ทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, แสนสิริ, ศุภาลัย หรือพฤกษา ซึ่งเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ อันดับต้น ๆ ของไทย
ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว อยู่ทั่วประเทศ
แต่กลับมีบางบริษัทต่างสาขาธุรกิจ ที่เริ่มสนใจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ก้าวเข้ามาเป็นหน้าใหม่ ร่วมแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งแม้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จ และมีกำไรเติบโตจากธุรกิจของตนอยู่แล้ว
จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า..
ทำไม ? บริษัทที่เชี่ยวชาญในสายธุรกิจเดิมเหล่านี้ เริ่มหันมาลงทุนเพิ่มในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
และมีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
หากลองสังเกตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
จะเริ่มเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ให้เช่า หรือบริหารโครงการหลายแห่ง
ที่มีเจ้าของเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในสายธุรกิจอื่น เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ตัวอย่าง สิงห์ เอสเตท บริษัทในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่
ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต้น ๆ ของไทย
เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักดีอย่าง สิงห์และลีโอ
ซึ่งจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เครือบุญรอดฯ นับว่ามีเม็ดเงินจากธุรกิจแอลกอฮอล์มากมาย
บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด
- ปี 2561 มีรายได้รวม 106,209 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 1,762 ล้านบาท
- ปี 2562 มีรายได้รวม 114,124 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,187 ล้านบาท
- ปี 2563 มีรายได้รวม 107,370 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,468 ล้านบาท
แต่เครือบุญรอดฯ ยังเลือกที่จะต่อยอดธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โดยมองว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จะเปิดโอกาสที่มาของรายได้จากทรัพย์สิน Passive Income ตัวอย่างเช่น รายได้ที่เป็น ค่าเช่า ต่างจากรายได้ของธุรกิจหลักที่เป็นรายได้จากการขายสินค้าแบบ Active Income
แต่เดิมเครือบุญรอดฯ เคยลงทุนในหลายโครงการร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาอื่น ๆ
ก่อนจะควบรวมกิจการกับ “รสา พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีผลงานเป็นโครงการที่อยู่อาศัย สำนักงานเช่า และโรงแรมรีสอร์ต และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “สิงห์ เอสเตท” เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว
โดยบริษัทเคยชนะประมูลการเช่าที่ดินระยะเวลา 50 ปี บริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีและเพชรบุรีตัดใหม่
จึงพัฒนาโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 120,000 ตารางเมตร
ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2561 กลายมาเป็น Mixed-Use โครงการแรกของบริษัท
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียม The ESSE และ The Extro
และยังมีโครงการ S Oasis สำนักงานเช่าบนถนนวิภาวดีรังสิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565
ยังไม่นับรวมการลงทุนในกลุ่มโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอีกมากมาย
อีกบริษัทที่มีมุมมองในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ก็คือ AIA ซึ่งเป็นที่รู้จักในสายธุรกิจประกันชีวิตในไทยกว่า 83 ปี
โดยเลือกที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสำนักงานปล่อยเช่า บนทำเลศักยภาพต่าง ๆ
นอกจากจะได้ครอบครองแปลงที่ดินบนทำเลศักยภาพแล้ว
ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าเช่า ซึ่งได้พัฒนาอาคารสำนักงานเช่าไปแล้ว 2 โครงการ คือ
- อาคาร AIA Capital Center บนถนนรัชดาภิเษก แล้วเสร็จปี 2557
เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร
และยังมีกลุ่ม Regus เข้าไปทำธุรกิจพื้นที่เช่า Co-Working Space อีกด้วย
- อาคาร AIA Sathorn Tower บนถนนสาทรใต้ แล้วเสร็จปี 2558
เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร
และกำลังจะมีโครงการแห่งที่ 3 คือ อาคาร AIA East Gateway
ที่เรียกได้ว่าเป็น อาคารสำนักงานพรีเมียมเกรดเอแห่งแรก บนถนนบางนา-ตราด
ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565
นอกจากธุรกิจอื่น ๆ จะเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์
ในรูปแบบของการลงทุนพัฒนา เพื่อเป็นเจ้าของโครงการเองแล้ว
เรายังพบในลักษณะของการถือครองหุ้น หรือเข้าไปร่วมบริหารองค์กร อีกด้วย
ตัวอย่าง บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ สายธุรกิจย่อยในด้านอสังหาริมทรัพย์
ในเครือของเคพีเอ็น กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสยามกลการ และเครือสยามมอเตอร์
ซึ่งโดดเด่นในสายธุรกิจรถจักรยานยนต์และเครื่องดนตรี ร่วมกับแบรนด์ Yamaha
เดิมที เคพีเอ็น แลนด์ เคยมีผลงานโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่
- แบรนด์ The Diplomat จำนวน 2 โครงการ
- แบรนด์ The Capital จำนวน 1 โครงการ
จากนั้นจึงเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อว่า ไรมอน แลนด์
โดยปัจจุบัน เคพีเอ็น แลนด์ คือผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วน 23.97%
ขณะเดียวกันนั้น นายกรณ์ ณรงค์เดช จาก KPN ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของไรมอน แลนด์ อีกด้วย
มาถึงตรงนี้ เราจะเริ่มเห็นได้ว่า..
