หากใครนึกอยากกินอาหารอินเดียขึ้นมา คงจะคิดถึงย่านพาหุรัด สีลม หรือสุขุมวิทเป็นอันดับแรก 💥 น้อยคนนักจะรู้ว่าในซอยเล็ก ๆ ที่จรัญสนิทวงศ์ 11 ก็มีร้านอาหารอินเดียซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวเล็ก ๆ ด้วย ถ้ามองหน้าร้านผ่าน ๆ หลายคนก็คงคิดว่าเป็นร้านตามสั่งในชุมชนเท่านั้น แต่บอกเลยว่าร้าน “Bangkok Tadka” (บางกอกทัดก้า) 😍 เป็นร้านที่วงในสายอาหารอินเดียบอกต่อกันว่าเด็ดจริง! 😋
.
🛵 : สั่ง LINE MAN ได้ที่นี่! 👉🏻 https://lineman.onelink.me/1N3T/f4a0bf65
.
อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/news/bangkok-tadka
.
“ของที่ร้านก็จะเรียกเป็น ‘โฮะอาหารอินเดีย’ 🤩 เพราะเมนูมีทั้งเหนือ ทั้งใต้ ทั้งเบงกอล ผสมผสานกันไปหมด มีทั้งเมนูทั้งฟิวชั่น ทั้งออริจินอล เป็นร้านแบบตามสั่งว่าลูกค้าอยากกินอะไร และเราอยากจะขายอะไร”
.
คำตอบติดตลกของพ่อครัวและเจ้าของร้านคนเมืองเชียงใหม่-ลำพูน เชื้อสายอินเดีย “คุณนเรศ จันทร์ดอก” บอกเป็นนัยว่าที่ร้านไม่ได้ขายเมนูเฉพาะภูมิภาค ซึ่งร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะขายอาหารอินเดียเหนือ และมีบางส่วนเป็นอาหารอินเดียใต้ไปเลย แต่ที่ “Bangkok Tadka” เป็นการรวบรวมเมนูจากประสบการณ์เดินทางอันโชกโชน เริ่มต้นจากเกิดที่ภาคเหนือ ย้ายตามพี่น้องไปภาคใต้ สลับกับอยู่กรุงเทพและไปทำงานต่างประเทศด้วย ☺
.
จุดเริ่มต้นที่คุณนเรศก้าวเท้าเข้าสู่วงการร้านอาหาร คือการทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ครั้งหนึ่งเกิดวิกฤตทีมครัวของร้านลาออกยกแผง จึงตัดสินใจลงครัวกับเจ้าของร้านด้วยสปิริตที่ไม่อยากให้ร้านต้องปิดลง ช่วงเวลาที่ต้องปรับบทบาทจากผู้จัดการมาเป็นพ่อครัวชั่วคราวนั้นเอง ทำให้คุณนเรศค้นพบว่าการทำอาหารก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง จนถึงกับเอ่ยปากขอทำครัวต่อไป 🥰 ไม่กลับไปเป็นผู้จัดการที่ต้องดีลกับลูกค้าแล้ว นอกจากนี้ ยังเคยเปิดร้านอาหารอินเดียที่เชียงใหม่ และเข้าร่วมการฝึกทำอาหารที่นครกัลกัตตา ประเทศอินเดียด้วย
.
ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา คุณนเรศและภรรยาย้ายมาปักหลักที่กรุงเทพฯ มาลงท้ายทำในสิ่งที่รักคือทำอาหาร แต่เน้นที่งานจัดเลี้ยงให้กับสถาบันศึกษาและบริษัทที่มีชาวต่างชาติ ไม่ได้เปิดเป็นหน้าร้าน จนมีอาจารย์และนักศึกษาต่างชาติที่ได้ชิมอาหาร ต่างก็ติดใจ ขอตามมากินที่บ้าน ขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ พบปะสังสรรค์กันในกลุ่มแบบกันเอง และมีลูกค้ามาแวะเวียนที่บ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตัดสินใจเปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการ และใช้ชื่อร้านว่า “Bangkok Tadka” ซึ่งทัดก้าแปลว่าการช็อกเครื่องเทศหรือเจียวเครื่องเทศในน้ำมันร้อน ๆ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม 🤤
.
