Exit bag ถุงตุยสังหาร
การทำร้ายหรือทรมารด้วยการใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะเพื่อให้ขาดอากาศให้ใจ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เห็นกันได้บ่อยๆในหนังหรือภาพยนตร์ ซึ่งในการใช้วิธีนี้ส่วนใหญ่คือเพื่อที่จะลดรอยบาดแผลและเพื่อให้ยากต่อการสูตร แน่นอนใครหลายๆคนคงไม่อย่างถูกเอาถุงครอบหัวเป็นแน่
แต่ในทางกลับกันก็มีคนเฉพาะกลุ่มที่อยากจะจบชีวิตตัวเองด้วยวิธีนี้เช่นกัน. ในปี 1990 มีการจดบันทึกเป็นครั้งแรกไว้ว่า โลกมนุษย์ได้คิดค้นอุปกรณ์ทางเลือกเพื่อช่วยเหลือในการจบชีวิตตัวเอง หรือเรียกง่ายๆว่าอุปกรณ์ฆ่าตัวตาย
โดยอุปกรณ์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นทุกพลาสติกเพื่อใช้ในครอบหัวและมีซิปล็อคไม่ให้อากาศไหลเข้าไป จากนั้นจะมีถังที่บรรจุก๊าซ Helium (ฮีเลียม) ใช้ท่อสายยางต่อจากตัวถังและเข้าไปยังถุงพลาสติกที่ครอบหัว ติดตั้งให้ทุกอย่างแน่นหนาก็เป็นอันที่เรียบร้อย
คุณสามารถปลิดชีวิตตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้กำกับโจ้. โดยอุปกรณ์ทางเลือกนี้ มีชื่อเรียกในทางสากลว่า Suicide bag หรือ Exit bag, นับตั้งแต่ช่วง 1990 - 2000 ข่าวคราวการมีอยู่ของเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ ได้แพร่กระจายไปตามอินเตอร์เน็ต สิ่งพิมพ์ และสื่อต่างๆ
จนทำให้การฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
กลุ่มที่สนับสนุนการุณยฆาตของประเทศออสเตรเลีย ได้มีการจำหน่าย Exit bag เป็นรุ่นกระเป๋าซึ่งสะดวกในการเคลื่อนย้ายและเริ่มมีจำหน่ายในช่วงปี 2002 , และกระแสการมีอยู่ของอุปกรณ์ฆ่าตัวตายในครั้งนั้นก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มที่ไม่สนับสนุน
การฆ่าตัวตายและนำไม่สู่การถกเถียงในเวลาต่อมา, จนในปี 2007 มีนักอาชญาวิทยาชาวแคนาดาซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนทางเลือกแก่ชีวิตหรือการฆ่าตัวตาย โดยกล่าวว่า''การมีอยู่ของอุปกรณ์เหล่านี้ ก็เพื่อเป็นทางเลือกในขบวนการหนึ่งสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย และผู้ที่ไม่สามารถ
ช่วยเหลืออะไรตัวเองได้แล้ว. ส่วนในปี 2008 , Ludwig Minelli (ลุดวิก มิเนลลี่) ทนายความชาวสวิส ได้ทำการถ่ายทำคลิปวีดีโอขั้นตอนการใช้อุปกรณ์ Exit bag โดยมีคน 4 คนเข้าร่วมในการปลิดชีวิตตนเองในครั้งนี้. ซึ่งการเลือกทางเดินชีวิตด้วยสูดดมก๊าซฮีเลียม
กลายมาเป็นกระแส ทำให้การตายโดยการใช้ Exit bag เริ่มเป็นที่ยอมรับในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ต่างสนับสนุนเพราะถือว่าการใช้วิธีนี้ เป็นวิธีที่ รวดเร็ว และเจ็บปวดน้อยที่สุด
ต่อมาในปี 2009 ผู้ก่อตั้งองค์กรอาสาสมัครการุณยฆาต หรือ Exit international ได้เขียนจดหมายถึงสมาชิกว่า, ค้นพบว่าการใช้ไนโตรเจนมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้ก๊าซฮีเลียม และยังสามารถหาได้ง่ายกว่า.
การปลิดชีพตัวเองด้วยการใช้ exit bag ยังเป็นการทำให้การตรวจชันสูตรพลิกศพยากขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าไม่ตรวจอย่างละเอียดแล้วละก็ คงบอกไม่ได้ว่าคนนี้ตายด้วยสาเหตุการใช้ Exit bag หรือไม่, และในผลสำรวจในนิวยอร์ก โดยเฉลี่ยคนที่ฆ่าตัวตายด้วยการใช้ Exit bag
ประมาณ 15 คนต่อปี จะไม่ค่อยมีร่องรอยการใช้อุปกรณ์หลงเหลืออยู่บนตัวผู้ตายเลยแม้แต่รอยฟกช้ำ. อย่างไรก็ตามทางเลือกการจบชีวิตตนเองด้วยวิธีนี้ก็มีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ในปี 2015 มีรายงานกรณีศึกษาได้กล่าวถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลว
ของการใช้ Exit bag โดยกล่าวว่า ถ้าผู้ใช้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจบชีวิตนั้น ได้มีคนหรืออะไรก็แล้วแต่มาขัดจังหวะ (เช่น ท่อก๊าชอาจจะหลุด,ถุงรั่ว,ก๊าซหยุดทำงานระหว่างทาง) จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดสภาวะขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงในระบบประสาทและสมองส่วนกลาง
ซึ่งเซลล์ในสมองมีความเซนซิทีฟเป็นอย่างมาก เมื่อเซลล์ในสมองขาดออกซิเจนจะทำให้เซลล์สมองตายในไม่กี่นาทีและส่งผลให้เกิดอาการโคม่า. พูดง่ายๆก็คือ ฆ่าตัวเองก็ไม่ตายและต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรานอนเป็นผักไปตลอดชีวิต, ฉะนั้นการใช้อุปกรณ์เหล่านี้จึงจำเป็น
ที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ.
แม้จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในช่วงเวลาหนึ่งแต่ก็มีบางรัฐของสหรัฐอเมริกาห้ามให้มีการซื้อขายอุปกรณ์ Exit bag อย่างเช่น รัฐโอเรกอน ที่ผ่านข้อกฏหมายห้ามขายอุปกรณ์ดังกล่าว และในปี 2011, FBI ได้ทำการบุกจับทลายกลุ่มธุรกิจสั่งซื้อ exit bag ในแคลิฟอร์เนีย.
การใช้ exit bag ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้ายหรือเป็นมะเร็งที่รักษาไม่หาย แต่ในทางตรงกันข้ามกลับมีประชากรส่วนใหญ่ที่ใช้ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและอยู่ในวัยกลางคน, และผู้ใช้ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกามักจะเป็นผู้ชายผิวขาว มากกว่าผู้หญิง
อย่างไรก็ตามแต่การจบชีวิตตนเองโดยการใช้ Exit bag ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งอย่างน้อยคุณก็ได้เลือก, แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่เลือกพยายามยัดเยียด exit bag ให้กับเราโดยที่เราไม่ได้เลือก.
minelli 在 Minelli | Facebook 的推薦與評價
Minelli. 11924 likes · 374 talking about this. New Single "Mariola" [email protected] | +40.(0)757.104.166 Management: [email protected]. ... <看更多>