เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani
สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group
ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)
หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน
ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง
Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท
Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ
แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน
Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา
โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง
สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย
Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries
Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน
นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”
หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น
Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย
ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา
ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln
และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ
โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง
ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง
แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน
แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน
แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ
สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้
Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย
แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)
ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM
แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้
นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น
และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016
เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย
ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน
ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล
RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016
RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา
ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน
สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..
ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต
ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง
ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
-https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
-https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
-https://youtu.be/dBH0E20kc30
-https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group
同時也有7部Youtube影片,追蹤數超過38萬的網紅ReLab,也在其Youtube影片中提到,Tham khảo giá bán của iPhone 12 Pro Max & Galaxy S21 Ultra tại: ? https://didongviet.vn/iphone-12 ? https://didongviet.vn/samsung-galaxy-s21-plus-s21-...
mdr news 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Billionaire อายุน้อยที่สุด ในอินเดีย ทำธุรกิจอะไร? /โดย ลงทุนแมน
Zerodha หนึ่งในสตาร์ตอัป จากประเทศอินเดีย
มีผู้ก่อตั้งเป็น Billionaire ที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศ
คำว่า Billionaire คือบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 30,000 ล้านบาทขึ้นไป
แล้ว Zerodha ทำธุรกิจอะไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Zerodha เป็นสตาร์ตอัปโบรกเกอร์ หรือนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์
ปัจจุบัน Zerodha เป็นโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในประเทศอินเดีย
โดยผู้ก่อตั้งได้เงินทุนในการก่อตั้งบริษัทมาจากเงินลงทุนส่วนตัว
และก็ได้ชักชวนพี่ชายมาสร้างแพลตฟอร์มนี้กันสองคน
แล้วทำไมถึงต้องเป็นธุรกิจโบรกเกอร์ออนไลน์ ?
ตลาดหุ้นอินเดีย มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 4 ในเอเชีย
แต่ขณะเดียวกัน มีคนอินเดียที่ลงทุนในหุ้นน้อยมาก
หรือคิดเป็นประมาณ 2% ของประชากรเท่านั้น
เมื่อเทียบกับ 7% ของประเทศจีน
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า ประเทศอินเดีย
ขึ้นชื่อเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขายสินค้าทางการเงินที่แพงมาก
ไม่ว่าจะลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือนายหน้าซื้อขายหุ้น
นอกจากนั้นยังรวมไปถึงวิธีการซื้อขาย ยังทำได้ยุ่งยากอีกด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ ก็เป็นสิ่งที่คุณ Nikhil Kamath ผู้ร่วมก่อตั้ง Zerodha เจอกับตัวเอง
ย้อนกลับไป คุณ Nikhil Kamath ลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเป็นนักหมากรุกตอนอายุ 14 ปี
และ 3 ปีหลังจากนั้น เขาก็ได้เริ่มเทรดหุ้น ซึ่งในเวลานั้น (20 ปีที่แล้ว) ค่าคอมมิชชันของโบรกเกอร์ในอินเดียแพงมาก
หลังจากเทรดหุ้นจนเริ่มสร้างตัวได้
คุณ Nikhil Kamath เลยตั้งใจจะสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการลงทุน
ที่ช่วยขจัดปัญหาและอุปสรรคที่ต้องเจอมาตลอด
เขาจึงนำเงินเก็บมาสร้างแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ออนไลน์ร่วมกับพี่ชาย
และ “Zerodha” ก็ได้เกิดขึ้นในปี 2010
Nikhil Kamath ตั้งใจให้แพลตฟอร์มแห่งนี้
เป็นช่องทางให้นักลงทุนรายย่อย เข้าถึงการลงทุนได้มากขึ้น
เหมือนกับชื่อบริษัท Zerodha ที่แปลว่าไม่มีสิ่งกีดขวาง
นั่นจึงทำให้ Zerodha เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ ที่คิดค่าคอมมิชชันในราคาย่อมเยา
หรือที่เรียกว่า “Discount Broker” เจ้าแรกในอินเดีย
แม้ Zerodha ยังซื้อขายหลักทรัพย์ได้เฉพาะในตลาดอินเดีย
แต่ทางบริษัทก็ได้รวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินไว้หลากหลาย ซึ่งก็ได้แก่
หุ้น, ฟิวเจอร์ส, อ็อปชัน, อัตราแลกเปลี่ยน, ตราสารหนี้ และกองทุนรวม
ในช่วงแรก Zerodha คิดค่าคอมมิชชันในราคาต่ำ แต่ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นในอินเดีย ทำให้ในปัจจุบัน Zerodha ได้ยกเลิกค่าคอมมิชชันไปแล้ว
มีเพียงการซื้อขายฟิวเจอร์สและอ็อปชัน
รวมถึงการซื้อขายหุ้นภายในวันเดียวกัน
ที่ยังคงคิดค่าคอมมิชชันต่อวันที่ประมาณ 9 บาท
โดยค่าคอมมิชชันเล็กน้อย กับค่าเปิดบัญชีซื้อขายที่ 130 บาท ถือเป็นรายได้หลักของ Zerodha ในปัจจุบัน
ดูเหมือนว่าค่าคอมมิชชันราคาถูกอย่างเดียว คงไม่ใช่จุดขายที่ยั่งยืนของ Zerodha อีกต่อไป
เพราะแม้ว่าจะได้ผลดีในการดึงดูดลูกค้าในช่วงแรก
แต่สุดท้ายแล้วเหล่าโบรกเกอร์ก็ต้องแข่งกันลดค่าคอมมิชชัน
เพื่อแย่งชิงลูกค้า จนลงเอยที่การไม่คิดค่าคอมมิชชันในที่สุด
ดังนั้นการแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้าของ Discount Broker
