“ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560”
สิทธิกร ศักดิ์แสง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารในระบบรัฐบาลแบบรัฐสภาของประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีสาระที่สำคัญ ดังนี้
1.ที่มาของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
1.1 ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)กับวุฒิสภา (ส.ว.)
ส.ส.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน จำนวน 500 คนแบ่งเขต 350 คน บัญชีรายชื่อจำนวน 150 คน โดยใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวทั้งแบบแบ่งเขตกับแบบบัญชีรายชื่อ
ส่วน ส.ว. มีที่มาอยู่ 2 ระยะ คือ ระยะ 5 แรก กับระยะ 5 ปีหลัง
ในระยะ 5 ปีแรก ในบทเฉพาะกาลได้กำหนดไว้ในกรณี 5 ปีแรก ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง มาจากการแต่งตั้งของคสช.จำนวน 250 คน (ม.269 )
ข้อสังเกต ส.ว. มีที่มาจากการแต่งตั้ง จากบุคคลกลุ่มต่างๆ 244 คน กับบุคคลที่ดำรงแหน่งผู้บัญชากองทัพกับตำรวจ 6 คน
ข้อสังเกต ส.ว. มีอำนาจร่วมพิจารณานายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. (ม.272)
ในระยะ 5 ปีหลังมาจากจากการสรรหา (ม.107-113) จากกลุ่มบุคคลต่างๆ หลากหลายอาชีพ จำนวน 200 คน ทำหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมายและมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหารได้เช่นเดียวกับส.ส. แต่ไม่มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ ปัจจุบันได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 83 สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 500 คน โดยเป็นสมาชิกซึ่งมา จากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ โดยให้ใช้ บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละ 1 ใบ คือ หนึ่งใบแบบแบ่งเขต เขตเดียวเบอร์เดียวกับ อีก 1 ใบ แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งผ่านการพิจารณาของรัฐสภา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 รอทิ้ง ไว้ 15 วันและให้นายกฯส่งทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมภิไธย ตามมาตรา 81
1.2 ฝ่ายบริหาร
หัวหน้าฝ่ายบริหารต้องมาจากฝ่ายนิติบัญญัติ คือ นายกรัฐมนตรีมาจากผู้ที่พรรคการเมืองเสนอชื่อ ซึ่งเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ก็ได้ แต่ต้องไม่เป็น ส.ว. (ม.88) (มาตรา 159) และเลือกรัฐมนตรี อื่นไม่เกิน 35 คน รวมเป็นคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน กล่าวคือ และรัฐบาลมาจากความไว้วางใจของ ส.ส.เริ่มต้นด้วยการให้ประชาชนเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อได้ ส.ส. ครบถ้วนแล้ว (ม.83-ม.106) สภาก็จะให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งฝ่ายบริหาร โดยมอบให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง (ม.158 - ม.159) เพื่อจัดตั้งฝ่ายบริหาร (คณะรัฐมนตรีหรือเรียกว่า “รัฐบาล”)
ข้อสังเกต ที่ 1 ในระยะ 5 ปี แรก ส.ว. พิจารณาเลือก นายกรัฐมนตรี กับ ส.ส.
ข้อสังเกต ที่ 2 ในกรณีสมัยแรกถ้าไม่สามารถหาได้นายกรัฐมนตรี อาจรัฐสภา (ส.ส. กับ ส.ว.) เสนอบุคคลที่ไม่ได้เสนอตาม ม.88 (ม.272)
2.การถ่วงดุลอำนาจกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร
ในระบบรัฐสภาของประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้กำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) มีอำนาจควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหาร (รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี) เนื่องจากฝ่ายบริหารมาจากความไว้วางใจของฝ่ายนิติบัญญัติ เมื่อเป็นเช่นนี้ฝ่ายนิติบัญญัติจึงมีอำนาจควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหารได้ เรียกว่า “อำนาจในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน” บนรากฐานของ “ความไว้วางใจของสภา” (Parliament’s confidence) ดังนี้
1)ฝ่ายบริหารที่จัดตั้งขึ้นเสร็จแล้วต้องแถลงนโยบายต่อฝ่ายนิติบัญญัติ (ม.162)
2) การตั้งกลไกกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบ กล่าว สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามีอำนาจเลือกสมาชิกของแต่ละสภาตั้งเป็นคณะกรรมาธิการสามัญ และมีอำนาจเลือกบุคคลผู้เป็นสมาชิกหรือมิได้เป็นสมาชิก ตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรือคณะกรรมาธิการร่วมกันตามมาตรา 137 เพื่อกระทำกิจการพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ และรายงานให้สภาทราบ (มาตรา 129)
3) สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ (สมาชิกรัฐสภา) สามารถตั้งกระทู้ถาม (Question) ซึ่งอาจจะเป็นการตั้งกระทู้ถามสด หรืออาจจะเป็นการตั้งกระทู้ถามทั่วไปก็ได้(ม.150)ต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในปัญหาที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินหรือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
4)การเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ (Vote of no Confidence) ทั้งคณะ(เป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี) หรือรัฐมนตรีรายบุคคล (ม.151) ซึ่งเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติโดยสภาผู้แทนราษฎรกับเปิดอภิปรายไม่ไว้วางแบบไม่ลงมติ (ม.152)
