สิ่งที่ได้จากการดูหนังสารคดีเรื่อง The Social Dilemma ทาง Netflix ที่ทำให้อยากพักจากโลก social media ไปเลย คือ (Spoiler Alert)
1. Social media ที่เราเล่น ๆ กันอยู่แบบติดมันมาก ๆ แม้มีข้อดี ล้วนมีความน่ากลัวอยู่มากกกกกกกกก (น่ากลัวยังไงต้องไปดูกันเอง)
2. ตัวเรา ต้องลดการใช้งาน FB, IG, Twitter และอื่น ๆ ลงให้ได้ ตอนนี้ตั้งไว้ที่ วันละ 30 นาที แล้วต้องออกจากมันเลย ยกเว้นวันที่ต้องทำงานจริง ๆ ทุก social media จะพยายามทำทุกทางให้เรา ใช้เวลาอยู่กับมัน เราต้องกัดฟัน ออกจากมันให้ได้
3. Social media detox มีความจำเป็นมาก สำหรับคนที่ไม่สามารถเลิกเล่นมันได้อย่างตัวเรา
4. มันมีความจำเป็นที่เราต้องรับข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง แล้วมาวิเคราะห์เองต่อ เพราะบางครั้งที่เราเห็นว่า ทุกคนรอบตัวคิดเหมือนเราหมดเลย อาจเป็นเพราะระบบ algorithm ทำให้เป็นแบบนั้น ซึ่งอันนี้ถ้าเป็นตามสารคดีคือน่ากลัวมากกกกกก
5.ยังมีอีกหลาย ๆ ประเด็นที่น่ากลัวและน่าสนใจ เอาเป็นว่า ใครว่างลองหาดูกันเอง
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「social detox คือ」的推薦目錄:
- 關於social detox คือ 在 LG and Friends Facebook 的最讚貼文
- 關於social detox คือ 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Facebook 的最讚貼文
- 關於social detox คือ 在 Startyourway เส้นทางนายตัวเอง Facebook 的最佳解答
- 關於social detox คือ 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於social detox คือ 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於social detox คือ 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
social detox คือ 在 HealthyChill เฮลตี้สายชิล Facebook 的最讚貼文
Take a step back, breathe, refresh, and restart.🦋
.
นานแค่ไหนแล้วคะ ที่เราใช้ชีวิตทุกวันโดยไม่เคยกลับมา “check” สภาวะใจของเราเลย นานแค่ไหนแล้ว ที่เราเอาเรื่องต่างๆ เอาคำพูดลบๆ มาเก็บไว้ในหัวใจมากมาย จนหมดพลัง จนเหนื่อยล้า นานแต่ไหนแล้วที่เราปล่อยให้ใจเรารกร้าง ขาดการเติมเต็มด้วย “ความรัก” ความเอาใจใส่ ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่เราจะเอา “หัวใจ” ของเราออกมาปัดฝุ่นเสียที ไปเริ่มด้วยกันเลยนะ
.
Sometime you need to go offline and get your life right.
การใช้เวลาในโลกออนไลน์ตลอดเวลาบางครั้งก็ทำให้เราเผลอเสพติด “ความ perfect” ที่เป็น “ภาพลวงตา” มากเกินไปจนเผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ทำให้หัวใจเรากักเก็บแต่ความรู้สึกที่เป็นพลังงานลบ และการกดดันตัวเองมาสะสมไว้โดยไม่รู้ตัว ลองหันมาทำ social media detox กันดูนะคะ เอาตัวเองออกจากจอมือถือสักพักในทุกวัน กลับมาโฟกัสถึงสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่มีความหมายในชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเราให้มากขึ้น กลับมา 100% กับตัวเอง คนที่เรารัก กลับมาอยู่กับธรรมชาติให้มากขึ้น เพื่อให้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรากลับมาทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง และ “ใจ” เรากลับมาอยู่กับ “ปัจจุบัน” now เวลาที่ที่ดีที่สุดแล้ว
.
Creating new habbits based on self-love and self-care.
ลองมาสำรวจตัวเองดูกันนะคะว่า นิสัยเก่าๆ แบบไหนบ้างของเราที่ไม่ได้สนับสนุนให้เรามีสุขภาพใจ และกายที่เต็มไปด้วยความสุข และรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาของชีวิต ค่อยๆ ลดนิสัยและพฤติกรรมแบบนั้นลง และจงสร้างนิสัยใหม่ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจว่า “ฉันเป็นที่รัก และฉันคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ” ให้ตัวเองทุกวัน ดูนะคะ แล้วคุณจะ “ตกหลุมรัก” ตัวเองในเวอร์ชั่นใหม่นี้มากขึ้นแน่นอน
.
