Captain Price นักรบหนวดงามผู้เป็นตำนานของ Call of Duty: Modern Warfare
.
เชื่อว่าหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ทุกคนชื่นชอบและติดตามซีรีส์ Call of Duty ในภาค Modern Warfare มากเป็นพิเศษ ก็คงเป็นเพราะเสน่ห์ของ Captain Price ผู้กองหนวดงามแห่งหน่วย Task Force 141 คนนี้แน่นอน
.
ในเกือบทุกภารกิจ เราก็มักจะมีผู้กองคนนี้คอยเป็นคนสั่งการให้ผู้เล่นทำอะไรต่าง ๆ อยู่เสมอ และแน่นอนว่าเราจะต้องผ่านอะไรไปกับเขามากมายเช่นกัน
.
และก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ Captain Price ในเกมภาคใหม่ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าในมหากาพย์ไตรภาคของ Modern Warfare ภาคเก่านั้นเขามีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้างครับ
.
John Price เป็นทหารยศร้อยเอกของกองทัพบกแห่งอังกฤษ สังกัดหน่วยรบพิเศษ SAS มีชื่อฉายามากมายตามวีรกรรมที่เคยได้ทำไว้ เช่นนักโทษหมายเลข 627, 9051210, Black Viking ตาแก่ และอีกมากมาย
.
เขาเป็นคนละคนกับ Captain Price ที่ปรากฏตัวใน Call of Duty ภาคแรกและภาคสอง ซึ่งมีทฤษฏีว่าเป็นคุณปู่ของเขาที่เคยเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อนนั่นเอง
.
ในสมัยที่ยังประดับยศเป็นร้อยโทหรือผู้หมวดอยู่ใน ในปี 1996 เขาได้เข้าร่วมปฏิบัติการลับกับผู้กอง McMillan ในการสังหาร Imran Zakhaev พ่อค้าอาวุธผู้ทรงอิทธิพลในโลกใต้ดิน โดยการลอบเข้าไปใน Chernobyl ที่ถูกทิ้งร้างจากเหตุโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด เมื่อถึงจุดซุ่มยิง Price และ McMillan ก็สามารถเด็ดแขน Zakhaev จนขาดได้สำเร็จ และหนีออกมาได้อย่างเฉียดฉิว
.
และด้วยผลงานต่าง ๆ มากมาย ทำให้ Price ได้ประดับยศเป็นร้อยเอกหรือ Captain ในเวลาต่อมา
.
“ช่าย คนบ้าอะไรเนี่ยชื่อ Soap หน้าโง่อย่างแกเนี่ยนะผ่านการคัดเลือกมาได้”
.
หลายปีผ่านไป Captain Price ยังคงปฏิบัติหน้าที่ทำภารกิจให้กับ SAS อย่างขันแข็ง รวมไปถึงเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการที่เหล่าลูกทีมให้ความเชื่อใจ และลูกทีมคนใหม่อย่าง John ‘Soap’ McTavish ก็ให้ความเคารพและเชื่อฟังเขาอย่างที่สุด
.
Captain Price นำทีม SAS ออกตะลุยขัดขวางกลุ่มก่อการร้ายไปทั่วโลก ตั้งแต่บนเรือสินค้าของพวกเอสโตเนี่ยนที่ขนอุปกรณ์ที่ใช้ในการจุดชนวนหัวรบนิวเคลียร์ และค้นพบเบาะแสเป็นสัญลักษณ์ภาษาอารบิกที่เขียนเอาไว้ในตู้เก็บ และนำทีมหนีออกมาก่อนที่เรือจะถูกจมด้วยขีปนาวุธ MIG-29 ได้สำเร็จ
.
Price และหน่วย SAS เดินทางไปยังประเทศรัสเซีย เพื่อช่วยสายข่าวนามว่า Nikolai ที่ถูกจับไปยังหมู่บ้านที่เหล่าผู้คลั่งชาติของรัสเซียวางกำลังควบคุมอยู่ และด้วยการช่วยเหลือทางอากาศของเครื่อง AC-130H จากกองทัพอากาศสหรัฐ ทำให้พวกเขาพาตัว Nikolai ออกมาได้สำเร็จ
.
“มันชื่ออะไร! ฉันต้องการชื่อของมัน!”
.
ด้วยข้อมูลที่ได้มาจาก Nikolai ทำให้ Price และหน่วย Task Force เข้าถึงตัว Al Asad ในอาร์เซอร์ไบจานได้ และก็ได้รู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ก็คือ Imran Zakhaev ที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว ทำให้ทีม SAS ต้อง ขอความร่วมมือไปทางหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐ เพื่อตามจับตัวคนผิดและผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษให้ได้ โดยเริ่มจากลูกชายบุญธรรมของ Zakhaev อย่าง Victor แต่ยังไม่ทันที่จะได้เค้นความลับ Victor ก็ชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน
.