ข้อสังเกต การเปิดอภิปรายไม้ไว้วางใจตามมาตรา 151 เป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดขั้นสุดท้ายที่จะควบคุมฝ่ายบริหาร
ข้อสังเกต การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ถือ เป็นไม่ไว้วางใจทั่งคณะ ถ้านายกรัฐมนตรีก็ต้องพ้นทั้งคณะ
ข้อสังเกต การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ จะต้อง ส.ส. เท่านั้น
ข้อสังเกต การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ก็ได้
5) เมื่อกรณีฝ่ายบริหารออกพระราชกำหนด ภายใต้เงื่อนไข มาตรา 172 มาตรา 174 และเมื่อเข้าสู่สมัยประชุมการสภานิติบัญัติ (สมัยการตรากฎหมาย) ฝ่ายบริหารต้องนำพระราชกำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติ
6) ฝ่ายบริหารจะดำเนินการ เช่น ที่เกี่ยวกับสัญญาที่มีผลเกี่ยวอาณาเขตของรัฐ อำนาจอธิปไตยของรัฐ การประกาศสงคราม เป็นต้น ต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ
7) ฝ่ายบริหารก็มีอำนาจควบคุมฝ่ายนิติบัญญัติ ได้คือ การเสนอให้พระมหากษัตริย์ (ประมุขของรัฐ) ยุบสภาผู้แทนราษฎรให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ม.103)
ข้อสังเกต การยุบสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) ถือเป็นการถ่วงดุลของฝ่ายบริหารที่มีต่อฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ฝ่ายนิติบัญญัติกลัวที่สุด
สรุป ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารภายใต้ระบบรัฐบาลแบบรัฐสภา ของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มีประเด็นปัญหาที่ไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย ใน 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ
1.เรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรี ที่มีจารีตประเพณีที่ว่า นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงมาก คือ ได้จำนวน ส.ส. มากที่สุด สามารถจัดคั้งรัฐบาลและผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง แต่รัฐธรรมนูญ2560 นี้ได้ทำลายหลักการนี้ไปแล้ว คือ
1.1 นายกฯมาจากผู้ที่พรรคการเมืองเสนอ 3 รายชื่อ เป็น ส.ส.หรือไม่ก็ตาม และไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองที่มี จำนนวน ส.ส. มาก เป็นผู้มีสิทธิ ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวม ส.ส.มากกว่ากัน และมิหนำซ้ำ ในกรณี 5 ปีแรกในบทเฉพาะกาลที่ให้มี ส.ว. ที่มาจากการแต่ตั้ง คสช. (องค์ชั่วคราวที่มาจากการรัฐประหารเป็นผู้แต่งตั้ง) สามารถเลือกนายกฯร่วมกับ ส.ส. ได้ ไม่จำเป็นต้องมีการรวบรวม ส.ส.มาก แต่ถ้ารวมกับ กับ ส.ว. อีก 250 คนได้ มากกว่า ก็เป็นนายกฯได้แล้ว ตัวอย่างเช่น
ส.ส. 500 คน ได้เสียง ส.ส. 126 คน รวมกับ ส.ว.250 คน ก็สามารถเลือกนายกฯ ได้แล้ว ถือเป็นการทำลายหลักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ที่ว่า ผู้ปกครองที่บริหารประเทศต้องมาจากความยินยอมพร้อมใจจากประชาชน ด้วยการเลือกตั้งที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ ในระบบประขาธิปไตยทางผู้แทน คือ เสียง ส.ส. ที่ประชาชนเลือกตั้ง
1.2 ในกรณีที่ไม่สามารถหานายกฯได้ ในบทเฉพาะกาล กำหนดว่า ให้ รัฐสภา (ส.ส.กับ ส.ว.) เลือกบุคคลที่ไม่อนู่ในรายชื่อ 3 รายชื่อ ที่พรรคการเมืองเสนอให้ประชาชนเลือกตั้ง โดยเฉพาะการเลือกพรรคและเลือก ส.ส. ใช้บัตรใบเดียวกันทั้งประเทศ ดังนั้น นายกฯก็ต้องมาจาก บุคคลที่ พรรคการเมืองเสนอ จะให้เป็นบุคคลที่ไม่อยู่ในรายชื่อเสนอให้กัยประขาขนเลือก ถือ เป็นการทำลายหลักประชาธิปไตย ที่ว่า ระบอบการปกครองของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน
2. ที่มาของ ส.ว. ในระยะ 5 ปี ที่มาจากการแต่งตั้ง จาก คสช.( องค์ชั่วคราวที่มาจากการรัฐประหารเป็นผู้แต่งตั้ง) โดยเฉพาะจากผู้นำเหล่าทัพ ถือ เป็นสืบทอดอำนาจเผด็จการ สืบทอดอำนาจที่มาจากการรัฐประหาร เพราะ คสช. ก็คือ กองทัพ ที่สนับสนุน รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร อีกส่วนหนึ่งก็มาจากข้าราชการทหาร ตำรวจ แบะบุคคลที่เป็นเครือข่ายของคณะรัฐประหาร ดังนั้นที่มา ส.ว. ในระยะ 5 ปี ไม่ได้มาจากประขาชนหรือตัวแทนประชาชนที่แท้จริง
3. จากที่มาของนายกฯหัวหน้าฝ่ายบริหาร กับที่มา ส.ว. ที่เป็นพวกหรือกลุ่มเดียวกัน การตรวจสอบ หรือการถ่วงดุลฝ่ายบริหารของฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถทำได้เลย หรือทำได้ยากมาก วุฒิสภา คือ จึงเป็นเครื่องมือในการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่ทรงพลังเป็นอย่างมากถือ เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ยึดโยงจากประชาชนตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐบาลแบบรัฐสภาที่นานาอารยประเทศใช้กันอยู่
同時也有13部Youtube影片,追蹤數超過75萬的網紅เสกสรร ปั้น Youtube,也在其Youtube影片中提到,https://sekyoutube.com/ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราถ่ายคลิปแล้วติดหน้าคนอื่นมาด้วย คุณไม่สามารถเก็บข้อมูลใดๆที่อาจระบุตัวบุคคลได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคล...
