงานของหูฟังได้ อย่างเช่นเลือกระบบ Active Noice Canceling ที่พูดถึงก่อนหน้า รวมถึงสามารถ ดึงเพลงจาก iTunes และ Apple Music มาใช้งานได้ แต่ตอนนี้ต้องขอยอมรับว่าบน iOS ยังหาวิธีดึงเพลงมาไม่ได้เลยครับ ทำตามขั้นตอนที่แจ้งไว้ทุกอย่าง แต่หาเพลงไม่เจอ อาจเป็นเพราะตอนเด็ก ๆ เคยเดินเตะปลั๊กตู้เพลงหยอดเหรียญที่กำลังเล่นอยู่ก็เป็นได้
ถ้าทำได้ก็คงจะดีเพราะว่าสามารถ EQ เสียงผ่านทาง App ได้เลย อีกอย่างคือเรื่องของ Firmware เราสามารถ Update ได้ผ่านทาง App ที่ว่า ใครซื้อมาลองตรวจสอบดูครับ เพราะ Firmware ตัวล่าสุดปรับปรุงเสียงไมโครโฟนที่ติดมาให้ดีขึ้น
ที่มีไมโครโฟนเพราะหูฟังตัวนี้สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ด้วยครับ แต่เท่าที่ลองดูเสียงที่ได้จากไมโครโฟน คุยโทรศัพท์พอไหว แต่ยังไม่ถึงกับเอาไปลงเสียงร้องหรือบรรยายได้คุณภาพดี ๆ เหมือนไมโครโฟนที่ทำมาโดยเฉพาะ
...ฟังเพลงเพราะหรือเปล่า?
ตัวเลข 50 ที่ต่อท้ายชื่อ ชื่อ Shure Aonic ไม่ได้ใส่ไว้ให้ดูเล่น ๆ แต่มีที่มาที่ไปจาก Driver หูฟังขนาด 50 มม. ถือว่าใหญ่มากเลยนะครับ เพราะโดยปกติที่เห็นก็ราว ๆ 40 มม.
ขนาด Driver ที่ใหญ่มีส่วนช่วยในการทำงานให้เสียงออกมาดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขนาดไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเรื่องคุณลักษณะของเสียงเสมอไป เพราะมีเรื่องของการออกแบบ และการปรับแต่งตัวหูฟังประกอบด้วย ต้องลองฟังเสียงจริง ๆ ดูอีกทีนะครับ
ช่วงที่ได้มาตอนแรก ๆ Shure Aonic 50 เสียงจะอั้น ๆ หน่อยครับ เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ เสียงที่ถูกขับออกมาจะเป็นประกายเฉิดฉายมาก เพราะฉะนั้นถ้าไปลองที่ร้านควรลองตัวที่ใช้เป็นตัวอย่างนั่นแหละครับ ถ้าลองของใหม่เลยอาจจะไม่ได้รับฟังสิ่งที่เป็นได้อย่างเต็มที่ และอีกอย่างของใหม่ ๆเวลาใส่จะดูแน่น ๆ ไม่ค่อยนิ่มโอบรับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
ส่วนตัวใช้ไปราว ๆ 2-3 สัปดาห์ ใช้งานทุกวันวันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็พอจะเข้าที่เข้าทางครับ
เสียงที่ได้จาก Shure Aonic 50 จะเป็นแนวที่เน้นความไพเราะเสนาะหู และความสุนทรีย์ในการฟัง ฟังเพลงได้หลายแนว และฟังยาว ๆ ได้ไม่ล้า (ฟังนาน ๆ อย่าลืมขยับหูฟังบ้างนะครับ)
แนวทางของเสียงที่รับรู้ได้อย่างแรก คือ เบสที่ไม่ถึงกับลงลึกมาก แต่มาแบบกระชับ รับได้ทุกลูก จะมาห่าง ๆ หรือรัว ๆ ถี่ ๆ จัดการได้หมด ไม่มีบวม ไม่มีซ้อนทับให้จังหวะสะดุด
เพลงที่คิดว่าลองฟังแล้วโดดเด่นจับอาการเบื้องต้นได้ง่ายก็อย่าง “Don’t Start Now” ของ Dua Lipa เสียงเดินเบสมาเป็นลูกชัดเจน หยุดเป็นหยุด ไม่มีบวมค้าง เสียงนักร้องที่ปล่อยลอยก็มี Space ให้ไปต่อ ไม่อั้น ๆ ทึบ ๆ ไปไม่สุด ซึ่ง เพลงแนว Pop Dance มักจะแต่งเสียงส่วนใหญ่มาในลักษณะนี้
ลงตัวกับแนวเพลง K-Pop สามารถฟังด้วย Shure Aonic 50 สนุก ไม่ว่าจะเป็น 2NE1, BTS, Blackpink, 2PM etc.