จึงอยู่ที่การพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขาย ทั้งต้องให้ใช้งานได้ง่าย
และมีบริการเสริมอื่น ๆ เช่น กราฟ และบทวิเคราะห์
รวมไปถึงตัวเลือกในการตั้งคำสั่งซื้อขายที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด
ซึ่ง Zerodha ก็ได้ทำให้ปัจจัยที่ว่ามานี้ กลายเป็นจุดแข็งของตัวเองได้หมด
ตั้งแต่แพลตฟอร์มซื้อขาย ซึ่งเน้นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
ที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว มีฟังก์ชันการใช้งานมากมาย
อย่างการตั้งคำสั่งซื้อขายแบบมีเงื่อนไข ก็ให้ครบแบบที่โบรกเกอร์ชั้นนำทั่วโลกมี
และยังมีคำสั่งพิเศษ อย่างเช่น Margin Intraday Square-Off
ที่ให้ลูกค้าสามารถใช้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่ซื้อขายหุ้นในมูลค่าที่มากขึ้น
แต่มีข้อแม้ว่าต้องซื้อขายกลับคืนให้จบในวันเดียวกันเท่านั้น
และสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้เป็นวงกว้างก็คือ
เป็นศูนย์รวมการซื้อขายกองทุนรวม และให้บริการบทวิเคราะห์เชิงลึก
นั่นจึงทำให้ Zerodha ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เหนือกว่าคู่แข่ง
ซึ่งก็วัดผลได้จากการที่ Zerodha มีจำนวนลูกค้าที่บัญชีมีการเคลื่อนไหวอยู่มากที่สุดในประเทศ
และยังเป็นโบรกเกอร์ที่มีปริมาณซื้อขายรายวันสูงที่สุดในอินเดีย
หรือคิดเป็น 15% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด
เอาชนะโบรกเกอร์เก่าแก่อย่าง ICICI และ HDFC ได้
ซึ่งลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากการบอกต่อกันปากต่อปาก
โดยที่ Zerodha ไม่เคยทำการตลาดเลย
และนอกจากจำนวนลูกค้าและปริมาณการซื้อขาย
จะทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง Upstox ที่ตามมาเป็นอันดับสองอยู่เกือบเท่าตัวแล้ว
นอกจากนี้ Zerodha ยังมีกำไรสุทธิมากกว่า Upstox เกือบ 3 เท่า
เราลองมาดูผลการดำเนินงานของ Zerodha จากข้อมูลที่ตัวแทนบริษัทเปิดเผย
ปี 2019 รายได้ 4,080 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 4,697 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,812 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Zerodha มีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับสูง เพราะมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ
ในขณะเดียวกัน Zerodha ก็ยังมีแผนการอีกมากมายในอนาคต
อย่างการให้ลูกค้ากู้เงิน โดยใช้มูลค่าหุ้นหรือกองทุนรวมค้ำประกัน
รวมถึงการขอใบอนุญาตเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวม
เพื่อเพิ่มช่องทางให้นักลงทุนในอินเดีย ได้ลงทุนในต่างประเทศสะดวกขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Zerodha จะมีอายุได้ร่วม 10 ปีแล้ว
แถมมีผลประกอบการที่สวยหรู แต่ที่ผ่านมาบริษัทแห่งนี้
ก็ไม่เคยระดมทุนและรับเงินลงทุนจากคนภายนอก หรือกู้เงินเลย
แต่ที่น่าสนใจคือ
ทางผู้บริหารได้ประเมินมูลค่าบริษัทตัวเองว่ามีมูลค่า อยู่ที่ระดับยูนิคอร์น หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย
และเมื่อเราไปดูกำไรที่บริษัททำได้ 1,812 ล้านบาท
หมายความว่าที่มูลค่ายูนิคอร์น บริษัทแห่งนี้ก็จะมีอัตราส่วน P/E ราว 16 เท่า
เมื่อเทียบกับ P/E ทั้งตลาดหุ้นอินเดียที่ 30 เท่า
ก็ถือว่าทางผู้บริหารให้มูลค่ากับบริษัทตัวเองน่าจะสมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย
ส่วน Forbes ก็ได้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินของพี่น้องตระกูล Kamath ว่ามีทรัพย์สินประมาณ 48,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็น Billionaire ที่มีอายุน้อยที่สุดในอินเดีย ไปเรียบร้อยแล้ว..
ถึงตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้แล้วว่า พี่น้องคู่นี้อายุเท่าไร
ปัจจุบันคุณ Nikhil Kamath อายุ 34 ปี
และพี่ชาย Nithin Kamath อายุ 41 ปี
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/business/startups/news/zerodha-valued-itself-at-1-billion-hurun-unicorn-startups-list-bumps-it-up-to-3-billion-but-founder-says-valuation-doesnt-matter/articleshow/77347721.cms
-https://www.cnbc.com/2021/01/12/zerodhas-nikhil-kamath-is-indias-youngest-new-billionaire.html
-https://www.cnbc.com/2021/01/13/investing-advice-from-zerodhas-billionaire-co-founder-nikhil-kamath.html
-https://www.forbesindia.com/lists/india-rich-list-2020/1877/all
-https://www.forbesindia.com/article/india-rich-list-2020/how-zerodhas-young-founders-nithin-and-nikhil-kamath-made-their-way-to-the-rich-list/64085/1
-https://startuptalky.com/zerodha-trading-services/
-https://economictimes.indiatimes.com/markets/stocks/news/indias-biggest-brokerage-projecting-sharp-drop-in-trading-volumes-revenue-this-year/articleshow/81909631.cms?from=mdr
-https://economictimes.indiatimes.com/markets/stocks/news/burned-out-broker-got-rich-aiding-millennials-trade-for-free/articleshow/69248060.cms?from=mdr
-https://entrackr.com/2021/02/zerodhas-revenue-grows-to-rs-1094-cr-in-fy20-with-rs-442-36-cr-profit/
-https://www.livemint.com/companies/people/zerodha-founders-nithin-kamath-and-nikhil-kamath-top-list-of-richest-self-made-indians-under-40-11602579116861.html
mdr news 在 台灣物聯網實驗室 IOT Labs Facebook 的最讚貼文
駭客盯上5G智慧製造破口 資安6大建議圍堵
記者吳佳穎/台北報導
全球網路資安領導廠商趨勢科技 (東京證券交易所股票代碼:4704) 發表一份報告指出 4G/5G 企業專用網路 (以下稱企業專網) 容易被駭客攻入的4大塊破口,也模擬出11種攻擊情境,並提出6項建議來保護 4G/5G 園區網路。
趨勢科技指出,這份報告藉由一個模擬智慧工廠企業專網的測試環境,深入研究企業難以修補關鍵 OT 環境漏洞遭利用的困境,並詳細說明多種攻擊情境以及可行的防範措施。
駭客可能入侵核心 4G/5G 網路的重要破口為:
一、執行核心網路服務的伺服器:攻擊這些標準商用 x86 伺服器的漏洞和強度不足的密碼。
二、虛擬機器 (VM) 或容器:若未套用最新修補更新就可能成為破口。
三、網路基礎架構:修補更新經常忽略了網路硬體裝置也需要修補。
四、基地台:這些裝置同樣含有韌體,因此也不時需要更新。
趨勢科技表示,駭客一旦經由上述任一破口進入核心網路,就能在網路內橫向移動並試圖攔截或篡改網路封包。正如我們的測試環境所示,駭客可經由攻擊智慧製造環境中的工業控制系統 (ICS) 來竊取機敏資訊、破壞生產線,或者向企業勒索。
在報告中所示範的 11 種攻擊情境當中,破壞力最強的是攻擊 IT 和現場工程師經常使用的 Microsoft Remote Desktop Protocol (RDP) 伺服器。升級 5G 並不會讓 RDP 流量自動獲得保護,因此駭客可藉此下載惡意程式或勒索病毒,甚至直接挾持工業控制系統。RDP v 10.0 是目前最安全的版本,提供了一些安全措施來防範這類攻擊,但話說回來,企業要升級到最新版本仍可能存在困難。
趨勢科技提出以下幾項建議來保護 4G/5G 園區網路:
一、使用 VPN 或 IPSec 來保護遠端通訊通道,包括遠端據點與基地台。
二、採用應用程式層次的加密 (HTTPS、MQTTS、LDAPS、加密 VNC、RDP v10 以及像 S7COMM-Plus 這類具備安全性的工業協定)。
三、採用 EDR、XDR 或 MDR 來監控園區與中央核心網路的攻擊與橫向移動活動。
四、採用 VLAN 或 SDN 來進行適當的網路分割。
五、盡早套用伺服器、路由器與基地台的修補更新。
六、 採用專為 4G/5G 企業專網設計所設計的網路解決方案安全產品如Trend Micro Mobile Network Security(TMMNS) ,可在企業內部網路偵測及防範阻擋網路攻擊威脅及對終端聯網裝置進行零信任 (Zero Trust) 管理,透過資網路與無線網路提供雙層防護,提供最大保護效果。
企業專用行動網路的建置,不僅牽涉到終端使用者,更牽涉其他單位,如:服務供應商與系統整合商。此外,企業專用 4G/5G 行動網路屬於大型基礎架構,而且使用壽命很長,所以一旦建置之後就很難汰換或修改。因此,有必要一開始就內建資安防護,在設計階段就預先找出及預防可能的資安風險。