「บุคคลที่」的推薦目錄:
- 關於บุคคลที่ 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳解答
- 關於บุคคลที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於บุคคลที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於บุคคลที่ 在 เสกสรร ปั้น Youtube Youtube 的最佳貼文
- 關於บุคคลที่ 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
- 關於บุคคลที่ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於บุคคลที่ 在 บุคคลที่ถูกระบบการศึกษาหลงลืม - YouTube 的評價
- 關於บุคคลที่ 在 PDPC Thailand | Bangkok - Facebook 的評價
- 關於บุคคลที่ 在 ทิศทางการบริหารคนอย่างยั่งยืน - ปตท. 的評價
บุคคลที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
Vickteerut จากแบรนด์แฟชั่นที่ กลัวโลกออนไลน์ สู่ยอดขายหลักล้านบาทต่อเดือนบน LazMall
Lazada Secret สูตรลับ สร้างแบรนด์ดังที่ LazMall x ลงทุนแมน
“ไม่ค่อยสนใจเทคโนโลยีเท่าไร อีกทั้งตัวเรายังกลัวการขายสินค้าออนไลน์”
ใครจะคิดว่าเจ้าของประโยคดังกล่าว
ณ เวลานี้ เธอกำลังมียอดขายบน LazMall
หรือ ห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Lazada
เฉลี่ยเดือนละล้านกว่าบาท
บุคคลที่ ลงทุนแมน กำลังพูดถึงเธอคือคุณแป้ง-อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการแบรนด์ Vickteerut
ที่สาวๆ หลายคนคงเป็นลูกค้าและมีเสื้อผ้าแบรนด์เธออย่างแน่นอน
ลงทุนแมน มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอผ่านบทสัมภาษณ์พิเศษ ‘Lazada Secret สูตรลับ สร้างแบรนด์ดังที่ LazMall’
ที่ทางลงทุนแมนร่วมมือกับทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Lazada
จัดทำบทสัมภาษณ์ แชร์เรื่องราวอินไซต์การตลาดในแง่มุมต่างๆ
ให้เป็นเรื่องเข้าใจง่าย ๆ แต่น่าจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็อยากรู้
ซึ่งก็คือ “สูตรลับ การขายสินค้าแบรนด์ใน LazMall อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ”
ความน่าสนใจของคุณแป้งกรรมการผู้จัดการ แบรนด์ Vickteerut
ก็คือ จากผู้หญิงที่ไม่สนใจและกลัวการขายสินค้าออนไลน์
ทำไมเธอถึงกล้าที่จะลอง
เรื่องราวทั้งหมด มีที่มาที่ไป และชวนน่าติดตามอย่างไร
ลงทุนแมน จะสรุปบทสัมภาษณ์ให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักแบรนด์ Vickteerut กันแบบคร่าว ๆ
โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
ที่คุณวิค-ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน และคุณแป้ง ที่มีความชื่นชอบในวงการแฟชั่น
และรู้สึกว่าการออกแบบเสื้อผ้าและการตัดเย็บเป็นเรื่องสนุก
เพียงแต่ความสนุกของเธอ กลับได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดก็เป็นธุรกิจขึ้นมา พร้อมกับมีหน้าร้านสาขาเป็นของตัวเอง
โดยตลอดเวลาที่ผ่านมายอดขายตาม Shop และหน้าร้านต่าง ๆ
ก็สร้างรายได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะลูกค้าซื้อแล้วชอบก็บอกต่อและซื้อซ้ำมาเรื่อย ๆ
ก็เลยทำให้คุณแป้งไม่ค่อยสนใจกับช่องทางออนไลน์เท่าไรนัก
จนมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อเพื่อนเธอแนะนำว่าลองนำสินค้ามาขายใน LazMall ของ Lazada
หลายคนอาจจะตอบ ตกลง ทันที
เพราะคิดว่าไม่มีผลเสียอะไร เมื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการขาย
แต่สำหรับ คุณแป้ง ในตอนแรกเธอไม่คิดเช่นนั้น
เพราะหากใครเป็นแฟนคลับแบรนด์ Vickteerut
จะรู้ว่านี่คือแบรนด์แฟชั่นคนไทยสุดโมเดิร์น ที่ใช้ผ้าเนื้อดีและการตัดเย็บคุณภาพสูง
นั่นแปลว่าราคาก็ค่อนข้างสูงตาม ขณะที่ความเชื่อของเธอเมื่อได้ยินคำว่า Lazada
คือ การขายเสื้อผ้า ที่แข่งขันราคากันเป็นหลัก
จนเมื่อเธอศึกษาจึงรู้ว่า LazMall คือมุมที่รวบรวมร้านค้าอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม Lazada
ซึ่งแยกออกมาชัดเจนและขายสินค้าแท้ 100% จากแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ
ซึ่งนั่นแปลว่า การลงขายสินค้าภายใต้ LazMall จะเป็นการันตีความน่าเชื่อถือ
อีกทั้งยังมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าด้วย เลยทำให้เธอตัดสินใจลองดูสักครั้ง
โดยเริ่มต้น Lazada ได้เปิดตัว Lazada Thai Designer Club ขึ้น
ซึ่งนับว่าเป็นการรวบรวมแบรนด์ของดีไซเนอร์ไทย ไว้บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นที่แรก
และ Vickteerut ก็เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่เข้าร่วมเช่นกัน