วันนี้เราได้มาเยือนร้าน “Bangkok Tadka” ตั้งแต่เช้า ลง MRT สถานีจรัญ 13 เดินเข้าซอยจรัญ 11 ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าจะมีร้านอาหารในซอยนี้จริง ๆ หรือ? แต่เข้ามาได้ประมาณ 300 เมตร ก็ได้กลิ่นเครื่องเทศหอม ๆ โชยมาจากห้องแถวที่เป็นตึกเก่าก็เริ่มมั่นใจขึ้นว่ามาถูกที่แล้ว ในครัวมีคุณนเรศง่วนอยู่กับการเตรียมอาหาร คุมตำแหน่งหน้าเตา ปรุงรสอาหารทุกจานด้วยตัวเอง 🤩 มีลูกมือคือภรรยาชาวอินเดีย “คุณสุนิตา นายัร” ที่ได้พบรักกันที่กัลกัตตาคอยช่วยทำเมนูรองและเสิร์ฟลูกค้า
.
เช้านี้เราได้ลองชิมอาหารอินเดียกันแบบชุดใหญ่ จัดมาเต็มโต๊ะ เริ่มต้นที่อาหารเรียกน้ำย่อยก็จัดเต็มจนเกือบเป็นเมนคอร์สเสียแล้ว เมนูกินเล่นที่ทางร้านนำเสนอคือ “Samosa” แป้งทอดยัดไส้คล้ายกะหรี่พัฟ มีตัว “Original curry potato” ที่เป็นมันฝรั่งผสมเครื่องเทศแบบดั้งเดิม ความเก๋คือพ่อครัวใส่ความสร้างสรรค์เข้าไป เอาใจวัยรุ่นยุคใหม่ มี “Cheese spinach Samosa” หรือไส้ผักโขมชีสยืด ๆ หรือถ้ารักชีสสุด ๆ ก็สั่ง “Cottage cheese Samosa” ไปเลยก็ได้ ส่วนไส้ที่เป็นเนื้อสัตว์มีให้เลือก 2 อย่างคือ “Chicken Samosa” ไส้ไก่บดผัดเครื่องเทศและ “Lamb Samosa” เนื้อแกะนั่นเอง ข้อดีคือสั่งเป็นชิ้นผสมกันหลาย ๆ ไส้ได้ ราคาเริ่มต้นที่ชิ้นละ 15 บาทเท่านั้น พ่อครัวกระซิบว่าอนาคตอยากทำไส้ฟิวชั่นกว่านี้อีกหน่อย อย่างซาโมซ่าไส้แซลม่อน ก็น่าจะดี ทางเราได้ฟังแล้วก็น้ำลายสอ กดติดดาวรอไว้เลย 🌟
อาหารกินเล่นตัวที่น่าจะถูกใจคนไทยไม่แพ้กันคือ “Chicken Tikka” เมนูนี้กินง่าย เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นยาว ๆ คล้ายไก่ strips คลุกเครื่องเทศรสเผ็ด บีบมะนาวใส่มีความจี๊ดจ๊าด 🍗🌶 ชอบที่เนื้อไก่ไม่แห้งแบบไก่ย่างทั่วไป แถมยังทำออกมาได้ดีเหมือนไก่ชุบแป้งบาง ๆ ทอด แต่จริง ๆ แล้วใช้วิธีการหมักแล้วย่าง 2 ครั้ง ทำให้ตัวเครื่องเทศข้างนอกมีความกรอบแต่ยังคงความนุ่มของเนื้อไก่ไว้ได้
นอกจากนี้ยังมี “Onion Bhaji” หัวหอมชุบแป้งทอด ตัวแป้งผสมเครื่องเทศ ทำให้มีรสหวานปลายลิ้นกับกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ มีน้ำจิ้มหวานแยกไว้ให้ เรียกว่าเทมปุระสไตล์อินเดียก็ว่าได้ ส่วนใครที่ไม่อยากของทอด มีเมนูติ่มซำสไตล์เอเชียใต้ที่เรียกว่า “Veg Momo” และ “Chicken momo” อาหารแนวทิเบต ภูฏานก็มาด้วย! 💥 ของที่นี่ลูกค่อนข้างใหญ่กว่าร้านทั่วไป เป็นอาหารไซซ์ใหญ่สไตล์คุณนเรศนั่นเอง และรสชาติก็มีเครื่องเทศบาง ๆ ไม่จัดจ้านเกินไปแบบที่โมโม่ควจะเป็น
.