趨勢科技技術總監戴燊也表示:「製造業正走在工業物聯網 (IIoT) 潮流的尖端,善用 5G 無遠弗屆的連網威力來提升其速度、安全與效率。然而,新的威脅正伴隨著這項新技術而來,而舊的挑戰也需要解決。正如這份報告中提出的警告,許多企業都陷入無法承擔停機修補關鍵系統漏洞的成本,所以只好冒著漏洞遭到攻擊風險的困境。所幸,這份研究提供了多項防範措施與最佳實務原則來協助智慧工廠確保今日與明日的安全。」
附圖:
▲趨勢發布報告指出,駭客已盯上4G/5G智慧製造的企業網路破口,建議用6大策略圍堵。(圖/趨勢科技提供)
資料來源:
https://finance.ettoday.net/news/1993866#ixzz6wEPi04XT
mdr news 在 ReLab Youtube 的最讚貼文
Tham khảo giá bán của iPhone 12 Pro Max & Galaxy S21 Ultra tại:
? https://didongviet.vn/iphone-12
? https://didongviet.vn/samsung-galaxy-s21-plus-s21-ultra
Mã giảm giá 150K cho thành viên Relab:
? https://didongviet.vn/tin-tuc/ma-giam-gia-dac-biet-tai-di-dong-viet-danh-rieng-cho-thanh-vien-den-tu-relab/
realme Race (hoặc có thể là realme GT) - gaming phone đầu tiên của realme lộ diện những thống số hiệu năng cực khủng; ROG Phone 5 tiếp tục lộ nhiều thông khi ngày bán đã cận kề; Redmi Note 10 và Redmi K40 đã có ngày ra mắt chính thức; Samsung Galaxy A72 và Galaxy F62 sắp được Samsung bán toàn cầu. Còn những thông tin công nghệ gì nổi bật trong tuần vừa qua, hãy cùng ReLab điểm qua trong số ReLab News hôm nay!
______________________________
DOP | Editor: Khắc Ninh | Linh Trần
Host | Reviewer: @Tuấn Ngọc đây!
Content: Sơn thiếu chủ
______________________________
Tham khảo giá bán các smartphone xách tay ngon rẻ tại:
? Sharp Aquos R https://shp.ee/ty7t5fx
? LG V30 https://shp.ee/h5pf7u8
? Sony Xperia XZ2 https://shp.ee/5bp6cip
? Google Pixel 3 https://shp.ee/j2nea7x
? VSmart Joy4: https://shp.ee/4vmw6w3
? Máy tính bảng Jowave Smart X chỉ 850: Khttps://shp.ee/i9k36dv
______________________________
Sản phẩm công nghệ hay - mua qua các link này để ủng hộ ReLab nhé:
? Tai Nghe Gaming Havit H2232D giảm 40%: https://shp.ee/i84r3rp
? Tai nghe Sony ExtraBass MDR-XB550AP: https://shp.ee/mud2cub
? Sạc dự phòng Xiaomi Pikachu: https://shp.ee/nwms7ui
? Ốp xinh Phụ kiện Pikapi: https://shp.ee/evjc9v3
? Cường lực chống vân Pikapi: http://bit.ly/34zSaW4
? TWS "trà xanh" OnePlus Buds Z: https://shp.ee/33ige3y
? Loa Divoom Beetles: https://bit.ly/39fMP98
? Tai nghe Airpods rep tại: https://bit.ly/3a6vUEX hoặc https://bit.ly/3chWQVj
? Máy hút bụi Lock & Lock tại: https://bit.ly/3n4pc7T
______________________________
Xin trân trọng cảm ơn:
Phần mềm đánh giá game chuyên dụng Gamebench - download tại:
? https://quality.gamebench.net/pro-ref?utm_campaign=Journalist&utm_company=VT_Media_Journalist+1820860415
Follow Tuấn Ngọc và Thành Thụ ở kênh Youtube cá nhân:
? https://www.youtube.com/channel/UCjjsDJeZ0Kg7MhhiMmSUInw
? https://www.youtube.com/channel/UCD9lxc0vjAb2X5qICYrYZQw
?Series 30M Gaming thứ 5-6 hàng tuần: https://bit.ly/30MGamingS3
?Series Đánh giá hiệu năng smartphone: http://bit.ly/HieunangSMP
?Series Đánh giá, tư vấn laptop: http://bit.ly/LaptopLaptopPC
______________________________
Menu
00:00 Intro
______________________________
ReLab là kênh truyền thông đánh giá chuyên sâu các sản phẩm công nghệ, mang lại cái nhìn khách quan và chính xác, giúp các bạn đưa ra lựa chọn dễ dàng hơn trước khi quyết định mua.