หลายบริษัทที่เริ่มต้นธุรกิจในด้านอื่น ๆ และประสบความสำเร็จมาแล้วถึงจุดหนึ่ง
จะเริ่มก้าวเข้ามาร่วมแข่งขัน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ถ้าถามถึงเหตุผลว่า ทำไมบริษัทเหล่านี้ จึงหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็คงจะมีหลายเหตุผล เช่น
1. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดตลาดที่ใหญ่เป็นหลักล้านล้านบาท เพราะยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนทุกคนในเรื่อง ที่อยู่อาศัย การทำงาน และการใช้ชีวิต
เมื่อธุรกิจมีกระแสเงินสดมาจากธุรกิจหลัก ก็สามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้ไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการมหาศาลมาดูดซับได้ ตัวอย่างเช่น การสร้างหนึ่งตึกในสมัยนี้ก็มีมูลค่าโครงการหลักพันล้านบาทแล้ว
2. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มี Barriers to Entry น้อย ผู้เล่นเดิมจะไม่ได้เปรียบผู้เล่นหน้าใหม่เหมือนอุตสาหกรรมอื่น เพราะผู้ลงทุนสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาทำแทนได้ ตั้งแต่ การออกแบบ การรับเหมา การทำตลาด การจัดการ ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าบริษัทหน้าใหม่สามารถสร้างโครงการ หรืออาคารได้สำเร็จ ไม่แพ้ผู้เล่นหน้าเก่าเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดของตลาดนี้ก็คือ “เงินทุน”
3. ลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะให้ผลตอบแทนที่พอจะคาดการณ์ได้ และสามารถเปลี่ยนมือได้ นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ หรือซื้อหุ้นต่อจากผู้เล่นรายอื่นได้ โดยดูผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่ว่าจะเป็น Yield หรือ IRR ว่าจะยอมจ่ายเงินเพื่อลงทุนที่ราคาเท่าไร ดังนั้นถ้าผู้เล่นหน้าใหม่อยากเข้ามาก็สามารถซื้อต่อจากผู้เล่นเดิมได้ง่าย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลเบื้องต้นว่าทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันได้ง่าย ถ้าจะให้สรุปคำตอบง่าย ๆ ก็คือ บริษัทเหล่านั้นมีเงินทุน และตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดใหญ่ที่ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาได้ไม่ยาก นั่นเอง
ก็น่าติดตามต่อไปว่า แล้วจะมีกลุ่มธุรกิจใดที่จะก้าวเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
จนกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เดิม ต้องจับตามองกันบ้าง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.singhaestate.co.th/th/#intro
-https://www.prachachat.net/property/news-745384
-https://datawarehouse.dbd.go.th/
-https://positioningmag.com/1297091
-https://www.reuters.com/article/aia-thailand-idUSL4E7MM15O20111122
同時也有66部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅Japanese Dai-san in BKK / Thai Study,也在其Youtube影片中提到,8 タイ政府が外国人向けのワクチン予約サイトを開設 首相府広報局NNT バンコクポスト https://www.bangkokpost.com/thailand/general/2157739/new-expat-jab-registration-website-opens-sunday https...
