新書推薦序文
網頁同名新書「當張仲景遇上史丹佛」即將出版,依照書籍出版慣例,會找幾位知名人士撰寫序文及簡單書評。然而,我們不願意只流於「客套」「俗套」,我們決定兩點準則來邀請序文及書評撰寫人:一是深刻了解我的背景,二是能仔細審閱書稿。非常感謝幾位老師、前輩、朋友的大力幫忙,不但撰寫序文或書評,也給我很多指教、反饋及深入討論。這裡先和讀者分享三篇序文,還有一些序文及書評仍在編輯中。繁體中文版計畫年底前正式出版,簡體中文版正在協商。至於英文版,那就還有很多工作要做,時間仍是個未知數。
=====
李飛飛:古老醫學現代化的挑戰之路
(人工智能專家、美國國家醫學院及國家工程學院雙院士、史丹佛大學工程學院講座教授)
我很榮幸地受邀推薦我摯友李宗恩博士的新書《當張仲景遇上史丹佛》。這本書很獨特, 李博士是一位資深的中醫專家和臨床醫生,卻也是一位經過嚴格科學訓練的科技人,在大膽蛻變深入中醫之前,他在矽谷有著成功的科技生涯。這本書反映了李博士與眾不同人生歷練下的洞悉力,文字清新流暢,內容時而讓人驚艷,時而讓人深思反省。
中醫和現代科學似乎是無限分開的兩個世界, 然而,李博士個人和他文筆下的討論,為讀者開啟了一個難得的窗口,窺見兩個充滿衝突卻又永遠相互纏繞世界的並存對偶性(duality of existence)。李博士的旅程,象徵著古老醫學現代化的挑戰之路,同時也象徵著對凡事以科技來定義的現代生活之深刻反思。李博士帶領我們尋求一種全新的方式來看待這兩個世界,我對李博士帶領我們探索的旅程深深感到興趣,也期許讀者一起參與這趟旅程!
Fei-Fei Li:Challenging path of the modernization of an ancient medicine
(Dr. Fei-Fei Li is a world leading expert in Artificial Intelligent. She is the inaugural Sequoia Professor in the Computer Science Department at Stanford University, Co-Director of Stanford’s Human-Centered AI Institute, and elected Member of both the US National Academy of Medicine and National Academy of Engineering.)
I’m honored and humbled to be asked to recommend my friend Dr. Andy Lee’s new book. I find this book very unique. The voice of Dr. Lee is that of a deep Chinese Medicine clinician and expert, but also a rigorously trained technologist who has carved a very successful career in the heart of Silicon Valley before the daring transition to a new career as a Chinese Medicine doctor. This book is a pleasantly easy and smooth read, yet oftentimes beautiful and introspective.
The worlds of Chinese Medicine and modern science seem to be infinitely apart, just like the worlds of Taiwan and the Silicon Valley. Yet, in Dr. Lee and his words, we the readers are given a rare glimpse into this duality of existence of two possibly conflicting yet eternally revolving worlds. The journey taken by Dr. Lee symbolizes the challenging path of the modernization of an ancient medicine, as well as a soulful reflection of the technologically defined modern lives. Dr. Lee is leading us to seek a new way of looking at both worlds. I’m intrigued by the journey that he is taking, and I sincerely invite the readers to join him on this journey together.
=====
李克明:帶你認識宏觀、科學、邏輯的中醫
(暢銷書《當孔子遇上哈佛》作者、前元大國際資產管理及元大創投公司董事長、由跨國商務律師金融高階經理人斜槓的傳世經典推廣者)
摯友李宗恩醫師的大作《當張仲景遇上史丹佛》問市,囑余作序;讓余有機會先睹為快,把書一口氣讀完,深有啟發!
這書可以勵志,宗恩兄生動自述了多次柳暗花明又一村的成長經歷,讀者會嘆道:有為者亦若是!
