ทำคอนเทนท์อะไรดี คิดไม่ออก?
5วิธีทำคอนเทนให้ไม่มีทางตันอีกเลย
ตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
Ver.สำหรับพี่น้องที่ชอบการอ่าน
ผมแกะมาให้เพื่อพี่น้องที่ชอบอ่าน
(ใครชอบดูเป็นคลิปสามารถไล่ดูได้
ในวีดีโอหน้าเพจ)
ผมได้รับคำถามจากพี่น้อง
จำนวนมาก
เพราะถ้าทุกคนตามมาตลอด
จะเห็นว่าผมอ่านเองทุกคอมเม้น
ผมได้รับคำถามยอดฮิตอีกอัน
เป็น1ในTop5คำถามยอดฮิต
คือ...
เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
คิดไม่ออก
ตันไปหมด
—————
ตอนนี้
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เป็นเซล
หรือเป็นเจ้าของโชว์รูม
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
เช่น
รับทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
—————
ตอนนี้เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ฟังเอเท็นมาจนตอนนี้เริ่มทำแล้ว
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ปัญหาใหม่คือ...
ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
นึกไม่ออกไม่รู้จะPostเรื่องอะไร
จะเอาเรื่องอะไรไปทำบทความ ทำคลิป?
ช่วยบอกหน่อยได้ไหม?
———
ผมอยากบอกว่า
นี่ก็เป็นปัญหาระดับชาติเลยนะ
ผมเองตอนเปิดเพจใหม่ๆ
สมัยก่อน
นี่ติดคำถามนี้อยู่เป็นเดือนๆนะ
คือคนเราไม่มีประสบการณ์ไง
เคยแต่ขายOffline
สมัยก่อนขายรถ
แล้วเป็นลูกจ้างเค้า
ทำการตลาดก็ไม่เป็น
บริษัทเค้าเป็นคนทำ
ก็เลยทำได้แต่ขายๆๆ
รอลูกค้าเดินขึ้นมาหาอย่างเดียว
(แรกๆพอมาOnlineก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน)
———
แต่7-8ปีก่อนก็ได้รู้ว่า
คนเริ่มซื้อของทางOnline
และในอนาคต
คนจะซื้อของทางOnlineเป็นเรื่องปกติ
วันนั้นถ้าเราทำOnline
เปิดเพจทำการตลาดOnlineได้
เรามีโอกาสจะได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
ได้รายได้ที่มากขึ้นได้
เป็นข้อได้เปรียบ
แต่ถ้ากลับกันโลกมันเคลื่อนไปจนถึงจุดที่
ทุกคนทำขายOnlineกันหมด
แต่วันนั้นเราไม่ทำ
มันจะไม่ใช่แค่ไม่ได้รายได้เพิ่มจากOnline
แต่เราจะถูกOnline ดึงลูกค้าไปหมด
————————
เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆผมก็
มาเลย
มาขายแบบยุคเก่า
ก็มาขายตรงๆเลย
หรือไปPostตามกลุ่ม
ไปฝากแปะตามPostชาวบ้านเค้า
ว่าเรามีโปรโมชั่น ถูกกว่า ดีกว่า
ก็ได้ยอดมาบ้าง
โดนเตะออกมาบ้าง
จนถึงวันนึงที่เริ่มตัน
เริ่มได้ผลน้อยลง
เริ่มเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง
เลยเริ่มได้รู้ว่า
ถ้าเราจะอยู่ได้จริงๆบนOnline
มันจะต้องไม่ใช่แบบนี้
ที่จะมาPostขายตรงๆ
ไปแปะรบกวนตามกลุ่มชาวบ้านเค้า
หรือยิงแอดขายหน้าเพจ
Ok ตอนนั้นอาจจะได้
เพราะมันไม่มีใครมาขายเยอะ
————
แต่ถ้าวันนึงคนมาขายเยอะกว่านี้ล่ะ?
Choice Crisisเกิด
ซึ่งวันนั้นมันมาแน่นอน
วันนั้นเราจะทำยังไง?
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกบล็อคถูกเตะออกจากกลุ่ม
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกคนที่ขึ้นมาขายใหม่ๆ
เค้าอยากได้ลูกค้า
ก็ยอมเข้าเนื้อลดมากกว่า
จนผมอยู่ลำบากขึ้น
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
มีเพจที่ต้องยิงแอดมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเริ่มที่จะไม่คุ้มทุน
ผมมองว่า
การที่เราอยู่แบบนี้
นี่ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง
—————
จนราว7ปีที่แล้วผมไปเจอเพื่อนคนนึง
ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนของผม
เค้าชอบกินไวน์มาก
แล้วเค้าก็เปิดคลิปของ
Gary vee ดูอยู่
ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จัก
เค้ามาโชว์ชิมไวน์
โชว์ว่าไวน์ไหนอร่อย
ไวน์ไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
ไวน์ตัวไหนใช้ในงานไหน?
มีเป็น100วีดีโอ
(จริงๆเพื่อนผม
ไม่ได้ชอบกินไวน์
แต่ว่าที่พ่อตามันชอบไวน์เว้ย)
มันก็เลยต้องศึกษา
มันก็ไปหาข้อมูล
ก็มีแต่คนขายๆๆ
มือใหม่มันแยกไม่ออก
จนมาเจอyoutube ของGary V
มันก็เก่งขึ้นเลย
เอาใจพ่อตามันได้
แล้ววันนั้นผมปิ๊งไอเดีย
อะไรบางอย่างขึ้นมา
มีสมมุติฐานบางอย่างในใจ
ว่ามันใช้สิ่งที่ผมคิดไหม?
ผมเลยถามไปว่า
แล้วมึงซื้อไวน์ที่ไหน?
แล้วมันก็บอกสั่งในเวป
ผมถามเวปอะไร?
มันก็บอกว่า...
Wine library
พอผมเข้าไปดูเท่านั้นแหละ
หน้า gary vee โผล่มาเลย
ผมถามว่ามันคือของ gary v เหรอ
มันบอกใช่
ผมถามทำไมมันถูกเหรอ?
เพื่อนบอกเปล่าก็
ไม่รู้ดิ
อยากซื้อที่นี่
เค้าก็ให้ข้อมูลดี
—————
วันนั้น
“ผมได้จุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่เลย”
ถ้าวันนั้นผมขายรถ
ถ้าเราจะเปิดเพจ
แล้วถ้าเราคิดแต่จะขาย
เหมือนทั่วไป
เพื่อนผมหรือคนอื่น
ก็คงไม่มีทางซื้อกับผมแน่นอน
เพราะคนส่วนใหญ่
ที่ไม่มีความรู้
เค้ามักจะไม่ซื้อเลยทันที
ต้องหาข้อมูลก่อน
แต่เราไม่มีอะไรเลย
ถ้ามาถึงเจอเพจผม
ที่มาถึงขายๆๆ
ไม่มีอะไรให้ติดตาม
เพื่อนผม
หรือคนที่จะซื้อไม่เอาแน่นอน
และคงไม่ตามเพจต่อด้วย
——
แต่ตรงกันข้าม
กับกรณี ร้านไวน์
มันคือการ Educateตลาด
มันคือให้ how to แก้ปัญหาให้ลูกค้า
หรือจะพูดง่ายๆ
เราเป็นห้องสมุดของลูกค้า
แล้วเค้า ไม่ได้ขายอะไรเลยนะ
แต่เค้าเหมือนทำห้องสมุด
รวมรวมhow to
ให้สำหรับคนชอบกินไวน์
คนกินไวน์ไม่รู้ อะไรบ้าง?
ไม่เข้าใจอะไรบ้าง?
ตั้งแต่ไม่เคยกินเลย
ไม่เข้าใจวัฒนธรรม
ไม่รู้เรื่องความแตกต่างของชนิด
แม่งเป็น1,000ปัญหา
เหมือนเราเข้าไปชมนิทรรศการไวน์
ได้รู้เรื่องใหม่ๆ ได้แก้ปัญหาตัวเองได้
แล้วพอถึงจุดนึง
อยากซื้อ
ก็ซื้อกับเค้านี้แหละ
————
วันนั้นผมบอกตัวเองเลยว่า
นี่แหละ Game Changer
ที่เราหามานาน
ผมจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว
เพราะแบบนั้น
วันนึงChoice crisisมา
ผมจะไม่ต่างกับใครเลย
แล้วจะตายในที่สุด
————
เพราะฉะนั้น
ผมจะสร้างห้องสมุด
ของลูกค้าผม
ผมListทันทีเลยว่า
ห้องสมุดของคนซื้อรถล่ะ?