และก็สร้างความประหลาดใจให้คุณแป้งไม่น้อย
เพราะแทนที่เหล่าดีไซเนอร์จะต้องแข่งขันกันเพื่อสร้างยอดขายใน Lazada
แต่เรื่องกลับหักมุม เมื่อแต่ละคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เพื่อสร้างยอดขายให้ทุกแบรนด์ประสบความสำเร็จ
หลายคนน่าจะอยากรู้
คุณแป้งจะขายสินค้าบน LazMall อย่างไร เพื่อสร้างความต่างระหว่างการขายสินค้าบน LazMall กับช่องทาง Offline
เรื่องนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เปราะบางทางธุรกิจ
เพราะหากทำให้ช่องทางไหน ดูโดดเด่นและเหนือกว่าก็อาจส่งผลกระทบอีกช่องทางหนึ่ง
โดยวิธีที่คุณแป้ง เลือกใช้ถือว่ามาถูกทางเลยทีเดียว
โดยช่องทางหน้าร้านและในเว็บไซต์ตัวเองก็จะขายสินค้าแฟชั่นคอลเลกชันใหม่ ๆ
จับกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ที่ชอบอัปเดตเทรนด์แฟชั่น
ส่วนบน LazMall ก็จะเป็นสินค้าคอลเลกชันเดิม ที่นำมาลดราคาสูงสุดถึง 70%
จนถึงการมีคอลเลกชัน Exclusive Collection ที่ขายใน LazMall ที่เดียว
จะเห็นว่าวิธีของเธอคือการแบ่งกลุ่มสินค้าและลูกค้าให้มีความต่างกันชัดเจน
เพียงแต่สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านช่องทางไหน
เนื้อผ้าและการตัดเย็บของ Vickteerut จะมีคุณภาพสูงเหมือนกันหมด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณภาพสินค้า คือเครื่องมือประชาสัมพันธ์ ในการทำธุรกิจที่ดีที่สุด
เลยทำให้เมื่อ Vickteerut เริ่มต้นขายใน LazMall ก็มียอดขายอยู่ที่เริ่มต้นหลักแสนต่อเดือน
ซึ่งในเวลานั้นเธอยังไม่ค่อยมีความรู้ในการขายสินค้าออนไลน์มากนัก
คำถามก็คือแล้วอะไรที่ทำให้ในเวลา 1 ปีกว่า ๆ แบรนด์ Vickteerut สร้างยอดขายโตติดจรวด
จนปัจจุบันเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง หลักล้านต่อเดือน
พร้อมครองตำแหน่งแบรนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งจาก Lazada Thai Designer Club มาโดยตลอด
คุณแป้งสรุปสูตรลับสั้นๆ ออกเป็น 2 ข้อใหญ่ ๆ
ข้อแรกคือ ทีมงานของ Lazada เป็นเหมือนเพื่อนสนิทในธุรกิจของเธอ
ที่คอยให้คำปรึกษาและสอนเทคนิคดี ๆ ในการขายสินค้าบน LazMall
ทั้งการยิงโฆษณาออนไลน์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยคิดค้นการทำแคมเปญโปรโมชัน
รวมถึงการหา Insight ในการทำ Exclusive Collection เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคบน Lazada
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาสินค้าที่เหมาะสม หรือแม้แต่ทริกในการถ่ายภาพสินค้าและเขียนบรรยายเพื่อดึงดูดลูกค้า
ส่วนข้อที่ 2 น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ หากเราขายสินค้าบน LazMall
ก็จะมี Tools ที่ชื่อ Lazada Seller Center ซึ่งเธอบอกว่ามันจำเป็นต่อธุรกิจของเธอมาก
เมื่อธรรมชาติของธุรกิจแฟชั่นไม่มีอะไรตายตัว เทรนด์ใหม่หรือเทรนด์เก่า
ก็อาจจะกลายเป็นกระแสฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองในชั่วข้ามคืน ซึ่งก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง
โดยเครื่องมือนี้นอกจากมีระบบการจัดการหลายอย่าง ยังช่วยแจ้งข้อมูลด้วยว่าสินค้าแฟชั่นแต่ละชิ้นมียอดคนเข้ามาดูกี่คน มียอดขายแต่ละวันเท่าไร มีระบบจัดอันดับเสื้อผ้าตัวไหนสร้างยอดขายมากที่สุด
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้คุณแป้ง ก็พอรู้คร่าว ๆ ว่าเวลานี้คนกำลังสนใจแฟชั่นเทรนด์ไหน
จากนั้นก็นำข้อมูลนี้มาคิดค้นคอลเลกชันใหม่ ๆ ที่เมื่อออกมาแต่ละครั้งก็ประสบความสำเร็จ
เหตุผลเหล่านี้ ทำให้ยอดขายของ Vickteerut บน LazMall เติบโตต่อเนื่อง
‘ความสำเร็จเกิดจากทีมงาน Lazada ที่กลายเป็นเพื่อนทางธุรกิจ รวมถึงการเข้าใจเครื่องมือและ Insight ของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม’
‘โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้ ที่มาตรการล็อกดาวน์ทำให้ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับร้านค้าออฟไลน์
แต่เรายังมี LazMall เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญให้เราได้เติบโต’
และเธอต้องการเห็นคนไทยทั่วประเทศสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Vickteerut
ซึ่งเธอบอกกับ ลงทุนแมน ว่าความฝันนี้มันเป็นกำไรทางจิตใจที่มีคุณค่ามากกว่าตัวเงิน
“ขอบคุณ Lazada และ LazMall ที่ซัพพอร์ทดูแลกันมาตลอดค่ะ”
