ทำไม ญี่ปุ่น จึงเป็นประเทศแห่ง Character ? /โดย ลงทุนแมน
375,000 ล้านบาท คือ มูลค่าตลาดของการขายลิขสิทธิ์สินค้าในแต่ละปี
ที่มาจากธุรกิจแครักเตอร์ของญี่ปุ่น
เราทุกคนคุ้นเคยกับความน่ารักของ เฮลโลคิตตี้
ความสนุกสนานของ โปเกมอน
และความซ่าของ คุมะมง
เรื่องราวของแครักเตอร์ญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่ได้โลดแล่นอยู่แค่ในโลกจินตนาการเท่านั้น
แต่อยู่บนสมุด กระเป๋า จานชาม เกม การ์ด ไปจนถึงรถไฟ
อะไรที่ทำให้ญี่ปุ่นสามารถต่อยอดจากเรื่องราวในจินตนาการมาสู่โลกแห่งธุรกิจ
และสร้างรายได้อย่างมหาศาล..
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม ญี่ปุ่น จึงเป็นประเทศแห่ง Character ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ด้วยภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะ แยกตัวโดดเดี่ยวออกจากแผ่นดินใหญ่
ญี่ปุ่นจึงมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาเนิ่นนาน
ถึงแม้จะมีการรับวัฒนธรรมมาจากจีนและโลกตะวันตก แต่ท้ายที่สุด
ชาวญี่ปุ่นก็สามารถเลือกสรร และหลอมรวมเข้ากับความเชื่อของตัวเองได้อย่างกลมกลืน
หนึ่งในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น คือเชื่อว่าเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะสิงสถิตอยู่ในทุก ๆ อย่างรอบตัว ทั้งต้นไม้ แม่น้ำ ภูเขา ทำให้มีการแกะสลักหินเป็นเครื่องรางพกติดตัวมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อเป็นคุณค่าทางจิตใจ ชาวญี่ปุ่นจึงมีความคุ้นเคยกับการประยุกต์สิ่งที่เป็นนามธรรม ให้มาอยู่บนสิ่งของรอบตัว
พอมาถึงสมัยเฮอัน ราวศตวรรษที่ 10 จึงเกิดคำว่า “คาวายูชิ” ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า
“คาวาอิ” ในปัจจุบัน ที่ใช้บรรยายความรู้สึกที่มีต่อสิ่งที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบของจริง
เช่น ของใช้, ตุ๊กตา, เครื่องรางที่แกะสลักเป็นรูปร่างต่าง ๆ
ราวปลายศตวรรษที่ 19 คือสมัยปฏิรูปเมจิ เป็นยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมตามแบบชาติตะวันตก เกิดอุตสาหกรรมสื่อและสิ่งพิมพ์ มีการประยุกต์วาดภาพเรื่องราวเป็นช่อง ๆ
และตีพิมพ์เป็นหนังสือคล้ายกับการ์ตูนของชาวตะวันตก ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกสิ่งนี้ว่า “มังงะ”
จนมายุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเสียหายหนัก
ญี่ปุ่นต้องใช้ระยะเวลาราว 10 ปี ในการฟื้นฟูภาคการผลิตของใช้จำเป็น และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเศรษฐกิจเริ่มเข้าที่ในช่วงทศวรรษ 1960s ผู้คนก็เริ่มมองหาความบันเทิงให้กับชีวิต
เป็นช่วงเวลาที่โทรทัศน์เริ่มแพร่หลาย มีการนำเรื่องราวจากมังงะมาสร้างบนจอโทรทัศน์
ซึ่งมังงะที่ถูกฉาย ไม่ว่าจะบนจอโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ จะถูกเรียกว่า “อานิเมะ”
อานิเมะเรื่องแรกบนจอโทรทัศน์ ฉายในปี 1963 คือเรื่อง Astro Boy หรือเจ้าหนูปรมาณู ของ Osamu Tezuka หลังจากอานิเมะเรื่องแรก ก็มีมังงะอีกหลายเรื่องได้ถูกนำมาทำเป็นอานิเมะ
ไม่ว่าจะเป็น โดราเอมอน, ดราก้อนบอล, เซเลอร์มูน, วันพีซ ซึ่งล้วนโด่งดังไปทั่วโลก
นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960s เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี
จนก้าวขึ้นมามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ในช่วงทศวรรษ 1980s