มีอะไรบ้าง?
คนที่ไม่เคยมีรถเลย
ปัญหาเพียบเลย
คนที่ได้รับรถไปแล้ว
แต่เป็นรถคันแรก
เค้ารู้ไหมต้องทำอะไรบ้าง
โหปัญหาเพียบเลย
ผมทำเลย
(เลิกไปแปะขายดื้อๆแล้ว)
สมัยก่อนผมทำสิ่งนี้แหละ
แล้วในเวลาไม่นาน
มันเปลี่ยนการขายผมไปเลย
—————
จนตอนหลังผมถูกคน
บอกมาสอนเรื่องพวกนี้หน่อย
ผมถ่ายทอดให้เพื่อนที่ขายรถ
เอาไปทำ
วันนี้เค้าไม่ต้องไปยืนขาย
ก็อยู่ได้แล้ว
เพราะลูกค้ามามหาศาลทางออนไล
ผมให้คนที่เป็นนายหน้า ตัวแทน
และเพื่อนๆที่รู้จักในวงการ
พอเค้าทำวิธีนี้
เป็นห้องสมุดของลูกค้าเค้า
ภายหลังชีวิตเปลี่ยนหมดเลย
จนผมถูกถามเยอะมาก
ให้มาไปแชร์เรื่องทำการตลาดOnline
มันก็กลายเป็นอีก1ธุรกิจ
จนตัวผมเอง
ก็ต่อยอดมาถึงวันนี้
—————
และธุรกิจนี้ของผม
ผมก็ทำเช่นเดียวกัน
ผมช่วยเหลือการด้านตลาดOnline
ให้คนที่มีธุรกิจแล้ว
ต่อยอดโตขึ้นได้
ทุกวันนี้เนี้ย
ผมก็ทำห้องสมุดของผม
ช่วยนักธุรกิจต่อยอดโต
ทุกปัญหาอะไรที่พี่น้องเป็นกัน
ผมก็ทำคลิป
ทำบทความ
ออกมาแชร์แก้ปัญหาพี่น้อง
ผมทำเพจนี้มาจะครบ7ปีแล้ว
ถึงวันนี้
พี่น้องเคยเห็นผมหยุดPostไหม?
7ปี หรือ2,000กว่าวันที่ผ่านมา
ทำไมผมไม่เคยตันในการ
ทำ Contentเลย?
สงสัยไหม?
เพราะอะไร?
เพราะปัญหาของคนมันมีตลอดเวลาไง?
เห็นภาพไหมครับ?
————
เพราะฉะนั้น
กลับไปที่คำถามวันนี้
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
ทำยังไงให้คอนเทนต์ไม่ตัน
ผมแชร์ในฐานะ
คนที่ทำเพจมาเกือบ7ปี
แล้วทำคอนเทนได้ทุกวัน
แชร์จากการทำจริง
จากผลลัพธ์ของจริง
ทุกคนที่รู้จักผม
ที่มาปรึกษา หรือPrivate
เรื่องการทำเพจ
จะให้ผมแชร์เรื่องนี้เสมอ
เค้าอยากรู้ว่า
ผมทำContentได้ยังไงทุกวันเกือบ7ปี
โดยไม่เคยตัน
เพราะฉะนั้น
แน่นอน
วันนี้ผมเอาสิ่งนี้มาให้พี่น้องด้วย
แล้วผมรับรองเลยว่ามันจะเปลี่ยน
ทั้งmindset และผลลัพธ์
—————
5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
ข้อที่
1.เปลี่ยนจุดศูนย์กลางใหม่
ถ้าใครฟังคลิปผม
แทบทุกคลิปเลย
ผมจะให้แก่นกับพี่น้องเสมอว่า
“แก่นของการทำธุรกิจ
คือการตอบโจทย์ลูกค้า”
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำธุรกิจ
ไม่ใช่focusว่าจะขายอะไร?
ถ้าคุณตั้งต้นแบบนี้
มันก็อินดี้ไง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เข้าใจไหม?
เพราะตั้งโจทที่
คุณตอบโจทย์ตัวเอง
แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
ไม่ได้เริ่มต้นมองจากลูกค้า
แล้วจะไปหวังให้คนซื้อได้ยังไง
ถูกไหม?
แต่ถ้ากลับกัน
คุณไปดูว่าผู้คนเค้ามีปัญหาอะไร?
แล้วเราเซิฟสิ่งนั้นได้
หรือเรามีสิ่งนี้อยู่
แล้วไปเช็คตลาด
หรือมองแล้วว่า
เราEducateตลาดได้
โอกาสที่เป็นจริงมันก็มากกว่า
————
เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจ
เราจะได้กำไรได้ก็ต่อเมื่อ
ลูกค้าเค้าต้องซื้อคุณ
ในอีกแง่นึงคือ
เราก็ตอบโจทย์เค้าได้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น
“คุณต้องตั้งต้นด้วยลูกค้า”
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าก็จริงๆ
แต่จริงๆ
ลูกค้าคือจุดศูนย์กลางเลย
อย่าFocusที่ตัวเอง
Focusไปที่ลูกค้า
ใครที่หาธุรกิจอยู่แนะนำไปดู
(คลิปที่ชื่อว่า4วิธีหาไอเดียทำธุรกิจ)
(ver.เจาะลึก ไม่มโน)
เช่นกัน
ในแง่การทำคอนเทน
วันนี้
คุณขายอะไรอยู่
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เปิดโชว์รูมรถยนต์
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
ทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
ต้องเลิกถามตัวเองแบบ
จะทำคอนเทนอะไรดี
แล้ว...
———
ไปทำข้อ
2.คือ
ถามคำถามใหม่กับตัวเองว่า
“ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้าง”
เค้ายังไม่รู้หรือไม่เข้าใจอะไรอยู่
หรือขาดความรู้อะไรอยู่
เช่น ฉีดปลวก
มีปัญหาอะไรว่ะ?
เค้ามีเด็กเล็กกลัวเคมีหรือเปล่า
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนฉีดปลวก
มีสัตว์เลี้ยงรึเปล่า
ต้องทำยังไงก่อนหรือหลังฉีด?
มีผู้สูงอายุไหม ต้องทำยังไง ปลอดภัยไหม?
บ้านปูน บ้านไม้ต่างกันยังไง
น้ำยาเคมีแบบไหน
การเตรียมตัว
ควรรื้อทิ้ง หรือยังซ่อมได้
ปลวกขึ้นฝ้า
มีเป็น100 ปัญหานะ
เห็นไหม?
—————
เห็นพี่ตัวอย่างพี่น้อง OTO เกษตรกล้าไหม?
จริงๆเค้าทำเรื่องเกษตรนะ
เรื่องปลูกผลไม้
แต่50กว่าวันที่ทำเพจไป
คนติดตามจะ20,000แล้ว
ตัวเค้ายังพูดเรื่องทุเรียนไม่หมดเลย
เพราะปัญหามันมีเยอะ
เกษตรกรมีปัญหาอะไรล่ะ ?
เนี่ย คอนเทนทั้งนั้น
วันก่อนผมเจอคำถามว่า
เลี้ยงวัวขาย หรือขายอาหารวัว
จะทำคอนเทนยังไง?
ลองไปดูพี่น้องที่เพิ่งเข้าไปเรียนOTO
ได้ยังไม่ถึงเดือน
เพิ่งเริ่มทำเพจ ที่ชื่อว่ารู้รอบตอบโจทวัวขุน
ตอนนี้เพจยังไม่โต
แต่ก็1,000กว่าคนติดตามแล้ว
แต่ทำไมเค้าทำ คอนเทนได้ทุกวัน?
เห็นภาพไหม?