這本書記載了寶貴的中醫臨床醫術,以約三十個案例,分享了涉及的療程和依據的奧妙中醫醫理,有心的同道同好可以切磋研究!本書更闡述了宗恩兄所體悟的中醫醫道,毫無保留地分享了他所期許的中醫角色、醫病關係、「西醫檢測、中醫治療」!
中醫是中華文化的精髓,中國人都聽過中醫,許多人也看過中醫,就連外國人也知道針灸,但非中醫專業人員對中醫固然霧裡看花;中醫醫者亦受限於中醫的培育方式、產業結構及強勢西醫,也難免有故步自封、見樹不見林的迷失。
宗恩兄君子不器,斜槓人生,具備跨領域、扎實的專業訓練,故能在親炙倪海廈大師後,以宏觀廣角的視野、嚴謹的科學態度、縝密的邏輯思考,在多年臨床中驗證神奇奧妙的中醫醫理,並據此提出振興中醫的看法,讀來醍醐灌頂,茅塞頓開。
余強力推薦《當張仲景遇上史丹佛》!嚮往中華文化,想一窺中醫奧妙者該讀;想在治標的西醫之外,找到替代方案的中醫師、中醫同好、病人該讀;掌管國家醫療、公衛政策、中醫發展的領導者更應該閱讀!
=====
張慶瑞:物理忌妒 – 無用之用,是為大用
(台大特聘教授、中原大學講座教授、台灣大學前代理校長)
李宗恩是我剛回台灣任教時的學生,我是他應用數學的老師。台灣大學物理系的數學一直是物理系自己教,主要邏輯是物理系用的數學是要解決物理的工具,這與數學系的數學概念並不相同。宗恩當時是資優保送生,物理系那時有一群非常優秀的高中保送生,同儕互相刺激,要拿到高分非常困難。宗恩不但成績好又很外向,喜歡發問,而且他與他夫人是當時物理系的班對,所以我印象非常深刻。
他畢業後,我斷斷續續由同學口中聽到他的職涯轉變,但並未特別放在心上。一直 到二○○九年,我因為在國科會國合處服務,到美國史丹佛大學訪視當時我參與啟動的Stanford-Taiwan Biotechnology (STB),聽到宗恩居然已經變成灣區的名中醫師,有點訝異,但也不是特別難理解。因為聰明的人,只要有恆心,做什麼事都會成功。
後來,我們就一直透過微信聯絡。二○一六年,我擔任台大副校長時,因為參加台大北加州校友會,與宗恩面對面深入交談,才知道他因為困惑於父親的疾病,而深入研究醫學,進而拜入倪海廈門下,成為關門弟子。他那時就告訴我不少神奇故事,我那時由於事務繁忙,對於這類我理解知識以外的事情,基本上是聽了就儲存在腦中,作為日後備用的資料。
二○一九年我離開行政職後,便有許多時間思考,跨領域學問引起了我極大的興趣。 物理訓練最強大與扎實的是科學邏輯方法論,複雜系統模型簡單化再加上數學預測化。 其實,物理真正的本質訓練就在以簡馭繁,好的物理學家對事物的看法具備強大的簡約能 力。
在一九七○年代,科學界出現一個有趣的名詞叫「物理忌妒」(Physics Envy),就是 生物學家及其他領域的學者看到數學在物理學科如此成功,就想要複製物理成功的經驗;奇怪的是,只有在少數有些許成效,但基本上無法像物理一樣成功!也因此忌妒物理可以成功使用數學。物理忌妒不是忌妒物理,而是忌妒為什麼數學工具只能在物理上成功?看起來像是上帝特別寵愛物理,便引起大家忌妒。
領域的互動永遠是新知識的淵藪,現代的斜槓世代就是跨多領域的人才,然而老祖 宗卻告訴我們「鼯鼠五技而窮」,顯然歷史法則指出:沒有專精學門,是不容易出人頭地的。今日由於學問複雜與廣泛性提升,有些學問必須要跨領域互動才能了解與掌握問題所在,進而激發出解決的科學方法。而且這些跨領域互動初期必須沒有目的,才有機會激發出原創想法。
我最近與三創文化基金會合作推動「無用論壇」,就是希望利用跨領域對談培養一流人才。宗恩跨多學科的過程,學習動機多以好奇心為出發點,從未想到有用沒用。今天能成為華人界中醫祭酒,就是「無用之用,是為大用」的最佳典範。
《當張仲景遇上史丹佛》這本書的內容,雖然只是記載宗恩多年來所看到的各種疑難雜症,但從書名就知道這裡面其實也傳達了現代跨領域的重要意念,更嘗試由現代科學來看中醫的邏輯。
我最近常與跨領域人談知識論,知識大致可分成:
一、知道的知道:工程
二、知道的不知道:待了解的學問,也是已知與未知的交界
三、不知道的知道:經驗法則,但常可以重現
四、不知道的不知道:怪談與傳說
人類累積的已知愈來愈多,「知道的不知道」就愈多。物理學現有的知識是標準的 「知道的知道」,但是有許多學問我們不斷在使用,也很有效,但卻不完全知其所以然,我稱之為「不知道的知道」。中醫就是其中一種,這就是直覺與經驗的累積。
中醫的重現率不像物理學那般精準,也在於不完全知其所以然,所以急需要累積更多的數據,並有時間由「不知道的知道」發展轉化成「知道的知道」的狀態,這非常需要利用物理學的既有發展經驗來協助加速轉化的過程。宗恩具有充分的跨多領域專業訓練,相信在取得更多的中醫案例後,將有大智慧將中醫推動成「知道的知道」範疇。宗恩傳承東漢張仲景延續至倪海廈的正宗中醫思維,再結合台大物理系的科學邏輯基礎訓練,經歷史丹佛與矽谷應用科技的淬鍊,中學為體,西學為用,未來必定能真正完成「西醫精準化檢測,中醫客製化治療」的至高無上理想。將宏 觀醫學與微觀醫學並用,強固個體本身,隔絕入侵病毒。
本書是宗恩超越張仲景的起點,胡適的朋友以「我的朋友是胡適之」為榮,我深為 「我的學生是李宗恩」為傲。
=====
(http://andylee.pro/wp/?p=8966)
#當張仲景遇上史丹佛
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「modern biotechnology」的推薦目錄:
- 關於modern biotechnology 在 當張仲景遇上史丹佛 Facebook 的最佳解答