ตลาดการบริโภคของชาวญี่ปุ่นก็ขยายตัวตาม ทำให้เกิดกระแสการบริโภคที่มองหาความแตกต่างจากของใช้จำเป็นทั่วไป มีความเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มคุณค่าทางจิตใจ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกประการก็คือ บทบาทของผู้หญิงในสังคมญี่ปุ่น
แต่เดิมผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานแล้วต้องรับผิดชอบหน้าที่แม่บ้านอย่างเต็มตัว แต่เมื่อเศรษฐกิจเติบโตขึ้น ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสทำงานนอกบ้านมากขึ้น จึงมีรายได้เลี้ยงตัวเอง และมีอำนาจซื้อที่มากขึ้น
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมีผู้หญิงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ
ทำให้มีการนำวัฒนธรรมคาวาอิเข้ามาประยุกต์ใช้กับวงการธุรกิจ
ซึ่งวัฒนธรรมคาวาอินี้ ก็ถูกนำมาประยุกต์เป็นสิ่งของ กลายเป็นสินค้าที่สร้างโอกาสทางธุรกิจมากมาย
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “การสร้างแครักเตอร์” เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ สร้างเรื่องราว
เพิ่มคุณค่าให้กับสินค้านั้น ๆ และดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มองหาความเฉพาะตัว
โดยแครักเตอร์ของญี่ปุ่น จะมีจุดเด่นอยู่ 3 ประการหลัก ๆ คือ..
ประการที่ 1 แครักเตอร์ญี่ปุ่นจะมีลายเส้นที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มองเห็นครั้งแรกก็สามารถตอบได้เลยว่านี่คือตัวอะไร ไม่ว่าจะเป็น คุณลุง หมี แมว แม้กระทั่งชิ้นเทมปุระ
การออกแบบที่เรียบง่ายนี้ ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากปรัชญาการออกแบบของญี่ปุ่น
ที่มักซ่อนความสวยงามและลึกซึ้งไว้บนความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว
ประการที่ 2 ใส่ชีวิตจิตใจและเรื่องราว ให้มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุด
เช่น มีอายุ อุปนิสัย อาหารที่ชอบ วันเกิด ความสามารถพิเศษ กรุ๊ปเลือด ไปจนถึงเป้าหมายในชีวิต
ประการที่ 3 มีการสร้าง Story ให้มีเรื่องราวในชีวิตของแครักเตอร์นั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง
เช่น ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ พบคู่ชีวิต แต่งงาน และมีลูก
วัฒนธรรมการสร้างแครักเตอร์ เริ่มถูกหลอมรวมเข้ากับภาคธุรกิจ
และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงทศวรรษ 1990s
จนเมื่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นประสบปัญหาฟองสบู่
และภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมต้องย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศเนื่องจากค่าแรงที่สูง
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเปลี่ยนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หันมาให้ความสำคัญกับการส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรม หรือ “Soft Power” ไปยังต่างประเทศ
โดยมีแครักเตอร์เป็นหัวรถจักรสำคัญของ Soft Power
ซึ่งแครักเตอร์ของญี่ปุ่น จะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
ออริจินัลแครักเตอร์, มังงะแครักเตอร์ และแมสก็อตแครักเตอร์
1. ออริจินัลแครักเตอร์
เป็นแครักเตอร์ที่ถูกสร้างโดยบริษัทเอกชน เพื่อนำไปทำเป็นสินค้าและบริการ หรือเพื่อขายลิขสิทธิ์ แครักเตอร์ที่น่าสนใจ ก็คือ เฮลโลคิตตี้
ซึ่งบริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แครักเตอร์นี้ ก็คือ บริษัท Sanrio