แค่เมนูเรียกน้ำย่อยก็มีความหลากหลายสไตล์โฮะ ๆ แบบที่คุณนเรศบอกไว้จริง ๆ แต่เราคิดว่าหัวใจหลักของร้านนี้คือเมนูแกงต่างหาก เพราะมีหลายประเภทและหลายเมนูเป็นอาหารท้องถิ่นของอินเดียด้วย เริ่มต้นที่สายมังสวิรัต ต้องยกนิ้วให้เมนู “Palak Dal” แกงถั่วเหลืองผสมผักโขมและกระเทียม 💚 ตัวนี้ถูกปรับให้เข้าปากคนไทยมากขึ้นด้วยการทำให้รสชาติกลมกล่อม ลดมัน ลดเลี่ยน จากต้นฉบับแกงถั่วอินเดีย หรือถ้าใครไม่ชอบถั่วก็มี “Palak Paneer” แกงผักโขมผัดค็อทเทจชีสแบบอินเดีย ที่เรียกว่า Paneer (ปะนีร์) บอกตามตรงว่าเคยกินเมนูนี้มาหลายเจ้าแล้ว แต่ไม่เคยเห็นใครทำออกมาในรูปแบบที่ใช้เครื่องเทศหนาขนาดนี้ แถมตัวผักโขมไม่ได้ปั่นละเอียดจนเหลว จึงมีเนื้อสัมผัสของผักโขมให้เคี้ยวด้วย
.
ส่วนเมนูแกงที่มีเนื้อสัตว์ทำให้เราฟินมากที่สุดในวันนี้ โดยเฉพาะ “Bangal Mustard” หรือปลาผัดซอสมัสตาร์ดเป็นเมนูท้องถิ่นจากฝั่งเบงกอล จานนี้เลิศตรงที่เป็นเมนูที่ไม่ค่อยพบในร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพฯ ส่วนร้านไหนที่มีขายก็จะทำเนื้อปลาออกมาไม่ได้แบบนี้ คุณนเรศผัดตัวซอสให้มีความครีมมี่จากมัสตาร์ด 2 แบบ แล้วค่อยลงเนื้อปลาที่หลัง ทำให้ปลาไม่เละ เนื้อเด้งชิ้นใหญ่ หลังจากได้ชิมแล้ว คุณนเรศก็เล่าปนขำว่าเมนูนี้ก็ได้มาพร้อมกับได้ภรรยาเลยนั่นแหละ! เพราะนี่คือเมนูท้องถิ่นของบ้านเธอ ✨
.
อาหารทะเลอีกจานคือ “Black pepper prawn” กุ้งผัดพริกไทยดำและใบแกงกะหรี่ ตัวนี้เป็นเมนูติดดาวอีกตัวของทางร้าน เหมาะสำหรับคนชอบกินสมุนไพรหนัก ๆ เมนูนี้มาจากทางใต้ของอินเดีย ซึ่งจะมีความหนักเครื่องเทศเป็นพิเศษ รสชาติก็จะจัดจ้านกว่าจานอื่น ๆ 🔥
.
ปิดท้านด้วยแกงท็อปฮิตที่ลูกค้าประจำชอบสั่ง นั่นคือ “Chicken Kadhai” แกงไก่กะดัย คล้าย ๆ ไก่ทิกก้า แต่หนักเครื่องเทศมากกว่า ระหว่างที่ทำจานนี้ เห็นว่ามีใส่โยเกิร์ตลงไปผัดด้วย จานนี้ก็ถูกใจเราเช่นกัน เพราะถูกปากตรงที่มีพริกหยวกมาช่วยชูรสอาหาร เนื้อไก่ทำออกมาได้นิ่ม เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ควรสั่ง 👍🏻
.