- 關於modern biotechnology 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於modern biotechnology 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最佳解答
- 關於modern biotechnology 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
- 關於modern biotechnology 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於modern biotechnology 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於modern biotechnology 在 What is the Difference between Old and New Biotechnology ... 的評價
modern biotechnology 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
"ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับ CPTPP โดยเฉพาะในประเด็นด้านการเกษตร"
เล็งๆ อยู่นาน ว่าจะลงมาเปลืองตัวพูดเรื่องนี้กับเขาด้วยดีไหม เพราะกระแสคัดค้านเรื่อง CPTPP นั้นก็แรงเหลือเกิน ไม่แพ้กับตอนเรื่องแบนสารเคมีทางการเกษตร (หรือตอนคัดค้าน GMO) ... แต่ถ้าไม่พูดอะไรได้บ้างเลย ก็เหมือนกับปล่อยให้พวก NGO กลุ่มเดิมๆ กลุ่มนั้น ออกมาสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนคนไทยได้ ... เลยขอพูดอะไรหน่อยแล้วกัน แต่ไม่เข้าไปตอบโต้ด้วยเหมือนสมัยก่อนแน่ๆ
CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership) หรือ ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก นั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบริษัท CP แต่เป็นแค่ชื่อใหม่ของความตกลง TPP ที่ไทยเราเคยจะเข้าร่วม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เข้า
ปัจจุบัน CPTPP มีประเทศเข้าร่วม 7 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก, แคนาดา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และเวียดนาม มีประชากรกว่า 415.8 ล้านคน ( 6% ของโลก) โดยในปี 2562 ไทยมีการค้ากับ CPTPP 7 ประเทศนี้ รวม 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (23.6% ของการค้าไทยกับโลก)
การเข้าร่วม CPTPP จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว มี GDP ขยายตัว 0.12% ( 1.33 หมื่นล้านบาท) การลงทุนขยายตัว 5.14% (1.48 แสนล้านบาท) มีตัวอย่างว่า ตั้งแต่มี CPTPP เวียดนามส่งออกไปประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้น 7.85% และสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.92% (ไทยส่งออกไป CPTPP เพิ่มขึ้นเพียง 3.23%)
แล้วยิ่งมีวิกฤตโรคโควิด-19 ก็ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ไทยต้องหาพันธมิตรใหม่ๆ หรือเข้าร่วมความตกลงการค้า (เช่น CPTPP) เพื่อให้ไทยยังสามารถอยู่ในห่วงโซ่การผลิตโลก เพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ และขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รายละเอียดของเอกสารข้อตกลง CPTPP ฉบับเต็มนั้น สามารถอ่านได้ที่
