#ลูกไม่ชอบนิทานที่เค้าว่ากันว่า_ดี
มีคำถามที่น่าสนใจ และหมอก็ได้รับคำถามนี้บ่อยๆ
เวลาไปงานเสวนา หรือทาง inbox
#ทำอย่างไรดีคะ_นิทานที่เค้าว่าดีลูกไม่ค่อยชอบ
#นิทานดีต้องเป็นนิทานที่ไม่สอนใช่มั้ยคะ หรือ
#ลูกชอบนิทานที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดมากกว่านิทานที่คุณหมอรีวิวว่าดีค่ะ
#ตอบ นิทานที่ดี คือ นิทานที่ทำให้เด็กสนุก มีความสุขเมื่อได้อ่านค่ะ (เป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุด)
(หมอคิดว่าเรื่องพื้นฐานคือ ไม่มีภาพที่ดูรุนแรง ใช้ภาษาได้ถูกต้องและสละสลวย เราผู้ซื้อ ต้อง screen มาแล้วนะคะ)
ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ที่ลูกจะไม่ชอบนิทาน #ที่เค้าว่ากันว่าดี
ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ที่ลูกชอบนิทานเนื้อหาสื่อสารตรงไปตรงมา มากกว่านิทาน #ที่เค้าว่ากันว่าลึกซึ้ง
ก็เหมือนกับ
ที่หมอรู้ว่าเรื่องเจ้าชายน้อย เป็นหนังสือดี เนื้อหาลึกซึ้ง
แต่หมอก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิดเลยที่ชอบ 5 สหายผจญภัยมากกว่า
.
เราอยากปลูกฝังให้ลูกรักการอ่าน
เพราะฉะนั้น เล่มที่ลูกชอบอ่าน ก็คือเล่มที่ตอบโจทย์แล้วค่ะ
บางคนชอบอ่านเรื่องราวที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
บางคนชอบเพราะภาพวาดที่มีรายละเอียด
บางคนชอบที่มีตัวละครที่ตัวเองรู้สึกผูกพันธ์ เช่น กุ๋งกิ๋ง หนูนิด ป๋องแป๋ง ถ้วยฟู แกงค์ไดโนน้อย
ซึ่งไม่มีอะไรถูกอะไรผิด
และที่สำคัญ เด็กโตขึ้นทุกวัน
เค้าไม่ชอบอ่านนิทานดีที่แม่เลือกมาให้วันนี้
ไม่ได้บอกว่า อนาคตเค้าจะไม่ชอบมัน
บางทีนิทานที่เด็กชอบ
ก็เป็นประเด็นที่เค้าสนใจ ณ ขณะนั้น
ในวันข้างหน้า ความสนใจ ความเข้าใจที่มากขึ้น
นิทานเล่มที่เคยไม่ชอบ ก็อาจจะเป็นเล่มโปรดก็ได้
เพราะนิทาน ไม่ล้าสมัย ไม่เน่าบูด แค่รอวันที่ใช่เท่านั้น
.
เพราะฉะนั้น ถ้าเราคิดว่าดี ก็ซื้อให้ลูกเถอะค่ะ แม้ว่าวันนี้เค้าจะไม่อ่าน
ส่วนเล่มที่ลูกชอบ ดีแล้วค่ะ อ่านต่อไป
.
ประเด็นที่ 2 เรื่องนิทานดี ต้องไม่สอน
จริงๆการอ่านนิทาน
ก็เหมือนเปิดโอกาสให้ลูกได้เห็นสถานการณ์สมมติ
หลายๆเหตุการณ์ ได้เห็นเหตุ ได้เห็นปัญหา ได้เห็นการตัดสินใจ ได้เห็นวิธีการแก้ปัญหา
ได้เห็นผลลัพธ์ของการกระทำของตัวละคร
หมอคิดว่า คำว่านิทานที่ไม่สอน หมายถึง
ไม่ต้องเขียนข้อคิด เป็นข้อๆว่า
ให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือ
ไม่จำเป็นต้องมีข้อคิดเดียว จากเรื่องราว 1 เรื่อง
.
เรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ให้ตัวละครทำหน้าที่ของเค้าไป
.
หมอมักได้ยินคำพูดว่า นิทานไทย กับนิทานต่างประเทศ ไม่เหมือนกัน
เพราะนิทานต่างประเทศ สอนแบบไม่สอน
แต่นิทานไทย เนื้อหาตั้งใจสอน
หมอว่า ไม่จริงซะทีเดียว
เพราะว่านิทานต่างประเทศที่ดังมาถึงประเทศเราได้
แปลว่า เป็นเรื่องที่ได้รับการคัดเลือก บอกต่อ
และเป็นที่ประจักษ์แล้ว
แต่มิใช่ว่า นิทานต่างประเทศทุกเล่มจะดีกว่านิทานไทย
เราไม่ควรเหมารวม ว่าของเค้าดี ของเราไม่ดี
.
หมอชอบไปอ่านนิทานตามร้านหนังสือใหญ่ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
เคยไปเที่ยวต่างประเทศ และแวะเยี่ยมชมห้องสมุด หรือ
ร้านหนังสือ เกือบทุกเมืองที่ไป
หมอได้ข้อสรุปว่า
นิทานก็เหมือนกันทุกประเทศนั่นแหละค่ะ
เนื้อหาหลากหลาย สไตล์การเล่าหลากหลาย
มีทั้งดีมาก, ดี, เฉยๆ หรือ เราไม่ชอบ
เล่มที่สนุกมากและสอนเหมือนไม่สอน
อาจจะเป็นเปอร์เซนต์น้อย
แต่ที่นิทานต่างประเทศ
เหมือนจะมีเนื้อหาที่หลากหลายมากกว่า
เป็นเพราะ มีนักเขียนมากกว่า #มากกก
และมีจำนวนเรื่องของนิทานมากกว่าประเทศเรามาก
เช่น สมมติมีนิทานระดับสุดยอด เพียงร้อยละ 10 ที่
ถ้าในปีนั้น มีนิทานได้ตีพิมพ์ สัก 10,000 เรื่อง ก็มี 1000 ที่เป็นนิทานที่สุดยอด
แต่ถ้ามีนิทานได้พิมพ์ เพียง 1000 เรื่อง ก็มี 100 เรื่อง ลดลงตามสัดส่วน
.
นิทานไทย หมอไม่ได้ซื้อทุกเล่ม แต่ก็ได้อ่าน เกือบจะทุกเล่มที่วางขาย
หมอคิดว่า นิทานจากนักเขียนของเรา
ที่เนื้อหาสนุก เด็กได้เรียนรู้จากเรื่องราว
โดยไม่ต้องเขียนคำสอน ก็มีมากนะคะ
.
ในฐานะแม่ที่ซื้อนิทานให้ลูกอ่านอย่างสม่ำเสมอ
หมอก็เห็นการพัฒนาทั้งภาพ เนื้อหาของนิทานบ้านเรานะคะ
แต่ผู้บริโภคอย่างเรา ก็ต้องช่วยอุดหนุน เพื่อให้นิทานดีๆได้พิมพ์ซ้ำด้วยนะคะ
เพื่อให้สำนักพิมพ์ยังสามารถจ้างงานนักเขียน
ให้มีนักเขียนเก่งๆ เพิ่มมากขึ้น
.
ให้กำลังใจนักเขียน นักวาด และสำนักพิมพ์ที่ตั้งใจทำนิทานดีๆให้เด็กไทยอ่านนะคะ
.
ปัญหาหลายอย่างของประเทศเรา ไม่ใช่ไม่มี แต่ มีไม่มากพอ ต่างหาก
.
อ่านต่อ ไม่รอละนะ
.
หมอแพม
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過106萬的網紅Adam Bradshaw,也在其Youtube影片中提到,สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ https://lin.ee/uVp0whL (@ajarnadam) หรือโทร 02 612 9300 รายละเอียดคอร์ส https://www.ajarnadam.tv/ FB: http://www.facebook....