คำทิ้งท้ายจาก คุณแป้ง-อรประพันธ์กับบทสัมภาษณ์พิเศษ
Lazada Secret สูตรลับ สร้างแบรนด์ดังที่ LazMall x ลงทุนแมน
ช้อปสินค้า Vickteerut ได้ที่ LazMall ช้อปคุ้มค่า การันตีแบรนด์แท้ราคาดี ส่งฟรีทั่วไทย และรับประกันการคืนสินค้าภายใน 15 วัน พร้อมโปรโมชันสินค้าลดสูงสุด 90% ใน LazMall 9.9 Mega Brands Sale วันที่ 9 – 11 กันยายน 2564 นี้
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://www.lazada.co.th/shop/vickteerut/
ติดตามบทสัมภาษณ์พิเศษ Lazada Secret สูตรลับ สร้างแบรนด์ดังที่ LazMall ตอนต่อไปได้ทุกวันศุกร์แรกของเดือน ที่ลงทุนแมนเท่านั้น
#LazadaSecret #LazadaThaiDesignerClub #LazMallTH #LazadaTH
บุคคลที่ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สัมภาษณ์พิเศษ เจ้าของ TQM บริษัทนายหน้าประกันที่มุ่งมั่นจะมีอายุ 100 ปี
“ปี 40 ธุรกิจที่อยู่ในมือเจ๊งหมด เหลือแค่ธุรกิจประกันภัยของคุณพ่อที่ยังอยู่
มันคงเป็นชะตากำหนดมาแล้ว ให้เราต้องสานต่อ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่ชอบธุรกิจประกัน”
ใครจะคิดว่าจากธุรกิจที่ตัวเองไม่ชอบ
แถมเมื่อมารับช่วงต่อจากคุณพ่อ บริษัทมีพนักงานไม่ถึง 10 คน
และมีฐานลูกค้าอยู่ในมือไม่ถึง 100 ราย
เวลาผ่านไป 23 ปี เจ้าของประโยคดังกล่าว
กลับสร้างบริษัทที่รับช่วงต่อจากคุณพ่อจนมีเบี้ยประกัน 15,020 ล้านบาท
มีพนักงานกว่า 4,000 คน และมีฐานลูกค้ากว่า 3 ล้านคน
บุคคลที่ ลงทุนแมน กำลังพูดถึงก็คือ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา
ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM
บริษัทธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่อยู่ในเมืองไทยมานาน 68 ปี
ความน่าสนใจเรื่องนี้มันอยู่ที่ว่าจากธุรกิจเล็ก ๆ ของครอบครัว
ปัจจุบัน TQM ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัท นายหน้าประกัน อันดับหนึ่งเมืองไทย และเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยเพียงรายเดียวที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ SET ได้อย่างไร
ที่น่าสนใจ TQM ปรับตัวอย่างไรจากยุคที่ต้องเดินขายประกันตามบ้านมาสู่ยุคดิจิทัล
ลงทุนแมน จะสรุป บทสัมภาษณ์นี้ให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 40 ดร.อัญชลิน ตัดสินใจรับช่วงธุรกิจบริษัทนายหน้าประกันต่อจากคุณพ่อ
เนื่องจากทุกธุรกิจที่มีอยู่ในมือ โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนต้องปิดกิจการทั้งหมด
จะเหลือแค่ธุรกิจนายหน้าขายประกันของคุณพ่อ
เวลานั้นเขารู้สึกว่าหรือโชคชะตาลิขิตให้ต้องรับช่วงต่อ
ก็เลยตัดสินใจเข้ามาบริหารบริษัท โดยเขาเป็นทายาทรุ่นที่ 3
เมื่อเข้ามาบริหารเต็มตัว เขาสังเกตว่าใน 1 วันพนักงานขายประกันของบริษัทต้องเดินทางไปหาลูกค้า
แล้วอย่างเก่งใน 1 วันก็เจอลูกค้าได้แค่ 3 - 4 คน แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะปิดการขายได้หรือไม่
โจทย์เลยมาอยู่ที่ว่าจะทำยังไงให้ 1 วันของพนักงาน 1 คนพบลูกค้าได้มากขึ้น
ดร.อัญชลิน จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้วิธีขายประกันทางโทรศัพท์ โดยเริ่มต้นจากฐานลูกค้าเก่า
วิธีนี้ข้อเสียคือจะไม่ได้พบหน้าลูกค้าโดยตรง และอาจทำให้ปิดการขายได้ยาก ต้องขายประกันภัยที่เข้าใจง่าย ลูกค้ารู้จัก เช่น ประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุ
แต่ข้อดีคือทำให้ 1 วันของพนักงาน 1 คนสามารถคุยกับลูกค้าได้ 30 - 40 ราย
พร้อมกับมีการอบรมวิธีการขายให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ผลที่ได้คือยอดขายประกันโตแบบก้าวกระโดด แถมยังได้ข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็เริ่มขยายธุรกิจไปในหลาย ๆ จังหวัด พร้อมกับมีบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรมากขึ้น
ทำให้ปี พ.ศ. 2547 จากบริษัทห้องแถวเล็ก ๆ TQM ก็ลงทุนสร้างสำนักงานใหญ่ย่าน ลาดปลาเค้า
พร้อมกับลงทุนสร้างระบบ Call Center บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. และมีพนักงานกว่า 200 คน
จากนั้นบริษัทก็มีรายได้และกำไร จนถึงจำนวนพนักงานที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เวลาผ่านไป 10 กว่าปี การมาของ Smartphone และ Social Media ได้เปลี่ยนโลกธุรกิจทั้งใบ
ปรากฏการณ์นี้ ดร.อัญชลิน รู้ดีว่าหากบริษัทเก่าแก่อย่าง TQM ปรับตัวไม่ทันอาจเพลี่ยงพล้ำ
