สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่องที่จริงจังสักหน่อยก็คือ MMR กันบ้าง
MMR เป็นแค่ตัวเลขจริงไหม?
เพื่อนๆหลายคงเคยได้ยินคำนี้กันบ่อยๆ และน่าจะเป็นประเด็นถกเถียงกันมาตลอดว่า “คนเก่ง ไม่จำเป็นต้อง MMR สูงๆ หรือ Rank สูงๆก็ได้ แค่ไม่เล่นแรงค์เฉยๆ” ส่วนคนที่ MMR เยอะๆหน่อย “ก็จะบอกว่า มันเป็นข้ออ้างของคนที่เล่นไม่เก่ง” คนเก่งไม่จำเป็นต้อง MMR สูงก็ได้น่ะเหรอ คำตอบคือจริงครับ บางคนอาจจะเก่งหรือเก่งมากๆแต่แค่อยากเล่นสนุกๆกับเพื่อน หรืออยากเล่นตบไก่ไปวันๆ
แต่อย่าลืมนะครับว่า คนที่ MMR สูง คือผู้เล่นที่เขาผ่านการเล่นมาอย่างมาก พยายามปรับปรุงตัวเองเพื่อให้ขึ้นไปในขั้นต่อไป มีประสบการณ์และรับความกดดัน มากกว่า คนที่เล่นกับเพื่อนหรือเล่นสนุกๆ อย่างแน่นอน ซึ่งจะขึ้นไปถึงระดับนั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผู้เล่นบางคนต้องอาจยอมเสียสละอะไรบางอย่าง ต้องให้เวลากับเกมส์ แถมต้องฝ่าฟันกับ เพื่อนในทีมอีก 4 คน ที่เราไม่รู้จักเขา ไม่รู้ว่านี่ใช่ฝีมือจริงของเขารึเปล่า บางเกมส์มีการแย่งตำแหน่งกันเล่น โยนเกมส์สารพัด ด่ากันเป็นว่าเล่น และคนที่ขึ้นไปถึงระดับสูงมากๆ อย่าง Pro Player ได้ ผมมั่นใจว่าน้อยคนจะชอบคำว่า “MMR เป็นแค่ตัวเลข”
โดยส่วนใหญ่ MMR ส่งผลกับการเล่นยังไง?
ถ้าตัดส่วนน้อย(มากๆ)ที่เป็นคมในฝัก ฝีมือเกิน MMR ออกไป
MMR ส่งผลกับทุกๆเรื่องในเกมส์ จะมายกตัวอย่างให้เห้นกันชัดๆ เช่น
- Last Creep ถ้าเราเอาสองคนที่ MMR ต่างกัน ตำแหน่งเดียวกัน ที่บอกว่าเก่งเท่ากัน มา Last Shot Creep แข่งกัน แทบจะร้อยเปอร์เซ็นคนที่ MMR มากกว่าจะมีสกอร์ CS ดีกว่า ฟาร์มได้เร็วกว่าโดยเฉลี่ย ไม่ใช่แค่ความแม่นในการเล็งลาส แต่เป็นการให้ความสำคัญกับการฟาร์มที่มากกว่า
- การใช้ Smoke ในระดับ MMR ที่ต่ำกว่า 3000 แทบจะไม่ได้ใช้ Smoke เพื่อทำเกมส์ หรือเพื่อ ฆ่าเลย ซึ่งในระดับ 5000 ขึ้นไป มีการใช้แทบจะหมด Stock อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความแตกต่างในเกมส์ๆนั้น
- การใช้สกิลหรือต่อสกิลกัน ในระดับ MMR กลางๆ มักจะกดใช้สกิลกันพลาด หรือใช้ทับซ้อนกัน ทำให้ใช้สกิลนั้นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพของมัน ส่วนผู้เล่นระดับสูง จะสามารถใช้สกิลได้ตรงจุด ตรง Timing ของมัน และสามารถต่อสกิลกันได้พอเหมาะพอเจาะ และเต็มประสิทธิภาพมากกว่า รวมถึงการเลือกเป้าหมายในการไฟท์ มีการเก็บสกิลไว้ตัดแนวหลัง แทนที่จะอัดทั้งหมดใส่เป้าหมายแรก
- การดันป้อม ข้อนี้น่าจะเห็นชัดกันมากที่สุดของความต่าง MMR เพราะผู้เล่นระดับกลางๆ มักจะไม่ค่อยดันป้อม ได้คิลแล้วก็กลับไปฟาร์มจนเสียช่วงเวลาที่เก่งของฮีโร่ตัวเองไป ส่วนผู้เล่นระดับสูงจะพยายามหาเอาป้อมเพื่อปิดพื้นที่ของฝั่งข้าม และหาพื้นที่ให้เพื่อนในทีมเราเล่นง่าย
- Skill Play อันนี้ก็ถือเป็นข้อแตกต่างใหญ่ๆอีกเรื่อง เพราะในผู้เล่นระดับสูง จะมีการโชว์ฉากเสี่ยงตาย การหลบสกิลต่างๆ ความแพรวพราวในการเล่น เนื่องจากเขามีประสบการณ์จากการเล่นมามาก ผิดพลาดมานับไม่ถ้วน
แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคำพูดที่ว่า “MMR เป็นแค่ตัวเลข” มาคอมเม้นท์บอกกันได้เลย ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้เล่นใหม่ หรือผู้เล่นเก่า พัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆนะครับ สุดท้ายแล้ว MMR เยอะน้อยแค่ไหน เราเล่นเกมเพื่อความสนุกได้ Enjoy Dota 2 ครับ
#JUNGKOOK
Search