ต่างหาก ภาษาอังกฤษ 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的精選貼文
#ลูกไม่ชอบนิทานที่เค้าว่ากันว่า_ดี
มีคำถามที่น่าสนใจ และหมอก็ได้รับคำถามนี้บ่อยๆ
เวลาไปงานเสวนา หรือทาง inbox
#ทำอย่างไรดีคะ_นิทานที่เค้าว่าดีลูกไม่ค่อยชอบ
#นิทานดีต้องเป็นนิทานที่ไม่สอนใช่มั้ยคะ หรือ
#ลูกชอบนิทานที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดมากกว่านิทานที่คุณหมอรีวิวว่าดีค่ะ
#ตอบ นิทานที่ดี คือ นิทานที่ทำให้เด็กสนุก มีความสุขเมื่อได้อ่านค่ะ (เป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุด)
(หมอคิดว่าเรื่องพื้นฐานคือ ไม่มีภาพที่ดูรุนแรง ใช้ภาษาได้ถูกต้องและสละสลวย เราผู้ซื้อ ต้อง screen มาแล้วนะคะ)
ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ที่ลูกจะไม่ชอบนิทาน #ที่เค้าว่ากันว่าดี
ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ที่ลูกชอบนิทานเนื้อหาสื่อสารตรงไปตรงมา มากกว่านิทาน #ที่เค้าว่ากันว่าลึกซึ้ง
ก็เหมือนกับ
ที่หมอรู้ว่าเรื่องเจ้าชายน้อย เป็นหนังสือดี เนื้อหาลึกซึ้ง
แต่หมอก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิดเลยที่ชอบ 5 สหายผจญภัยมากกว่า
.
เราอยากปลูกฝังให้ลูกรักการอ่าน
เพราะฉะนั้น เล่มที่ลูกชอบอ่าน ก็คือเล่มที่ตอบโจทย์แล้วค่ะ
บางคนชอบอ่านเรื่องราวที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
บางคนชอบเพราะภาพวาดที่มีรายละเอียด
บางคนชอบที่มีตัวละครที่ตัวเองรู้สึกผูกพันธ์ เช่น กุ๋งกิ๋ง หนูนิด ป๋องแป๋ง ถ้วยฟู แกงค์ไดโนน้อย
ซึ่งไม่มีอะไรถูกอะไรผิด
และที่สำคัญ เด็กโตขึ้นทุกวัน
เค้าไม่ชอบอ่านนิทานดีที่แม่เลือกมาให้วันนี้
ไม่ได้บอกว่า อนาคตเค้าจะไม่ชอบมัน
บางทีนิทานที่เด็กชอบ
ก็เป็นประเด็นที่เค้าสนใจ ณ ขณะนั้น
ในวันข้างหน้า ความสนใจ ความเข้าใจที่มากขึ้น
นิทานเล่มที่เคยไม่ชอบ ก็อาจจะเป็นเล่มโปรดก็ได้
เพราะนิทาน ไม่ล้าสมัย ไม่เน่าบูด แค่รอวันที่ใช่เท่านั้น
.
เพราะฉะนั้น ถ้าเราคิดว่าดี ก็ซื้อให้ลูกเถอะค่ะ แม้ว่าวันนี้เค้าจะไม่อ่าน
ส่วนเล่มที่ลูกชอบ ดีแล้วค่ะ อ่านต่อไป
.
ประเด็นที่ 2 เรื่องนิทานดี ต้องไม่สอน
จริงๆการอ่านนิทาน
ก็เหมือนเปิดโอกาสให้ลูกได้เห็นสถานการณ์สมมติ
หลายๆเหตุการณ์ ได้เห็นเหตุ ได้เห็นปัญหา ได้เห็นการตัดสินใจ ได้เห็นวิธีการแก้ปัญหา
ได้เห็นผลลัพธ์ของการกระทำของตัวละคร
หมอคิดว่า คำว่านิทานที่ไม่สอน หมายถึง
ไม่ต้องเขียนข้อคิด เป็นข้อๆว่า
ให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรือ
ไม่จำเป็นต้องมีข้อคิดเดียว จากเรื่องราว 1 เรื่อง
.
เรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ให้ตัวละครทำหน้าที่ของเค้าไป
.
หมอมักได้ยินคำพูดว่า นิทานไทย กับนิทานต่างประเทศ ไม่เหมือนกัน
เพราะนิทานต่างประเทศ สอนแบบไม่สอน
แต่นิทานไทย เนื้อหาตั้งใจสอน
หมอว่า ไม่จริงซะทีเดียว
เพราะว่านิทานต่างประเทศที่ดังมาถึงประเทศเราได้
แปลว่า เป็นเรื่องที่ได้รับการคัดเลือก บอกต่อ
และเป็นที่ประจักษ์แล้ว
แต่มิใช่ว่า นิทานต่างประเทศทุกเล่มจะดีกว่านิทานไทย
เราไม่ควรเหมารวม ว่าของเค้าดี ของเราไม่ดี
.
หมอชอบไปอ่านนิทานตามร้านหนังสือใหญ่ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
เคยไปเที่ยวต่างประเทศ และแวะเยี่ยมชมห้องสมุด หรือ
ร้านหนังสือ เกือบทุกเมืองที่ไป
หมอได้ข้อสรุปว่า
นิทานก็เหมือนกันทุกประเทศนั่นแหละค่ะ
เนื้อหาหลากหลาย สไตล์การเล่าหลากหลาย
มีทั้งดีมาก, ดี, เฉยๆ หรือ เราไม่ชอบ
เล่มที่สนุกมากและสอนเหมือนไม่สอน
อาจจะเป็นเปอร์เซนต์น้อย
แต่ที่นิทานต่างประเทศ
เหมือนจะมีเนื้อหาที่หลากหลายมากกว่า
เป็นเพราะ มีนักเขียนมากกว่า #มากกก
และมีจำนวนเรื่องของนิทานมากกว่าประเทศเรามาก
เช่น สมมติมีนิทานระดับสุดยอด เพียงร้อยละ 10 ที่
ถ้าในปีนั้น มีนิทานได้ตีพิมพ์ สัก 10,000 เรื่อง ก็มี 1000 ที่เป็นนิทานที่สุดยอด
แต่ถ้ามีนิทานได้พิมพ์ เพียง 1000 เรื่อง ก็มี 100 เรื่อง ลดลงตามสัดส่วน
.
นิทานไทย หมอไม่ได้ซื้อทุกเล่ม แต่ก็ได้อ่าน เกือบจะทุกเล่มที่วางขาย
หมอคิดว่า นิทานจากนักเขียนของเรา
ที่เนื้อหาสนุก เด็กได้เรียนรู้จากเรื่องราว
โดยไม่ต้องเขียนคำสอน ก็มีมากนะคะ
.
ในฐานะแม่ที่ซื้อนิทานให้ลูกอ่านอย่างสม่ำเสมอ
หมอก็เห็นการพัฒนาทั้งภาพ เนื้อหาของนิทานบ้านเรานะคะ
แต่ผู้บริโภคอย่างเรา ก็ต้องช่วยอุดหนุน เพื่อให้นิทานดีๆได้พิมพ์ซ้ำด้วยนะคะ
เพื่อให้สำนักพิมพ์ยังสามารถจ้างงานนักเขียน
ให้มีนักเขียนเก่งๆ เพิ่มมากขึ้น
.
ให้กำลังใจนักเขียน นักวาด และสำนักพิมพ์ที่ตั้งใจทำนิทานดีๆให้เด็กไทยอ่านนะคะ
.
ปัญหาหลายอย่างของประเทศเรา ไม่ใช่ไม่มี แต่ มีไม่มากพอ ต่างหาก
.
อ่านต่อ ไม่รอละนะ
.