เพลงที่อยากให้เตรียมไปลองฟังเพื่อพิจารณา คือ เพลง “Dance Monkey” ของ Tone and I เสียงร้อง และดนตรีของเพลงนี้ น่าจะพอช่วยให้เห็นคุณลักษณะของเสียงที่หูฟังตัวนี้ขับออกมาได้ชัดพอสมควร
นอกจากแนว Pop Dance แล้ว เพลง Pop ใส ๆ อย่าง “She Will Be Loved” ของ Maroon 5 ที่เน้นเสียงร้องโหน ๆ ของ Adam Levine ก็ฟังได้สบายหู เสียงที่ลากขึ้นลงราบรื่นต่อเนื่อง
แต่หูฟังคลาสนี้ถ้าเพลงร้อง และบันทึกเสียงมาไม่ดี จะฟังไม่สนุกนะครับ เพราะมันจะค่อนข้างขี้ฟ้องหน่อย
เพลงต่อมาที่คิดว่าน่าใช้ลองฟังก็ “1973” เสียงแหบเล็ก ๆ ของ Jame Blunt เข้ากันได้ดีกับทำนองของเบส และเครื่องเคาะที่เป็น Backgroud ได้อย่างพอเหมาะ ส่วนตัวได้ลองฟังเพลงนี้เทียบกับหูฟังหลายรุ่น ส่วนใหญ่เสียงร้องจะค่อนข้างจมไปกับดนตรี และเสียงเบสจะบวม ๆ นัว ๆ ไม่กระชับ แยกชิ้นดนตรีและเสียงร้องได้ไม่ชัดเจน ผิดกับที่ฟังจาก Shure Aonic 50 ได้อรรสกว่ามาก
ทีนี้ลองเปลี่ยนมาฟังเพลงแนว Jazz บ้าง เสียงร้องของ Lyn Stanley ในเพลง “All or Nothing at All” (feat. Cristian Jacob) ดูเหมือน Shure Aonic 50 จะเข้ากันได้ดีกับเพลงแนวนี้มาก ไพเราะ ฟังเพลิน ความถี่ในช่วงเสียงร้องชัดเจน เสถียรต่อเนื่องทุกถ้อยคำ และช่วงที่ปล่อยเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกมาโซโล คุณลักษณะเสียงของเครื่องดนตรีต่าง ๆ ถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจน ยังแอบคิดอยู่ว่าถ้านักดนตรีที่มีความชำนาญ มาฟังคงจะสนุกมาก
แต่ที่ชอบเป็นการส่วนตัว คือ เอา Shure Aonic 50 มาฟังเพลงแนว Acustic Folk หรือ Country Folk อย่างของ James Taylor , John Denver หรือ Simon Gafunkel ที่บันทึกเสียงดั้งเดิมแนวต้นฉบับ เสียงที่ได้รักษาบรรยากาศ และ Sound แบบยุคนั้นได้ดีมาก โดยที่คงไว้ซึ่งรายละเอียดของเสียงร้อง และดนตรี
เช่น เพลง “Bridge Over Troubled Water” ของ Simon & Garfunkel นอกจากเสียงร้องที่หวานโดดเด่นของ Art Garfunkel ก็ยังรู้สึกเพลินไปกับเสียงเปียโน ที่รับรู้ได้ถึงน้ำหนักนิ้วที่เคาะลงบนคีย์ หนัก เบา แทบจะทั้งเพลง (แต่เพลงนี้ส่วนตัวไม่ชอบช่วงท้าย ๆ ที่กระหึ่ม ๆ ฟังดูรก ๆ )
“Rhymes and Reasons” ของ John Denver เวอร์ชั่นที่ใช้ฟังจะได้อารมณ์แบบการบันทึกเสียงในยุคนั้น เสียงกีตาร์ในช่วงแรกฟรุ้งฟริ้งมาก เสียงร้องเพลงนี้ชัดแต่ไม่ถึงกับกระโดดออกมามาก เพดานเสียงมีอั้น ๆ หน่อย เหมือนตอนบันทึกมาต้องการให้เป็นแบบนี้
ซึ่งถ้าฟังเทียบกับ “Follow Me” อีกเพลงของ John Denver เพลง “Follow Me” ดูจะได้ความไพเราะใสกังวาลตามแบบฉบับเนื้อเสียงของ John Denver มากกว่า