「thailand news website」的推薦目錄:
- 關於thailand news website 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於thailand news website 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於thailand news website 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於thailand news website 在 Japanese Dai-san in BKK / Thai Study Youtube 的精選貼文
- 關於thailand news website 在 Online Station Youtube 的最佳解答
- 關於thailand news website 在 JinnyboyTV Youtube 的精選貼文
- 關於thailand news website 在 NNT- National News Bureau of Thailand - Home | Facebook 的評價
thailand news website 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
การทำ QE คืออะไร ? ทำไมประเทศไทย ไม่ใช้มาตรการนี้ /โดย ลงทุนแมน
“775 ล้านล้านบาท” คือ มูลค่าการอัดฉีดเงินเข้าระบบการเงิน ผ่านมาตรการ QE ทั้งหมดของธนาคารกลางขนาดใหญ่ของโลก 4 แห่ง คือสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ณ สิ้นปี 2020
ถามว่าตัวเลขนี้มากขนาดไหน ? ถ้าลองเทียบกับ GDP รวมทุกประเทศในโลกปี 2020 ที่ประมาณ 2,824 ล้านล้านบาท มูลค่าอัดฉีดดังกล่าว จะคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของ GDP โลก
มาตรการ QE นี้ มันมีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง
และทำไมประเทศไทย ถึงยังไม่ใช้มาตรการนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะตกต่ำ แต่ละประเทศจะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อทำให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับขึ้นมา
ในทางเศรษฐศาสตร์นั้น จะแบ่งนโยบายต่าง ๆ ออกเป็น 2 กลุ่มคือ นโยบายการคลัง และนโยบายการเงิน
ซึ่งในส่วนของนโยบายการคลังจะถูกดำเนินการโดยรัฐบาล
โดยรัฐบาลจะใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ในกรณีนี้จะเรียกว่า “งบประมาณขาดดุล” ซึ่งเกิดจากก่อหนี้สาธารณะผ่านการกู้ยืมเพื่อมาใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล
นอกจากนี้ นโยบายการคลังยังรวมไปถึงการลดอัตราภาษีต่าง ๆ เพื่อให้คนมีเงินเหลือมากขึ้น จนนำเงินออกมาใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน
ผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้ปัจจุบัน หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยต่างก็ต้องใช้นโยบายการคลัง อัดฉีดเงินช่วยเหลือให้ประชาชนผ่านนโยบายต่าง ๆ เพื่อพยุงและเร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมา
นอกจากรัฐบาลที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว ในอีกขาหนึ่ง ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ก็จะดำเนินนโยบายการเงิน ผ่านการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำหรือซบเซา ธนาคารกลางจะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จูงใจให้คนนำเงินออกมาใช้จ่าย แทนที่จะฝากไว้ในธนาคาร
ซึ่งกรณีนี้ถูกเรียกว่า “นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย” ที่หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้นำมาใช้ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง เราจะเห็นว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพียงอย่างเดียว กลับไม่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเหมือนอย่างเคย
หลักฐานก็คือ เราเห็นธนาคารกลางหลายประเทศทำการปรับอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว จนบางประเทศอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0% แต่ก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเท่าไร
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่ง จึงมีการนำมาตรการที่มีชื่อว่า Quantitative Easing (QE) ซึ่งเป็นนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย อีกรูปแบบหนึ่งออกมาใช้เพื่อรับมือกับปัญหาการชะลอตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะ
หรือพูดง่าย ๆ ว่ามาตรการ QE เป็นเครื่องมือพิเศษที่มาช่วยสนับสนุนและช่วยกดดันอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำลงในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนั่นเอง
อธิบายวิธีการดำเนินมาตรการ QE แบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ธนาคารกลางจะพิมพ์เงินเพิ่ม และนำเงินดังกล่าวไปซื้อตราสารทางการเงินระยะกลาง-ยาว เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาคเอกชน
คำถามที่สำคัญต่อมาก็คือ แล้วข้อดี ข้อเสียของการทำ QE คืออะไร ?