เพราะเค้ามองไปที่ปัญหาของลูกค้า
ว่ามีอะไรบ้างที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
เค้าก็เอามาทำ
ซึ่งมันมีเยอะมาก
————
ในคลาสOnline Take Over
มีธุรกิจแทบทุกวงการเลย
เพชร จะทำคอนเทนอะไร?
ลูกค้าซื้อเพชร
เค้าอยากได้อะไร?
บางคนบอกวิธีดูเพชร
พูดไป20คลิปก็หมดแล้ว
อย่าไปมองแบบนั้นดิ
มองให้ลึกไปอีกสิ
เพชรแบบไหน เข้าชุดอะไร
เข้ากับโอกาสแบบไหน
เนี่ยก็ทำได้
ไปดูพี่น้อง1 Year และ OTO
เค้าชื่อน้ำตาล
เจ้าของร้าน เพชร นพรัตน์
เค้าก็ทำคอนเทนได้ไม่รู้จบ
————
ถ้าเรามองที่ปัญหาลูกค้าจริงๆ
พี่น้องในOTO ที่ตอนนี้ที่กำลังทำเพจ
มีหลายธุรกิจเต็มไปหมดเลย
คลีนิคคุณหมอ รักษาผิว
รักษาเบาหวาน
สักคิ้ว
ขายกล้อง
ทำฟิตเนส
หมอฟังเข็ม
หมอฟัน
ร้านอาหาร
นายหน้าอสังหา
ร้านทอง
ติวเตอร์
ร้านสูท
Expert Biz ทั้งหลายเป็น100คน
หรือเรื่องภาษี
ทำไมเค้าทำคอนเทนได้ตลอดเวลาไม่ตัน?
เพราะเค้าFocusที่ปัญหาลูกค้า
ตราบใดที่ลูกค้ายังมีปัญหา
คอนเทนท์ก็ไม่มีทางตัน
—————————
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
ยิ่งถ้าวันนี้คุณมีลูกค้า
หรือเคยขายอยู่แล้วยิ่งสบาย
ที่ผ่านมา
ก่อนเค้ามาใช้บริการคุณ
หรือซื้อคุณ
เค้าเคยถามเคยมีปัญหาอะไร้บาง?
เช่น
ผมไล่นึกเลยลูกค้าเก่าที่เคยซื้อรถไป
ก่อนหน้านั้นเค้าเคยถามอะไร
เคยมีปัญหาอะไรที่เราเคยตอบไปแล้ว
ช่วยเค้าไปแล้ว
เช่นเลือกไม่ถูก?
ไม่รู่ว่ารุ่นไหนเหมาะกับเค้า?
สัดส่วนรถ
ข้อดีข้อเสีย?
รีโมทเปลี่ยนถ่านเองยังไง
ดิสเบรคเป็นสนิม ปกติไหม?
เศษหินติดดอกยางรถ จะระเบิดไหม
ต้องแคะไหม?555
เรื่องพวกนี้
เพียบเลย เอาจริงๆหลายร้อยๆ
แต่มันเป็นปัญหาเค้าจริงๆนะ
คำถามไหนที่ผมเคยถูกถามไว้
ผมก็นำมาทำเป็นบทความเป็นคลิป
ก็รวบรวมเป็นห้องสมุดของลูกค้าผมเลย
ช่วยลูกค้ารายใหม่ๆได้
เค้ายังไม่ซื้อเราวันนี้
แต่เค้ามาศึกษาจากห้องสมุดของเราไปก่อนได้
วันที่จะซื้อ เราก็เป็นตัวเลือกต้นๆ
———
มีอะไรอีกขายเพชร
เช่นลูกค้าเคยถาม
เพชรอันนี้มันจะเข้ากับโอกาสนี้ไหม?
มันใหญ่ไปไหม?
เข้ากับเสื้อผ้าอะไร
แหวนหมั่นแหวนแต่ง
ควรแบบไหน
(เนี่ยปัญหา)
ผมอยากได้เสื้อสูทไปงานที่มีผู้ใหญ่ในสังคม
แต่ไม่รู้จะใช้สีอะไรดี ผ้าอะไรดี?
ปกคอแบบไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
หรือสรีระเราเหมาะกับแบบไหน
(เนี่ยปัญหา เอามาทำ)
กระเป๋านี้ใส่ของได้ยาวกี่เซ็นกี่นิ้ว
ใส่macbookได้ไหม
ควรเลือกยังไงดี?
วัวไม่กินอาหาร?
ทุเรียนเป็นราแก้ยังไง?
พวกนี่ปัญหาทั้งนั้น
คนอื่นมันก็เป็น
เอามาทำสิ
สิ่งที่ลูกค้าเก่าเคยเป็นปัญหา
เราแก้ให้เค้าไปแล้ว
เราก็เอามาเป็นตำรา
เอามาสะสมเป็นห้องสมุด
ช่วยลูกค้าใหม่
รวบรวมเป็นห้องสมุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรื่องนั้น
เห็นภาพไหม?
————
คุณลองคิดดูนะ
คุณเองก็มีปัญหา
บางทีจะซื้ออะไร
มีแต่คนขายๆๆ
คนไปดูเพจก็ไม่มีอะไรเลย
มีแต่ขาย
แล้วคุณก็ไม่สนใจ
หนีไปดูเจ้าอื่น
แล้วก็ลืมเค้าไปแล้ว
(ลูกค้าคุณก็คิดแบบนี้กับคุณเช่นกัน)
———
แต่ถ้ากลับกัน
คุณเห็นPostๆนึงของร้านขายสูท ขายชุดออกงาน
น่าสนใจ
ตามเข้าไปดูเพจเค้า
เห้ยแตกต่าง
ไม่ได้มีแต่Postขายๆๆๆ
(ปกติเจอแบบนี้เด้งออกมาแล้วถูกไหม)
แต่ไม่ใช่เว้ย
เข้าไปปุ๊บมีเรื่องให้อ่าน
มีคลิปให้ดูให้เราเข้าใจมากขึ้น
ว่าไปงานนี้ใส่อะไร
ไปงานนี้แต่งแบบไหน
สีอะไรขับความหล่อ สวยของเรา
การตัดเย็บแบบไหน
เราอาจจะไม่ได้ซื้อวันนั้น
แต่เมื่อเราจะซื้อขึ้นมา
ร้านนั้นเด่นขึ้นมาในใจทันทีถูกไหม?
ลูกค้าคุณก็เช่นกัน
เค้าก็คิดแบบนั้นอยู่
จริงๆนี้ผมพูดเกินกว่า
เรื่องหาคอนเทน
ไปเยอะเลยนะ
นี่พูดไปถึงจิตวิทยาเลย
เป็นของแถมไปละกัน555
จริงๆมาถึงแค่ข้อนี้
คอนเทนมหาศาลแล้วถูกไหม?