ที่น่าสนใจ เขากลับมองว่า โลกที่กำลังเปลี่ยนไป มันไม่ใช่วิกฤติ
แต่มันคือโอกาสทองของบริษัทที่จะทำลายข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างในธุรกิจประกันภัย
ทำให้บริษัท TQM ตัดสินใจลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในเรื่องเทคโนโลยีและดิจิทัล
พร้อมกับเกิดการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่น
ในอดีตพนักงานขายจะโทรศัพท์หาลูกค้า ก็จะมีออนไลน์เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งช่องทาง
ทำให้สามารถทำงานได้ ทุกที่ ทุกเวลา จนถึงค้นหาข้อมูลลูกค้าต่าง ๆ
ก็เปลี่ยนจากแฟ้มเอกสารมาอยู่ในระบบ Big Data ของบริษัทที่รวดเร็วและแม่นยำ และ Data Analytic ทำให้ผลสำเร็จสูงขึ้น
จนถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดต้นทุนต่าง ๆ
ดูเหมือน TQM จะมาถูกทางเมื่อรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง
ปี 2561 รายได้ 2,525 ล้านบาท กำไร 404 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,784 ล้านบาท กำไร 507 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,136 ล้านบาท กำไร 702 ล้านบาท
การเติบโตขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน อย่างเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า..ลูกค้าที่ซื้อประกันผ่าน TQM กว่า 80% เมื่อหมดสัญญาจะต่อกรมธรรม์
ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่อยู่ 60% และเมื่อบวกกับฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ส่งผลให้ปัจจุบัน TQM มีฐานลูกค้าเกือบ 3 ล้านรายทั่วประเทศ
แล้วเบื้องหลังความสำเร็จนี้ มันเกิดจากอะไร ?
TQM ตระหนักดีว่า หัวใจสำคัญของประกันภัย ไม่ใช่เพียงแค่ขายเก่ง แต่ต้องบริการเป็นเลิศด้วย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ณ วันนี้ TQM มีพนักงานกว่า 4,000 คนและมี 96 สาขาทั่วประเทศ ทั้ง Sale & Service เป็น Economies of scale ในการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ ที่หลาย ๆ บริษัทประกันไม่สามารถทำได้
พอเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้บริษัทประกันในเมืองไทยเกือบ ๆ 40 บริษัท
เลือกให้ TQM เป็นนายหน้าขายประกันให้แก่ตัวเอง
ไม่ใช่แค่นั้นแต่ TQM ยังรับหน้าที่ outsource บริการหลังการขายให้แก่บริษัทประกันต่าง ๆ
จุดนี้เองที่ทำให้ได้ใจลูกค้าไปเต็ม ๆ ตัวอย่างเช่น
สมมติหากลูกค้าเกิดรถชนต้องเคลมประกัน
พนักงาน TQM ก็จะดำเนินการให้ทันที โดยลูกค้าไม่ต้องทำเรื่องเคลมเองให้วุ่นวายและยังคอยดูแลการชดใช้ค่าสินไหมที่เป็นธรรมด้วย
ที่สำคัญธุรกิจนี้ก็ยังสร้างรายได้มหาศาลคิดเป็น 40% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่า TQM เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จ
และไม่น่าจะมีความท้าทายอะไร แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เมื่อ ดร.อัญชลิน บอกว่าถึง TQM จะเป็นผู้นำตลาดนายหน้าขายประกันด้วยเบี้ย 15,000 ล้านบาท
แต่กลับมีส่วนแบ่งไม่ถึง 5% จากเบี้ยประกันในเมืองไทยทั้งหมดเกือบ ๆ 1 ล้านล้านบาท ต่อปี
ส่วนอีกเรื่องก็คือ คนไทยยังทำประกันไม่มาก
รู้หรือไม่ว่า รถบนถนนเมืองไทยที่สามารถทำประกันได้มีถึง 20 ล้านคันแต่มีเพียง 60% ที่ทำประกัน
ขณะที่บ้านในเมืองไทยมี 26 ล้านหลัง แต่มีเพียง 3 ล้านหลังที่ทำประกันอัคคีภัย รวมถึงประกันสุขภาพประกันชีวิต ที่ยังเติบโตได้อีกมาก
ข้อมูลตรงนี้ ทำให้รู้ทันทีว่า TQM ยังมีความท้าทายรออยู่ตรงหน้า
เพราะตลาดยังมีโอกาสอีกมหาศาล ในการเพิ่มฐานลูกค้าและเบี้ยประกัน
ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่ว่า..จะทำได้ดีแค่ไหน ?
สุดท้าย ลงทุนแมน ได้ถามว่าความหวังอันสูงสุดในการบริหาร TQM คืออะไร
ดร.อัญชลิน บอกว่าเขาอยากเห็นคนไทยทุกคนมีประกันภัยไว้คุ้มครอง เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และอยากเห็นบริษัทแห่งนี้มีอายุ 100 ปี เหมือนปรัชญา Rinen ของญี่ปุ่นที่เน้นการเติบโตของธุรกิจแบบยั่งยืน เช่น ต้นสนที่มีอายุยืนยาวถึง 1,000 ปี
และสุดท้ายได้เริ่มฝึกทายาทรุ่นที่ 4 เข้ามาเรียนรู้งานแล้ว
แล้วใครจะคิดจากคนที่ในอดีตไม่เคยชอบธุรกิจนายหน้าขายประกัน
มาวันนี้ ดร.อัญชลิน กำลังมีความฝันให้ธุรกิจนี้มีอายุ 100 ปี
ซึ่งก็เชื่อว่า เขาน่าจะหลงรักธุรกิจนี้อย่างเต็มหัวใจไปเรียบร้อยแล้ว..