เรามาเริ่มที่ข้อดีกันก่อน
- สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
กรณีของธนาคารนั้น เมื่อมีสภาพคล่องมากขึ้น ก็สามารถนำไปปล่อยสินเชื่อได้สูงขึ้น ส่วนภาคธุรกิจที่มีเงินไหลเข้ามาซื้อหุ้นกู้ บริษัทก็จะมีเงินนำไปใช้จ่าย ลงทุน และขยายงาน ได้ด้วยเช่นกัน
- ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
การเข้าซื้อตราสารทางการเงินเหล่านั้นยังส่งผลกดดันให้อัตราผลตอบแทนของตราสารทางการเงินเหล่านั้นลดลงมา ทำให้ต้นทุนในการระดมทุนผ่านการออกตราสารเหล่านี้ของรัฐบาลและเอกชนลดลง
จนมีแนวโน้มที่ทำให้สถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้กู้ในการนำเงินไปลงทุนหรือจับจ่ายใช้สอย จนทำให้ภาวะเศรษฐกิจกลับมาเติบโต
- เพิ่มความมั่งคั่งให้แก่ผู้บริโภค
การใช้มาตรการ QE ยังส่งผลให้ราคาสินทรัพย์หลายอย่างปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ทำให้นักลงทุนที่ถือสินทรัพย์ดังกล่าวรู้สึกมั่งคั่งขึ้น (Wealth Effect) ทำให้รู้สึกอยากนำเอาส่วนหนึ่งของทรัพย์สินออกมาใช้จ่าย จนส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการใช้มาตรการ QE ในปริมาณมากและนานเกินไป ก็อาจส่งผลเสียด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- มูลค่าของเงินลดลง
ถึงแม้ว่าการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านการซื้อตราสารทางการเงินต่าง ๆ จะไม่ได้อัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจจริง และมันอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อเงินเฟ้อโดยตรง แต่การอัดฉีดนี้ถ้าทำมากเกินไป ก็อาจทำให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจจริงเพิ่มขึ้นในทางอ้อม และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ จนทำให้มูลค่าที่แท้จริงของเงินลดลง และอำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลงตามไปด้วย
- ภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์
การอัดฉีด QE จะทำให้ภาวะอัตราดอกเบี้ยถูกกดให้ต่ำ และทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงนั้นลดลง ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งทำให้นักลงทุนต้องการนำเงินออกไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
จนอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ
- กระทบต่อการออมในภาพรวมของประเทศ
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้ประชาชนขาดแรงจูงใจในการออมเงิน ซึ่งอาจทำให้คนจำนวนไม่น้อยมีเงินไม่พอใช้ตอนเกษียณ
หรือแม้แต่ผู้ที่เกษียณอายุไปแล้ว และต้องการรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุนในการฝากเงินหรือตราสารหนี้ ก็จะได้รับผลตอบแทนที่ลดลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยภาพรวมในระบบที่ลดลง
สำหรับประเทศไทยเรา ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ยังไม่ได้มีการหยิบเอามาตรการ QE ออกมาใช้ในวิกฤติครั้งนี้
แต่รู้ไหมว่า ที่ผ่านมาก็มีนักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้เสนอให้ ธปท. นำมาตรการ QE ออกมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
เพราะมองว่า นโยบายการเงินของไทยมีข้อจำกัดมากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% แล้ว
อย่างไรก็ตาม ธปท. มองว่า การนำมาตรการ QE มาใช้ในประเทศไทย อาจจะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในตอนนี้
เพราะว่า ปัจจุบัน สภาพคล่องในระบบ ที่สะท้อนออกมาในรูปของปริมาณเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยนั้นอยู่สูงกว่า 14.4 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2564)
นอกจากนี้ ภาคเอกชนของไทยยังมีการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ในสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับประเทศใหญ่ ๆ ที่มีการนำมาตรการ QE มาใช้ ขณะที่ต้นทุนการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ขณะนี้อยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว
ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ที่ตลาดตราสารหนี้มีขนาดใหญ่สุดในโลก ที่พออัดฉีดเงินเข้าไปในตลาดตราสารหนี้แล้ว จะเห็นผลกระทบกับเศรษฐกิจภาพรวมได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น การใช้มาตรการ QE ในประเทศไทย จึงอาจไม่ได้ส่งผลบวกในวงกว้างเหมือนกับประเทศที่มีตลาดตราสารหนี้ขนาดใหญ่มากนัก