เฮลโลคิตตี้ ถูกออกแบบครั้งแรกในปี 1974 ขณะที่บริษัท Sanrio ยังเป็นบริษัทขายผ้าไหมและรองเท้าแตะ เพื่อหวังเพิ่มยอดขายให้กับรองเท้าแตะ
โดยเฮลโลคิตตี้ เป็นตัวการ์ตูนรูปร่างเหมือนแมว ไม่มีปาก แต่หลังจากที่รองเท้าขายดี ก็มีการพัฒนาเฮลโลคิตตี้ให้มีความหลากหลาย และแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น
ซึ่งที่แครักเตอร์ของเฮลโลคิตตี้ไม่มีปาก ก็เพื่อไม่ให้แสดงออกถึงอารมณ์ เพราะต้องการให้แครักเตอร์นี้ สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์เหงา ดีใจ หรือเศร้าใจก็ตาม
2. มังงะแครักเตอร์
เป็นแครักเตอร์ที่ถูกสร้างโดยบริษัทเอกชน และมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำไปทำเป็นสินค้า บริการ และขายลิขสิทธิ์เช่นเดียวกัน
แต่ที่มาของแครักเตอร์เหล่านี้ จะถูกต่อยอดมาจากมังงะชื่อดัง
ซึ่งหลาย ๆ เรื่อง ไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ถูกขายลิขสิทธิ์ไปทั่วโลก
มังงะแครักเตอร์ที่คนทั้งโลกรู้จักดีที่สุด ก็คือ โปเกมอน ซึ่งปัจจุบันเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท Pokémon ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัทเกมชื่อดัง Nintendo
จากมังงะชื่อดังที่เริ่มวางขายในปี 1996 บริษัท Pokémon ได้ถูกจัดตั้งในปี 1998
เพื่อสร้างแบรนด์ วางแผนการตลาด และจัดการลิขสิทธิ์ให้กับแครักเตอร์จากมังงะโปเกมอนโดยเฉพาะ
โดยรายได้ของบริษัท Pokémon มาจากค่าลิขสิทธิ์ในการผลิตสินค้าต่าง ๆ เป็นอันดับ 1
อันดับ 2 มาจากวิดีโอเกม และอันดับ 3 คือรายได้จากการ์ดเกมโปเกมอน
3. แมสก็อตแครักเตอร์
หรือในภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า “ยูรุคาระ”
เป็นแครักเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น
คุมะมง ซึ่งเป็นแมสก็อตประจำจังหวัดคูมาโมโตะ ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น
เมื่อประเทศญี่ปุ่นประสบวิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วงปลายทศวรรษ 2000s
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้แต่ละจังหวัดนำไปดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
ซึ่งจังหวัดคูมาโมโตะได้คิดแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยว “Kumamoto Surprise”
โดยสร้างแครักเตอร์คือ คุมะมง เป็นหมีที่มีสีหน้าแสดงความประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา
และเปิดตัวครั้งแรกในพิธีเปิดเส้นทางรถไฟชิงกันเซ็งสายคิวชู ในปี 2011
เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด แครักเตอร์คุมะมงจึงใช้การโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ แต่กลับกลายเป็นผลดี ที่ทำให้คุมะมงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย
และสิ่งสำคัญคือ มีการอนุญาตให้บริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถนำภาพลายเส้นคุมะมงไปใช้ในสินค้า และบริการต่าง ๆ ได้โดยไม่คิดค่าบริการในช่วงแรก แต่มีข้อแม้คือ ต้องนำผลผลิตของจังหวัดคูมาโมโตะไปใช้เป็นวัตถุดิบในสินค้านั้น ๆ ด้วย
การยกเว้นค่าบริการ นอกจากจะกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีแล้ว
ยังทำให้บริษัทต่าง ๆ มีความสนใจแครักเตอร์คุมะมงมากขึ้น จนสุดท้ายก็เกิดการขยายธุรกิจที่หลากหลาย และกลายเป็นแครักเตอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ถึงแม้แครักเตอร์ทั้ง 3 ประเภท จะมีที่มาและจุดประสงค์แตกต่างกันไป
