ไม่ได้ยกเวทนานแค่ไหน กล้ามถึงจะหาย?
ถึงแม้ในช่วงนี้เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค Covid-19 ลงแล้ว แต่ฟิตเนสยิมก็ยังไม่สามารถเปิดได้ หลาย ๆ คนก็คงเกิดข้อสงสัยกันว่า แบบนี้ถ้าเราไม่ได้ยกเวทไปนาน ๆ กล้ามเนื้อที่อุตส่าห์ออกกำลังกายสร้างมาจะหายไปไหม Fit Junctions จะมาให้คำตอบในเรื่องนี้กัน
- - -
รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วร่างกายคนเรามีการสูญเสียและการสร้างกล้ามเนื้ออยู่ในทุก ๆ วันเป็นเรื่องปกติ เราเรียกว่ากระบวนการเหล่านี้ว่า Muscle Protein Breakdown คือ การเอาโปรตีนไปใช้ และ Muscle Protein Synthesis คือ การสร้างโปรตีน
เพราะฉะนั้นที่เรากล้ามไม่หาย เป็นเพราะกระบวนการสร้างโปรตีนเยอะกว่ากระบวนการเสียโปรตีน ซึ่งการจะทำให้เกิดกระบวนการนี้ได้ เราก็ต้องกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายแบบแรงโหลดต้าน หรือเวทเทรนนิ่ง รวมถึงกินสารอาหารให้ครบ กินโปรตีนให้เพียงพอ รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอด้วย
- - -
หากเราไม่ได้กระตุ้นกล้ามเนื้อเลย หรือหยุดเล่นเวทไปนานๆ สิ่งที่จะเกิด คืออะไรบ้างมาดูกัน
ถ้าหยุด 1-2 สัปดาห์กล้ามเนื้อและพละกำลังจะยังไม่ได้ลดลง แต่จะเริ่มรู้สึกว่าร่างกายเหี่ยวๆ หนังเหี่ยวๆ บวมน้ำ แต่ไม่ได้แปลว่ากล้าเนื้อหายไปแล้ว สาเหตุจริง ๆ คือ เพราะสารอาหารในร่างกาย หรือ Glycogen ไม่ได้ถูกใช้งาน เนื่องจากเราไม่ได้ออกกำลังกายมันจึงค่อย ๆ ลดลง จึงทำให้กล้ามเนื้อไม่ฟู รวมถึงการกินอาหารสำเร็จรูปที่มีโซเดียมเยอะ ๆ ก็ทำให้ร่างกายบวมน้ำได้ด้วย
- - -
เข้าสัปดาห์ที่ 3 ระบบเผาผลาญหรือ RMR (Resting Metabolic Rate) จะยังไม่ลดลง ซึ่ง RMR มีความเกี่ยวโยงกับกล้ามเนื้อ เมื่อ RMR ไม่ลดก็เท่ากับว่ากล้ามไม่หาย
หลังจากผ่านไป 3 สัปดาห์ที่เราไม่ได้ออกกำลังกาย พละกำลังของเราจะเริ่มลดลง แต่ก็ไม่ได้แปลว่ากล้ามเนื้อจะหายอยู่ดี แต่เกิดจากระบบสั่งการของสมองที่สั่งการไปที่กล้ามเนื้อที่เราไม่ได้ใช้งาน จึงทำให้ระบบสั่งการของร่างกายเราฝืดขึ้น สั่งการกล้ามเนื้อได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้เมื่อหยุดไป 3 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ 5 สัปดาห์ เราก็จะยิ่งเสียพละกำลังลงไปเรื่อยๆ เริ่มจาก 10% 15% 20% เป็นต้น
หลังจากนี้ 2 เดือน 3 เดือนกล้ามจึงจะค่อยๆ หายไป ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็บอกไม่ได้ว่าจะหายเยอะแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเราว่าโภชนาการที่เราได้รับเป็นอย่างไร การพักผ่อนเราดีเพียงพอหรือเปล่า
- - -
สรุป
- หยุด 1-2 สัปดาห์ จะไม่ทำให้กล้ามหาย และพละกำลังก็ไม่ได้ลดลง
- หยุด 3 สัปดาห์ ระบบเผาผลาญจะยังดีอยู่ = กล้ามจะยังไม่หาย
- หยุด 4 สัปดาห์ขึ้นไป พละกำลังจะเริ่มลดลง
- หยุด 8-12 สัปดาห์ กล้ามก็จะค่อย ๆ หายไป หากไม่พยายามรักษา maintain ไว้
เราไม่ต้องกลัวกล้ามเนื้อจะหายในช่วงยิมปิดจนเกินไป เพราะยังมีวิธีรักษากล้ามเนื้ออีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังแบบบอร์ดี้เวท การยืดกล้ามเนื้อ การกินโปรตีน และดูแลโภชนาการให้เพียงพอต่อความต้องการของเรา สุดท้ายอย่าลืม "วินัย และความสม่ำเสมอ" สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่จะทำให้เราฟิตได้ในทุก ๆ วัน
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「synthesis คือ」的推薦目錄:
- 關於synthesis คือ 在 Fit Junctions Facebook 的最佳解答
- 關於synthesis คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
- 關於synthesis คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於synthesis คือ 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於synthesis คือ 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於synthesis คือ 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於synthesis คือ 在 Suzuki Coupling Reaction ใน Organic Synthesis คืออะไร? เกี่ยว ... 的評價
- 關於synthesis คือ 在 วิเคราะห์กับสังเคราะห์ต่างกันยังไง Analysis VS Synthesis/ผศ.ดร ... 的評價
synthesis คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
"ทำไมยาต้านไวรัส HIV จึงเอามาใช้รักษาเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้"