แค่เรากลับไปที่แก่นของการทำธุรกิจ
ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการทำคอนเทนคุณ
และลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์อันล่ำค่า
ที่มอบคอนเทนดีๆให้กับคุณ
จงใส่ใจลูกค้า
คลุกคลีกับลูกค้า
ดูแลลูกค้าที่ขายไปแล้วให้ดี
Thx economyกับเค้า
ธุรกิจคุณจะเติบโตก้าวกระโดด
และcontent คุณจะไม่มีวันตัน
—————
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
ถ้าคุณแวดล้อมตัวเองด้วยคนที่ทำธุรกิจ
มันจะช่วยได้มหาศาลเลย
ทั้งเรื่องไอเดียมุมมอง
ถ้าอยู่ในกลุ่ม
ธุรกิจแบบเดียวกับที่คุณทำ
คุณก็จะได้ปัญหาเชิงลึก
จากเค้า
เช่นเค้าเจอเคสอะไรมา
แก้ยังไงไป
นี่ก็เป็นไอเดียในการมาทำคอนเทน
แบบเชิงลึก
หรือ
แวดล้อมด้วยคนในธุรกิจอื่นๆอันนี้ก็ดี
เพราะมันจะทำให้เห็นภาพกว้าง
มันจะมีอะไรมาadaptได้เสมอ
อย่างพี่น้องในOTO
มีหลายธุรกิจมาก
ไอเดียเต็มไปหมด
เอาไอเดียมาAdapt ใช้กันได้
เพราะมันธุรกิจเหมือนกัน
——
คนทำร้านเพชรก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเสื้อผ้า
คนทำร้านเสื้อผ้าก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเครื่องประดับ
ไอเดียบางอันมันCrossกันได้
หรือใน1 year แต่ละคนมีของทั้งนั้นเลย
เค้าก็ช่วยกันมองหน้ามองหลัง
และแนะนำกัน
มันก็เลยไปเร็วไง ไฟลุกตลอด
และContentก็ไม่มีทางตัน
ขอให้ถามขึ้นมาเถอะ
รุมช่วยกันใหญ่
--------
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณทำเพจ
และถ้าคุณหากลุ่มที่เค้าทำธุรกิจเก่งๆอยู่ด้วย
คลุกคลีกัน
มันจะช่วยคุณได้มาก
เพราะเหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น
ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มทำOnline
มีกลุ่มมีเพื่อนที่เค้าทำเหมือนกัน
ช่วยได้เยอะมาก
ลองทำดูคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
คุณจะไปหาเอง
หรือคุณอยากจะมาจอยในOTO
แชร์ไอเดีย
กับพี่น้องที่ทำเพจร่วม1,000คนก็ได้
หรือถ้าคุณมีธุรกิจมาอยู่แล้วระดับนึง
อยากจะมาจอยใน1yearCLUB
ที่มีพี่น้องเจ๋งๆที่ทำธุรกิจ
ก็ยินดีต้อนรับครับ
————————
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะเพจแบบยุคใหม่
ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
คุณจะสังเกตุเห็นว่า
วันก่อนผมPostหน้าเพจ
ถามว่าพี่น้องที่ทำเพจ
มีปัญหาอะไรบ้าง?
แล้วพี่น้องก็ตอบมาหลายร้อยข้อความ
แล้วผมก็มีไอเดียทำคอนเทน
ออกมาแก้ปัญหาให้พี่น้องได้
เนี่ยคอนเทนในวันนี้
ผมก็เอามาจากปัญหาของพี่น้องนะ
—————
พี่น้องในOTOตอนนี้
หลายคนตอนนี้มีฐานแฟนแล้ว
หลายคนเพจขึ้นไปหลัก10,000แล้ว
มีฐานแฟนเหนียวแน่น
เค้าก็สามารถpostถามฐานแฟนตัวเอง
ปัญหาอะไรที่ฐานแฟนเค้า
ยังติดอยู่
ซึ่งพี่น้องOTOหลายคนก็
ใช้วิธีนี้
ก็ได้ปัญหาดีๆมาทำคอนเทน
ช่วยแฟนๆของเค้าอีก
ถ้าเพจคุณมีฐานแฟนเหนียวแน่น
คุณก็ไม่ต้องไปหาว่า
จะทำคอนเทนอะไรจากไหนเลยนะ
คุณถามฐานแฟนคุณได้ตรงๆแบบนี้เลย
เนี่ยคอนเทนจะตันได้ยังไง?
เห็นภาพไหม?
ไม่มีทางตันเลย
คุณชอบไหมล่ะ
การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
เป็นเจ้าของเพจ
ที่สามารถทำแบบนี้ได้
ถ้าชอบ
ก็...
“วันนี้ตั้งมันเป็น1ในเป้าหมายของคุณสิ”
ว่าเราจะทำเพจเราให้เป็นแบบนี้
เหมือนกับพี่น้องหลายคน
หรือพี่น้อง OTO
———
สรุป5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
1.เปลี่ยนจุดศุนย์กลางใหม่
(ลูกค้าคือศุนย์กลาง ไม่ใช่เรา)
2.ถามคำถามใหม่กับตัวเอง
(ไม่ใช่จะpostอะไรดี
(เปลี่นเป็นเอ้ย
ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้างนะ)
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
(ปัญหาอะไรที่ลูกค้าเก่าเคยถาม
และเราตั้งใจแก้ไขให้เค้าไปแล้ว
นั่นคือสุดยอดคอนเทนท์สำหรับลูกค้าใหม่)
(จงเอามาทำ)
(และดูแลลูกค้าเก่าให้ดี)
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
(เอาตัวไปอยูกับคนที่ทำเพจทำธุรกิจเก่งๆ
แวดล้อมด้วยบรรยากาศแบบนั้น)
ไอเดียทำคอนเทนดีๆหลายครั้งก็มักมาจากเพื่อน
(เหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น)
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะทำเพจแบบยุคใหม่
(ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน)
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
และไม่มีทางเลยที่คอนเทนจะตัน
เพราะถามแฟนๆได้ตลอด
-------
และนี่ก็คือ5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
ผมเชื่อว่า(Postนี้)จะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง
ที่ทำธุรกิจ ทำเพจทุกคนครับ
ก็ถ้าชอบ ได้ประโยชน์
ได้ไอเดียจากคลิปนี้ก็ช่วยกดLikeให้ผม
หรือคอมเมนต์บอกกันหน่อย
จะได้ไม่พลาดคลิปหน้า
Postหน้า
ที่ผมจะคัดสรรนำมาลงอีก
แล้วก็ถ้าคุณรักใคร คุณอยากโตไปพร้อมกับใคร
ก็อย่าลืมแชร์ไปให้เค้า
เพื่อทุ่นเวลาซึ่งกันและกัน
ลุย!
A10(เอเท็น)
iClass
Online Take Over
1 Year Club
สังคมแห่งความเป็นไปได้
service mindset คือ 在 HR - The Next Gen Facebook 的精選貼文
HR จะ Transform ตนเองได้ ต้องเริ่มจากการสร้าง Mindset ที่ถูกต้องให้กับตนเองว่า HR สามารถที่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับองค์กรได้ ถ้าขาด Mindset นี้ไป อาจจะไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่อง Transform เพราะงานของ HR อาจจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี หรือไม่ก็ Outsource Service ได้ในไม่ช้า
ความท้าทายถัดมา คือการ Rebrand เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พิสูจน์ให้ทั้งผู้บริหาร และ Line Manager เห็นว่า HR สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจผ่านกระบวนการของ HR ได้ ทั้งในเรื่อง The Right People at First Time, การพัฒนาทักษะที่จำเป็นล่วงหน้าทั้ง Hard Skill และ Soft Skill, การปรับผังองค์กรให้เหมาะกับรูปแบบการทำงาน, การกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมและดึงศักยภาพการทำงาน
การจะสร้างมูลค่าผ่านกระบวนทำงานตามที่ว่ามา สิ่งแรกที่ HR ไม่เพียงแค่รู้ แต่ต้องเข้าใจอย่างจริงจังก็คือ ธุรกิจขององค์กรทั้งในระดับ Macro และ Micro ถ้าเราไม่เข้าใจธุรกิจ การบริหารคนของเราก็จะยากที่จะเข้าเป้า และส่งเสริมให้องค์กรเติบโต
ลองให้คะแนนดูครับ ถ้าเราเป็น HR คะแนนจาก 0 - 100 เราเข้าใจธุรกิจซักกี่คะแนน แล้วถ้าคะแนนเราไม่ถึง 50 แน่นอนว่าเราต้องพัฒนา ส่วนจะพัฒนายังไงนั้น อย่าให้เสียชื่อความเป็น HR นะครับ
แล้วถ้า HR คือหนึ่งในหน่วยงานสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กร แต่ HR เองยังไม่ Transform ตัวเอง แล้วเราจะไปผลักดันให้หน่วยงานอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงได้ยังไง