และนี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้
ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเลือกที่จะนำมาตรการการเงินอื่น ๆ เช่น การพักชำระหนี้ การให้สินเชื่อพิเศษ การปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ แต่ยังไม่หยิบเอามาตรการอย่าง QE มาใช้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD
-https://www.bot.or.th/Thai/BOTStoryTelling/Pages/MonetaryPolicy_StoryTelling_AcademicAndFI.aspx
-https://www.investopedia.com/terms/q/quantitative-easing.asp
- https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_27Oct2020.aspx
-https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/thailand-economic-qe-covid-040864?fbclid=IwAR3R788vgTs8-J9kaX730qOWpxnGIrHLDOWRdqpHDQfJphSbElF9xh9W2cY
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=31&language=TH
-https://www.atlanticcouncil.org/blogs/econographics/global-qe-tracker/
-https://www.icmagroup.org/Regulatory-Policy-and-Market-Practice/Secondary-Markets/bond-market-size/
thailand news website 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
MINI แบรนด์รถเล็ก ที่ยิ่งใหญ่ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงรถยนต์ “MINI” เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงรถคันเล็ก ที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว
แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว รถยนต์ MINI เป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษ
ที่มีจุดประสงค์ คือการผลิตขึ้นให้เป็นรถยนต์ราคาถูกเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันราคาแพง
แล้วเรื่องราวของรถเล็กที่ตั้งใจให้เป็นรถยนต์ราคาถูกนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ MINI ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1957 ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ช่วงนั้นเป็นช่วงเดียวกันกับตอนที่ประเทศอียิปต์ยึดคลองสุเอซ
คลองสุเอซ ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางการขนส่งที่สำคัญมากที่สุดในโลก
เมื่อถูกยึดและถูกปิดกั้นเส้นทาง การขนส่งน้ำมันจึงหยุดชะงักจนดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น
เรื่องดังกล่าวส่งผลให้รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำมันปริมาณมาก ได้รับความนิยมลดลง
ในช่วงนั้น บริษัท British Motor Corporation หรือ BMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในประเทศอังกฤษ ที่เกิดจากการควบรวมของบริษัท Austin Motor Company กับ Morris Motors
เกิดความคิดที่จะผลิตรถยนต์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ขึ้นมา
โดยรถยนต์ที่ว่านั้น ต้องเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กและใช้น้ำมันน้อย
แต่ก็ต้องสามารถรับผู้โดยสารได้ 4 คน และที่สำคัญคือราคาต้องไม่แพง
บริษัท BMC จึงได้ทดลองผลิตรถเล็กขึ้นมาโดยมี เซอร์อเล็ก อิสซิโกนิส
วิศวกรและนักออกแบบรถของ BMC มาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในโครงการนี้
จนในที่สุด “MINI” คันแรกก็สามารถออกสู่ตลาดได้ในปี 1959
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ด้วยรูปร่างของ MINI ที่เล็กกะทัดรัดแต่สามารถจุคนได้ถึง 4 คน
บวกกับการออกแบบที่สวยงาม ดูคลาสสิก ที่สำคัญมีราคาเพียง 496 ปอนด์
ซึ่งถือเป็นราคาที่คนทั่วไปสามารถเอื้อมถึงได้
ทั้งหมดนี้ก็ได้ทำให้ MINI สามารถขายได้ถึง 116,000 คัน ในระยะเวลาเพียงปีเดียว
สำหรับชื่อของ MINI นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ถูกเรียกแบบนี้มาตั้งแต่แรก
เดิมที MINI ถูกเรียกว่า “Austin Seven” กับ “Morris Mini” มาก่อน
เนื่องจากในช่วงแรกยังคงทำการตลาดภายใต้แบรนด์
Austin Motor Company กับ Morris Motors
แต่ในภายหลัง ก็ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ “MINI” ในปี 1969
แล้วถ้าถามว่า อะไรกันที่ทำให้ MINI เป็นที่รู้จักและยอมรับกัน ?
