มีการนำตั๊กแตนทะเลทรายไปวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารพบว่า ประกอบด้วยโปรตีน 76% ไขมัน 12.97 % เส้นใยอาหาร 2.53 % เถ้า 3.33% คาร์โบไฮเดรต 1.7 % ให้พลังงาน 432 kcal/100 กรัม นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ (ปริมาณต่อไปนี้บอกเป็นมิลลิกรัมต่อกรัมโปรตีน) ได้แก่ Isoleucine 26.6, Leucine 57.8, Lysine 38.4, Methionine 15.9, Phenylalanine 22, Threonine 36.8, Valine 47, Histidine 17.2 [2] เรียกว่ามีคุณค่าทางอาหารพอสมควรทีเดียว สำหรับเกลือแร่นั้น (หน่วยมิลลิกรัม ต่อ 100 กรัมน้ำหนักแห้ง) มีเหล็ก 8.38 , ทองแดง 6.32, สังกะสี 18.6, โพแทสเซียม 749, แมกนีเซียม 82, โซเดียม 173, แคลเซียม 70 [2]
สำหรับศักยภาพในการนำไปผลิตเป็นอาหาร (ในแบบแปรรูปในโรงงาน หรือการสกัดเอาโปรตีนออกมาใช้ในอุตสาหกรรม ไม่ใช้การทอดจิ้มแม็กกี้โรยพริกไทย) นั้นมีการกล่าวถึงในเอกสารอ้างอิง [3] ว่าเป็นหนึ่งในชนิดของแมลงที่ถูกพิจารณาว่ามีศักยภาพสูงสุดในการใช้เป็นแหล่งอาหารและอาหารสัตว์ในสหภาพยุโรป
ในปัจจุบันต้องจับตามองว่า มีกระแสความสนใจในการนำโปรตีนจากแมลงมาใช้เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์มากขึ้นในต่างประเทศ จึงมีการลองศึกษาถึงสมบัติเชิงหน้าที่ของโปรตีนในตั๊กแตนทะเลทราย ที่มีความสำคัญในแง่ของการนำไปใช้ในการผลิตอาหารแปรรูป [4] พบว่าเมื่อเทียบระหว่าง จิ้งหรีดบ้าน(Gryllodes sigillatus) ตั๊กแตนทะเลทราย(Schistocerca gregaria) และหนอนนก(Tenebrio molitor) แล้ว โปรตีนจากตั๊กแตนทะเลทราย ได้แสดงเสถียรภาพในการเกิดอิมัลชัน (emulsion stability) มากที่สุด (51.31%) ในขณะที่โปรตีนที่เตรียมจากจิ้งหรีด(G. sigillatus) แสดงสมบัติการเกิดโฟม เสถียรภาพของโฟม และความสามารถในการเป็นอิมัลซิไฟเออร์สูงสุด ที่ 99.0%, 92.0%, และ 72.62% ตามลำดับ
Search