อาจจะไม่แปลกเลยที่องค์กรหรือผู้บริหาร ไม่ได้ให้ HR เข้าไปอยู่ในแผนด้วย เพราะ HR เองไม่ได้สร้างความมั่นใจเลยว่าจะเปลี่ยนแปลงได้
แล้ว HR จะเริ่มจากอะไรดี ผมขอเริ่มอย่างนี้ครับ
ข้อแรก ตอบคำถามให้ชัดว่าหน้าตาของงาน HR หลังจากผ่านการ Transform แล้วเป็นอย่างไร
นี่คือข้อที่สำคัญมากครับ เพราะถ้าภาพเราไม่ชัด เราก็จะไม่รู้เหมือนกันว่าเรากำลังจะเปลี่ยนจากอะไรเป็นอะไร วาดภาพให้ชัดเลยว่า 80 % ของงาน HR จะเป็น Digital ทั้งหมด เหลือไว้แค่ 20 % เพราะอาจจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานภายนอกที่เค้าอาจจะไม่ได้ Digital ไปกับเรา
มีภาพชัด เราก็เดินหน้าง่ายครับ
ข้อที่สอง ทำความเข้าใจกับกระบวนการ Transformation คือ Explore, Experiment และ Learn ซึ่งกว่าจะผ่าน Experiment มาเป็น Learn ได้คือไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ทุกการทดลองจะประสบความสำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่ HR จะต้องเจอคือ Work Hard ในช่วง Transformation แน่ ๆ
ถ้าการ Transform ของ HR ไม่ได้ผล นั่นอาจจะเพราะเรายัง Work Hard ไม่พอก็ได้ ลองไปวิเคราะห์ดูครับ
ข้อที่สาม กำหนด Mindset ที่จำเป็นซึ่งแน่นอนว่าต้องมี Growth Mindset เป็นที่ตั้ง เน้นในเรื่องของการสร้าง Employee Experience มากกว่าแค่การสร้าง Process ในการทำงานโดยไม่ได้สนใจว่าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรหรือไม่ และที่สำคัญกำหนดบทบาทในงานของตนเองให้เป็นผู้กำหนดกลยุทธ์และให้คำปรึกษาเรื่องการบริหารคน มากกว่าเพียงทำงานเอกสาร
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าง่ายก็คงสำเร็จกันไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญถ้า HR สามารถ Transform ตนเองได้สำเร็จ HR จะเป็น Game Changer ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กร
สรุปกันอีกที เหตุผลที่ HR ยัง Transform ไม่สำเร็จ
1. ไม่มี Mindset ว่า HR สามารถสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้
2. ไม่เข้าใจธุรกิจมากเพียงพอ
3. มองไม่เห็นหน้าตาที่ชัดเจนของ HR หลังจาก Transform แล้ว
4. ไม่เข้าใจกระบวนการ Transform
5. Work Hard ไม่พอ
6. ทีมงานขาด Growth Mindset และ Growth Mindset ไปใช้ในการปรับปรุงวิธีการทำงานได้ไม่ดีพอ
ลองไปวิเคราะห์ดูว่าเราขาดอะไร แล้วรีบแก้ไขนะครับ
#Transformation #TheRightPeople
#QGEN
service mindset คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳貼文
ทำคอนเทนท์อะไรดี คิดไม่ออก?
5วิธีทำคอนเทนให้ไม่มีทางตันอีกเลย
ตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
Ver.สำหรับพี่น้องที่ชอบการอ่าน
ผมแกะมาให้เพื่อพี่น้องที่ชอบอ่าน
(ใครชอบดูเป็นคลิปสามารถไล่ดูได้
ในวีดีโอหน้าเพจ)
ผมได้รับคำถามจากพี่น้อง
จำนวนมาก
เพราะถ้าทุกคนตามมาตลอด
จะเห็นว่าผมอ่านเองทุกคอมเม้น
ผมได้รับคำถามยอดฮิตอีกอัน
เป็น1ในTop5คำถามยอดฮิต
คือ...
เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
คิดไม่ออก
ตันไปหมด
—————
ตอนนี้
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เป็นเซล
หรือเป็นเจ้าของโชว์รูม
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
เช่น
รับทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
—————
ตอนนี้เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ฟังเอเท็นมาจนตอนนี้เริ่มทำแล้ว
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ปัญหาใหม่คือ...
ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
นึกไม่ออกไม่รู้จะPostเรื่องอะไร
จะเอาเรื่องอะไรไปทำบทความ ทำคลิป?
ช่วยบอกหน่อยได้ไหม?
———
ผมอยากบอกว่า
นี่ก็เป็นปัญหาระดับชาติเลยนะ
ผมเองตอนเปิดเพจใหม่ๆ
สมัยก่อน
นี่ติดคำถามนี้อยู่เป็นเดือนๆนะ
คือคนเราไม่มีประสบการณ์ไง
เคยแต่ขายOffline
สมัยก่อนขายรถ
แล้วเป็นลูกจ้างเค้า
ทำการตลาดก็ไม่เป็น
บริษัทเค้าเป็นคนทำ
ก็เลยทำได้แต่ขายๆๆ
รอลูกค้าเดินขึ้นมาหาอย่างเดียว
(แรกๆพอมาOnlineก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน)
———
แต่7-8ปีก่อนก็ได้รู้ว่า
คนเริ่มซื้อของทางOnline
และในอนาคต
คนจะซื้อของทางOnlineเป็นเรื่องปกติ
วันนั้นถ้าเราทำOnline
เปิดเพจทำการตลาดOnlineได้
เรามีโอกาสจะได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
ได้รายได้ที่มากขึ้นได้
เป็นข้อได้เปรียบ
แต่ถ้ากลับกันโลกมันเคลื่อนไปจนถึงจุดที่
ทุกคนทำขายOnlineกันหมด
แต่วันนั้นเราไม่ทำ
มันจะไม่ใช่แค่ไม่ได้รายได้เพิ่มจากOnline
แต่เราจะถูกOnline ดึงลูกค้าไปหมด
————————
เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆผมก็
มาเลย
มาขายแบบยุคเก่า
ก็มาขายตรงๆเลย
หรือไปPostตามกลุ่ม
ไปฝากแปะตามPostชาวบ้านเค้า
ว่าเรามีโปรโมชั่น ถูกกว่า ดีกว่า
ก็ได้ยอดมาบ้าง
โดนเตะออกมาบ้าง
จนถึงวันนึงที่เริ่มตัน
เริ่มได้ผลน้อยลง
เริ่มเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง
เลยเริ่มได้รู้ว่า
ถ้าเราจะอยู่ได้จริงๆบนOnline
มันจะต้องไม่ใช่แบบนี้
ที่จะมาPostขายตรงๆ
ไปแปะรบกวนตามกลุ่มชาวบ้านเค้า
หรือยิงแอดขายหน้าเพจ
Ok ตอนนั้นอาจจะได้
เพราะมันไม่มีใครมาขายเยอะ
————
แต่ถ้าวันนึงคนมาขายเยอะกว่านี้ล่ะ?
Choice Crisisเกิด
ซึ่งวันนั้นมันมาแน่นอน
วันนั้นเราจะทำยังไง?
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกบล็อคถูกเตะออกจากกลุ่ม
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกคนที่ขึ้นมาขายใหม่ๆ
เค้าอยากได้ลูกค้า
ก็ยอมเข้าเนื้อลดมากกว่า
จนผมอยู่ลำบากขึ้น
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
มีเพจที่ต้องยิงแอดมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเริ่มที่จะไม่คุ้มทุน
ผมมองว่า
การที่เราอยู่แบบนี้
นี่ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง
—————
จนราว7ปีที่แล้วผมไปเจอเพื่อนคนนึง
ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนของผม
เค้าชอบกินไวน์มาก
แล้วเค้าก็เปิดคลิปของ
Gary vee ดูอยู่
ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จัก
เค้ามาโชว์ชิมไวน์
โชว์ว่าไวน์ไหนอร่อย
ไวน์ไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
ไวน์ตัวไหนใช้ในงานไหน?
มีเป็น100วีดีโอ
(จริงๆเพื่อนผม
ไม่ได้ชอบกินไวน์
แต่ว่าที่พ่อตามันชอบไวน์เว้ย)
มันก็เลยต้องศึกษา
มันก็ไปหาข้อมูล
ก็มีแต่คนขายๆๆ
มือใหม่มันแยกไม่ออก
จนมาเจอyoutube ของGary V
มันก็เก่งขึ้นเลย
เอาใจพ่อตามันได้
แล้ววันนั้นผมปิ๊งไอเดีย
อะไรบางอย่างขึ้นมา
มีสมมุติฐานบางอย่างในใจ
ว่ามันใช้สิ่งที่ผมคิดไหม?