Nếu thấy clip hay các bạn đừng ngần bạn bấm LIKE và nhớ SUBSCRIBE kênh Youtube của ReLab, BẤM CHUÔNG để không bỏ lỡ bất kì video nào nhé. ✌
Thông tin đội ngũ ReLab:
?Cập nhật những thông tin công nghệ mới
◾️ FANPAGE: https://www.facebook.com/relab1008/
◾️ GROUP: https://www.facebook.com/groups/mecongnghe/
◾️ TIKTOK: https://www.tiktok.com/@re.lab
◾️ INSTAGRAM: https://www.instagram.com/re.lab
? "Chém gió" cùng các Reviewer trên mạng xã hội:
◾️ Tuấn Ngọc: https://facebook.com/tfptn
◾️ Huy Thành: https://www.facebook.com/huythanh0312
◾️ Hiếu Leo: https://www.facebook.com/hieuu.leoo
◾️ Hải Linh: https://www.facebook.com/hailinh.tran.7121
? Email liên hệ hợp tác: [email protected]
? Contact for work: [email protected]
© Bản quyền thuộc về VT MEDIA & RELAB.
© Copyright by VT MEDIA & RELAB. Please do not Re-up.
#realmeRace #RedmiNote10 #ReLab
mdr news 在 Mad Duck Ranger Youtube 的最佳貼文
แพชเข้าวันที่28 น่าจะช่วงเย็นๆ หลักๆมาดูว่ามีอะไรปรับเปลี่ยนบ้างซึ่งสำคัญต่อการเล่นมากๆ รวมถึงโอเปอเรอเตอร์หลายตัวที่มีการบัพบ้างโดนเนิฟบ้าง
.
มีพูดถึงอัตราการPick & Banในช่วงของซีซั่นนี้ รวมถึงคาดการณ์และวิเคราะห์อีกเล็กน้อย
.
ถ้าชอบอย่าลืมกดไลค์ + แชร์ เพราะจะได้รู้ว่าท่านผู้ชมชอบคลิปข่าวสารแบบนี้ จะได้ทำออกมาอีกครับผม ขอบคุณครับ
.
ติดตามที่ทวิช: madduckranger
ติดตามที่เฟซบุ๊ค: Mad Duck Ranger ขบวนการเป็ดบ้า
.
แหล่งที่มา https://www.ubisoft.com/en-us/game/rainbow-six/siege/news-updates/3nC1sOyNkEt3Kw8MfHUvvj/y4s4.3-patch-notes
.
https://www.ubisoft.com/en-us/game/rainbow-six/siege/news-updates/71EW9FjKU1MKEcLmoJDLF9/y4s4.3-designer's-notes:-mid-season
mdr news 在 果籽 Youtube 的最讚貼文
一連三天的香港高級視聽展已經開鑼,同往年一樣,耳機產品繼續搶盡風頭。Sony剛在香港發表多款高級耳機,包括Signature系列入耳式耳機IER-Z1R、兩款入耳式舞台監聽耳機IER-M9及IER-M7,以及頭戴式耳機MDR-Z7M2,雖然產品最快都要9月先至登場,但在展覽現場Sony攤位都全部可試。當中焦點是IER-Z1R,採用2圈1鐵架構,單元組裝在鎂金屬內殼再配合單元後方的管道及空間,控制單元的氣流及傳聲路線,令相位反應及分離度表現更加理想。IER-Z1R外形方面都相當出眾,鋯合金外殼配上圓形磨飾,甚具高級感。
《果籽》栽種品味,一籽了然。
http://as.appledaily.com/