แกงและอาหารกินเล่นทั้งหมดวันนี้ สามารถกินได้กับแป้งโรตีของที่ร้าน มีหลายแบบให้เลือก ทั้ง “Garlic Naan” การ์ลิคนาน หรือนานกระเทียม, “Cheese Naan” นานชีสของโปรดของหลายคน, “Chapati (Plain roti)” จาปาตีหรือโรตีธรรมดา และ “Parattha” พาราธ่า โรตีโฮลวีทจากทางเหนือ เนื่องจากว่าทางร้านยึดคอนเซปต์ตามสั่ง ใครอยากสั่งข้าวมะลิแบบไทย ๆ มากินก็บอกกับเจ้าของร้านไว้ก่อนได้เลย หรือถ้าใครไปคนเดียว อยากกินอะไรที่จบในตัว แนะนำให้สั่งข้าวหมกสูตรเด็ดของทางร้าน มีให้เลือกทั้งหมดปลา หมกไก่ หมกผัก ซึ่งวันนี้เราได้ลองตัว “Chicken Biryani” และ “Chicken Tikka Masala Biryani” ใช้ข้าวบาสมาติแบบอินเดีย โปะด้วยสะโพกไก่ชิ้นใหญ่มากกกกก ตัว Tikka Masala รสชาติจัดจ้าน มีแกงข้น ๆ คลุมเนื้อไก่ เข้ากันได้ดีกับข้าวหมก 💥
.
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วและได้ดูภาพอาหารกันแบบจุใจ หากลองเปรียบเทียบราคากับขนาดและวัตถุดิบทั้งหมดแล้ว จะเห็นว่าคุ้มค่าสุด ๆ เป็นความตั้งใจของคุณนเรศที่อยากขายอาหารในราคาน่ารัก ๆ สบายกระเป๋า ☺ เพื่อให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารอินเดียกล้ามาลองกิน เพราะสมัยที่อาหารอินเดียยังไม่ป๊อปปูล่าร์ในไทย ส่วนใหญ่จะขายในร้านหรูที่มีราคาสูง ขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ อาหารของ “Bangkok Tadka” จึงมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 บาท แกงจะอยู่ที่ 80-150 บาท เท่านั้น และถ้าเป็นเมนูกุ้งหรือแพะก็จะแพงค่าวัตถุดิบขึ้นมาอีกนิดเดียว
.
ใครที่พอได้ยินชื่อเสียงของ “Bangkok Tadka” มาบ้าง จะรู้ว่าทางร้านรับลูกค้าแค่วันละ 2 โต๊ะ และต้องโทรจองก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ว่าทางร้านต้องการจะทำเป็นไฟน์ไดน์นิ่งหรือไพรเวทไดน์นิ่ง แต่วันนี้เราเข้าใจแล้วว่า คุณนเรศทำอาหารแบบจานต่อจาน ไม่ได้ทำทิ้งไว้แล้วมาอุ่น บวกกับพื้นที่ในร้านไม่ได้กว้างขวางนัก อย่างที่บอกว่าเหมือนร้านตามสั่งแถวบ้านจริง ๆ ดังนั้นถ้าอยากไปกินที่ร้าน แนะนำให้โทรสอบถามที่เบอร์ 098-103-1986 หรือแอดไลน์ก่อน ถ้าฟลุ๊ค ๆ อาจจะปุบปับเข้าไปกินได้ หรือถ้าช่วงร้านคิวแน่นก็อาจจะต้องรอสักหน่อย ซึ่งทางร้านยินดีให้บริการแบบเดลิเวอร์รีมากกว่า ใครไม่สะดวกเดินทางก็สามารถกดสั่งจาก LINE MAN ได้ง่าย ๆ 🛵
.
🍴 : Bangkok Tadka (บางกอกทัดก้า)
📍 : 127 ซอย จรัญสนิทวงศ์ 11 กรุงเทพมหานคร (เข้าซอยจรัญสนิทวงค์ 11 ประมาณกลางซอยตึกแถวสีเขียวอยู่ซ้ายมือติดกับร้านเสรรมสวยก่่อนถึงแยกอนุบาลรุจิโรจ และก่อนถึงวัดซิก)
📞 : โทร 098-103-1986
⏰ : เปิด อังคาร - อาทิตย์ 11.00 - 19.30 น.
⭐️ : ดูพิกัด และ รีวิวเพิ่มเติม 👉🏻 https://www.wongnai.com/restaurants/367112VD
.
#Saveร้านอาหาร
________________________
😍 ช่วงนี้กินร้อน แยกจาน ล้างมือบ่อย ๆ น้าเป็นห่วง
🚗 ค้นหาข้อมูลร้านอาหารจากทั่วประเทศพร้อมอ่านและร่วมแบ่งปันรีวิวกันได้ที่แอป Wongnai
🍴 ดาวน์โหลดฟรีที่นี่ >> bit.ly/2MRnppt
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過92萬的網紅ochikeron,也在其Youtube影片中提到,Kakiage is Japanese vegetable fritters, sometimes with seafood. Vegetable strips are the main ingredients. Leftover vegetables are okay! Vegan/Vegetar...
