นับถอยหลังสู่ปี 2021 ที่ยิ่งเวลาเดินหน้าไปเท่าไหร่ เราก็ยิ่งก้าวเข้าสู่“โลกออนไลน์” มากขึ้นเท่านั้น นอกจากเวลาจะเปลี่ยนแล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคและการตลาดก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สำหรับในปีหน้า “เทรนด์การขายของออนไลน์” ที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่เห็นจะเป็นการ “Live” ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายประเทศ อย่างเช่นจีนที่มีการประเมินว่าในปี 2021 พื้นที่ตลาดของ Live Commerce จะเพิ่มขึ้นจาก 5% กลายเป็น 35% รวมถึงประเทศไทยที่คาดการณ์ได้ว่าพื้นที่ตลาดของ Live Commerce ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 5-10% ซึ่งนั่นหมายความว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก .... นี่ถือเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
.
วันนี้เลยจะพามาดูกลยุทธ์ Retailtainment ที่จะช่วยให้การ Live ของคุณ โดนใจผู้บริโภคในปี 2021 นอกจากจะได้ยอดขายแล้วยังได้ลูกค้าขาประจำอีกด้วย
.
Retailtainment เกิดจากคำว่า Retail (การค้าปลีก) + Entertainment (ความบันเทิง) กลายมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ผสมผสานความบันเทิงเข้าไปเพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจและเพลิดเพลินกับบรรยากาศจนก่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ ซึ่งจริงๆ เป็นกลยุทธ์ที่มีมานานแล้ว ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น การเปิดเพลงสนุกๆ จัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วม จัดพื้นที่ทดลองสินค้า เป็นต้น แต่ในยุคนี้ที่ใครๆ ก็ชอบช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะการ Live จึงทำให้ Retailtainment กลายเป็นเทรนด์การขายของออนไลน์ประจำปี 2021 ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยชั้นดีในการเพิ่มยอดขายผ่านการ Live
.
เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้คนที่เข้ามาช้อปปิ้งส่วนใหญ่ชอบการขายของที่เพิ่มความบันเทิงให้กับพวกเขา และยิ่งขายได้สนุกมากแค่ไหน โอกาสในการจ่ายเงินซื้อสินค้าก็ของลูกค้ายิ่งเพิ่มขึ้นตามมา นั่นหมายความว่า นอกจากคุณภาพสินค้าที่ดีแล้วนั้น “วิธีขาย” ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
.
*ในประเทศจีนจะแบ่งแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์เป็นหลายประเภท แต่ของไทยเองนั้นไม่ได้มีการแบ่งที่ชัดเจนเพราะไม่ว่าใครก็สามารถ Live ได้ อย่าง “พิมรี่พาย” ที่มีเทคนิคการขายที่ทั้งสนุกและมีเอกลักษณ์การพูดตรง ฉะฉานเสียงดัง ตอบคำถามคนดูแบบถึงเครื่อง อธิบายสรรพคุณสินค้าแบบทุกคนเห็นภาพ ทำให้คนดูรู้สึกสนุกและเพลิดเพลินไปกับการดูเธอขายของจนทำให้เธอนั้นเติบโตกลายมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทุกวันนี้ หรือจะเป็นเพจ “MakeeShop” เพจ Live ขายกระเป๋าที่ยอดคนดูไม่เคยต่ำกว่าหลักหมื่น เธอมีเอกลักษณ์ในการขายด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เรียกคนดูว่า ‘ออเจ้า’ และการลดราคาและสินค้าที่มีจำกัด ตอบคำถามลูกค้าและอธิบายสินค้าอย่างละเอียดจนมีคนตามหลักล้านภายในเวลาแค่ 1 ปี หรือจะเป็น “บังฮาซัน” ที่ขายอาหารทะเลด้วยสำเนียงคนใต้ ที่มีการพูดแบบตลก สนุกสนาน ง่ายๆ เป็นธรรมชาติ สร้างเสียงหัวเราะให้คนดู สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือไม่ว่าใครก็สามารถ Live ขายของได้และไม่จำเป็นต้องทำแบบเดียวกันเพียงแค่ต้องถูกใจคนดูเพียงเท่านั้น ยอดขายก็ปังได้*
.
