Opportunities come infrequently. When it rains gold, put out the bucket, not the thimble.
機會不是經常有,天上掉黃金時,要拿出桶子而不是棒槌
華倫·巴菲特 (Warren Edward Buffett) 是世界公認最成功的投資家、企業家、慈善家,他個人持有29.5萬股波克夏A股、7.9萬股波克夏B股存利現金,自2008年起經常成全球富豪排名第一,巴菲特因為提出「價值投資法」而被眾多投資人尊稱為「股神」
今天是2021年2月04日,㊗️大家擁有豐盛美好的星期四❤️
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「warren buffett gold」的推薦目錄:
- 關於warren buffett gold 在 筆記 Facebook 的最讚貼文
- 關於warren buffett gold 在 KIM Property Live Facebook 的最讚貼文
- 關於warren buffett gold 在 KIM Property Live Facebook 的最讚貼文
- 關於warren buffett gold 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於warren buffett gold 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於warren buffett gold 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於warren buffett gold 在 The Gold Report - Facebook 的評價
- 關於warren buffett gold 在 Gold, Silver, and Warren Buffett's Warning | The Motley Fool 的評價
warren buffett gold 在 KIM Property Live Facebook 的最讚貼文
สรุปข่าวรอบสัปดาห์ ข่าวดีเพียบ หุ้นขึ้น Bitcoinพุ่ง ทองร่วง แต่IMFเตือนให้ระวัง ( ไลฟ์วันที่ 24 พ.ย.2563)
1.มีแต่ข่าวดี ดันดัชนีดาวโจนส์ และSET พุ่ง หุ้นกลุ่มแบงค์เริ่มกลับตัว
หากกล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจตอนนี้ ตัวเลขตลาดหุ้นต่างๆของโลก ออกมาในทิศทางที่ดี อย่างเช่น ตลาดหุ้นดาวโจนส์ตอนนี้ทำ All Time High เป็นที่เรียบร้อย แล้วตลาดหุ้นบ้านเราก็แตะ 1400 จุด เช่นกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่เรากล่าวถึงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ดีดตัวขึ้นเช่นกัน อย่างเช่น Kbank ขึ้นจาก 77 บาท เป็นหลักร้อยแล้ว ขึ้นมาประมาณกว่า 40%
การส่งสัญญาณแบบนี้ คำถามก็คือเศรษฐกิจมันกำลังจะฟื้นตัวจริงๆหรือไม่ เพราะถ้าวิกฤตเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรกลุ่มธนาคารก็ยังมีความเสี่ยงสูง หุ้นธนาคารก็เป็นหุ้นที่พักตัวมานาน หมายความว่า ราคาดิ่งลงในช่วงไวรัสโควิด หุ้นตัวอื่นดีดกลับขึ้นมา แต่หุ้นธนาคารยังไม่ขึ้นตาม แต่ตอนนี้หุ้นธนาคาร ดีดกลับขึ้นมาแล้ว มันเป็นสัญญาณที่บอกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวใช่หรือไม่?
ซึ่งหากดูภาพรวมจากข่าว มีสัญญาณที่ดี อย่างเช่น
- ข่าววัคซีน ที่ออกมาบ่อยขึ้น อาจมองได้ว่า การได้ใช้วัคซีนจริงๆอาจจะใกล้เข้ามา
- ข่าวการเมืองของสหรัฐ ตอนนี้ โจ ไบเดน กำลังจัดคณะทำงานแล้ว รวมทั้งโดนัลด์ทรัมป์ ออกมาประกาศว่ายอมหลีกทางให้ โจ ไบเดน ขึ้นรับตำแหน่งแล้ว
เมื่อมองภาพเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ละประเทศก็มีตัวเลขการผลิตที่ดีขึ้น เหมือนว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว การส่งออกติดลบน้อยลง องค์ประกอบทุกอย่างออกมาดี แล้วมาลองดูกันครับ ว่าเงินจะไหลไปทิศทางใด?