เราก็สามารถแบ่งก้าวกระโดดของ MINI จาก 2 เหตุการณ์ด้วยกัน
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในปี 1961
John Cooper นักแข่งรถในตำนาน
ซึ่งเขาเองเป็นเพื่อนสนิทของ เซอร์อเล็ก อิสซิโกนิส
เห็นว่าจริง ๆ แล้ว MINI เป็นรถที่สามารถยึดเกาะถนนได้ดี
เขาจึงได้ลองนำรถ MINI มาปรับแต่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น
หลังจากที่ John Cooper ได้ทำการปรับแต่งเสร็จ
เขาได้ตั้งชื่อให้รถที่เขานำมาปรับแต่งว่า “MINI Cooper”
และนั่นจึงเป็นที่มาของรถรุ่น MINI Cooper ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง
จนในปี 1964 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนรู้จักและยอมรับในรถ MINI Cooper มากขึ้น
จากการที่ “Paddy Hopkirk” นักแข่งรถวิบาก สามารถนำรถ MINI Cooper เอาชนะการแข่งขัน
ในรายการ Monte Carlo Rally ซึ่งเป็นรายการแข่งรถวิบากในประเทศโมนาโก
โดยมีจุดประสงค์ในการแข่งคือต้องการเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นในแต่ละปี
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 1968
เมื่อ Paramount บริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ได้นำ MINI Cooper
มาใช้ประกอบการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Italian Job”
ซึ่งเป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องราวการปล้นทองคำครั้งใหญ่
โดยมีฉากที่ใช้รถ MINI Cooper 3 คัน สามารถขับหนีตำรวจ
ที่ใช้รถ Alfa Romeo ซึ่งเป็นรถสปอร์ตที่โด่งดังในช่วงนั้น
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ยอดขายรถ MINI เพิ่มขึ้นมากถึง 318,000 คันในปี 1971
โดยตลอดระยะเวลา 40 ปี นับตั้งแต่สามารถขายรถ MINI คันแรกได้ในปี 1959
ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย
ปี 1966 บริษัท BMC ทำการควบรวมบริษัท Jaguar Cars
หลังจากทำการควบรวม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น British Motor Holdings Limited หรือ BMH
ปี 1968 บริษัท BMH ทำการควบรวมบริษัท Leyland Motor Corporation
ซึ่งในเวลานั้นมีบริษัทลูกเป็น Triumph Motor และ The Rover Company
หลังจากการควบรวมได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น British Leyland Motor Corporation หรือ BLMC
ในเวลานั้น BLMC ถือเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษเลยทีเดียว โดยมีแบรนด์ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น Triumph, MG, Rover รวมไปถึง MINI ด้วย
ปี 1975 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น British Leyland
ปี 1986 British Leyland ได้ทำการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัท โดยมีการขายบริษัทย่อยที่ไม่ทำกำไรออกไป และได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Rover Group
ปี 1994 BMW บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ได้ทำการเข้าซื้อ Rover Group ด้วยมูลค่า 800 ล้านปอนด์
แต่เนื่องจากแนวทางในการทำงานที่ต่างกันและกำลังเป็นช่วงขาลงของ Rover
ทำให้ BMW ต้องอัดฉีดเงินเข้าไปจำนวนมากถึง 1,000 ล้านปอนด์
จนในที่สุด BMW จึงตัดสินใจขายธุรกิจส่วนใหญ่ของ Rover Group ออกไปในปี 2000
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นแล้วว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียว
ทั้งการควบรวม เปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้ง รวมถึงการขายบริษัทย่อยออกไป
แม้ BMW ได้ขายธุรกิจส่วนใหญ่ของ Rover Group ออกไป
แต่มีรถยนต์อยู่แบรนด์หนึ่ง ที่ทาง BMW ยังคงเก็บไว้นั่นคือ MINI นั่นเอง
แล้วปัจจุบัน MINI ภายใต้บริษัทแม่ BMW เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2018 ขายได้ 364,101 คัน
ปี 2019 ขายได้ 347,465 คัน
ปี 2020 ขายได้ 292,582 คัน