https://www.dtn.go.th/th/negotiation/category/5cff753c1ac9ee073b7bd20b ซึ่งมีรายละเอียดในเชิงกฎหมายและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ปัญหาคือกลุ่มเครือข่าย NGO ที่คัดค้านเรื่องนี้ มักจะนำเอาข้อมูลมาย่อแนะนำไปเผยแพร่ให้เกิดความเข้าใจที่ผิดๆ ดังเช่น เรื่องที่บอกว่า การเข้าร่วม CPTPP จะทำให้เกษตรกรไทยต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากนายทุนรายใหญ่ ห้ามเก็บเมล็ดพืชไปปลูกใหม่ ทำให้ต้นทุนการผลิตพืชผักของเกษตรกรแพงขึ้น จนไม่สามารถทำมาหากินได้อีก .... แต่ถ้าหยุดคิดดีๆ จะเห็นว่า สมาชิกหลายประเทศของ CPTPP ก็เป็นประเทศเกษตรกรรม ทำไมเขาถึงไม่มีปัญหากับเรื่องพวกนี้ ?
คำตอบคือ เพราะมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นเลยครับ ... สังคมไทยแค่โดนวิธีการรณรงค์แบบเดิมๆ ของเครือข่าย NGO พวกนี้ ที่พูดความจริงไม่ครบทุกด้าน และสร้างสีสันให้เลวร้ายจนเกินความจริง
ตัวอย่างเช่น อ้างว่าจะมีบริษัทต่างชาติมาดึงเมล็ดพันธุ์พืชพื้นเมืองของไทยไปปรับปรุงดัดแปลงได้ (ซึ่งอันนี้จริง ตามหลักการค้าเสรีในข้อตกลง CPTPP) แต่ไม่อธิบายเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช ปี 2542 ที่ให้สิทธิแก่หน่วยงาน เอกชน หรือนักวิจัยนำพันธุ์พืชไปปรับปรุงได้อยู่แล้ว
หรือเรื่องที่บอกว่า เกษตรกรต้องซื้อเมล็ดพันธุ์พืชจากบริษัทเอกชนในราคาแพง (ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะมันเป็นเมล็ดพันธุ์ดี ที่ผ่านการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์มาแล้ว) แต่ไม่ได้อธิบายเรื่องที่ว่า ไม่มีใครไปบังคับให้เกษตรกรต้องซื้อจากบริษัทไหน เขาสามารถเลือกซื้อจากบริษัทอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่า (แต่คุณภาพต่ำกว่า) หรือรับฟรีจากที่ราชการแจกจ่าย (ซึ่งคุณภาพยิ่งต่ำลงไปอีก) ก็ได้
ส่วนที่บอกว่า บริษัทต่างชาติจะนำพันธุ์พืชพื้นเมืองไปจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองนั้น ก็ทำไม่ได้ครับ เพราะพันธุ์พืชพื้นเมืองได้รับการคุ้มครองทางกฏหมายอยู่แล้ว ... ที่เขาจะจดทะเบียนกัน ก็มีได้แต่เฉพาะตัวของพันธุ์พืชสายพันธุ์ใหม่ ที่ผ่านการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์แล้วเท่านั้น
และจริงๆแล้ว เกษตรกรก็สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกต่อได้ เพียงแต่จะลักลอบนำมาผลิตขายเป็นเมล็ดพันธุ์เองไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา ตามแบบปกติเลยนะ .. เหมือนกับเราซื้อแผ่นซีดีภาพยนต์มาเปิดดูที่บ้าน หรือ ก๊อปปี้ไปดูที่ทำงาน ก็ได้ แต่ไม่ใช่ปั๊มแผ่นไปขายแข่งกับเจ้าของแผ่นหนังนั้น