เราจะเห็นได้ว่า เงินไหลเข้ากองทุนของสหรัฐ 53,000 ล้านบาท ในสัปดาห์ล่าสุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี เมื่อ โจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่ง
2. Warren Buffett ซื้อหุ้นมากที่สุดในรอบปี สัญญาณดีของเศรษฐกิจโลก?
ไม่ทราบว่าเป็นสัญญาณหรือไม่ เมื่อ Warren Buffett ได้เข้าซื้อหุ้นมากที่สุดในรอบปี แต่ที่น่าสนใจคือ เงินลงทุนมาจากที่ใด?
จากที่เรารู้กันว่า Warren Buffett ถือเงินสดมานาน จึงสามารถเข้าซื้อหุ้นได้ทันที ซึ่งเป็นเรื่องมุมมอง ที่หลายคนบอกว่า เราต้องซื้อหุ้นตาม Warren Buffett พอร์ตถึงจะเติบโต แล้วทำไมการเข้าซื้อของ Warren Buffett ถึงมีศักยภาพ นั่นก็คือ Warren Buffett ใช้เงินของ Berkshire Hathaway เป็นบริษัทลงทุนระดับโลกลงทุนด้วย เพราะฉะนั้นก็จะมีบทบาทอีกอย่างหนึ่ง คือ การดูแลการรักษาการเงิน
ในทางกลับกัน หากเรามองในสัดส่วนการลงทุนของเราเอง เราลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้มากกว่า อีกอย่างคือความเหลื่อมล้ำของการรับรู้ข้อมูล ปัจจุบัน โมเดลทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยน เราจึงไม่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการได้เลย
3.ภาคการเงิน ทั้ง IMF, FED และ ECB มองทิศทางเดียวกันว่า “เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว”
ในด้านของตลาดคือ กำลังมองบวก แต่ทางด้านเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว เพราะว่าตลาดหุ้นจะรับข่าวอนาคตมากกว่าอยู่แล้ว ตามความคาดหวังของคน แต่ประเด็นสำคัญก็คือ ภาคการเงิน ทั้ง FED หรือ ECB หรือธนาคารกลางประเทศต่างๆ กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ยังคงมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะ IMF ออกมาประกาศว่า ระวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตอนนี้จะหยุดชะงัก เพราะแต่ละประเทศยังอยู่ในระดับที่เสี่ยง ทั้ง การระบาดและการเงิน อย่างเช่นทาง ECB ออกมาประกาศว่า การแจกเงินต้องแจกอย่างมีคุณภาพด้วย หรือกล่าวอย่างมีนัยว่า “ภาคการเงินยังไม่ฟื้นตัว”
จะเห็นได้จากหนี้ของแต่ละประเทศยังคงสูง เพราะว่าเรื่องการระบาดยังไม่สิ้นสุด เรื่องการช่วยเหลือยังไม่สิ้นสุด รวมถึงสิ้นสุดแล้วก็ต้องมีการกู้เงินก้อนใหญ่อีกหลายก้อน เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา ซึ่ง IMF กล่าวว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วมีแข็งแกร่ง อย่างเช่น ยุโรป, สหรัฐ, ญี่ปุ่น เพราะแต่ละประเทศสามารถพิมพ์เงินแก้ปัญหาได้
แต่ประเทศที่กำลังมีปัญหาคือ ประเทศเกิดใหม่ ที่ค่าเงินมีปัญหา ภาระหนี้สูง แต่รายได้จากการเก็บภาษีต่ำ ถ้าประเทศเหล่านี้พิมพ์เงินเพื่อมาใช้หนี้ หรือใช้ธนาคารกลางเข้าไปซื้อตราสารทางการเงิน จะทำให้เสถียรภาพทางการเงินเปราะบางลงไปอีก นี่คือจุดเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งประเทศเหล่านี้มีเป็นร้อยประเทศ จะเห็นได้ว่าภาคธุรกิจจริง กับภาคการเงิน ซึ่งแยกออกจากกันชัดเจน เรารอลุ้นทั้งสองภาคที่เข้ามาบรรจบกัน เลยอยากเตือนให้ทุกคนอย่าประมาท
4. พิมพ์เงินเข้าระบบเยอะ ดันตัวเลขเศรษฐกิจสูงเกินจริง จะอยู่ได้นานแค่ไหน
มาวิเคราะห์กันว่า ทิศทางของโลกตอนนี้กำลังไปทิศทางใด อาจเป็นไปได้ว่า ตัวเงินหรือ Money Supply ผลักดันให้ตัวเลขต่างๆ ดูเกินจริง ต้องยอมรับว่า ดอกเบี้ยตอนนี้เข้าใกล้ศูนย์ ล่าสุดตอนนี้ทาง FED ออกมาประกาศว่า “การพิมพ์เงินและการแจกเงินเป็นสิ่งจำเป็นมาก”