ถึงแม้ 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนรถที่สามารถขายได้ของ MINI จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่หากเราลองไปดู ยอดขายของรถยนต์ทั่วโลกจะพบว่ามีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน
ปี 2018 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 92 ล้านคัน
ปี 2019 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 88 ล้านคัน
ปี 2020 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 73 ล้านคัน
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018
ในขณะที่ในปี 2020 ทั่วโลกยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 จึงทำให้ยอดขายรถยนต์ ตกลงไปอีก
อีกสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนผ่านระหว่างการใช้รถที่ใช้น้ำมัน ไปเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งก็มีบางประเทศเริ่มออกนโยบายให้เห็นกันชัดเจนแล้ว เช่น นโยบายของสหรัฐอเมริกาที่จะเปลี่ยน รถยนต์ของรัฐให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
ซึ่งปัจจุบันทาง MINI เอง สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้วเช่นกัน
และก็เพิ่งทำการเปิดตัวไปเมื่อปี 2020 ชื่อรุ่น “MINI Cooper SE”
ซึ่งเป็นเรื่องน่าติดตามต่อไปว่า MINI คันเล็กคันนี้
จะปรับตัวกับความท้าทายในครั้งนี้อย่างไร
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
รถ MINI รุ่น Paddy Hopkirk Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ ที่ตั้งชื่อตาม Paddy Hopkirk
นักแข่งรถที่สามารถนำรถ MINI Cooper เอาชนะการแข่งขัน Monte Carlo Rally ในปี 1964
โดยหมายเลข 37 ที่ติดอยู่กับตัวรถ คือหมายเลขรถ MINI ที่เขาสามารถเอาชนะในวันนั้นได้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-http://cminicooper.blogspot.com/p/blog-page.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Rover_Group
-https://www.longtunman.com/8870
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Leyland
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Motor_Corporation
-https://en.wikipedia.org/wiki/Austin_Motor_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Morris_Motors
-https://www.britannica.com/topic/British-Leyland-Motor-Corporation-Ltd
-https://www.miniusa.com/why-mini/why-mini/over-60-years-of-motoring.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Italian_Job
-https://www.carolenash.com/news/classic-car-news/detail/mini-eras-the-1970s
-https://www.marketingoops.com/reports/fast-fact-reports/20-mini-car-facts/
-https://askanydifference.com/difference-between-mini-cooper-and-mini-one/
-https://www.unlockmen.com/mini-cooper-3-door-f56-5-door-f55/
-https://www.statista.com/statistics/267245/worldwide-sales-volume-of-mini-automobiles-since-2006/
-https://www.autostation.com/car/mini-electric-2020-launch-in-thailand
-https://www.best-selling-cars.com/brands/2020-full-year-global-bmw-mini-and-rolls-royce-sales-worldwide/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Monte_Carlo_Rally
-https://en.wikipedia.org/wiki/Paddy_Hopkirk
-https://www.forbes.com/sites/neilwinton/2019/10/03/uschina-tariff-war-will-lose-auto-industry-sales-worth-770-billion-report/?sh=4e0ed85f25e4
-https://www.iea.org/data-and-statistics/charts/global-car-sales-by-key-markets-2005-2020
thailand news website 在 Japanese Dai-san in BKK / Thai Study Youtube 的精選貼文
8 タイ政府が外国人向けのワクチン予約サイトを開設 首相府広報局NNT バンコクポスト
https://www.bangkokpost.com/thailand/general/2157739/new-expat-jab-registration-website-opens-sunday
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210731201336747