กลยุทธ์ Retailtainment กับ Live Commerce ยกตัวอย่างเช่น
- สินค้าทดลอง
ถ้าเป็นร้านค้าออฟไลน์การแจกสินค้าทดลองก็ถือเป็นอะไรที่เห็นได้บ่อย แต่ในสำหรับร้านค้าออนไลน์อาจจะเริ่มจากการสุ่มแจกสินค้าให้กับคนดู และมีการทดสอบสินค้าให้ลูกค้าได้เห็นพร้อมกับบรรยายความรู้สึกจากการได้ใช้สินค้าก็จะทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกร่วมและเพลิดเพลินไปกับการซื้อสินค้าได้
- สร้างบรรยากาศการ Live
สำหรับร้านค้าออฟไลน์ก็ยกตัวอย่างเช่น เสียงเพลงที่เปิดในร้าน กลิ่นหอมๆ ในร้าน การตกแต่งร้านให้น่าเดิน เป็นต้น แต่สำหรับร้านค้าออนไลน์อาจจะมีการจัดไฟจัดฉากด้านหลังสำหรับการ Live การเพิ่มเสียงเพลงดนตรีประกอบตอนไลฟ์ เพื่อเพิ่มสีสัน ซึ่งช่วงหลังมานี้จะเห็นร้านค้าหลายเจ้าเริ่มมีการเอากระดิ่งมากดเป็น เสียงกริ๊งๆ เวลาพูดหรือปิดการขายได้ อันนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศการ Live ให้น่าดูและสนุกมากขึ้นได้เช่นกัน
- ราคาพิเศษเฉพาะ Live นี้เท่านั้น!
เวลาไปเดินห้างสรรพสินค้า ทุกคนคงเคยได้ยินช่วงลดแหลกแจกของ นาทีทองนาทีถูก เป็นแน่ สำหรับการ Live อาจจะพูดถึงว่าจะมีช่วงที่จะลดสินค้าราคาสุดพิเศษเหมือนแจกฟรี เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาดูและอยู่รับคลิปนานขึ้น ก็จะทำให้โอกาสในการซื้อสินค้านั้นตัวอื่นๆเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
- การเล่นเกมหรือเพิ่มการแข่งขัน
การออกแบบ Live ขายสินค้าให้คนดูรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเล่นเกมอยู่ จุดประสงค์ไม่ใช่แค่ความสนุก แต่เพื่อทำให้คนดูรู้สึกมีส่วนร่วมและสนุกไปกับการดู Live ขายของแลกกับการได้รางวัลเป็นสินค้าเล็กๆ น้อยๆ ตอบแทน และเมื่อเกิดความสนุกกับการดูแล้วนั้น โอกาสการซื้อสินค้าก็เพิ่มขึ้นของผู้ชมก็จะตามมาเช่นกัน
.
*ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดว่าทุกคนจะต้องเปิดเพลง เล่นเกม หรือเล่นมุกตลกเฮฮาเท่านั้น เพราะขึ้นอยู่กับเทคนิคการขายของแต่ละคนที่จะดึงดูดและเพิ่มความบันเทิงให้กับคนดูอย่างไรได้บ้างให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและให้คนดูรู้สึกเพลิน และสนุกไปกับการดู Live และชอปปิ้งไปพร้อมกัน*
.
จะเห็นได้ว่าการนำเอากลยุทธ์ Retailtainment มาปรับใช้กับการขายสินค้าออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก บางคนมีเทคนิคอื่นนอกเหนือจากนี้ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ โดยที่กลยุทธ์เพิ่มความบันเทิงในการขายสินค้านี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกรูปแบบไม่ใช่แค่การ Live เท่านั้น ยกตัวอย่างแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Toms VR แบรนด์รองเท้าชื่อดังจากสหรัฐฯ ก็มีการทำคลิปรูปแบบ VDO VR ออกมาโปโมทแบรนด์ โดยพาเที่ยวประเทศเปรูพร้อมกับบรรยากาศเด็กๆ ที่ได้ใส่รองเท้าวิ่งเล่นไปมา ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงสิ่งดีๆ ที่แบรนด์มอบให้กับสังคม
.
สุดท้ายนี้สำหรับผู้ประกอบการทุกท่านก็ต้องอย่าลืมที่จะปรับธุรกิจให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปด้วยการหันมาให้ความสำคัญในด้านการตลาดออนไลน์มากขึ้น และอย่าลืมที่จะเพิ่มความบันเทิง ความสนุกสนานลงไป เพื่อมัดใจลูกค้าด้วย นอกจากจะได้ยอดขายแล้วเผลอๆ คุณจะได้ลูกค้าที่พร้อมจะอุดหนุนคุณเป็นประจำอีกด้วย
.
ที่มา : https://www.tokinomo.com/blog/retailtainment-is-the-future-of-shopper-engagement
https://www.parklu.com/retailtainment-amazon-china/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Retailtainment #Live #LiveCommerce #เทรนด์ขายของออนไลน์2021 #ขายของออนไลน์ #ไลฟ์ขายของ