แต่สิ่งที่คล้ายคลึงกันก็คือ แครักเตอร์ทุกตัว ล้วนมีการวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ
ในญี่ปุ่นมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญธุรกิจแครักเตอร์ ที่ปรึกษาเหล่านี้จะช่วยตั้งแต่การออกแบบ
ไปจนถึงการทำการตลาดและการขายลิขสิทธิ์
การออกแบบสินค้า จะออกแบบเพื่อจับกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย มีช่องทางขายสินค้าแครักเตอร์มากมาย ตั้งแต่ในห้างทั่วไป ไปจนถึงร้านค้าที่ขายสินค้าแครักเตอร์โดยเฉพาะ
ในการขายลิขสิทธิ์ จะมีการประยุกต์ใช้กลยุทธ์ Localization
คือการให้สิทธิ์ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ในการดัดแปลงตัวแครักเตอร์เพื่อให้เหมาะกับลูกค้าในแต่ละท้องที่
รวมไปถึงลูกค้าต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันไป
นอกจากนี้ก็ยังมีสมาคม Character Brand Licensing Association หรือ CBLA ที่สนับสนุนโดยรัฐบาล ทำหน้าที่เน้นในการส่งเสริมเรื่องการขายลิขสิทธิ์ตัวแครักเตอร์โดยเฉพาะ
ทุกวันนี้ บริษัท Sanrio ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 40,000 ล้านบาท
บริษัท Pokémon ทำเงินจากการขายลิขสิทธิ์ได้มากกว่า 57,000 ล้านบาทต่อปี
และแครักเตอร์คุมะมง ทำเงินเข้าจังหวัดคูมาโมโตะมาแล้วกว่า 30,000 ล้านบาท
แครักเตอร์ญี่ปุ่นครองใจผู้คนทั่วโลก ส่วนหนึ่งมาจากการบริหารจัดการที่ดี และความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ที่ทำให้ญี่ปุ่นสามารถนำเอาคุณค่าทางวัฒนธรรม
มาผนวกเข้ากับมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างลงตัว
แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ความสามารถในการออกแบบแครักเตอร์ของญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์
ที่ผสมผสานจินตนาการและความเรียบง่ายเอาไว้ด้วยกัน
สังคมญี่ปุ่นมีระเบียบแบบแผน วินัย และธรรมเนียมประเพณีที่เคร่งครัด จึงมีความโดดเด่นในการสร้างโลกแฟนตาซีอันไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเพื่อหลีกหนีโลกแห่งความเป็นจริงอันเคร่งเครียด หรือเพื่อสร้างโลกแห่งจินตนาการอันน่าหลงใหล แครักเตอร์คือสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจ
เมื่อผู้คนเบื่อหน่ายกับการบริโภคในสิ่งที่เหมือนกัน และมองหาความแตกต่างที่เรียบง่าย
แต่ไม่ได้มองหาความง่ายที่มีแต่ความราบเรียบ
ตรงกันข้าม ในความเรียบง่าย จะต้องมีความพิเศษและลึกซึ้ง
ประเทศที่จะตอบโจทย์การออกแบบอันซับซ้อนนี้ได้ดีกว่าใคร
คงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก “ญี่ปุ่น” นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.statista.com/statistics/1184076/japan-character-merchandising-market-size/
-https://animechicago.com/articles/brief-history-anime-manga-zen-cartoons-sailor-moon/
-https://kimi.wiki/life/characters
-https://corporate.pokemon.co.jp/en/business/licences/
-http://cbla.jp/index_eng.html
-https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jsn/article/download/75762/112595/
同時也有65部Youtube影片,追蹤數超過3萬的網紅七王,也在其Youtube影片中提到,Bishōjo Senshi Sailor Moon R is a side-scrolling beat 'em up video game developed by Angel and published by Bandai in Japan on December 29, 1993. It i...
「sailor moon manga」的推薦目錄:
sailor moon manga 在 Trí Minh Lê Facebook 的最佳解答
MUỐN GO – GLOBAL? TIỀN VÀ VĂN HÓA.