References
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปีของ TQM
บุคคลที่ 在 เสกสรร ปั้น Youtube Youtube 的最佳貼文
https://sekyoutube.com/ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราถ่ายคลิปแล้วติดหน้าคนอื่นมาด้วย
คุณไม่สามารถเก็บข้อมูลใดๆที่อาจระบุตัวบุคคลได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลดังกล่าว หลักเกณฑ์ด้านความเป็นส่วนตัว
https://support.google.com/youtube/answer/2801895?hl=th
ถ้าสมมุติว่าเราถ่ายคลิปวีดีโอลงยูทูปแล้วในคลิปนั้นติดหน้าของคนอื่นมา สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ
คนคนนั้นอาจจะไปแจ้งที่ YouTube เพื่อขอลบคลิปนั้นทิ้งได้โดย youtube จะมีแบบฟอร์มขั้นตอนการร้องเรียนเรื่องความเป็นส่วนตัวให้กรอกหลังจากนั้น ระบบจะแจ้งเตือนมาที่เจ้าของคลิปโดยที่ไม่ได้เปิดเผยว่าใครเป็นคนแจ้ง
เจ้าของคลิปมีเวลา 48 ชั่วโมงในการจัดการเรื่องนี้ถ้าเราเลือกวิธีการแก้ไขจะมี 3 วิธีคือ เราอาจจะเบลอหน้า คนพูดนั้นในวีดีโอหรือว่าเราจะลบคลิปนั้นทิ้งไปหรือว่าเราอาจจะแก้ไขชื่อคำอธิบายใต้วีดีโอหรือแท็กที่สามารถสื่อไปถึงคนๆนั้นได้
แต่ถ้าเจ้าของคลิปเลือกไม่แก้ไขอะไรหลังจาก 48 ชั่วโมงทาง YouTube จะส่งทีมงานมาตรวจสอบคลิปนั้นอีกครั้งหนึ่ง ถ้าสมมุติว่า YouTube ตรวจสอบแล้วว่ามีความผิดจริงก็จะลบคลิปนั้นทิ้งไป
แต่ผมที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ
1. เราอาจจะโดนลบช่อง YouTube ได้
2. เสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาในการทำคลิปนั้น
3. เสียรายได้ที่เกิดจากคลิปนั้นเพราะโดนลบทิ้งไป
4. การถ่ายทำคลิปวีดีโอนอกสถานที่จะยากมากยิ่งขึ้นเพราะการถ่ายไม่เห็นคนอื่นเลยเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากมาก
แนวทางแก้ไขก็คือเวลาที่เราไปถ่ายทำนอกสถานที่ แล้วอาจจะเห็นใครปิดลงมาในคลิปเราอาจจะต้องขออนุญาตเขาก่อนทางที่ดีเราควรจะทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรคล้ายๆกับการทำ model release ในเว็บที่ขายรูปภาพหรือวีดีโอ
ช่อง YouTube ที่อาจได้รับผลกระทบคือ แนวท่องเที่ยว แนว vlog แนวรีวิวร้านอาหาร แนวการแสดงหรือแนวอะไรก็ตามแต่ที่ถ่ายทำนอกสถานที่
นอกเหนือจากรูปภาพที่สื่อถึงคนอื่นในคลิปแล้วถ้าเรามีการระบุข้อความที่เป็นชื่อนามสกุล ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ คนคนนั้นก็สามารถแจ้งลบคลิปได้เช่นเดียวกัน
ในการที่เราจะแจ้งให้ลบคลิป บุคคลที่ 3 จะไม่สามารถแจ้งแทนคนอื่นได้ยกเว้นว่าคนคนนั้นเป็นบิดาหรือมารดาหรือเป็นตัวแทนตามกฎหมายหรือว่าบุคคลในคลิป เป็นบุคคลอ่อนแอโดยสภาพหรือไม่สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้
✅ 1000 คนติดตาม Youtube ภายใน 3 เดือน
ถ้าเรียนรู้และลงมือทำจริงอย่างต่อเนื่อง
ไม่ต้องมีความรู้และประสบการณ์ มีแค่มือถือเครื่องเดียว
คอร์สออนไลน์ "กลยุทธ์เพิ่มคนติดตามและรายได้ Youtube"
https://sekyoutube.com/gain-subscriber-course/
=========================================== Ebook คู่มือยูทูปเบอร์ https://sekyoutube.com/ebook-youtuber/
เสกสรร ปั้น Youtube ครูสอนทำการตลาดออนไลน์ด้วยวีดีโอ
? ไม่พลาดคลิปความรู้ดีๆ กดติดตามได้เลยเด้อ http://www.youtube.com/smileprovideo?sub_confirmation=1
✅ ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับวีดีโอ https://know.sekyoutube.com/
? ฟัง Podcast https://sekyoutube.podbean.com/
ประวัติเสกสรร ปั้น Youtube https://sekyoutube.com/ทำความรู้จัก/ ===========================================
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/w-D8L_fltZk/hqdefault.jpg)
บุคคลที่ 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
โปรโมชั่นพิเศษล่าสุด Toyota Hilux Revo 2020 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ต่ออายุไปอีก 1 เดือน จัดให้ 3 อย่าง สูงสุดรวม 95,000 บาท
ยังล้างสต็อกไม่หมด Toyota ขยายเวลา โปร 3 ต่อ ไม่ต้องรอมอเตอร์โชว์ ไปอีก 1 เดือน
หลังจากที่เพิ่งหมดอายุโปรโมชั่นพิเศษ 'โปร 3 ต่อ ไม่ต้องรอมอเตอร์โชว์' สำหรับ Toyota Hilux Revo ไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา รวมถึงการมีข่าวลือว่า รถยนต์ในสต็อก ได้ถูกจำหน่ายไปหมดแล้วนั้น ล่าสุด Toyota ตัดสินใจต่ออายุโปรโมชั่นดังกล่าว ออกไปอีก 1 เดือน โดยถอย Hilux Revo วันนี้ ฟรีดอกเบี้ย 0% สูงสุด 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 และขับฟรี 90 วัน มูลค่าสูงสุดรวม 95,000 บาท ถึง 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขดังนี้
*ผ่อน 0% นาน 72 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และรุ่นดับเบิ้ล แค็บ แซดอิดิชั่น,ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์
