วันนี้เจอ ข่าวปลอมเรื่องเก่าเรื่องนี้ กลับมาแชร์กันอีกแล้ว ... แต่เปลี่ยนจากเวอร์ชั่นประเทศ "อิตาลี" หรือ "รัสเซีย" มาเป็น "สิงคโปร์" ครับ !!
ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ อย่าไปเชื่อ อย่าไปแชร์กัน
------------
(ดูบทความเก่าที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ)
มีการแชร์ข้อความยาวๆ อ้างว่าเป็น "BREAKING NEWS ข่าวใหญ่ระดับโลก มาจากกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี หลังอิตาลีชันสูตรศพผู้ป่วยโรค Covid-19 แล้วไม่พบเชื้อไวรัส แต่เป็นการตกเลือดเพราะเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นการหลอกลวงระดับโลก เพราะคนเสียชีวิตจากพิษของการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากสัญญาณ 5G ต่างหาก ให้กินแอสไพรินก็หายได้ .... " !?!
ไม่จริงนะครับ !! เป็นข่าวปลอมหลอกลวง ที่เผยแพร่ในต่างประเทศ แล้วลามแปลมาเป็นภาษาไทย อย่าไปหลงเชื่อนะครับ !
ข่าวปลอมที่ว่านี้ แรกเริ่มมาในรูปของคลิปวิดีโอ (ดูตัวอย่างภาพด้านล่าง) ที่อ้างว่า อิตาลีฝืนคำสั่งขององค์การอนามัยโลก ด้วยการผ่าชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เอง พบว่าโรคนี้เป็นโรคแบคทีเรียที่ทำให้เลือดแข็งตัวและทำให้ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกายไม่ได้ ไม่ใช่จากเชื้อไวรัส และอาการจะยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่อถูกรังสีที่แผ่มาจากสัญญาณโทรศัพท์แบบ 5G จึงให้ใช้ยาแอสไพรินขนาด 100 มิลลิกรัมมารักษาผู้ป่วยแทน
แต่จริงๆ แล้ว องค์การอนามัยไม่เคยสั่งห้ามประเทศไหนชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรค COVID-19 และไกด์ไลน์ คำแนะนำต่างๆ ที่องค์การอนามัยโลกออกมาเกี่ยวกับโรคโควิด ก็ไม่เคยบอกว่าไม่ให้ชันสูตรศพ ... ส่วนประเทศอิตาลีนั้น ได้มีการชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่แล้ว (แม้ว่าจะมีคำแนะนำต่อมาจากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศอิตาลี ในวันที่ 1 เมษายน ปีที่แล้ว ว่าไม่ต้องชันสูตรศพ)
เป็นที่ชัดเจนว่า โรค COVID-19 นั้น เกิดจากเชื้อไวรัส กลุ่มโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ที่ชื่อว่า SARS-CoV-2 ไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย ที่มันถูกเรียกว่า SARS-CoV-2 ก็เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (severe acute respiratory syndrome coronavirus หรือ SARS-CoV)
ส่วนที่บอกว่าประเทศอิตาลีใช้ยาแอสไพรินในการสู้กับโรคโควิด-19 นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการนำแอสไพริน (หรือพาราเซตามอล) มาใช้เพื่อแก้ปวดลดไข้ ต้องเข้าใจว่า การรักษาโรคโควิด เป็นการรักษาตามอาการของโรค ไม่ได้มียาหรือวิธีการรักษาเฉพาะ เช่น ถ้าร่างกายขาดออกซิเจน ก็ต้องให้ออกซิเจนเพิ่ม หรือถ้ามีปัญหาเรื่องระดับของเหลวในร่างกาย ก็ต้องพยายามควบคุมระดับของเหลวให้เหมาะสม ... หรือถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียขึ้นเพราะร่างกายอ่อนแอ ก็อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ซึ่งใช้ฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้)
สุดท้ายคือ โรคโควิด-19 มันแพร่ระบาดผ่านทางการสูดดม หายใจ รับเอาสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสัญญาณโทรศัพท์ 5G เชื้อไวรัสมันไม่ได้จะเดินทางไปหรือถูกกระตุ้นจากสัญญาณโทรศัพท์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใดๆ จะเห็นว่าโรคโควิดนั้นระบาดหนักได้ในหลายประเทศที่ไม่มีเครือข่ายสัญญาณ 5G เอามาโยงกันไม่ได้
ข้อมูลและภาพ จาก https://thelogicalindian.com/fact-check/italy-covid-19-coronavirus-bacteria-aspirin-21655
-------
ข่าวใหญ่ระดับโลก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
วันนี้เจอ ข่าวปลอมเรื่องเก่าเรื่องนี้ กลับมาแชร์กันอีกแล้ว ... แต่เปลี่ยนจากเวอร์ชั่นประเทศ "อิตาลี" หรือ "รัสเซีย" มาเป็น "สิงคโปร์" ครับ !!
ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ อย่าไปเชื่อ อย่าไปแชร์กัน
------------
(ดูบทความเก่าที่เขียนเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ)
มีการแชร์ข้อความยาวๆ อ้างว่าเป็น "BREAKING NEWS ข่าวใหญ่ระดับโลก มาจากกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี หลังอิตาลีชันสูตรศพผู้ป่วยโรค Covid-19 แล้วไม่พบเชื้อไวรัส แต่เป็นการตกเลือดเพราะเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นการหลอกลวงระดับโลก เพราะคนเสียชีวิตจากพิษของการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากสัญญาณ 5G ต่างหาก ให้กินแอสไพรินก็หายได้ .... " !?!
ไม่จริงนะครับ !! เป็นข่าวปลอมหลอกลวง ที่เผยแพร่ในต่างประเทศ แล้วลามแปลมาเป็นภาษาไทย อย่าไปหลงเชื่อนะครับ !
ข่าวปลอมที่ว่านี้ แรกเริ่มมาในรูปของคลิปวิดีโอ (ดูตัวอย่างภาพด้านล่าง) ที่อ้างว่า อิตาลีฝืนคำสั่งขององค์การอนามัยโลก ด้วยการผ่าชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เอง พบว่าโรคนี้เป็นโรคแบคทีเรียที่ทำให้เลือดแข็งตัวและทำให้ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกายไม่ได้ ไม่ใช่จากเชื้อไวรัส และอาการจะยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่อถูกรังสีที่แผ่มาจากสัญญาณโทรศัพท์แบบ 5G จึงให้ใช้ยาแอสไพรินขนาด 100 มิลลิกรัมมารักษาผู้ป่วยแทน
แต่จริงๆ แล้ว องค์การอนามัยไม่เคยสั่งห้ามประเทศไหนชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรค COVID-19 และไกด์ไลน์ คำแนะนำต่างๆ ที่องค์การอนามัยโลกออกมาเกี่ยวกับโรคโควิด ก็ไม่เคยบอกว่าไม่ให้ชันสูตรศพ ... ส่วนประเทศอิตาลีนั้น ได้มีการชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่แล้ว (แม้ว่าจะมีคำแนะนำต่อมาจากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศอิตาลี ในวันที่ 1 เมษายน ปีที่แล้ว ว่าไม่ต้องชันสูตรศพ)
เป็นที่ชัดเจนว่า โรค COVID-19 นั้น เกิดจากเชื้อไวรัส กลุ่มโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ที่ชื่อว่า SARS-CoV-2 ไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย ที่มันถูกเรียกว่า SARS-CoV-2 ก็เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (severe acute respiratory syndrome coronavirus หรือ SARS-CoV)
ส่วนที่บอกว่าประเทศอิตาลีใช้ยาแอสไพรินในการสู้กับโรคโควิด-19 นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการนำแอสไพริน (หรือพาราเซตามอล) มาใช้เพื่อแก้ปวดลดไข้ ต้องเข้าใจว่า การรักษาโรคโควิด เป็นการรักษาตามอาการของโรค ไม่ได้มียาหรือวิธีการรักษาเฉพาะ เช่น ถ้าร่างกายขาดออกซิเจน ก็ต้องให้ออกซิเจนเพิ่ม หรือถ้ามีปัญหาเรื่องระดับของเหลวในร่างกาย ก็ต้องพยายามควบคุมระดับของเหลวให้เหมาะสม ... หรือถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียขึ้นเพราะร่างกายอ่อนแอ ก็อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ซึ่งใช้ฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้)
สุดท้ายคือ โรคโควิด-19 มันแพร่ระบาดผ่านทางการสูดดม หายใจ รับเอาสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสัญญาณโทรศัพท์ 5G เชื้อไวรัสมันไม่ได้จะเดินทางไปหรือถูกกระตุ้นจากสัญญาณโทรศัพท์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใดๆ จะเห็นว่าโรคโควิดนั้นระบาดหนักได้ในหลายประเทศที่ไม่มีเครือข่ายสัญญาณ 5G เอามาโยงกันไม่ได้
ข้อมูลและภาพ จาก https://thelogicalindian.com/fact-check/italy-covid-19-coronavirus-bacteria-aspirin-21655
-------
ข่าวใหญ่ระดับโลก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
เมื่อวานก็โพสต์แล้ว แต่ขอรีโพสต์ข่าวปลอมเรื่องนี้อีกทีนะครับ ... เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เปลี่ยนจากเวอร์ชั่นประเทศ "อิตาลี" เป็น "รัสเซีย" ครับ
------------
มีการแชร์ข้อความยาวๆ อ้างว่าเป็น "BREAKING NEWS ข่าวใหญ่ระดับโลก มาจากกระทรวงสาธารณสุขของอิตาลี หลังอิตาลีชันสูตรศพผู้ป่วยโรค Covid-19 แล้วไม่พบเชื้อไวรัส แต่เป็นการตกเลือดเพราะเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นการหลอกลวงระดับโลก เพราะคนเสียชีวิตจากพิษของการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าจากสัญญาณ 5G ต่างหาก ให้กินแอสไพรินก็หายได้ .... " !?!