ลองมาอ่านคำชี้แจงโดยละเอียดของเรื่องนี้ กันดูนะครับ จะเห็นว่ามันคนละเรื่องกัน กับที่แชร์ภาพการ์ตูนง่ายๆ นั้นแล้วทำให้เราตกใจกลัวกันไปหมดเลย ว่าจะเกิดหายนะกับเกษตรกรไทย (ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริง)
1. #ข้อกังวลเรื่องการห้ามเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์พืชไปปลูกต่อ
- ไม่ได้ห้ามเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกต่อ เกษตรกรสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์พืชในกลุ่มพันธุ์พื้นเมือง พันธุ์ดั้งเดิม พันธุ์ป่าของพืชทุกชนิด รวมถึงสมุนไพร และพันธุ์การค้าที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง ไปปลูกต่อได้เหมือนเดิม
- มีข้อยกเว้นให้เกษตรกร สามารถเก็บพันธุ์พืชใหม่ที่ได้รับการจดทะเบียนคุ้มครอง ไว้ใช้เพาะปลูกต่อในพื้นที่ของตนได้ และยังนำพันธุ์พืชใหม่นึ้ไปพัฒนาต่อยอด โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของพันธุ์ (ตาม UPOV 1991 Article 15)
- เมื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาอย่างถูกต้อง เกษตรกรมีสิทธิเพาะปลูก และจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากผลผลิตนั้น โดยไม่ผิดกฎหมาย และไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของพันธุ์
2. #ข้อกังวลเรื่องการผูกขาดเมล็ดพันธุ์แก่บริษัทเอกชน
- ไม่ได้เกิดการผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้แก่บริษัทเอกชนนั้น เนื่องจากคุ้มครองสิทธิแก่ผู้พัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ทั้งหมด ทั้งบริษัทเอกชน นักวิจัยภาครัฐ นักปรับปรุงพันธุ์พืชอิสระ นักศึกษา เกษตรกร หรือบุคคลทั่วไป ก็สามารถยื่นจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ได้
- ช่วยทำให้นักปรับปรุงพันธุ์ทั้งหลายเพิ่มการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืชมากขึ้น มีพันธุ์พืชใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เกิดการแข่งขันด้วยเรื่องคุณภาพของพันธุ์ ไม่ให้จำกัดอยู่เฉพาะรายใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท
3. #ข้อกังวลว่าจะลดทอนกลไกการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ
- ไม่มีข้อห้าม หรือลดทอนกลไกการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์ (Access and Benefit-Sharing: ABS) ไทยก็เป็นสมาชิกของอนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity: CBD) ซึ่งไทยก็มีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์
4. #ข้อกังวลว่าเกษตรจะซื้อเมล็ดพันธุ์แพงขึ้น
- เมล็ดพันธุ์พืชใหม่ๆ ที่ได้จดทะเบียนคุ้มครองอาจจะมีราคาแพงขึ้น แต่ไม่มีผลกระทบต่อพันธุ์พืชพื้นเมือง พันธุ์พืชป่า หรือพันธุ์การค้าที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง
- ราคาเมล็ดพันธุ์ในตลาดจะถูกกำหนดด้วยความดีเด่นของพันธุ์ คุณภาพเมล็ดพันธุ์ และผลผลิตตอบแทนที่ ซึ่งหากเกษตรกรเห็นว่าแพงไป ไม่คุ้มกับเงินที่ลงทุน เกษตรกรก็จะไม่ซื้อและไปซื้อพันธุ์อื่นที่ถูกกว่าได้
- นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถเลือกใช้พันธุ์ของหน่วยงานรัฐได้ด้วย
- การมีพันธุ์พืชใหม่ๆ หลากหลาย ออกสู่ตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรมีทางเลือกมากขึ้น ได้พันธุ์ที่ตรงกับตามความต้องการของตลาด
5. #ข้อกังวลเรื่องGMO
- ความตกลง CPTPP ไม่ได้กำหนดให้สมาชิกต้องปรับกฎหมายภายในประเทศในเรื่องสินค้าเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ (Modern Biotechnology) แต่อย่างใด ไม่ได้มีการบังคับเรื่องการเพาะปลูกพืช GMO แต่อย่างไร
จะเห็นว่า นี่แค่เรื่องเกี่ยวกับการเกษตรเรื่องเดียว ยังต้องอธิบายกันยาวขนาดนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ถูกนำมาอ้างแบบผิดๆ (เช่น สิทธิบัตรยา) ... ซึ่งก็หวังว่า ถ้าใครสนใจด้วยจริงๆ ควรจะพยายามศึกษาข้อมูลเยอะๆ จากทุกด้าน .. อย่าแค่ตามกระแส ว่าต้องไปช่วยกันคัดค้าน ไม่งั้นจะตกขบวนคนดีไปกับเขาด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เอกสาร FAQ
https://www.upov.int/about/en/faq.html#QF30
ข้อมูลจาก https://thestandard.co/commerce-announced-cptpp-issue/
และ
https://www.dtn.go.th/th/news/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88-cptpp-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%A5?cate=5cff753c1ac9ee073b7bd1c5
modern biotechnology 在 Scholarship for Vietnamese students Facebook 的最佳解答
Tin vui cho các bạn chuyên ngành Công Nghệ Sinh Học (CNSH) và Công Nghệ Thực Phẩm (CNTP). Bạn mình đang theo học chương trình thạc sĩ CNSH ở Hàn Quốc ( bạn í ở đấy gần 3 năm rồi) vừa mới gửi cho mình thông tin học bổng như sau: DU HỌC HÀN QUỐC 2014 CHUYÊN NGÀNH CÔNG NGHỆ SINH HỌC VÀ CÔNG NGHỆ THỰC PHẨM TẠI ĐẠI HỌC TỔNG HỢP SEJONG, HÀN QUỐC (MASTER AND DOCTORATE) Phỏng vấn (3hpm-5hpm tại Khoa Sinh học, ĐHKHTN, ĐHQG).... các chuyên ngành tham khảo dưới đây:
1.Dept. of Biotechnology Laboratory (Professor) : Molecular Pharmacology (Na Gyong Lee, Ph.D.)
Degree : Master/DoctorateIntegration program (1 person) Starting semester : 2014 spring or 2015 spring
Research area - Immune responses to human vaccines - Development of new vaccine adjuvants and human vaccines 2.Laboratory (Professor): Cancer and Stem cell biology (Chun JeihRyu, Ph.D.)
