點解唔訪問埋?
亞洲互聯網聯盟Asia Internet Coalition嘅會員係包括Apple, facebook, Google, Twitter, Expedia, Amazon, LINE, Linkedin, Rakuten, SAP, Airbnb, Grab, Yahoo, Booking .com, Cloudflare。剩係問FB、Twitter同Google回應點夠㗎?應該問埋Apple同埋其他囉...
Apple、Linkedin同其他食賣玩嗰啲都唔諗喇,唔知香港有幾多個公私營企業係用SAP呢個商業系統呢?如果真係"would be to refrain from investing and offering the services in Hong Kong.”,唔知要用幾多時間同金錢換系統呢?
Anyway,越南係FB同Google响南亞最賺錢嘅市場,上年年尾好似幾配合符合當地政府法律...「雖然有壓力限制更多內容....不過呢...盡量會繼續為當地人提供服務」
"Over the past few months, we've faced additional pressure from the government of Vietnam to restrict more content, however, we will do everything we can to ensure that our services remain available so people can continue to express themselves."
Patreon原文:
亞洲互聯網聯盟?無水晶球的純個人睇法
https://bit.ly/2V5BJyF
2020年12月BBC越南舊聞:
Vietnam: Facebook and Google 'complicit' in censorship
https://www.bbc.co.uk/news/world-asia-55140857
亞洲互聯網聯盟信件原文:
AIC Submits Industry Letter on the Proposed Amendments to Hong Kong’s Personal Data (Privacy) Ordinance to PCPD (June 2021)
https://aicasia.org/wp-content/uploads/2021/07/Industry-Response-on-the-Proposed-Amendments-to-Hong-Kongs-Personal-Data-Privacy-Ordinance-and-Request-for-Virtual-Meeting.pdf
📢乞食廣告:文字、時間與心血有價
🥣每日更新乞兒兜:
https://www.patreon.com/goodbyehkhellouk
最近更新:
亞洲互聯網聯盟?無水晶球的純個人睇法
https://bit.ly/2V5BJyF
客席作者米迦文章:
點解新媒體(一)從傳統媒體到新媒體
https://bit.ly/3ykvMfG
來自加拿大,羅馬尼亞裔加華裔,英國網球歷史新星
https://bit.ly/3jF3Wqs
疫苗以外,英國首相的另一賭注:OneWeb衛星計劃
https://bit.ly/3haDUJU
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「linkedin com google」的推薦目錄:
linkedin com google 在 News98 官方粉絲團 Facebook 的最佳貼文
全球最大網路住宿平台 Booking.com,每年進行超過 25,000 項 A/B 測試!不管是 #亞馬遜、#微軟、#臉書、#Google、#網飛、#LinkedIn、#Pinterest 等數位原生公司,還是 #聯邦快遞、H&M 這些非數位企業,都懂得善用 #隨機實驗 的力量,讓績效更上層樓。-- 《#哈佛商業評論》
.
【陳鳳馨 #財經起床號】星期一 (12/28) 早上八點《經濟學,不玄!》台大經濟系馮勃翰教授將剖析:#隨機實驗的商業運用!歡迎 #收聽廣播 #收看直播 >> https://youtu.be/0fmXbIC63eM
.
#陳鳳馨 #馮勃翰 #台大經濟 #行為經濟學 #經濟學實驗 #HarvardBusinessSchool #WorkingKnowledge #News98
.
📣 圖片取自:https://www.pegs.com/blog/booking-com-experiments-with-star-ratings-to-test-price-sensitivity/
linkedin com google 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รู้จัก “ปีเตอร์ ธีล” นักลงทุนรายแรกของ Facebook /โดย ลงทุนแมน
ปีเตอร์ ธีล ชายที่เป็นหนึ่งใน “PayPal มาเฟีย”
ซึ่ง PayPal มาเฟีย คือ ฉายาที่ใช้เรียกอดีตพนักงานที่ร่วมกันพัฒนาบริษัท PayPal
ที่ถูกเรียกว่ามาเฟีย ก็เนื่องจากพวกเขามีอิทธิพลอย่างมากต่อธุรกิจอินเทอร์เน็ต ถึงขนาดที่บางคนยกย่องว่าพวกเขามีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่ Dot-Com
โดย ปีเตอร์ ธีล คือคนที่ถูกเปรียบเทียบให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม PayPal มาเฟีย
ซึ่งเขาคนนี้ ยังเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook อีกด้วย
เรื่องราวของชายคนนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) เป็นนักธุรกิจและนักลงทุน ชาวเยอรมัน-อเมริกัน
เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1967 ปัจจุบันมีอายุ 53 ปี
เขาจบการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัย Stanford และทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้พิพากษา
แต่ต่อมา ตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ มาเป็นเทรดเดอร์ตราสารอนุพันธ์ที่บริษัทหลักทรัพย์ Credit Suisse แทน
ซึ่งขณะนั้นเอง ธีลได้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการซื้อขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ แต่กลับพบว่า ยังไม่ค่อยมีระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่รองรับธุรกรรมดังกล่าวสักเท่าไร
เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท Confinity Inc. ร่วมกับเพื่อน เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการจ่ายเงินออนไลน์ ในปี 1998
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีอีกบริษัทที่ตั้งขึ้นมาประกอบธุรกิจ Online Banking โดยบริษัทนั้นคือ X.com ที่มี อีลอน มัสก์ เป็นตัวตั้งตัวตีในการก่อตั้งบริษัทนี้
ซึ่งหนึ่งปีถัดมา Confinity และ X.com ที่ต่างบริษัทต่างก็มีชื่อเสียงด้านแพลตฟอร์มให้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ในขณะนั้น ก็ได้ควบรวมกิจการกัน และเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “PayPal”
ในปี 2002 บริษัท PayPal จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และต่อมาไม่นาน ก็ตกลงขายกิจการให้กับ eBay เว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 47,000 ล้านบาท