ไม่จริงนะครับ !! เป็นข่าวปลอมหลอกลวง ที่เผยแพร่ในต่างประเทศ แล้วลามแปลมาเป็นภาษาไทย อย่าไปหลงเชื่อนะครับ !
ข่าวปลอมที่ว่านี้ แรกเริ่มมาในรูปของคลิปวิดีโอ (ดูตัวอย่างภาพด้านล่าง) ที่อ้างว่า อิตาลีฝืนคำสั่งขององค์การอนามัยโลก ด้วยการผ่าชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เอง พบว่าโรคนี้เป็นโรคแบคทีเรียที่ทำให้เลือดแข็งตัวและทำให้ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกายไม่ได้ ไม่ใช่จากเชื้อไวรัส และอาการจะยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่อถูกรังสีที่แผ่มาจากสัญญาณโทรศัพท์แบบ 5G จึงให้ใช้ยาแอสไพรินขนาด 100 มิลลิกรัมมารักษาผู้ป่วยแทน
แต่จริงๆ แล้ว องค์การอนามัยไม่เคยสั่งห้ามประเทศไหนชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรค COVID-19 และไกด์ไลน์ คำแนะนำต่างๆ ที่องค์การอนามัยโลกออกมาเกี่ยวกับโรคโควิด ก็ไม่เคยบอกว่าไม่ให้ชันสูตรศพ ... ส่วนประเทศอิตาลีนั้น ได้มีการชันสูตรศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่แล้ว (แม้ว่าจะมีคำแนะนำต่อมาจากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศอิตาลี ในวันที่ 1 เมษายน ปีที่แล้ว ว่าไม่ต้องชันสูตรศพ)
เป็นที่ชัดเจนว่า โรค COVID-19 นั้น เกิดจากเชื้อไวรัส กลุ่มโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ ที่ชื่อว่า SARS-CoV-2 ไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย ที่มันถูกเรียกว่า SARS-CoV-2 ก็เพราะว่ามีความคล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (severe acute respiratory syndrome coronavirus หรือ SARS-CoV)
ส่วนที่บอกว่าประเทศอิตาลีใช้ยาแอสไพรินในการสู้กับโรคโควิด-19 นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มีการนำแอสไพริน (หรือพาราเซตามอล) มาใช้เพื่อแก้ปวดลดไข้ ต้องเข้าใจว่า การรักษาโรคโควิด เป็นการรักษาตามอาการของโรค ไม่ได้มียาหรือวิธีการรักษาเฉพาะ เช่น ถ้าร่างกายขาดออกซิเจน ก็ต้องให้ออกซิเจนเพิ่ม หรือถ้ามีปัญหาเรื่องระดับของเหลวในร่างกาย ก็ต้องพยายามควบคุมระดับของเหลวให้เหมาะสม ... หรือถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียขึ้นเพราะร่างกายอ่อนแอ ก็อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ซึ่งใช้ฆ่าเชื้อไวรัสไม่ได้)
สุดท้ายคือ โรคโควิด-19 มันแพร่ระบาดผ่านทางการสูดดม หายใจ รับเอาสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสัญญาณโทรศัพท์ 5G เชื้อไวรัสมันไม่ได้จะเดินทางไปหรือถูกกระตุ้นจากสัญญาณโทรศัพท์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใดๆ จะเห็นว่าโรคโควิดนั้นระบาดหนักได้ในหลายประเทศที่ไม่มีเครือข่ายสัญญาณ 5G เอามาโยงกันไม่ได้
ข้อมูลและภาพ จาก https://thelogicalindian.com/fact-check/italy-covid-19-coronavirus-bacteria-aspirin-21655
-------