ผมเลยถามไปว่า
แล้วมึงซื้อไวน์ที่ไหน?
แล้วมันก็บอกสั่งในเวป
ผมถามเวปอะไร?
มันก็บอกว่า...
Wine library
พอผมเข้าไปดูเท่านั้นแหละ
หน้า gary vee โผล่มาเลย
ผมถามว่ามันคือของ gary v เหรอ
มันบอกใช่
ผมถามทำไมมันถูกเหรอ?
เพื่อนบอกเปล่าก็
ไม่รู้ดิ
อยากซื้อที่นี่
เค้าก็ให้ข้อมูลดี
—————
วันนั้น
“ผมได้จุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่เลย”
ถ้าวันนั้นผมขายรถ
ถ้าเราจะเปิดเพจ
แล้วถ้าเราคิดแต่จะขาย
เหมือนทั่วไป
เพื่อนผมหรือคนอื่น
ก็คงไม่มีทางซื้อกับผมแน่นอน
เพราะคนส่วนใหญ่
ที่ไม่มีความรู้
เค้ามักจะไม่ซื้อเลยทันที
ต้องหาข้อมูลก่อน
แต่เราไม่มีอะไรเลย
ถ้ามาถึงเจอเพจผม
ที่มาถึงขายๆๆ
ไม่มีอะไรให้ติดตาม
เพื่อนผม
หรือคนที่จะซื้อไม่เอาแน่นอน
และคงไม่ตามเพจต่อด้วย
——
แต่ตรงกันข้าม
กับกรณี ร้านไวน์
มันคือการ Educateตลาด
มันคือให้ how to แก้ปัญหาให้ลูกค้า
หรือจะพูดง่ายๆ
เราเป็นห้องสมุดของลูกค้า
แล้วเค้า ไม่ได้ขายอะไรเลยนะ
แต่เค้าเหมือนทำห้องสมุด
รวมรวมhow to
ให้สำหรับคนชอบกินไวน์
คนกินไวน์ไม่รู้ อะไรบ้าง?
ไม่เข้าใจอะไรบ้าง?
ตั้งแต่ไม่เคยกินเลย
ไม่เข้าใจวัฒนธรรม
ไม่รู้เรื่องความแตกต่างของชนิด
แม่งเป็น1,000ปัญหา
เหมือนเราเข้าไปชมนิทรรศการไวน์
ได้รู้เรื่องใหม่ๆ ได้แก้ปัญหาตัวเองได้
แล้วพอถึงจุดนึง
อยากซื้อ
ก็ซื้อกับเค้านี้แหละ
————
วันนั้นผมบอกตัวเองเลยว่า
นี่แหละ Game Changer
ที่เราหามานาน
ผมจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว
เพราะแบบนั้น
วันนึงChoice crisisมา
ผมจะไม่ต่างกับใครเลย
แล้วจะตายในที่สุด
————
เพราะฉะนั้น
ผมจะสร้างห้องสมุด
ของลูกค้าผม
ผมListทันทีเลยว่า
ห้องสมุดของคนซื้อรถล่ะ?
มีอะไรบ้าง?
คนที่ไม่เคยมีรถเลย
ปัญหาเพียบเลย
คนที่ได้รับรถไปแล้ว
แต่เป็นรถคันแรก
เค้ารู้ไหมต้องทำอะไรบ้าง
โหปัญหาเพียบเลย
ผมทำเลย
(เลิกไปแปะขายดื้อๆแล้ว)
สมัยก่อนผมทำสิ่งนี้แหละ
แล้วในเวลาไม่นาน
มันเปลี่ยนการขายผมไปเลย
—————
จนตอนหลังผมถูกคน
บอกมาสอนเรื่องพวกนี้หน่อย
ผมถ่ายทอดให้เพื่อนที่ขายรถ
เอาไปทำ
วันนี้เค้าไม่ต้องไปยืนขาย
ก็อยู่ได้แล้ว
เพราะลูกค้ามามหาศาลทางออนไล
ผมให้คนที่เป็นนายหน้า ตัวแทน
และเพื่อนๆที่รู้จักในวงการ
พอเค้าทำวิธีนี้
เป็นห้องสมุดของลูกค้าเค้า
ภายหลังชีวิตเปลี่ยนหมดเลย
จนผมถูกถามเยอะมาก
ให้มาไปแชร์เรื่องทำการตลาดOnline
มันก็กลายเป็นอีก1ธุรกิจ
จนตัวผมเอง
ก็ต่อยอดมาถึงวันนี้
—————
และธุรกิจนี้ของผม
ผมก็ทำเช่นเดียวกัน
ผมช่วยเหลือการด้านตลาดOnline
ให้คนที่มีธุรกิจแล้ว
ต่อยอดโตขึ้นได้
ทุกวันนี้เนี้ย
ผมก็ทำห้องสมุดของผม
ช่วยนักธุรกิจต่อยอดโต
ทุกปัญหาอะไรที่พี่น้องเป็นกัน
ผมก็ทำคลิป
ทำบทความ
ออกมาแชร์แก้ปัญหาพี่น้อง
ผมทำเพจนี้มาจะครบ7ปีแล้ว
ถึงวันนี้
พี่น้องเคยเห็นผมหยุดPostไหม?
7ปี หรือ2,000กว่าวันที่ผ่านมา
ทำไมผมไม่เคยตันในการ
ทำ Contentเลย?
สงสัยไหม?
เพราะอะไร?
เพราะปัญหาของคนมันมีตลอดเวลาไง?
เห็นภาพไหมครับ?
————
เพราะฉะนั้น
กลับไปที่คำถามวันนี้
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
ทำยังไงให้คอนเทนต์ไม่ตัน
ผมแชร์ในฐานะ
คนที่ทำเพจมาเกือบ7ปี
แล้วทำคอนเทนได้ทุกวัน
แชร์จากการทำจริง
จากผลลัพธ์ของจริง
ทุกคนที่รู้จักผม
ที่มาปรึกษา หรือPrivate
เรื่องการทำเพจ
จะให้ผมแชร์เรื่องนี้เสมอ
เค้าอยากรู้ว่า
ผมทำContentได้ยังไงทุกวันเกือบ7ปี
โดยไม่เคยตัน
เพราะฉะนั้น
แน่นอน
วันนี้ผมเอาสิ่งนี้มาให้พี่น้องด้วย
แล้วผมรับรองเลยว่ามันจะเปลี่ยน
ทั้งmindset และผลลัพธ์
—————
5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
ข้อที่
1.เปลี่ยนจุดศูนย์กลางใหม่
ถ้าใครฟังคลิปผม
แทบทุกคลิปเลย
ผมจะให้แก่นกับพี่น้องเสมอว่า
“แก่นของการทำธุรกิจ
คือการตอบโจทย์ลูกค้า”
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำธุรกิจ
ไม่ใช่focusว่าจะขายอะไร?
ถ้าคุณตั้งต้นแบบนี้
มันก็อินดี้ไง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เข้าใจไหม?
เพราะตั้งโจทที่
คุณตอบโจทย์ตัวเอง
แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
ไม่ได้เริ่มต้นมองจากลูกค้า
แล้วจะไปหวังให้คนซื้อได้ยังไง
ถูกไหม?
แต่ถ้ากลับกัน
คุณไปดูว่าผู้คนเค้ามีปัญหาอะไร?
แล้วเราเซิฟสิ่งนั้นได้
หรือเรามีสิ่งนี้อยู่
แล้วไปเช็คตลาด
หรือมองแล้วว่า
เราEducateตลาดได้
โอกาสที่เป็นจริงมันก็มากกว่า
————
เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจ
เราจะได้กำไรได้ก็ต่อเมื่อ
ลูกค้าเค้าต้องซื้อคุณ
ในอีกแง่นึงคือ
เราก็ตอบโจทย์เค้าได้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น
“คุณต้องตั้งต้นด้วยลูกค้า”
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าก็จริงๆ
แต่จริงๆ
ลูกค้าคือจุดศูนย์กลางเลย
อย่าFocusที่ตัวเอง
Focusไปที่ลูกค้า
ใครที่หาธุรกิจอยู่แนะนำไปดู
(คลิปที่ชื่อว่า4วิธีหาไอเดียทำธุรกิจ)
(ver.เจาะลึก ไม่มโน)
เช่นกัน
ในแง่การทำคอนเทน
วันนี้
คุณขายอะไรอยู่
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เปิดโชว์รูมรถยนต์
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
ทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
ต้องเลิกถามตัวเองแบบ
จะทำคอนเทนอะไรดี
แล้ว...