Tất nhiên, giấc mơ ra tầm quốc tế đối với chúng ta không còn là chuyện quá xa vời hay hư ảo nữa mà nó đã có thật. Đúng vậy, chúng ta sẽ nhớ tới Nguyễn Công Trí (Phương diện này mình sẽ nói những brands hay fashion designer xuất phát từ Việt Nam nhé) với sự đánh giá cao của giới mộ điệu thời trang quốc tế - bên cạnh đó là rất nhiều celebs hạng A+ của US/UK sử dụng đồ của NCT. Không dừng ở đó, ở ngay mảng streetwear hay các fashion designer là những người trẻ, chúng ta cũng đón nhận những cái tên như là Eww studio, Vaegabond hoặc Morning Warning từ Việt Nam cùng các stars hiện tại : PlayBoiCarti, G-Eazy và Lil Nas X.
Thật vậy – tư tưởng vươn tầm ra quốc tế là cần trong bối cảnh thị trường Việt Nam tuy phát triển nhưng cạnh tranh quá kinh khủng như hiện nay. Nếu các bạn biết khái niệm “Blue Ocean” và “Red Ocean”/Đại dương xanh và Đại Dương Đỏ thì một số các thương hiệu thời trang Việt Nam đang đi theo con đường này. Thay vì đâm đầu vào một Đại Dương Đỏ quá ngột ngạt và tính cạnh tranh mạnh mẽ, brands/doanh nghiệp sẽ chấp nhận rủi ro tạo ra một Đại Dương Xanh nhằm khai thác các khoảng trống thị trường chưa được khai phá đầy tiềm năng với mức lợi nhuận khủng.
Các bạn luôn hỏi “Làm thế nào để thương hiệu Việt ghi danh tên mình trên bản đồ thế giới”.
Mình sẽ nhắc luôn hai chữ trên đầu là “Tiền” và “Văn Hóa”.
Để dễ hiểu, để định hình và gây được tiếng vang trên không chỉ thị trường nội địa mà quốc tế - các thương hiệu thời trang Việt Nam phải có lợi thế cạnh tranh siêu việt mà không một thương hiệu quốc tế nào có thể đánh bại hoặc khó đánh bại được. Việc tạo ra lợi thế cạnh tranh nằm ở nhiều yếu tố, nhưng đối với tình hình hiện tại – mình sẽ cho 02 keywords là “Price Competitive”/Cạnh tranh về giá và “Culture Competitive”/Cạnh tranh về văn hóa.
Cạnh tranh về văn hóa là sao?
Nói thẳng ra – dù rất tự hào về người Việt nhưng thời trang Việt Nam, kể cả streetwear hay haute couture mới khởi sắc trong độ 5 năm trở lại đây. Nếu so sánh với cả thế giới thì thật là khập khiễng, chúng ta chẳng là một cái gì trong kho tàng thời trang đồ sộ đã diễn ra cả trăm – cả ngàn năm. Đứng ở phương diện của mình, dù rất vui khi đồ local Việt Nam được sao nước ngoài mặc nhưng nếu có bán được cho mass market hay một customer khác thì nó chỉ nằm ở phần “ Giá cả rẻ hơn nhiều so với các thương hiệu nước ngoài ở cùng phân khúc hàng hóa” (hay gọi là substitute product – mặt hàng thay thế, tí nữa mình sẽ nói về ở mảng tiền sau). Nếu so sánh với các thương hiệu đi trước – các local brands Việt Nam cũng chỉ là kẻ theo sau, vì toàn bộ sản phẩm sẽ trông na ná một thương hiệu nào đó, “same same but different”/ cũng kiểu dáng đó, cũng kiểu in đó – đường cắt đó, cách thể hiện đó. Bùm! Tinh chỉnh một tí. Sẽ là khắt khe và tiêu cực – nhưng ý kiến của mình là vậy, bản sắc của Việt Nam không được thể hiện nhiều, cái chúng ta có chỉ là giá rẻ hơn mà thôi.