「onion bhaji」的推薦目錄:
onion bhaji 在 ochikeron Youtube 的最佳解答
Kakiage is Japanese vegetable fritters, sometimes with seafood. Vegetable strips are the main ingredients. Leftover vegetables are okay! Vegan/Vegetarian people can use Kombu Dashi broth for the dipping sauce 👍
Using round aluminum foil molds, you can deep fry the vegetable strips with less batter coated. In this way Kakiage becomes very light and crispy 😋
You can serve it with rice or Udon noodles for example, as a side dish. Or, you can put on top of rice or Udon noodles to make a bowl dish. It is up to you 😉
I used Pink Deep Fryer by Fujihoro
https://amzn.to/2Tqkrps
Other Tempura Recipes:
Tempura Moriawase (Assorted Tempura with Seafood and Vegetables)
https://youtu.be/59PnfxUmNjI
Egg Tempura
https://youtu.be/y0D8nfsZMS8
Quick Tip: How to Store / Reuse / Dispose of Deep Frying Oil
http://www.youtube.com/watch?v=zRyoZ8bybSo
---------------------------------
Light and Crispy Kakiage Tempura (Japanese Vegetable Fritters Recipe)
Difficulty: Easy
Time: 15min
Number of servings: 4 pieces of 8cm (3inch) Kakiage
Ingredients
100g (3.5oz) onion slices
30g (1oz) carrot strips
30g (1oz) whole kernel corn
--Tempura Batter
* 1/2 cup ice-cold water
* 1/2 cup all purpose flour
--Tentsuyu (Tempura dipping sauce)
* 100ml Dashi broth (using packaged dashi powder saves time)
* 2 tbsp. Mirin (sweet Sake)
* 2 tbsp. soy sauce
vegetable oil for deep frying
Directions:
1. Cut aluminum foil about 30cm (12inch) long, fold it into quarters lengthwise. Make a ring then fold the ends together to make 8cm (3inch) circle. (please see the video)
2. Place the cut vegetables in a bowl. Add 1 tbsp. of all purpose flour from Tempura Batter, then coat evenly with your hands.
3. Tempura Batter: Mix ice-cold water and all purpose flour. Make sure to use ice-cold water not to activate the gluten. The batter should be lumpy, do not over-mix.
4. Add the vegetables then toss lightly.
5. Heat 5cm (2inches) of oil in a pan to 170C (340F). Place one or two aluminum foil rings (depending on the size of the pan), then put 1/4 of the vegetables in each ring little by little to form into circles. When the bottoms are cooked, remove the rings, flip them over and cook thoroughly until crisp golden. Then drain well. (Do not deep fry too many at once.)
6. Tentsuyu: In a pan, bring Dashi broth, Mirin, and soy sauce to a boil. You can also microwave until it comes to a boil. **
7. You can eat with salt, with Tentsuyu, or serve on top of rice with Tentsuyu to make Tendon (Tempura rice bowl), etc... it is up to you.
**For tentsuyu, you can use Yamasa's Konbu Tsuyu (3 times concentrated Konbu kelp seaweed soup stock). You just need to dilute it with hot water as directed on the package. This product is very convenient and it is available overseas!
https://amzn.to/2Yc3GEF
レシピ(日本語)
https://cooklabo.blogspot.com/2020/05/light-and-crispy-kakiage-tempura.html
---------------------------------
Music by
YouTube Audio Library
Follow me on social media. If you have recreated any of my food, you can share some pictures #ochikeron. I am always happy to see them.
♥FOLLOW ME HERE♥
http://instagram.com/ochikeron/
https://www.facebook.com/ochikeron
https://plus.google.com/+ochikeron
http://twitter.com/ochikeron
♥My COOKBOOK available on Amazon Kindle♥
http://amzn.to/2EwR3ah
NO MORE hard copies... those who got one are lucky!
♥More Written Recipes are on my BLOG♥
http://createeathappy.blogspot.com/
♥My Recipe Posts in Japanese♥
http://cooklabo.blogspot.jp/
http://cookpad.com/ami
http://twitter.com/alohaforever
♥and of course PLEASE SUBSCRIBE♥
http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1