———
ไปทำข้อ
2.คือ
ถามคำถามใหม่กับตัวเองว่า
“ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้าง”
เค้ายังไม่รู้หรือไม่เข้าใจอะไรอยู่
หรือขาดความรู้อะไรอยู่
เช่น ฉีดปลวก
มีปัญหาอะไรว่ะ?
เค้ามีเด็กเล็กกลัวเคมีหรือเปล่า
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนฉีดปลวก
มีสัตว์เลี้ยงรึเปล่า
ต้องทำยังไงก่อนหรือหลังฉีด?
มีผู้สูงอายุไหม ต้องทำยังไง ปลอดภัยไหม?
บ้านปูน บ้านไม้ต่างกันยังไง
น้ำยาเคมีแบบไหน
การเตรียมตัว
ควรรื้อทิ้ง หรือยังซ่อมได้
ปลวกขึ้นฝ้า
มีเป็น100 ปัญหานะ
เห็นไหม?
—————
เห็นพี่ตัวอย่างพี่น้อง OTO เกษตรกล้าไหม?
จริงๆเค้าทำเรื่องเกษตรนะ
เรื่องปลูกผลไม้
แต่50กว่าวันที่ทำเพจไป
คนติดตามจะ20,000แล้ว
ตัวเค้ายังพูดเรื่องทุเรียนไม่หมดเลย
เพราะปัญหามันมีเยอะ
เกษตรกรมีปัญหาอะไรล่ะ ?
เนี่ย คอนเทนทั้งนั้น
วันก่อนผมเจอคำถามว่า
เลี้ยงวัวขาย หรือขายอาหารวัว
จะทำคอนเทนยังไง?
ลองไปดูพี่น้องที่เพิ่งเข้าไปเรียนOTO
ได้ยังไม่ถึงเดือน
เพิ่งเริ่มทำเพจ ที่ชื่อว่ารู้รอบตอบโจทวัวขุน
ตอนนี้เพจยังไม่โต
แต่ก็1,000กว่าคนติดตามแล้ว
แต่ทำไมเค้าทำ คอนเทนได้ทุกวัน?
เห็นภาพไหม?
เพราะเค้ามองไปที่ปัญหาของลูกค้า
ว่ามีอะไรบ้างที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
เค้าก็เอามาทำ
ซึ่งมันมีเยอะมาก
————
ในคลาสOnline Take Over
มีธุรกิจแทบทุกวงการเลย
เพชร จะทำคอนเทนอะไร?
ลูกค้าซื้อเพชร
เค้าอยากได้อะไร?
บางคนบอกวิธีดูเพชร
พูดไป20คลิปก็หมดแล้ว
อย่าไปมองแบบนั้นดิ
มองให้ลึกไปอีกสิ
เพชรแบบไหน เข้าชุดอะไร
เข้ากับโอกาสแบบไหน
เนี่ยก็ทำได้
ไปดูพี่น้อง1 Year และ OTO
เค้าชื่อน้ำตาล
เจ้าของร้าน เพชร นพรัตน์
เค้าก็ทำคอนเทนได้ไม่รู้จบ
————
ถ้าเรามองที่ปัญหาลูกค้าจริงๆ
พี่น้องในOTO ที่ตอนนี้ที่กำลังทำเพจ
มีหลายธุรกิจเต็มไปหมดเลย
คลีนิคคุณหมอ รักษาผิว
รักษาเบาหวาน
สักคิ้ว
ขายกล้อง
ทำฟิตเนส
หมอฟังเข็ม
หมอฟัน
ร้านอาหาร
นายหน้าอสังหา
ร้านทอง
ติวเตอร์
ร้านสูท
Expert Biz ทั้งหลายเป็น100คน
หรือเรื่องภาษี
ทำไมเค้าทำคอนเทนได้ตลอดเวลาไม่ตัน?
เพราะเค้าFocusที่ปัญหาลูกค้า
ตราบใดที่ลูกค้ายังมีปัญหา
คอนเทนท์ก็ไม่มีทางตัน
—————————
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
ยิ่งถ้าวันนี้คุณมีลูกค้า
หรือเคยขายอยู่แล้วยิ่งสบาย
ที่ผ่านมา
ก่อนเค้ามาใช้บริการคุณ
หรือซื้อคุณ
เค้าเคยถามเคยมีปัญหาอะไร้บาง?
เช่น
ผมไล่นึกเลยลูกค้าเก่าที่เคยซื้อรถไป
ก่อนหน้านั้นเค้าเคยถามอะไร
เคยมีปัญหาอะไรที่เราเคยตอบไปแล้ว
ช่วยเค้าไปแล้ว
เช่นเลือกไม่ถูก?
ไม่รู่ว่ารุ่นไหนเหมาะกับเค้า?
สัดส่วนรถ
ข้อดีข้อเสีย?
รีโมทเปลี่ยนถ่านเองยังไง
ดิสเบรคเป็นสนิม ปกติไหม?
เศษหินติดดอกยางรถ จะระเบิดไหม
ต้องแคะไหม?555
เรื่องพวกนี้
เพียบเลย เอาจริงๆหลายร้อยๆ
แต่มันเป็นปัญหาเค้าจริงๆนะ
คำถามไหนที่ผมเคยถูกถามไว้
ผมก็นำมาทำเป็นบทความเป็นคลิป
ก็รวบรวมเป็นห้องสมุดของลูกค้าผมเลย
ช่วยลูกค้ารายใหม่ๆได้
เค้ายังไม่ซื้อเราวันนี้
แต่เค้ามาศึกษาจากห้องสมุดของเราไปก่อนได้
วันที่จะซื้อ เราก็เป็นตัวเลือกต้นๆ
———
มีอะไรอีกขายเพชร
เช่นลูกค้าเคยถาม
เพชรอันนี้มันจะเข้ากับโอกาสนี้ไหม?
มันใหญ่ไปไหม?
เข้ากับเสื้อผ้าอะไร
แหวนหมั่นแหวนแต่ง
ควรแบบไหน
(เนี่ยปัญหา)
ผมอยากได้เสื้อสูทไปงานที่มีผู้ใหญ่ในสังคม
แต่ไม่รู้จะใช้สีอะไรดี ผ้าอะไรดี?
ปกคอแบบไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
หรือสรีระเราเหมาะกับแบบไหน
(เนี่ยปัญหา เอามาทำ)
กระเป๋านี้ใส่ของได้ยาวกี่เซ็นกี่นิ้ว
ใส่macbookได้ไหม
ควรเลือกยังไงดี?
วัวไม่กินอาหาร?
ทุเรียนเป็นราแก้ยังไง?
พวกนี่ปัญหาทั้งนั้น
คนอื่นมันก็เป็น
เอามาทำสิ
สิ่งที่ลูกค้าเก่าเคยเป็นปัญหา
เราแก้ให้เค้าไปแล้ว
เราก็เอามาเป็นตำรา
เอามาสะสมเป็นห้องสมุด
ช่วยลูกค้าใหม่
รวบรวมเป็นห้องสมุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรื่องนั้น
เห็นภาพไหม?