หมอแพม
ต่างหาก ภาษาอังกฤษ 在 Adam Bradshaw Youtube 的最佳解答
สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ https://lin.ee/uVp0whL (@ajarnadam) หรือโทร 02 612 9300
รายละเอียดคอร์ส https://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
#ภาษาอังกฤษ #อาจารย์อดัม #AjarnAdam
ต่างหาก ภาษาอังกฤษ 在 ZeemUzma Youtube 的最讚貼文
คลิปนี้เป็นคลิปเก่าเล่าใหม่ อยากให้ทุกคนได้ดูกันนะคะ
อาจจะยาวกว่าวิดิโอปกตินิดนึงแต่รับรองว่า สาระล้วนๆ จ้าา
5 เคล็ดลับเก่งภาษาแบบซีม
1. ปรับทัศนคติ และมองทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเราให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ค่ะ เราใช้ชีวิตเหมือนเดิมเพียงแค่เปลี่ยนโหมดให้กลายเป็นอีกภาษาเท่านั้นเอง เช่นเล่นเฟซบุคที่เป็นภาษาอังกฤษ อัพสตาตัสเป็นภาษาอังกฤษ ดูหนังเป็นภาษาอังกฤษ!
2. ต้องพยายามทำอะไรสักอย่างกับมัน "ทุกวัน" ค่ะ คือต้องต่อเนื่อง อย่าให้ขาดตอน อาจจะไม่ใช่การเรียนคำศัพท์หรืออะไรใหม่ๆก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะได้ทบทวนทุกวันวันละนิดวันละหน่อยค่ะ ภาษาไม่ควรที่จะเรียนแค่ในห้อง หรือในหนังสือ แต่เราควรหาวิธัทบทวนนอกตำราและนอกเวลาเรียนด้วย!
3. เลิกกลัวว่าจะพูดผิดหรือพูดไม่รู้เรื่อง แล้วลองพยายามพูดเยอะๆๆๆ มันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากนะ โดยเฉพาะในสังคมไทยที่เพื่อนเราชอบหาว่ากระแดะ แต่เราต้องมั่นใจค่ะว่าเราทำไปเพื่ออนาคตของตัวเอง เพื่อนจะว่ายังไงก็ช่าง เพราะเค้าก็คงไม่ได้เก่งไปกว่าเราหรอก -_- ลองปรับความเข้าใจว่าพูดผิดมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ภาษาเท่านั้นเอง! เอ๊ะ รู้สึกว่าจะวีนนี๊ดนึงนะ 555
4. มองหาตัวช่วยในการเรียนรู้เพื่อให้เราไม่เบื่อ ได้เรียนรู้ในวิธีที่หลากหลายลองหาดูนะคะว่ามีสื่ออะไรที่จะช่วยให้น้องจำศัพท์ได้ดี ออกเสียงได้ถูกต้องมากขึ้น หรือทบทวนบทเรียนได้ง่ายๆเพียงปลายนิ้งมือบ้างหรือเปล่า อย่ามองข้ามประโยชน์มหาศาลของสิ่งของไฮเทคใกล้ตัวนะคะ :)
ภาษาญี่ปุ่นชื่อเกม J-dojo japanese dojo
ภาษาอังกฤษชื่อเกม 4 pictures 1 word
5. หลายๆคนบอกมาว่าไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเพราะพูดสำเนียงไทย กลัวฝรั่งไม่รู้เรื่อง จริงๆแล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่สำเนียงนะคะ แต่อยู่ที่ "การออกเสียง" ต่างหาก! อยากให้น้องเลิกพยายามพูดให้สำเนียงสวยๆเริ่ดๆ แต่หันมาออกเสียงให้ถูกต้องกันดีกว่า!
Easter Egg "น้องๆ มีเคล็ดลับอะไรในการเรียนภาษาบ้าง? เมนต์แชร์หน่อย!" ประกาศผู้โชคดีวันที่ 4 กุมภาพันธ์!
อย่าลืมช่วยกัน Share, Like, Subscribe นะค้า
ขอบคุณที่ติดตามเด็กไทยไกลบ้านค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Facebook : Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน
Instagram: dekthaiklaibaan
Blog : https://dekthaiklaibaan.wordpress.com/
Credit: Music from iMovie and Kevin MacLeod
Help us caption & translate this video!
http://amara.org/v/37SS/