Connect to your higher self more.
ยิ่งเรารู้จักตัวเองมากขึ้น เราจะยิ่งเข้าใจ “โลกภายใน” ของตัวเองดีขึ้น เราชอบคิดกับตัวเองยังไง ความรู้สึกแบบไหนที่เกิดขึ้นกับเราบ่อยมากที่สุด และเราตอบสนองกับมันอย่างไร ลองกลับมาให้เวลา “me time” กับตัวเองมากขึ้นดูนะคะ เพราะ “ใจ” คือ บ้านที่พักพิงของเรา และเมื่อโลกภายในของเราเปลี่ยน โลกภายนอกก็จะเปลี่ยนตามในที่สุด
.
Protect your peace.
Get rid of toxicity.
Cleanse your ‘heart’ space.
Cultivate LOVE.
ใครชอบบทความนี้ "พิมพ์ YES" 😄🥰
ให้กำลังใจ "กด Share" นะคะ
Line@ https://lin.ee/rQpDMRp
social detox คือ 在 Startyourway เส้นทางนายตัวเอง Facebook 的最佳解答
อาการ Burnout Syndome อาการหมดไฟในการทำงาน ถึงแม้ไม่ใช่โรคซึมเศร้า แต่ก็ทำร้ายผู้ที่ประสบปัญหามากมายกว่าที่คิด ลักษณะของอาการ คือ
- เชื่อว่าตัวเองห่วย รู้สึกตัวเองไม่เก่ง ทำงานอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง
- ซึมเศร้าขณะทำงาน ไม่อยากทำงาน หมดแรง หมดพลัง
- วิตกกังวล เครียด กลัวว่าจะทำงานไม่สำเร็จ นอนไม่หลับ ไม่อยากตื่น ไม่มีความสุข
- ท้อแท้สิ้นหวัง มองไม่เห็นอนาคต ไร้แรงบันดาลใจ ไม่รู้ทำงานไปเพื่ออะไร
หากคุณกำลังประสบปัญหานี้ ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำว่าให้รักษาด้วยการปรับสมดุลชีวิตใหม่หมด เริ่มจาก
พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มมึนเมา ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ สร้างกิจกรรมพักผ่อน ลดเวลาการเล่น Social Media และปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งเอาจริงๆ สิ่งเหล่านี้ต้องทำเป็นปรกติเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่แล้ว
แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่พนักงานประจำจะทำได้ยากมาก แต่หากเป็นเจ้านายตัวเอง จะทำได้สะดวกยิ่งกว่า คือ การหยุดทำงานไปเลยเพื่อให้ร่างกายได้ Detox ขยะในใจทั้งหมดทิ้งไป และจ้างหรือไหว้วานแล้วแบ่งรายได้ให้คนอื่นเพื่อมาทำงานส่วนที่เราไม่ชอบแทน อาจจะเสียรายได้ลงไปบ้าง แต่ก็ได้ความสงบสุขกลับมามากมายมหาศาล
ผมกับภรรยาเองก็เคยประสบปัญหาหมดไฟในการทำงาน เลยตัดสินใจวางงานทั้งหมดทิ้งไปด้วยการจ้างคนอื่นมาทำงานแทนเราชั่วคราว และจัดทริปท่องเที่ยวยาว 2 สัปดาห์เต็มแบบมาราธอน พอชาร์จพลังจนเต็มและเกิดอาการอยากทำงานอีกครั้ง ก็กลับมาทำงานหาเงิน และวางแผนเกษียณต่อไป
ใช่ พอผมมีอาการ Burnout Syndome เมื่อหลายปีที่แล้ว ผมยิ่งให้ความสำคัญเรื่องวางแผนการเงินเพื่อ "หยุดทำงาน" มากยิ่งขึ้น
แน่นอน คุณอาจจะทำงานแล้วใช้เงินอย่างหนักเพราะอยากจะมีความสุขวันนี้ เดี๋ยวนี้ โดยไม่ต้องคิดถึงอนาคต ซึ่งแนวคิดนี้ก็ไม่ผิดถ้าคุณเลือกด้วยตัวเอง แต่หากวันใดคุณประสบปัญหา Burnout Syndome โปรดจำไว้ว่า นี่คือสัญญาณเตือนถึงชีวิตในอนาคต ถ้าวันหนึ่งคุณไม่อยากทำงานแล้ว คุณจะทำอย่างไรกับชีวิต ระหว่างวางแผนเพื่อเกษียณในวันนี้ หรือก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปทั้งๆที่ตนหมดไฟ