เรื่องราวยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อขีปนาวุธที่ถูกเก็บไว้ในเทือกเขาอัลไตถูกยิงออกไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่สหรัฐอเมริกา Price และลูกทีมจึงรีบรุดหน้าไปหยุดยั้งการทำงานของมันก่อนที่อเมริกาจะถูกถล่ม ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ พร้อมกับจัดการ Zakhaev ไปได้ ช่วยอเมริกาและโลกให้พ้นวิกฤติได้สำเร็จ
.
หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บจนหาย Price และ Soap ก็ได้รับการทาบทามจากนายพล Shepherd จัดตั้งหน่วยพิเศษ Task Force 141 ที่รวบรวมเหล่านักรบระดับหัวกะทิมาอยู่ด้วยกัน เพื่อทำภารกิจลับในการต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก โดยมีเป้าหมายหลักคือจับตัวหรือจัดการกับ Makarov ลูกน้องคนสนิทของ Zakhaev ที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
.
วันที่ 8 ตุลาคม 2013 Price นำทีม Task Force 141 เข้าปฏิบัติภารกิจในชื่อ Operation Kingfish เพื่อจัดการกับฐานของกลุ่มผู้คลั่งชาติรัสเซียในยูเครนร่วมกันกับ Soap , Ghost และ Roach โดยมีสมาชิกหน่วย Delta Force เข้าร่วมด้วย แต่ภารกิจกลับไม่เป็นไปตามแผนเพราะกองกำลังของพวกผู้คลั่งชาตินั้นมีจำนวนมากเกินไป ทำให้หน่วย Task Force 141 ต้องล่าถอย โดยมี Price ที่ถูกจับได้ และถูกคุมขังอยู่ในคุกนรก Gulag ในประเทศรัสเซีย และถูกตั้งชื่อรหัสใหม่ว่า นักโทษหมายเลข 627 นั่นเอง
.
สามปีต่อมา Soap นำทีม Task Force 141 กลับมาช่วยเขาออกจากคุกนรก Gulag ได้สำเร็จ เพื่อนำตัวเขากลับไปนำทีมจัดการกับ Makarov และเหล่าผู้คลั่งชาติอีกครั้ง
.
Price ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนที่จะตามล่า Makarov ให้จงได้ ซึ่งขัดกับจุดประสงค์ของ Shepherd ที่ต้องการหยุดยั้งสงครามก่อนที่จะไปตามล่าตัว Makarov ซึ่ง Price ก็ยอมร่วมมือและช่วยยิงจรวดขีปนาวุธที่มีระเบิด EMP ที่หยุดการทำงานของอากาศยานในกรุงวอชิงตันที่สงครามระหว่างอเมริกาและรัสเซียกำลังคุกรุ่นอยู่ ซึ่งก็ช่วยให้กองทัพของสหรัฐฯสามารถเคลื่อนทัพเข้ายึดทำเนียบขาวกลับคืนมาได้สำเร็จ
.
หลังเสร็จภารกิจกอบกู้วอชิงตัน Price ก็นำทีม Task Force 141 ออกตามล่า Makarov ต่อ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า Shepherd กลับทรยศพวกเขา นำกองทัพมาสังหาร Roach และ Ghost ที่ทำภารกิจในเทือกเขาคอเคซัส แม้ Price จะส่งข้อความไปเตือนทั้ง Roach และ Ghost แล้วแต่ก็ไม่ทันการณ์
.
“ประวัติศาสตร์ถูกเขียนโดยผู้ชนะ ถูกเติมเต็มด้วยคำโกหก ถ้ามันรอด แล้วเราตาย ความจริงของมันก็ถูกเขียนลงไป พวกเราจะหายไป Shepherd จะกลายเป็นวีรบุรุษ เพราะสิ่งที่เราต้องการในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์คือคำโกหกดี ๆ และแม่น้ำที่เต็มไปด้วยเลือด มันกำลังจะเขียนประวัติศาสตร์ที่หลอกลวงที่สุดได้สำเร็จแล้ว ความจริงของมันจะกลายเป็นเรื่องจริง แต่เฉพาะเมื่อมันยังมีชีวิต และเราตายไปเท่านั้น”
.
ด้วยไฟแค้นที่สุมอยู่ในอก Price ยอมสงบศึกกับ Makarov ชั่วคราวเพื่อแลกกับข้อมูลที่ซ่อนของ Shepherd เพื่อแก้แค้นให้กับทีม โดยได้ข้อมูลว่า Shepherd นั้นซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแห่งหนึ่งอัฟกานิสถาน และด้วยความช่วยเหลือของ Soap และ Nikolai สหายเก่า ทำให้พวกเขาสามารถแทรกซึมเข้ามาถึงฐานทัพลับของ Shepherd ได้สำเร็จ และหลังจากการไล่ล่าที่ยาวนาน Price และ Soap ก็สามารถจัดการปลิดชีพ Shepherd ได้ในที่สุด ล้างแค้นให้เหล่าลูกทีม Task Force 141 ได้สำเร็จ
.
Price พาร่างที่บาดเจ็บสาหัสของ Soap มารักษาตัวในเซฟเฮาส์ที่เทือกเขาหิมาลัย พร้อมกับที่หน่วย Task Force 141 ถูกขึ้นบัญชีดำกลายเป็นผู้ก่อการร้ายจากการสังหาร Shepherd พร้อมกับถูกตามล่าจากกองกำลังของ Makarov ด้วยอีกทาง แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Yuri คนสนิทของ Nikolai จนหนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียด
.