เหตุผลนึงที่คนสร้างข่าวลือปลอมๆ ว่าเชื้อโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้นเป็นอาวุธชีวภาพ ที่ตัดต่อพันธุกรรมร่วมกับเชื้อไวรัส HIV ก็คือการที่มีความพยายามจะนำเอายาต้านไวรัส HIV มาช่วยในการรักษาผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสด้วย
แต่เหตุผลจริงๆ นั้น ไม่ใช่เพราะว่าเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นลูกผสมกับเชื้อไวรัส HIV แต่อย่างไร แต่เป็นเพราะว่าพวกมันมีกลไกการทำงานพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน ในการเข้าจู่โจมเซลล์ของผู้ป่วย
นักวิจัยจึงพยายามเลือกยาที่สามารถใช้ได้ในการต้านไวรัสแบบกว้างขวาง และสามารถจัดหาได้สะดวก มีปริมาณมากเพียงพอ อย่างเช่นยาต้านไวรัส HIV (คือ lopinavir/ritonavir) หรือแม้แต่ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (oseltamivir) ด้วยซ้ำครับ
ต่อไป เป็นรายละเอียดของเรื่องนี้นะครับ
1. จนถึงวันนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือแม้แต่ยา anti virus จำเพาะต่อเชื้อโคโรน่าไวรัสทั้งของมนุษย์และของสัตว์ แต่อย่างไร ... ดังนั้น สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะของประเทศจีน พอจะทำได้ในขณะนี้ คือการนำเอายาต้านไวรัสแบบกว้างขวาง (broad-spectrum antiviral drugs) ที่ยังมีอยู่ มาลองใช้รักษาไปก่อน
2. ตัวอย่างของยาที่กำลังทำการทดลองใช้อยู่ขณะนี้ได้แก่ ยา Lopinavir /Ritonavir, ยา Nucleoside analogues, ยา Neuraminidase inhibitors (เช่น ยาโอเซลทามิเวียร์), ยา Remdesivir, สาร peptide (EK1), ยา abidol, ยา RNA synthesis inhibitors , ยาลดอาการอักเสบ (เช่น ฮอร์โมนต่างๆ) รวมไปถึงสมุนไพรจีนด้วย ซึ่งประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาเหล่านี้ ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบยืนยันทางการแพทย์
3. มีการทดลองเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 แล้ว โดยนำยาlopinavir และ ritonavir ซึ่งเป็นยา anti virus สำหรับรักษาเชื้อไวรัส HIV นั้น มาใช้กับผู้ป่วยโรค SARS จำนวน 31 คน พบว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค SARS เริ่มหยุดลง การทดลองนี้จึงยกเลิกไป
4. สาเหตุหนึ่งที่ยาต้านเชื้อไวรัส HIV อย่าง lopinavir และ ritonavir ถูกหยิบขึ้นมาทดสอบใช้เพื่อรักษาคาโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ก็เพราะว่ายาทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นยาที่หาได้ง่ายและมักจะมีอยู่แล้วในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ (รวมถึงกรณีของยาโอเซลทามิเวียร์ที่ใช้ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ด้วย)
5. สำหรับยาต้านไวรัสแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- Lopinavir เป็นยาต้านไวรัสแบบยับยั้งการทำงานของเอนไซม์โปรตีเอส (protease inhibitor) นิยมเอามาใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสอีกตัวคือ ritonavir
- Ritonavir เป็นยาต้านไวรัสที่ยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสที่ตับ คือ cytochrome P450-3A4 มักนิยมใส่ร่วมกับยาต้านไวรัสตัวอื่น เพื่อให้การทำงานของยานั้นดีขึ้น ยาตัวนี้นอกจากจะนิยมใช้ในการรักษาเชื้อไวรัส HIV แล้ว ยังใช้กับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
- Oseltamivir) เป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์นิวรามินิเดส (neuraminidase inhibitor) ปรดติจะใช้รักษาและป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอและบี รู้จักกันในชื่อการค้าว่า ทามิฟลู
ข้อมูลจาก
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/m/pubmed/31996494/
และ
https://www.theverge.com/…/coronavirus-treatments-universal…
และ
https://www.thelancet.com/…/PIIS0140-6736(20)30183…/fulltext
synthesis คือ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
"ทำไมยาต้านไวรัส HIV จึงเอามาใช้รักษาเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้"
เหตุผลนึงที่คนสร้างข่าวลือปลอมๆ ว่าเชื้อโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้นเป็นอาวุธชีวภาพ ที่ตัดต่อพันธุกรรมร่วมกับเชื้อไวรัส HIV ก็คือการที่มีความพยายามจะนำเอายาต้านไวรัส HIV มาช่วยในการรักษาผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสด้วย