* ผ่อน 0% นาน 60 เดือน สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ, ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พรีรันเนอร์
* ผ่อน 0% นาน 48 เดือน สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ประกันภัยชั้น 1 ทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ของมูลค่ารถ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ภายใต้เงื่อนไขของแคมเปญ) ไม่รวม พ.ร.บ. บุคคลที่ 3, Toyota Care 1 ปี รวมถึงบริการช่วยเหลือ รถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
ระยะเวลาการผ่อนงวดแรก จะนับหลังจากวันเริ่มสัญญา 90 วัน โดยสำหรับลูกค้าที่เคยมีรถ, พนักงานบริษัท และเจ้าของกิจการ ที่มีประวัติสินเชื่อปกติ เงินดาวน์เริ่มต้น ที่ 15% เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
มูลค่ารวมสูงสุด 95,000 บาท สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และรุ่นดับเบิ้ล แค็บ แซดอิดิชั่น, ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พรีรันเนอร์
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/ySUcOZOYYVs/hqdefault.jpg)
บุคคลที่ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
Toyota โละสต็อก Hilux Revo โฉมเดิม เตรียมต้อนรับ รุ่นปรับโฉมใหม่ เปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษ โปร 3 ต่อ ไม่รอมอเตอร์โชว์
ถอย Toyota Hilux Revo วันนี้ ทุกรุ่น ฟรีดอกเบี้ย 0% สูงสุด 72 เดือน ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และขับฟรี 90 วัน มูลค่ารวมสูงสุด 95,000 บาท ถึง 30 เมษายน ศกนี้เท่านั้น
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ผ่อน 0% นาน 72 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และรุ่นดับเบิ้ล แค็บ แซดอิดิชั่น,ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ พรีรันเนอร์
ผ่อน 0% นาน 60 เดือน สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ, ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พรีรันเนอร์
ผ่อน 0% นาน 48 เดือน สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และดับเบิ้ล แค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ประกันภัยชั้น 1 ทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ของมูลค่ารถ (ขึ้นอยู่กับรถรุ่นภายใต้เงื่อนไขของแคมเปญ) ไม่รวม พ.ร.บ. บุคคลที่ 3, Toyota Care 1 ปี รวมถึงบริการช่วยเหลือ รถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
ระยะเวลาการผ่อนงวดแรก จะนับหลังจากวันเริ่มสัญญา 90 วัน โดยสำหรับลูกค้าที่เคยมีรถ, พนักงานบริษัท และเจ้าของกิจการ ที่มีประวัติสินเชื่อปกติ เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 15% เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
มูลค่ารวมสูงสุด 95,000 บาท สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นสมาร์ท แค็บ และรุ่นดับเบิ้ล แค็บ แซดอิดิชั่น, ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พรีรันเนอร์
- เงื่อนไขพิเศษนี้ ไม่สามารถเปลี่ยน หรือทอนเป็นเงินสดได้
- สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ตั้งแต่ 1-30 เมษายน 2563
- สำหรับผู้ซื้อ ที่ผ่านการอนุมัติ ตามมาตรฐานเงื่อนไข สถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
- เงื่อนไขนี้ ใช้ไม่ได้กับรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อขาย ภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ รวมถึงรถขาย Fleet
- เงื่อนไขนี้ มีเฉพาะที่ผู้แทนจำหน่าย ที่ร่วมโครงการ
สอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมโตโยต้า หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 0-2386-2000 หรือโทร.ฟรีต่างจังหวัด เฉพาะหมายเลขทีใช้รหัสทางไกล ที่หมายเลข 1800-238-444 ให้บริการลูกค้า 24 ชม. ทุกวัน บริการข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต www.toyota.co.th หรือ Line ID: @toyotacontact
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/kceGot5jBXU/hqdefault.jpg)
บุคคลที่ 在 PDPC Thailand | Bangkok - Facebook 的推薦與評價
PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ... 6d. ข้อควรคำนึงของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกรณีที่อาจมีความรับผิดทางปกครอง ... <看更多>
บุคคลที่ 在 ทิศทางการบริหารคนอย่างยั่งยืน - ปตท. 的推薦與評價
สายงานทรัพยากรบุคคลองค์กรและสายงานพัฒนาศักยภาพองค์กร ได้กำหนดเป้าหมายที่จะเป็นคู่คิดทางธุรกิจ และการพัฒนาองค์กรให้สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ... ... <看更多>
บุคคลที่ 在 บุคคลที่ถูกระบบการศึกษาหลงลืม - YouTube 的推薦與評價
บุคคลที่ ถูกระบบการศึกษาหลงลืมสังคมมักจะมองว่าคนพิการ หรือ บุคคลที่ มีความต้องการพิเศษ น่าจะไม่สามารถเรียนจบ ... ... <看更多>