ส่วนเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกเฉิดฉายมากน่าจะเป็นเพลงของ James Taylor อย่าง “Carolina in My Mind” หรือ “You’ve got a friend” ฉบับ Remaster เสียงกีตาร์ เสียงร้อง เสียงประสาน ฟังแล้วได้รู้สึกถึงความสามารถของศิลปินระดับตำนาน การเรียบเรียง การบันทึกเสียง มีความเคลียร์ใสและมีมิติมาก เสียงกีตาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ James Taylor ถ่ายทอดออกมาได้ชัดเจนจากหูฟังตัวนี้
แนวเดี่ยวเปียโน ก็ฟังจากหูฟังตัวนี้ได้อย่างออกอรรถรสเช่นกันครับ ลองเปิด Album ของ Keith Jarrett นี่เหมือนมานั่งเล่นให้ฟังตรงหน้าโซฟาที่บ้าน
หรือถ้าใครอยากได้ความรู้สึกเหมือนมีเปียโนเล่นบนเวที และนักร้องมาร้องอยู่ข้าง ๆ เราในผับ ลองฟัง “Don’t Smoke in Bed” ของ Nina Simone เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ มายืนร้องข้าง ๆ โต๊ะ ชัดเจนจนน่าตกใจว่าเพลงจบจะต้องเตรียมตังค์ยื่นทิปให้หรือเปล่า
...
เรื่อง Soundstage สำหรับ Shure Aonic 50 มีมิติของเสียง ตำแหน่งเครื่องดนตรีแยกได้ชัด แต่ก็ยังพยายามรักษาความกลมกลืนเอาไว้ ไม่แข่งกันดัง หรือชัดจริงแต่ไปคนละทิศคนละทาง
เสียงที่ได้มีความกว้างความลึกเป็นพื้นที่เต็มวง แต่ไม่ถึงกับกว้างสุดลูกหูลูกตา
เมื่อลองเปิดเพลงที่บันทึกจากคอนเสิร์ท ก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศ แต่ฟังแบบบันทึกเสียงในสตูดิโอมาดี ๆ ดูจะแสดงประสิทธิภาพของหูฟังตัวนี้ได้ชัดเจนกว่า
ใครที่ไม่เคยฟังหูฟังที่ให้ Soundstage มาก่อน จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจเหมือนเปิดไปอีกโลกหนึ่งในการฟัง และพอกลับไปฟังแบบธรรมดาก็จะรู้สึกไปสนุกแล้ว
…
Shure Aonic 50 ใช้เล่นเกมส์ได้หรือเปล่า
ใช้เล่น PUBG Mobile การต่อแบบไร้สายจะมี Delay นิด ๆ ตามลักษณะที่เป็นหูฟัง Bluetooth มีขาดเป็นช่วงสั้น ๆ บ้างนาน ๆ ที
แต่ถ้าการเล่นเกมส์คือจุดประสงค์หลักและต้องการใช้หูฟังตัวนี้จริง ๆ ให้ใช้สายเชื่อมต่อ Jack 3.5 มม. ที่ให้มาต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกมส์ น่าจะลงตัวกว่า เพราะว่าเวลาเล่นเกมส์ ความต่อเนื่อง และการตอบสนองเหตุการณ์เป็นเรื่องสำคัญ การใช้สายสัญญานต่อโดยตรงตอบโจทย์ในเรื่องความต่อเนื่องของสัญญาณมากกว่า
ส่วนเรื่องของเสียงที่ได้ยิน กินขาดเรื่องรายละเอียด เสียงเท้าหนักเบารับรู้ได้ ตำแหน่งศัตรูค่อนข้างแม่น ที่ดีมาก ๆ คือเสียงปืนเวลายิงต่อเนื่องไม่แตกพร่าแผดเสียงแสบแก้วหู ดังจริงแต่นุ่ม ใช้ตัวนี้กินไก่บ่อยมาก
ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะซื้อมาเพื่อเล่นเกมส์จริงจัง ราคาหูฟังตัวนี้ค่อนข้างสูงเกินความจำเป็น เหมาะกับการซื้อมาฟังเพลงมากกว่า
….