แต่เหตุผลจริงๆ นั้น ไม่ใช่เพราะว่าเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นลูกผสมกับเชื้อไวรัส HIV แต่อย่างไร แต่เป็นเพราะว่าพวกมันมีกลไกการทำงานพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน ในการเข้าจู่โจมเซลล์ของผู้ป่วย
นักวิจัยจึงพยายามเลือกยาที่สามารถใช้ได้ในการต้านไวรัสแบบกว้างขวาง และสามารถจัดหาได้สะดวก มีปริมาณมากเพียงพอ อย่างเช่นยาต้านไวรัส HIV (คือ lopinavir/ritonavir) หรือแม้แต่ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (oseltamivir) ด้วยซ้ำครับ
ต่อไป เป็นรายละเอียดของเรื่องนี้นะครับ
1. จนถึงวันนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือแม้แต่ยา anti virus จำเพาะต่อเชื้อโคโรน่าไวรัสทั้งของมนุษย์และของสัตว์ แต่อย่างไร ... ดังนั้น สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก โดยเฉพาะของประเทศจีน พอจะทำได้ในขณะนี้ คือการนำเอายาต้านไวรัสแบบกว้างขวาง (broad-spectrum antiviral drugs) ที่ยังมีอยู่ มาลองใช้รักษาไปก่อน
2. ตัวอย่างของยาที่กำลังทำการทดลองใช้อยู่ขณะนี้ได้แก่ ยา Lopinavir /Ritonavir, ยา Nucleoside analogues, ยา Neuraminidase inhibitors (เช่น ยาโอเซลทามิเวียร์), ยา Remdesivir, สาร peptide (EK1), ยา abidol, ยา RNA synthesis inhibitors , ยาลดอาการอักเสบ (เช่น ฮอร์โมนต่างๆ) รวมไปถึงสมุนไพรจีนด้วย ซึ่งประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาเหล่านี้ ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบยืนยันทางการแพทย์
3. มีการทดลองเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 แล้ว โดยนำยาlopinavir และ ritonavir ซึ่งเป็นยา anti virus สำหรับรักษาเชื้อไวรัส HIV นั้น มาใช้กับผู้ป่วยโรค SARS จำนวน 31 คน พบว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรค SARS เริ่มหยุดลง การทดลองนี้จึงยกเลิกไป
4. สาเหตุหนึ่งที่ยาต้านเชื้อไวรัส HIV อย่าง lopinavir และ ritonavir ถูกหยิบขึ้นมาทดสอบใช้เพื่อรักษาคาโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ก็เพราะว่ายาทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นยาที่หาได้ง่ายและมักจะมีอยู่แล้วในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ (รวมถึงกรณีของยาโอเซลทามิเวียร์ที่ใช้ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ด้วย)
5. สำหรับยาต้านไวรัสแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- Lopinavir เป็นยาต้านไวรัสแบบยับยั้งการทำงานของเอนไซม์โปรตีเอส (protease inhibitor) นิยมเอามาใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสอีกตัวคือ ritonavir
- Ritonavir เป็นยาต้านไวรัสที่ยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสที่ตับ คือ cytochrome P450-3A4 มักนิยมใส่ร่วมกับยาต้านไวรัสตัวอื่น เพื่อให้การทำงานของยานั้นดีขึ้น ยาตัวนี้นอกจากจะนิยมใช้ในการรักษาเชื้อไวรัส HIV แล้ว ยังใช้กับเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
- Oseltamivir) เป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์นิวรามินิเดส (neuraminidase inhibitor) ปรดติจะใช้รักษาและป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอและบี รู้จักกันในชื่อการค้าว่า ทามิฟลู
ข้อมูลจาก
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/m/pubmed/31996494/
และ
https://www.theverge.com/2020/1/31/21114176/coronavirus-treatments-universal-vaccines-china-outbreak
และ
https://www.thelancet.com/journals/lancet/article/PIIS0140-6736(20)30183-5/fulltext
synthesis คือ 在 วิเคราะห์กับสังเคราะห์ต่างกันยังไง Analysis VS Synthesis/ผศ.ดร ... 的推薦與評價

... ( Synthesis ) #วิเคราะห์ #สังเคราะห์ #analysis ผศ.ดร.อาภา ภัคภิญโญ ช่อง ... 11:40 · Go to channel. คำถามวิจัย Research Question คือ อะไร มาจากไหน ... ... <看更多>
synthesis คือ 在 Suzuki Coupling Reaction ใน Organic Synthesis คืออะไร? เกี่ยว ... 的推薦與評價
Suzuki Coupling Reaction ใน Organic Synthesis คือ อะไร? เกี่ยวอะไรกับรถยนต์รึเปล่านะ? ถ้าอยากรู้กันแล้ว! รับชมเนื้อหาดีๆ ในเวลาเพียงไม่ถึง 3... ... <看更多>