Money Supply ของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากเราสังเกตปริมาณเงินมันเยอะมาก ที่ไหลเข้าตลาดหุ้น เข้าไปซื้อหุ้นกู้ ไปแจกเงินในระบบ ทำให้ผลักดันสินทรัพย์ในตลาดสูงขึ้นด้วย
ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยต่ำ อาจจะเกิดจากการกดอัตราดอกเบี้ยด้วย ในความเป็นจริงไม่ควรจะต่ำขนาดนี้ ตลาดเงินกำลังถูกบิดเบือน ประเด็นคือ ขณะนี้ได้ถูกบิดเบือนมานานแล้ว จนทำให้คนไม่รู้สึกกลัวแล้ว ตั้งแต่ปี 2008 ยังไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
การที่เราเข้าใจว่า การบิดเบือนตลาดนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน อย่างเช่น การที่อเมริกาพิมพ์เงินเข้าระบบไม่นานเศรษฐกิจคงจะพัง แต่ปัจจุบันก็ยังยืนอยู่ได้ คือฉีกตำราเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครสามารถวิเคราะห์ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า หลายคนเข้าใจว่า หุ้นขึ้นแล้ว เศรษฐกิจจะฟื้นตัว คนที่อยู่ในตลาดจะมีอารมณ์ร่วมสูง สุดท้ายแล้วมูลค่ากิจการก็ต้องมาจากกำไรสุทธิที่กิจการนั้นทำได้ในอนาคตอยู่ดี
แต่ก็มีข่าวดีอย่างที่ทุกคนรู้คือ วัคซีนมาแล้ว ลุ้นที่จะเปิดเมือง ถึงทั่วโลกจะเปิดเมืองแล้วก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกประเทศจะฟื้นตัว เพราะฐานะทางการเงินและหนี้สินสูงมาก ถ้าจะขึ้นดอกเบี้ยทุกคนพังหมด และเป็นไปได้ที่จะมีการอัดฉีดเงินนอกระบบรอบใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ
เรามากล่าวถึง โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกา จากพรรคเดโมแครต ซึ่งนโยบายของพรรคนี้ค่อนข้างที่จะใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากจึงมีโอกาสขาดดุลงบประมาณหนักขึ้น ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าการที่ โจ ไบเดน เข้ามาอาจทำให้หนี้ของสหรัฐสูงขึ้นไปอีก
5.ทองคำร่วง Bitcoin พุ่ง ลุ้นทองคำกลับมา
เรามาทิ้งท้ายกันที่เรื่องทองคำ และ Bitcoin เรามาเริ่มที่ทองคำกันครับ ต้องยอมรับว่าทองคำนั้นร่วงจริงๆ แต่ก็มีเหตุผลของมัน คือ 1.วัคซีนเข้ามา 2. ทุกอย่างดูคลี่คลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจภาพรวม เรื่องของทรัมป์ยอมหลีกทางให้ไบเดน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทองคำจะลง เพราะเมื่อทุกคนมองว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ความเชื่อมั่นมากขึ้น คนก็จะย้ายเงินจากทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ไปลงทุนที่สินทรัพย์เสี่ยง อย่างเช่นตลาดหุ้น มากขึ้น
แต่ให้ความสนใจไปที่ Bitcoin เพราะแต่ก่อนเราเชื่อกันว่า Bitcoin เปรียบเสมือน Digital Gold ที่จะเคลื่อนไหวไปตามทองคำ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ทองคำลง แต่ Bitcoin ราคาสูงขึ้น จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะว่า Bitcoin มันจะไม่เคลื่อนไหวตามสินทรัพย์ใดๆเลย
หากกล่าวถึง ข่าวความมั่นใจของคนนั้นสูงมาก ดันตัวเลขหุ้นดาวโจนส์สูงขึ้น ผมคิดว่า คนมั่นใจในตัวเลขเศรษฐกิจปีหน้าจะดี แต่สำหรับตัวผมมองว่ามันยังอ่อนไหว โครงสร้างทางการเงินยังมีความเสี่ยงสูง อาจจะมองได้ว่า ข่าวดีเกินจริงหรือไม่ เพราะไม่มีผู้ใดกล่าวถึงการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ยังไม่เห็นทางออกคำถามคือโลกเราจะขับเคลื่อนไปด้วยหนี้จำนวนมหาศาลได้อย่างไร?
การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก ไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ ไม่สามารถขึ้นภาษีได้ สุดท้ายแล้วการเดินทางแบบนี้ ต้องมีจุดสิ้นสุด ต้องกลับไปที่จุดสมดุล สมเหตุสมผล ในความคิดของผม ยังไงทองคำก็จะกลับมา เพราะถ้ามีปัญหาแบบนี้ ต้องแก้ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไป เมื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปแล้วก็จะทำให้เกิดเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้ออาจผลักดันให้ราคาทองคำขึ้น เราก็เห็นได้จากจีนยังคงถือทองคำอยู่ จะขึ้นมากขึ้นน้อยเราไม่สามารถรู้ได้
ส่วน Bitcoin นั้น ยังเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและควรที่จะศึกษา เพราะเป็นทรัพย์สินที่ไม่เคยมีมาก่อนบนโลกใบนี้ เป็นทรัพย์สินดิจิตอลทางเลือกทางหนึ่ง มีราคาขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของคน ยิ่งคนเชื่อมั่นมาก ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ที่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ต้องใช้วิจารณญาณของคุณเอง ที่จะเลือกลงทุน
แล้วเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ มาแชร์กันครับ
.
แอดปลา
เเจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
เริ่มต้นอาชีพนายหน้าอสังหาฯ รุ่นที่ 6
วันที่ 6 ธ.ค. 2563
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
warren buffett gold 在 KIM Property Live Facebook 的最讚貼文
James Rickards ตอบ 3 ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับทองคำของนักเศรษฐศาสตร์
James Rickards นักวิชาการทางการเงินและนักเขียนชื่อดัง ผู้ที่ออกมาเตือนว่าวิกฤตครั้งนี้ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะโลกกำลังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (New Great Depression)
เนื่องจากสกุลเงินกำลังขาดความน่าเชื่อถือ เพราะการพิมพ์เงินของ Fed ตอนนี้ทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่สามารถเพิ่มอัตราการหมุนของเงิน (velocity) ได้ ซึ่งสภาวะที่คุณกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้คือ “เงินฝืด” ที่แก้ไขได้ยาก (ไม่ใช่เงินเฟ้ออย่างที่รัฐบาลต้องการ)
โดย James มองว่าการนำ Gold Standard กลับมาเป็นหนึ่งในทางออกของปัญหานี้ได้และเขายังได้ทำนายว่าทองคำกำลังจะเป็นขาขึ้นครั้งใหญ่และราคาจะพุ่งไปถึง 5,000 $/oz. ในไม่ช้า
แน่นอนว่าแนวคิดการนำ Gold Standard กลับมาของ James นั้นจะต้องถูกโต้แย้งจากบรรดานักเศรษฐศาสตร์อย่างหนัก เพราะมันดูเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติด้วยเหตุผลหลัก ๆ 3 ข้อดังนี้
1. ปริมาณทองคำมีไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณเงินในระบบ (There’s Just Not Enough Gold to Support the Money Supply!)