————
คุณลองคิดดูนะ
คุณเองก็มีปัญหา
บางทีจะซื้ออะไร
มีแต่คนขายๆๆ
คนไปดูเพจก็ไม่มีอะไรเลย
มีแต่ขาย
แล้วคุณก็ไม่สนใจ
หนีไปดูเจ้าอื่น
แล้วก็ลืมเค้าไปแล้ว
(ลูกค้าคุณก็คิดแบบนี้กับคุณเช่นกัน)
———
แต่ถ้ากลับกัน
คุณเห็นPostๆนึงของร้านขายสูท ขายชุดออกงาน
น่าสนใจ
ตามเข้าไปดูเพจเค้า
เห้ยแตกต่าง
ไม่ได้มีแต่Postขายๆๆๆ
(ปกติเจอแบบนี้เด้งออกมาแล้วถูกไหม)
แต่ไม่ใช่เว้ย
เข้าไปปุ๊บมีเรื่องให้อ่าน
มีคลิปให้ดูให้เราเข้าใจมากขึ้น
ว่าไปงานนี้ใส่อะไร
ไปงานนี้แต่งแบบไหน
สีอะไรขับความหล่อ สวยของเรา
การตัดเย็บแบบไหน
เราอาจจะไม่ได้ซื้อวันนั้น
แต่เมื่อเราจะซื้อขึ้นมา
ร้านนั้นเด่นขึ้นมาในใจทันทีถูกไหม?
ลูกค้าคุณก็เช่นกัน
เค้าก็คิดแบบนั้นอยู่
จริงๆนี้ผมพูดเกินกว่า
เรื่องหาคอนเทน
ไปเยอะเลยนะ
นี่พูดไปถึงจิตวิทยาเลย
เป็นของแถมไปละกัน555
จริงๆมาถึงแค่ข้อนี้
คอนเทนมหาศาลแล้วถูกไหม?
แค่เรากลับไปที่แก่นของการทำธุรกิจ
ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการทำคอนเทนคุณ
และลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์อันล่ำค่า
ที่มอบคอนเทนดีๆให้กับคุณ
จงใส่ใจลูกค้า
คลุกคลีกับลูกค้า
ดูแลลูกค้าที่ขายไปแล้วให้ดี
Thx economyกับเค้า
ธุรกิจคุณจะเติบโตก้าวกระโดด
และcontent คุณจะไม่มีวันตัน
—————
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
ถ้าคุณแวดล้อมตัวเองด้วยคนที่ทำธุรกิจ
มันจะช่วยได้มหาศาลเลย
ทั้งเรื่องไอเดียมุมมอง
ถ้าอยู่ในกลุ่ม
ธุรกิจแบบเดียวกับที่คุณทำ
คุณก็จะได้ปัญหาเชิงลึก
จากเค้า
เช่นเค้าเจอเคสอะไรมา
แก้ยังไงไป
นี่ก็เป็นไอเดียในการมาทำคอนเทน
แบบเชิงลึก
หรือ
แวดล้อมด้วยคนในธุรกิจอื่นๆอันนี้ก็ดี
เพราะมันจะทำให้เห็นภาพกว้าง
มันจะมีอะไรมาadaptได้เสมอ
อย่างพี่น้องในOTO
มีหลายธุรกิจมาก
ไอเดียเต็มไปหมด
เอาไอเดียมาAdapt ใช้กันได้
เพราะมันธุรกิจเหมือนกัน
——
คนทำร้านเพชรก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเสื้อผ้า
คนทำร้านเสื้อผ้าก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเครื่องประดับ
ไอเดียบางอันมันCrossกันได้
หรือใน1 year แต่ละคนมีของทั้งนั้นเลย
เค้าก็ช่วยกันมองหน้ามองหลัง
และแนะนำกัน
มันก็เลยไปเร็วไง ไฟลุกตลอด
และContentก็ไม่มีทางตัน
ขอให้ถามขึ้นมาเถอะ
รุมช่วยกันใหญ่
--------
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณทำเพจ
และถ้าคุณหากลุ่มที่เค้าทำธุรกิจเก่งๆอยู่ด้วย
คลุกคลีกัน
มันจะช่วยคุณได้มาก
เพราะเหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น
ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มทำOnline
มีกลุ่มมีเพื่อนที่เค้าทำเหมือนกัน
ช่วยได้เยอะมาก
ลองทำดูคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
คุณจะไปหาเอง
หรือคุณอยากจะมาจอยในOTO
แชร์ไอเดีย
กับพี่น้องที่ทำเพจร่วม1,000คนก็ได้
หรือถ้าคุณมีธุรกิจมาอยู่แล้วระดับนึง
อยากจะมาจอยใน1yearCLUB
ที่มีพี่น้องเจ๋งๆที่ทำธุรกิจ
ก็ยินดีต้อนรับครับ
————————
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะเพจแบบยุคใหม่
ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
คุณจะสังเกตุเห็นว่า
วันก่อนผมPostหน้าเพจ
ถามว่าพี่น้องที่ทำเพจ
มีปัญหาอะไรบ้าง?
แล้วพี่น้องก็ตอบมาหลายร้อยข้อความ
แล้วผมก็มีไอเดียทำคอนเทน
ออกมาแก้ปัญหาให้พี่น้องได้
เนี่ยคอนเทนในวันนี้
ผมก็เอามาจากปัญหาของพี่น้องนะ
—————
พี่น้องในOTOตอนนี้
หลายคนตอนนี้มีฐานแฟนแล้ว
หลายคนเพจขึ้นไปหลัก10,000แล้ว
มีฐานแฟนเหนียวแน่น
เค้าก็สามารถpostถามฐานแฟนตัวเอง
ปัญหาอะไรที่ฐานแฟนเค้า
ยังติดอยู่
ซึ่งพี่น้องOTOหลายคนก็
ใช้วิธีนี้
ก็ได้ปัญหาดีๆมาทำคอนเทน
ช่วยแฟนๆของเค้าอีก
ถ้าเพจคุณมีฐานแฟนเหนียวแน่น
คุณก็ไม่ต้องไปหาว่า
จะทำคอนเทนอะไรจากไหนเลยนะ
คุณถามฐานแฟนคุณได้ตรงๆแบบนี้เลย
เนี่ยคอนเทนจะตันได้ยังไง?
เห็นภาพไหม?
ไม่มีทางตันเลย
คุณชอบไหมล่ะ
การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
เป็นเจ้าของเพจ
ที่สามารถทำแบบนี้ได้
ถ้าชอบ
ก็...
“วันนี้ตั้งมันเป็น1ในเป้าหมายของคุณสิ”
ว่าเราจะทำเพจเราให้เป็นแบบนี้
เหมือนกับพี่น้องหลายคน
หรือพี่น้อง OTO
———
สรุป5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
1.เปลี่ยนจุดศุนย์กลางใหม่
(ลูกค้าคือศุนย์กลาง ไม่ใช่เรา)
2.ถามคำถามใหม่กับตัวเอง
(ไม่ใช่จะpostอะไรดี
(เปลี่นเป็นเอ้ย
ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้างนะ)
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
(ปัญหาอะไรที่ลูกค้าเก่าเคยถาม
และเราตั้งใจแก้ไขให้เค้าไปแล้ว
นั่นคือสุดยอดคอนเทนท์สำหรับลูกค้าใหม่)
(จงเอามาทำ)
(และดูแลลูกค้าเก่าให้ดี)
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
(เอาตัวไปอยูกับคนที่ทำเพจทำธุรกิจเก่งๆ
แวดล้อมด้วยบรรยากาศแบบนั้น)
ไอเดียทำคอนเทนดีๆหลายครั้งก็มักมาจากเพื่อน
(เหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น)
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะทำเพจแบบยุคใหม่
(ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน)
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
และไม่มีทางเลยที่คอนเทนจะตัน
เพราะถามแฟนๆได้ตลอด
-------
และนี่ก็คือ5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
ผมเชื่อว่าคลิปนี้(Postนี้)จะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง
ที่ทำธุรกิจ ทำเพจทุกคนครับ
ก็ถ้าชอบ ได้ประโยชน์
ได้ไอเดียจากคลิปนี้ก็ช่วยกดLikeให้ผม
หรือคอมเมนต์บอกกันหน่อย
แล้วก็อย่าลืมกด subscribe
ถ้าทางyoututbe ก็กดดิ่งแจ้งเตือน
จะได้ไม่พลาดคลิปหน้า
ที่ผมจะคัดสรรนำมาลงอีก
แล้วก็ถ้าคุณรักใคร คุณอยากโตไปพร้อมกับใคร
ก็อย่าลืมแชร์ไปให้เค้า
เพื่อทุ่นเวลาซึ่งกันและกัน
ลุย!
A10(เอเท็น)
iClass
Online Take Over
1 Year Club
สังคมแห่งความเป็นไปได้