Vậy – bọn nước ngoài sẽ mua một thứ mà chúng nó đã có sẵn hàng chục, hàng trăm nước ở bộ sưu tập thời trang dày cộm hay họ sẽ cảm thấy thú vị khi có được 1 thứ gì đó mà họ chưa từng biết. Đúng – đó chính là “Văn hóa Việt Nam”. Văn hóa Việt Nam cực kì đa dạng và phong phú – chỉ dân tộc Kinh là đã rất nhiều, huống chi chúng ta còn 53 dân tộc cùng sinh sống nữa. Mỗi dân tộc có một bản sắc văn hóa riêng. “Xa thơm mà gần lại chẳng đoái hoài” – rất nhiều các bài báo, những phóng viên, những người khám phá nước ngoài đã đặt chân lên Việt Nam để tìm hiểu về văn hóa của chúng ta, làm báo – làm editorial hay cả clip và tất cả đều được thị trường nước ngoài đón nhận. Những content đó còn kiếm cho người tạo ra những số tiền không hề nhỏ nếu bán nguồn cho các đầu báo, đầu kênh như Discovery, National Geographic. Chẳng nói đâu xa, mỗi năm chúng ta cũng xuất khẩu hàng ngàn sản phẩm thổ cẩm, gốm sứ Bát Tràng, nội thất tre/vông, tranh Đông Hồ ra nước ngoài còn gì. Chứng tỏ rằng, lợi thế cạnh tranh về văn hóa là vô cùng lớn đối với một nước có bề dày như Việt Nam.
Nếu lấy ví dụ - mình xin lấy ví dụ về văn hóa Nhật khi được các thương hiệu thời trang Nhật (high-end/haute/streetwear) khai thác mạnh đưa ra thế giới. Kapital, CDG, Yohji, NBH, Bape (Nigo) cũng thành công trong việc hòa trộn giữa những nét đặc sắc Nhật vào sản phẩm thời trang của họ - thứ mà không một thằng nào khác ở Tây Âu hay Mỹ có thể bắt chước được. Hay Anime/Manga đi – một đặc sản văn hóa của Nhật Bản, đã từng collab rất nhiều thương hiệu lớn trên thế giới. Có Dragon BallZ, Onepiece, Sailor Moon, Akira hay gần đây là Loewe x Ghibli Studio với artwork chính đến từ “Hàng xóm của tôi là Totoro”.
Cạnh tranh về giá?
Sức mạnh đến từ giá cả luôn luôn là điểm nổi bật và thuyết phục khách hàng một cách dễ nhất. Mình luôn nói rằng “Cùng 1 kiểu design đó, khi mà local brand Việt Nam bán ở mức 1tr-2tr thì các brands nước ngoài đã nằm ở mức 5-10tr”. Việc rẻ này nằm ở sự định giá của các founder dựa trên mặt bằng thu nhập chung của người Việt – nhưng cũng cho thấy chi phí sản xuất của Việt Nam rẻ hơn nước ngoài rất nhiều. Dù có thể chất lượng không thể nào tối thượng bằng – nhưng nếu so sánh khách quan, đồ Việt Nam của chúng ta có thể xếp ở mức “Ngon – Bổ và Rẻ” với thị trường nước ngoài. Cũng vì một phần nằm ở chỗ “Brand-value” / Giá trị thương hiệu nhưng không thể không nói tới sự so sánh giá cả khi xét ở một thị trường đại chúng. Nhân công ở Việt Nam được trả khá rẻ - rẻ hơn so rất nhiều với các thị trường nước ngoài. Đó cũng là lí do mà sao COGS các sản phẩm Việt Nam thấp hơn và dẫn tới giá bán cũng thấp hơn.
Trong bối cảnh Trung Quốc đang bất đồng với rất nhiều các nước phương Tây và Mĩ – cuộc chiến tranh thương mại diễn ra thì rất nhiều xưởng gia công ồ ạt tràn về Việt Nam. Điều này vừa tốt vừa hại, nhưng chứng minh được khả năng cạnh tranh về giá là vô cùng cao khi mà các thương hiệu thời trang nội địa muốn nhảy sang quốc tế.
Thời đại còn giúp chúng ta khi mà consumerism/ Thói mua sắm vượt qua nhu cầu của thế hệ Z, hay cả thế hệ Y sẽ làm bùng cháy khả năng “price competitive” này. Khách hàng nước ngoài/cũng như nước ta không cần 1 item, 1 sản phẩm thời trang quá đẳng cấp, quá brand-value mà sẽ là tốt hơn khi họ có thể thay outfit hàng ngày để spam trên IG/FB. Đó là chìa khóa để các brand Việt Nam khẳng định trên chiến trường quốc tế, bên cạnh yếu tố văn hóa.