ทำให้ ปีเตอร์ ธีล ที่ถือหุ้นของ PayPal ณ ขณะนั้นอยู่ 3.7% ได้รับเงินจากดีลครั้งนี้ไปราว 1,700 ล้านบาท
ในเวลาต่อมา เขาได้นำเงินก้อนนั้นไปก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และ Venture Capital เพื่อหาโอกาสลงทุนในกิจการสตาร์ตอัปต่างๆ ที่น่าสนใจ
และเหตุการณ์สำคัญ ก็เกิดขึ้นในปี 2004
เมื่ออดีตเพื่อนร่วมงานที่ PayPal แนะนำให้ธีลรู้จักกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวัย 20 ปี
หลังจากการพูดคุยกัน ทำให้ธีลสนใจในธุรกิจโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบใหม่ของ Facebook เป็นอย่างมาก และตกลงเข้าร่วมลงทุนด้วยเงิน 15.6 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นสัดส่วน 10.2% ของบริษัท
ซึ่งการลงทุนในครั้งนั้น คือการที่ Facebook ได้รับเงินลงทุนจากคนนอกเป็นครั้งแรก จึงทำให้ ธีล กลายเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook นั่นเอง
ทั้งนี้ ธีลยังได้เข้ามาเป็นผู้บริหาร Facebook และมีบทบาทสำคัญในเรื่องการเงิน โดยเฉพาะการจัดระดมทุนได้สำเร็จ ก่อนจะเกิดวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008
จนกระทั่งปี 2012 Facebook ได้ดำเนินการ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ โดยขณะนั้นบริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ราว 3.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งธีลก็ตัดสินใจขายหุ้นที่เขาถืออยู่จำนวนมากออกไป ทำให้เขาได้รับเงินไปประมาณ 31,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่ามหาศาลเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เขาลงทุนไปในตอนแรก
นอกจากนั้น ธีลยังลงทุนในสตาร์ตอัปชื่อดัง อีกกว่า 80 บริษัท ตั้งแต่ช่วงแรกของกิจการ ตัวอย่างเช่น
Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักแบบ Sharing Economy
Linkedin แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับคนทำงาน
SpaceX บริษัทขนส่งทางอวกาศ
Spotify แพลตฟอร์มฟังเพลง Streaming ออนไลน์
Quora แพลตฟอร์มโซเชียล ถาม-ตอบ
Yammer แพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับองค์กร
DeepMind บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
รวมถึงการลงทุนใน Cryptocurrency อย่าง Bitcoin ที่เขามองว่าน่าจะเป็นสกุลเงินสำคัญของธุรกรรมการเงินออนไลน์ในอนาคตอีกด้วย
ล่าสุด จากการประเมินทรัพย์สินและจัดอันดับของ Forbes
ปีเตอร์ ธีล มีทรัพย์สินส่วนตัวอยู่ที่ประมาณ 78,000 ล้านบาท
ซึ่งถูกจัดเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก อันดับที่ 391
ทั้งนี้ ธีลเคยให้มุมมองเอาไว้ว่า บริษัทที่ประสบความสําเร็จ และสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับผู้ถือหุ้น มักจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันอยู่หนึ่งอย่าง
นั่นคือ การเป็นผู้สร้างสินค้า นวัตกรรม หรือตลาด ขึ้นมาใหม่
จึงทำให้บริษัทยังไม่มีคู่แข่งมากนักในช่วงแรกๆ เหมือนกรณีของ PayPal และ Facebook
ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีผู้เล่นหลายราย เช่น ธุรกิจสายการบิน แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านราคา ซึ่งส่งผลให้กำไรไม่เติบโต และมูลค่าบริษัทปรับตัวลงมาต่ำกว่าสตาร์ตอัปเกิดใหม่บางรายเสียอีก
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
นอกเหนือจาก ปีเตอร์ ธีล แล้ว กลุ่ม PayPal มาเฟีย ยังแยกย้ายกันไปสร้างธุรกิจ จนประสบความสำเร็จอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น
รีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และ เดวิด แซกส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Yammer
ซึ่งธีลร่วมลงทุนในทั้งสองบริษัท และสุดท้ายทั้ง LinkedIn และ Yammer ก็ถูก Microsoft ซื้อกิจการไป
แชด เฮอร์ลีย์, สตีฟ เฉิน และ ยาวีด คาริม ร่วมกันก่อตั้งแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ YouTube จนถูก Google ซื้อกิจการไป
และคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกลุ่ม คงหนีไม่พ้น อีลอน มัสก์
เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PayPal และได้รับเงินจากการขายกิจการให้ eBay สูงถึง 5,100 ล้านบาท
ซึ่ง อีลอน มัสก์ ได้นำเงินที่ได้มาไปลงทุนในบริษัท SpaceX ซึ่งก็มีธีลร่วมลงทุน
และ อีกบริษัทที่อีลอน มัสก์ ได้ลงทุนก็คือ Tesla ที่ตอนนี้กลายเป็นบริษัทรถยนต์มูลค่ามากสุดในโลกไปแล้ว นั่นเอง..
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/peter-thiel-facebook-trump-biography-2018-2
-https://en.wikipedia.org/wiki/Peter_Thiel
-https://www.forbes.com/sites/stephenmcbride1/2020/10/05/peter-thiel-built-his-fortune-on-this-one-business-secret/