2. ปริมาณทองคำมีไม่เพียงพอที่จะรองรับการค้าโลก (Not Enough Gold to Support Global Trade)
3. ทองคำไม่ให้ผลตอบแทน (Money Doesn’t Offer Yield)
ซึ่ง James ก็ได้ตอบข้อโต้แย้งแต่ละข้อดังนี้ครับ
ประเด็นที่ 1 เรื่องทองคำต่อปริมาณเงินในระบบ
ถือเป็นเหตุผลยอดฮิตที่มักได้ยินกันบ่อย ๆ โดย James ให้คำตอบแบบง่าย ๆ ว่ามันเป็นความจริงสำหรับราคาทองคำในตอนนี้ (1,859 $/oz.) แต่ถ้าให้ราคาทองคำเป็น 14,000 $/oz. นั้นปริมาณทองคำก็จะเพียงพอแน่นอน (คำนวณจากปริมาณเงินในระบบหารด้วยปริมาณทองคำก็จะได้ราคาทองที่เหมาะสม)
เขาบอกว่าปริมาณทองคำที่มีมันเพียงพออยู่แล้วแค่คุณต้องกำหนดราคามันให้ถูกต้อง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลยเพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 1933 และ 1971
ประเด็นที่ 2 เรื่องปริมาณทองคำต่อขนาดการค้าโลก
เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 3-4% แต่ปริมาณทองคำที่เหมืองขุดเพิ่มแต่ละปีนั้นมีเพียง 1.6% ของทองคำทั้งหมดเท่านั้น
ซึ่ง James ให้คำตอบว่า 2 เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย เพราะทองคำที่รัฐบาลและธนาคารกลางถืออยู่มีเพียง 19.4% ของทองคำทั้งโลกเท่านั้น (35,000 ตัน จากปริมาณทองคำทั้งโลกประมาณ 180,000 ตัน)
เพราะฉะนั้นหากธนาคารกลางใดต้องการเพิ่มปริมาณเงินในระบบก็สามารถซื้อทองคำมาสำรองได้จากเอกชน โดยไม่ต้องพึ่งการขุดจากเหมืองแต่อย่างใด
ประเด็นที่ 3 เรื่องทองคำไม่ให้ผลตอบแทน
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Warren Buffett ไม่ชอบลงทุนในทองคำ โดย James ก็ยอมรับว่ามันถูกต้องเพราะทองคำมันคือ “เงิน (Money) ที่แท้จริง” ซึ่งการถือเงินนั้นมันไม่ให้ผลตอบแทนอยู่แล้ว การที่คุณจะได้ผลตอบแทนนั้นคือการส่งเงินของคุณออกไปรับความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์และสิ่งอื่น ๆ
หรือแม้แต่เงินฝากธนาคาร เมื่อคุณต้องการผลตอบแทนประมาณ 0.5% คุณสามารถนำเงินไปฝากธนาคารได้ แต่หลังจากที่คุณส่งเงินให้ธนาคารมันก็ไม่ใช่เงินของคุณอีกต่อไป เพราะมันคือสัญญากู้ยืมของธนาคารที่คุณต้องรับความเสี่ยงว่าอาจไม่ได้รับเงินคืนในกรณีที่ธนาคารแห่งนั้นล้มละลาย
แต่สุดท้ายก็อย่าลืมว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของ James Rickards เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ
ส่วนผมมองว่าการจะย้อนกลับไปใช้ Gold Standard นั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะโลกพัฒนามาไกลแล้ว บางทีวิกฤตครั้งนี้อาจทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมหรือวิธีการทางการเงินที่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา แล้วเพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไรบ้างครับ?
.
แอดปุง
เเจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
เริ่มต้นอาชีพนายหน้าอสังหาฯ รุ่นที่ 6
วันที่ 6 ธ.ค. 2563
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
warren buffett gold 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
warren buffett gold 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
warren buffett gold 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
warren buffett gold 在 Gold, Silver, and Warren Buffett's Warning | The Motley Fool 的推薦與評價
Oct 23, 2021 - Gold and silver are lauded by some as a great long-term investment, but Warren Buffett has a stern warning for those considering precious ... ... <看更多>
warren buffett gold 在 The Gold Report - Facebook 的推薦與評價
Warren Buffett : From Gold-Hater to Gold Bug: http://ow.ly/ILVo50B3aTK Peter Krauth discusses Warren Buffett's big move into gold and discusses why the... ... <看更多>