Vậy – việc chọn về Giá hay Văn hóa, chúng ta còn phải chờ xem. Tư thế của local brands Việt sẽ nằm ở đâu?
Ủng hộ mình tại:
Paypal: https://www.paypal.me/triminhle0808
Banking account: Vietinbank
STK: 104005424124 - Chủ tài khoản: Lê Minh Trí.
sailor moon manga 在 黒瀬來華 Laica Chrose Facebook 的最佳貼文
#TBT #throwback
One of the early sketches that I want to colour soon✨
Pidge didn’t have the Sailor Moon inspired bow back then!
.
.
.
.
.
#WingedWebtoon #comic #webtoon #manga #創作 #漫画 #OC #オリキャラ #Patreon
sailor moon manga 在 七王 Youtube 的最佳解答
Bishōjo Senshi Sailor Moon R is a side-scrolling beat 'em up video game developed by Angel and published by Bandai in Japan on December 29, 1993. It is the third game to be created by Angel based upon Naoko Takeuchi's Sailor Moon shōjo manga and anime series, as well as the second title in the franchine for Super Famicom, serving as the sequel to Sailor Moon. Following the second season of the anime series, which adapted the second arc of the manga, the players control one of the six Sailor Guardians and fight against enemies across several locations in order to protect Earth from both the Hell Tree aliens led by Ail and Ann as well as the Black Moon Clan led by Prince Demand, who are attempting to steal life energy from humans and the Star Points of future Crystal Tokyo. Like its predecessor, the game was met with mixed reception from critics since its release.
(個人通關550)
sailor moon manga 在 Lee D Youtube 的最讚貼文
Câu hỏi dành cho cosplayer: Còn cậu học được gì từ giới cốt?
Lens đẹp hả? Mua đây nhé:
https://bit.ly/3rix32P
Tóc xinh hả? Dùng cái này nè:
Shopee miền Bắc: https://bit.ly/3lMnAQq
Shopee miền Nam: https://bit.ly/3w0DiMe
Hỗ trợ quay:
Đèn LED ring light:
Shopee miền Bắc: https://bit.ly/3sm4fbe
Shopee miền Nam: https://bit.ly/3spy2jo
Mic Boya BY M1:
Shopee miền Bắc: https://bit.ly/2Ps6mvm
Shopee miền Nam: https://bit.ly/3lQssE7
Follow me on:
Facebook page: https://www.facebook.com/leedmaggot/
Instagram: https://www.instagram.com/leed_1202/
Tiktok: leed_tiktok
Contact for work (Ms Vân Anh):
?0906 213 525
? anhntv@ecomobi.com
sailor moon manga 在 中川翔子の「ヲ」 Youtube 的最佳解答
今回は東海オンエアの「てつや」さんと「としみつ」さんと初コラボ!
昔リリイベやライブにも来てくれていたということで、今回は中川翔子の代表曲「空色デイズ」を一緒に歌ってみました!
■2020/9/9 New Single Release
「フレフレ」(読売テレビ・日本テレビ系TVアニメ『ハクション大魔王2020』エンディング曲)
https://fortunemusic.jp/shokotan_202009_02/
制作:Move View(https://moveviewjapan.com/youtube/)
撮影/編集:高山一平・菅野祐樹
撮影協力:ブルーマウンテンスタジオ(https://www.bluemountain-studio.com/)
REC&MIX:藤原 暢之
高評価&チャンネル登録もお願いします!
http://www.youtube.com/channel/UCGlWnxRgmii2-InQLp8HmiA?sub_confirmation=1
【心霊ロケ 前編】大パニック!怪奇現象からの逃走!観音崎公園が想像以上にヤバ過ぎた!
https://youtu.be/aPTg-BUoG-o
毎年恒例、夏の風物詩!セミの抜け殻を集めてみたら、まさかの結果に…
https://youtu.be/4u2_amSdTG4
【イラスト】高級色鉛筆で「仮面ライダー クウガ」を描いてみた!I drew KAMEN RIDER with high-quality colored pencils.