予約サイト↓
https://expatvac.consular.go.th/
10 昨日と今日の反政府集会
https://youtu.be/oveAaP_2N14?t=6412
📺動画のコンセプト、元にしている情報、よくある質問への回答↓
https://daijirok-jp.com/concept_thai_news/
📺メンバー制度やってます。動画投稿継続のため支援してくださる方は是非登録お願いします。限定動画の試聴もできるようになります。↓
https://www.youtube.com/channel/UCJnoqD7400BIsHqq_ilzRVw/join
📺動画投稿をお休みすると等ちょっとしたお知らせはこちらで↓
https://www.youtube.com/channel/UCJnoqD7400BIsHqq_ilzRVw/community
📺ニュースの原稿は2日遅れくらいでブログにアップロードしています↓
https://daijirok-jp.com/
- - -使用機材とソフトウェア- - - -
📱アイフォンで収録時
iPhone11
iPhone用マイク https://amzn.to/2LUidAp
三脚部屋用 https://amzn.to/2I77cIH
照明 https://amzn.to/2HOutM2
iPhone用動画編集ソフト
https://apps.apple.com/jp/app/lumafusion/id1062022008?mt=8
📹ビデオカメラで収録時
メインのビデオカメラ:https://amzn.to/3eXFIlY
アクションカム:https://amzn.to/38oVkwo
アクションカム:https://amzn.to/2ZvHiVT
多機能マウス:https://amzn.to/3gzsBbl
音声入力用マイク:https://amzn.to/38oQwah
画像編集ソフト:https://amzn.to/3p7KLpq
- - - -
🌏だいさんのプロフィール
生まれも育ちも日本の純日本人です。大学卒業後日本で就職しましたが、大学の頃知り合ったタイ人留学生の家に居候したことやバックパッカーとして東南アジアを旅行した日々を忘れられずタイに移住。詳しくはこちら↓
https://daijirok-jp.com/profile/
- - - -
🌏タイ語解説のブログ:タイスタディ
https://thaistudy.net/
🌏ツイッター:
https://twitter.com/daijirok_jp
🌏フェイスブック:
https://www.facebook.com/daijirok.jp/
- - - -
📚アマゾンでタイ語の問題集を販売しています。
https://amzn.to/33ZKBXY
📱タイ語日本語併記のラインスタンプ販売中です。
日本に興味があるタイ人とのやり取りに便利(のはず)。
宜しくお願いします。
🐻クマのブルー 楽しい日常生活 日本語タイ語
https://store.line.me/stickershop/product/1188557/ja
🐻クマのブルー 楽しい職場(日本語タイ語)
https://store.line.me/stickershop/product/1137283/ja
- - -- - - -- - - -- - - -- - - -- - - -- - - -- - - -- - - -- - - - -
#タイのニュース #タイ #ニュース #まとめ #日本語で解説 #ローカルニュース #ラジオ
thailand news website 在 Online Station Youtube 的最佳解答
เรียกได้ว่าดราม่าปะทุอีกครั้งแล้วสำหรับเกมออนไลน์ในตำนานอย่าง Ragnarok Online กับประเด็นของไข่สุ่ม ที่ได้ข่าวว่ามันเกลือแสนเกลือ เติมกันหลักหมื่นก็ยังไม่ได้ไอเทมที่ต้องการ รายละเอียดเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นยังไง วันนี้ขยี้Z News มีคำตอบให้คุณ!
.
Cr.คลิปจาก Nong Mark ตาแดง
Cr.คลิปจาก Jonathan ตาแดง
#OnlineStation #ขยี้ZNews #RagnarokOnline #ROGGT #RagnarokGravity
----------------------------------------------------------------
ติดตามข่าวสารเกมจากพวกเราได้ที่
Website : http://www.online-station.net
FB : https://www.facebook.com/OnlineStationNetwork
Youtube : http://www.youtube.com/user/OnlineStationShow
ใครที่ทำช่อง Youtube แล้วสนใจสมัครเข้าร่วมสังกัด Online Station คลิกที่นี่
http://caster.online-station.net
จำหน่ายบัตรเติมเกมออนไลน์ทุกเกมซื้อได้ตลอด 24 ชั่่วโมง http://shop.os.co.th
สนใจติดต่อโฆษณา&สปอนเซอร์
คุณ พารินทร์ วิไลจิตร
โทร : 081-615-6965
อีเมล์ : parin_wil@truecorp.co.th
เว็บเกมส์ออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทย รวมทุกข้อมูลข่าว Game Online จากทั่วโลก
thailand news website 在 JinnyboyTV Youtube 的精選貼文
The Government announced MCO 2.0, we check in with locals (and some internationals) to find out how they have been coping with the more recent lockdown.
Follow us:
Facebook: http://www.facebook.com/jinnyboytv
Instagram" http://www.instagram.com/jinnyboytv
Contact Us:
hello@aspectratiostudios.com
WEBSITE
http://www.aspectratiostudios.com
thailand news website 在 NNT- National News Bureau of Thailand - Home | Facebook 的推薦與評價
Cover Photo: NNT- National News Bureau of Thailand's photo. ... Thailand's most updated and reliable English news source ... News & media website. ... <看更多>