Degree: Doctorate (1 person)
Starting semester: 2014 spring
Research area Our lab is interested in studying various stem cells including human embryonic stem cells and cancer stem cells. Ongoing projects are the isolation and characterization of cell surface molecules on human embryonic stem cells and circulating tumor cells.
3.Laboratory (Professor):Cellular and Molecular Physiology (Eun-Yi Moon, Ph.D.)
Degree: Doctorate (1 person)
Starting semester: 2014 spring or 2014 Fall / 2015 spring or 2015 Fall
Research area Graduate students who study at the cellular and molecular physiology laboratory investigate ways to study cell migration of various cell types, tumor metastasis and inflammation, especially signal transduction, cytoskeletal reorganization and cytokine network using various in vitro and in vivo technologies. In addition, we develop anticancer drug and anti-inflammatory drug using various in vitro and in vivo assay methods.
4.Laboratory (Professor):Aging and Stem cell therapy lab (Changsung Kim, Ph.D.)
Degree: Master/Doctorate (1 person) Starting semester:2014 Fall
Research area Our lab focuses on a few sectors of research Area with modern stem cell technology. PI has deep knowledge in embryonic stem cell, iPSC, cardiac and neuronal disease pathology and physiology. Most of time we will use patient derived induced pluripotent stem cell to study human disease. Also we are increasing our research sector to use gene editing mediated stem cell therapy. 5.Laboratory (Professor): Cellular and Molecular Immunology Lab (Seokman Hong, Ph.D.)
Degree: Doctorate (1 person)
Starting semester: 2014 Fall / 2015 spring Research area We are interested in studying the function of immune regulatory cells such as natural killer T cells and regulatory T cells in autoimmune and allergic diseases (experimental autoimmune encephalomyelitis, inflammatory bowel diseases, atopic dermatitis) using various gene-modified murine models.
6. Laboratory (Professor) : Cell and Tissue Engineering Lab (Duk Jae Oh, Ph.D.)
Degree : Master(1 person) / Doctorate (1 person)
Starting semester: 2014 Fall / 2015 spring
Research area - Bioprocess development for animal cell technology including bioreactor operation, therapeutic protein production and collaboration with Korean industries - Gene therapy using non-viral gene delivery system Dept. of Food Science & Technology
7. Laboratory (Professor):Nano-Technology(Sang-HoonKo, Ph.D.) Degree : Master (1 person)
Starting semester: 2014 Spring or Fall / 2015 spring Research area Graduate students who study at the Food Nanotechnology Laboratory investigate ways to improve bioavailability and bioactivity of food ingredients, especially functional foods using nano and microencapsulation technology. In addition, we develop prototype food products using value-added technologies.
8. Laboratory (Professor):Food processing, Engineering, Rheology (Su-Yong Lee, Ph.D.)
Degree : Master (1 person)
Starting semester: 2014 Fall / 2015 spring or Fall
Research area - Environment-friendly cereal processing - Low-fat and low-calorie food applications - Novel food rheological technology
9. Laboratory (Professor): Food metabolism and Toxicology (Soon-Mi Shim, Ph.D.)
Degree : Master (1 person)/ Doctorate (1 person)
Starting semester: 2015 spring or Fall
Research area - Understanding aspects of absorption and metabolism of plant secondary metabolites. Particularly the flavonoids and phenolic acids, and how the metabolism influences biological effects. - Utilization of the systems of food processing to enhance bioavailability of plant secondary metabolites. Ultimately foremost to development of novel foods with enhanced health-related properties. - Understanding the impact of plant secondary metabolites on improving colon health. - Understanding how interactions between plant secondary metabolites con modify bioavailability and toxicity of toxic components found in food stuff, especially between flavonoids and heavy metals.
Source: st
modern biotechnology 在 What is the Difference between Old and New Biotechnology ... 的推薦與評價
A simple 5 minute video on traditional vs modern biotechnology or ancient vs new biotechnologyThe exact meaning of these two termsOld or ... ... <看更多>