https://youtu.be/9uaeveywfE8
【ヲタク感涙】特撮好き必見の激旨ラーメン屋に行ってみた!
https://youtu.be/-CEvpELj0qc
【恐怖のドライブ】久々に運転したら危険過ぎた…。中目黒から中野を一直線にドライブ
https://youtu.be/Ridx0Q4raY8
【イラスト】「鬼滅の刃」の竈門炭治郎を色んなタッチで描いてみた。I tried to draw the 「Demon Slayer」 with various touches.
https://youtu.be/dy5fE_LFnh4
【メイク動画】初!中川翔子の普段のメイクを教えちゃいます!
https://youtu.be/YKCAi2I_8_8
【鬼滅の刃イラスト】竈門炭治郎・甘露寺蜜璃をホラータッチで描いてみた。 / I draw "Demon Slayer" as a horror.
https://youtu.be/HwyJtXfPeE0
【東京都コラボ】「どこでも共助」オリジナル音声マンガ(脚本・イラスト・音声:中川翔子)
https://youtu.be/744aTJzRgKk
【料理】時短で作れる簡単レシピ!30代独身芸能人のリアルなご飯。
https://youtu.be/nLkELHZVs4E
初公開!中川家の猫9匹総出で「チャオちゅ〜る選手権」やってみた!
https://youtu.be/ULPKJv_tviQ
【イラスト】新世紀エヴァンゲリオンのアスカ・綾波レイ・真希波マリを描いてみた。I draw an illustration of Neon Genesis Evangelion
https://youtu.be/omhqFwDU_8o
YouTubeから銀の盾が届いたので穴だらけにしてみた
https://youtu.be/0d0SjO3CN4Y
エヴァックリマンチョコ大人買い!シール全24種コンプリートを目指してチャレンジ! Neon Genesis Evangelion
https://youtu.be/MrweVKkHMCI
【ドッキリ】負けた方が全額ゴチ!朝倉海さんとカロリーバトルで、まさかの結果に!?後編
https://youtu.be/mJBkGaT9sbE
【イラスト】ハクション大魔王のアクビちゃんをフルカラーで描いてみた!
https://youtu.be/A8rxmzqQY-U
【ゴチバトル】朝倉海さんとカロリーバトル!負けた方が全額ゴチで、まさかの引退宣言!?前編
https://youtu.be/xeaGXksiQ-8
【イラスト】ヒロイン10人が大集合!「りぼん」の表紙を再現してみた!「姫ちゃんのリボン」や「赤ずきんチャチャ」、こどちゃ・ジャンヌも!
https://youtu.be/dFTCRgAtKaA
【イラスト】セーラー戦士大集合をフルカラーで描いてみた![美少女戦士セーラームーン]Sailor Moon
https://youtu.be/AJCPYAwTmZo
【チャレンジ】初代ポケモン151匹1時間で描けるのか!?【DRAWING ALL 151 POKEMON】
https://youtu.be/iso3sEz0n5g
【7分でわかる】初心者でも簡単!筆ペン1 発描き女子高生のイラストの描き方 - How To Draw MANGA【7 min learning】
https://youtu.be/isokqllJ3jw
【吉野家】ポケ盛牛丼にピカチュウの卵焼き乗せて食べてみたら、リザードンがイケメンすぎて大興奮!
https://youtu.be/lstzwObK1Ck
【ドラゴンボール】超サイヤ人を下描きなしフルカラーで描いてみた!悟空・ベジータ・悟飯・悟天・トランクスDrawing DRAGON BALL illustration
https://youtu.be/8e2fBxfA_NI
中川翔子のTwitterはコチラ
https://twitter.com/shoko55mmts
中川翔子のInstagramはコチラ
https://www.instagram.com/shoko55mmts/
中川翔子 公式LINEはコチラ
https://lin.ee/bupeEpE
中川翔子 オフィシャルサイト「しょこたんねっと」
https://www.shokotan.jp/
#中川翔子
#東海オンエア
#グレンラガン