“ชีวิตที่นายเคยรู้จักจบลงไปแล้ว วันนี้เราต้องสู้เพื่อเอามันกลับมา”
.
หลังจากที่ Price และ Soap หลบซ่อนตัวอยู่สองเดือน พวกเขาและ Yuri ก็ออกมาทำภารกิจตามล่า Makarov อีกครั้ง และ แม้การยับยั้งการส่งอาวุธเคมีจะล้มเหลว แต่ Price ก็ไม่ล้มเลิก เขาได้ติดต่อหัวหน้าเก่าของเขา McMillan ที่ตอนนี้กลายเป็นบังคับบัญชาการทหาร เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับตัว Makarov จนได้เบาะแสที่สาวไปถึงตัว Waraabe อาชญากรสงครามรายใหญ่แห่งโซมาเลีย
.
หลังจากจัดการกับศัตรูทั้งกองทัพจนเข้ามาถึงตัวของ Waraabe ได้พร้อมกับการสอบสวนอย่างถึงลูกถึงคน เขาก็ได้ข้อมูลใหม่ที่สาวไปถึงตัวผู้ส่งข้อมูลในปารีส และจัดการส่งเรื่องให้หน่วยพิเศษ GIGN จัดการต่อ
.
Price และลูกทีมได้ข้อมูลว่า Makarov กบดานอยู่ในกรุงปราก แต่การณ์กลับกลายเป็นว่านี่เป็นกับดักที่ล่อพวกเขาให้มาติดกับ Soap บาดเจ็บสาหัสจากระเบิดที่กองทัพของ Makarov ลอบติดตั้งเอาไว้ Price และ Yuri จึงได้รีบพาร่างของ Soap หนีจากการโจมตีของ Makarov แต่ก็ไม่ทัน Soap เสียชีวิต พร้อมบอกความลับของ Yuri ว่า เขารู้จักกับ Makarov
.
ด้วยความเสียใจและโกรธแค้น Price จึงรีบเค้นข้อมูลจาก Yuri ทันที ซึ่งก็พบว่า Yuri นั้นมีส่วนร่วมในเกือบทุกเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ Makarov แทบทั้งสิ้น Price ที่เข้าใจเป้าหมายของ Yuri แล้วจึงยอมร่วมมือด้วยอีกครั้ง
.
ท้ายที่สุด Price และ Yuri ก็ร่วมมือกับหน่วย Delta Force ในการบุกทะลวงเข้าสู่ฐานทัพที่ซ่อนอยู่เหมืองเพชรในไซบีเรีย ช่วยเหลือประธานาธิบดีรัสเซียและบุตรสาวออกมาอย่างปลอดภัย นำไปสู่การเซ็นสัญญาสงบศึก เพื่อยุติสงครามระหว่างสองประเทศที่ดำเนินมาอย่างยาวนานในที่สุด
.
กระนั้นตัวการของเรื่องราวทั้งหมดยังไม่ถูกกำจัดไป Price และ Yuri รวบรวมอาวุธและชุดเกราะหนักเข้าบุกทะลวงโรงแรมในดูไบที่ Mekarov ซ่อนตัวอยู่ แม้จะต้องสูญเสีย Yuri ไปแต่ Price ก็สามารถจัดการปลิดชีวิต Makarov ได้อย่างสะใจ ปิดฉากสุดท้ายของการรบที่ยืดเยื้อยาวนานลงได้สำเร็จ
.
“สงครามของฉันจบลงพร้อมกับชีวิตแกไง” Price พูดกับ Makarov ก่อนเริ่มปิดฉากทุกอย่าง “นี่สำหรับ Soap!”
.
Price เป็นนักรบผู้กล้าที่ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จ แต่ขณะเดียวกันก็เชื่อใจลูกทีมและพวกพ้องของตนอย่างมาก แถมยังมีลูกล่อลูกชนที่เหล่าข้าศึกต้องยอมสยบมากมาย เช่นการสอบสวนแบบถึงลูกถึงคนจนข้าศึกต้องยอมปริปาก และเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น จำได้หมดว่าใครเคยทำอะไรไม่ดีเอาไว้กับเขา และพร้อมแก้แค้นให้กับมิตรสหายทุกคนเสมอ
.
สำหรับเนื้อเรื่องใน Call of Duty: Modern Warfare ภาคล่าสุดที่จะวางจำหน่ายในปลายเดือนนี้นั้น Captain Price จะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งจากที่เราได้เห็นไปนั้นเขาก็ยังคงเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปให้ได้ แต่ก็มีวาทศิลป์ในการโน้มน้าวขอร้องให้คนรู้จักมาช่วยเหลือเขาได้เช่นเดิม ส่วนดีกรีความเข้มข้นของการทำภารกิจจะดำมืดยิ่งกว่าเดิมแค่ไหน ก็ต้องมาดูกันในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ครับ
mig-29 price 在 India to buy MiG 29 fighter planes from Russia - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>