สรุป
Shure Aonic 50 เป็นหูฟังที่ดูดีมีคลาสทั้งการออกแบบ และซุ่มเสียง มันจะค่อนไปทางหรูหรา เวลาฟังเหมือนนั่งฟังเพลงในคลับ ลอบบี้เลาจน์ หรือบนโซฟานุ่ม ๆ ที่บ้าน แม้ว่าเราจะนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ระหว่างเดินทางบนรถไฟฟ้า หรือบนเครื่องบิน ที่บรรยากาศรอบข้างไม่เอื้อต่อการฟังเพลงก็ตาม
Shure Aonic 50 รองรับการฟังเพลงได้กว้างหลากหลายแนว ทั้งแนว Pop สมัยใหม่ เพลงอคูสติก โซล แจ๊ส ฟังค์ ร็อค แดนซ์ คอนเสิร์ท คลาสสิค ฯลฯ เน้นฟังเพลงเพื่อความไพเราะปล่อยอารมณ์
หมายเหตุ : ลักษณะเสียงของหูฟังตัวนี้มีตึบ ๆ แต่ไม่ตึ้ม ๆ ถ้าชอบแบบเบสลึก ๆ ให้ลองเทียบกับ Sony WH-1000XM4 ตัวนั้นมาแบบตูม ๆ ฟังเพลงเร็ว ๆ ใจสั่นระรัวตามจังหวะ อันนี้ก็แล้วแต่ชอบ
...
ในเรื่องของระบบ Active Noise Canceling ลดเสียงรบกวนได้ดี ไม่อุดอู้อับทึบเกินไป เมื่อเปิดระบบนี้เสียงที่ได้ยินยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ค่อนข้างมาก นั่งฟังเพลงในบรรยากาศรอบข้างที่มีเสียงรบกวนได้สบาย ๆ ฟังนาน ๆ ไม่รู้สึกอึน ๆ ถ้าใครเคยใช้หูฟังประเภทตัดเสียงรบกวนมาคงจะเข้าใจ ถ้าทำมาไม่ดี เสียงจะอับทึบ และเสียงพูดเสียงร้องขาดความถี่ที่ควรจะมี ให้เสียงไม่ครบออกมาคล้ายหุ่นยนต์
(ถ้าเสียงรอบข้างไม่ดังมากเปิดแค่ Normal ก็พอครับ)
แต่ด้วยขนาด น้ำหนัก และการพับเก็บ การพาไปไหนมาไหนด้วยต้องมีพื้นที่จัดเก็บ แม้ว่า Shure Aonic จะให้กระเป๋าทรงกลม Semi-Hard Case มาด้วย แต่ก็ยังดูใหญ่พอสมควร ใช้ใส่ไว้ในเป้สะพายหลังน่าจะลงตัวสุด
...
สุดท้ายสำหรับการเลือกหูฟังมาใช้งาน คือต้องไปลองด้วยตัวเองครับ รสนิยม และความชอบในการฟังเพลงของแต่ละคนแตกต่างกัน ดีสำหรับคนนึง แต่อาจไม่ลงตัวสำหรับแนวเพลงที่เราฟัง หรือลักษณะเสียงที่เราชอบก็ได้
ที่เขียนมาก็เพื่อให้ได้ทำความรู้จัก Shure Aonic 50 เป็นแนวทางในเบื้องต้น รับรู้ถึงการมีอยู่ของหูฟังรุ่นนี้ ถ้ากำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ค่อนข้างครบเครื่อง ลองใส่ตัวนี้เพิ่มเข้าไปในรายการทดลองฟังเสียงดูอีกตัวนะครับ
#Mahajak #Shure #Mahajaklife #AONIC50 #SHUREThailand #2how
https://www.mahajak.com/th/aonic-50.html
latency delay 在 kormaruR Youtube 的最佳貼文
TERA: The Exiled Realm of Arborea
JP Open Beta Test
Just some combat clips since the questing is the usual kill or collect or go to this location thing. For me TERA is all about combat anyway :P
Lancer's block rely on eye to hand coordination.
Where you block when enemy attacks.
Similar to monster hunter style.
But since this game is new to me, I don't quite recognize all the enemy's attack pattern to block before an attack.
For my level, most of my skill attacks are quite short range. The powerful ones require some charge animation where it leaves you vulnerable to attacks and even knock down to cancel it.
I heard there's a skill that prevent knock down in the later levels.
Although the game support gamepad, the latency is not as good using a kb mouse. Pressing the block on the gamepad has delay which is not desirable when you want to block at the right moment to maximize your attack window. Else its gonna be the slow; hit hit block block hit hit block block etc.
The attack direction is alot smaller and harder to control compare to monster hunter's lancing. Since in TERA, you can't move while in blocking and moving after you attack is hard to pinpoint (as you can see a few times i'm hitting air...).
Either way its fun to play or try out. Since you rarely see a lancer class on mmos and an action mmo on top of that! :P