ภาษา เป็นตัวกำหนดความคิด ของคนประเทศนั้น /โดย ลงทุนแมน
หลายศตวรรษที่ผ่านมา หลายคนมักคิดว่าภาษาเป็นเพียงแค่การใช้คำศัพท์
หรือการเรียงประโยคที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว กรอบความคิดและทักษะส่วนหนึ่งของเราเอง
อาจจะถูกครอบงำจากภาษา โดยที่เราก็ไม่ทันรู้ตัว
ทำไม คนจีนถึงมีความชำนาญด้านตัวเลข
ทำไม คนอังกฤษกับสเปนอาจมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกัน ไม่เหมือนกัน
รวมถึงว่าทำไม ประเทศไทยถึงมีการปลูกฝังเรื่องความอาวุโสตั้งแต่ยังเล็ก
ทุกอย่างนี้สามารถอธิบายได้ โดยสิ่งที่เรียกว่า “ภาษา”
แล้วภาษา มีอิทธิพลต่อเราขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บนโลกนี้มีภาษาที่ใช้สื่อสารถึงกว่า 7,000 ภาษาด้วยกัน
ซึ่งแต่ละภาษามีความแตกต่างในหลายแง่มุม
ทั้งจากการออกเสียง คำศัพท์ และโครงสร้างที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าคนในแต่ละประเทศ
มีทั้งวัฒนธรรมและความคิดแตกต่างกันไป
นั่นจึงเป็นที่มาให้บรรดานักภาษาศาสตร์ศึกษาว่า
ภาษานั้นส่งผลต่อความคิดและการกระทำหรือไม่
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์
จึงได้ทำการวิจัยและทดลองคนแต่ละประเทศ
แล้วพบว่าภาษาไม่ได้เพียงแค่ส่งผลต่อความคิดและทักษะเท่านั้น
แต่มันอาจจะเป็น “ตัวกำหนดความคิดของเรา” เลยด้วยซ้ำ
จึงเกิดเป็นทฤษฎี Linguistic Relativity หรือ ทฤษฎีสัมพันธภาพทางภาษา
ถูกคิดโดยเอ็ดเวิร์ด ซาเพียร์ และเบนจามิน วอร์ฟ
ซึ่งแบ่งย่อยได้อีก 2 แนวคิดคือ
1. Linguistic Determinism ภาษาเป็นตัวกำหนดความคิดของเรา
2. Linguistic Relativity คนที่ใช้ภาษาต่างกัน จะมีมุมมองและวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน
แล้วทฤษฎีนี้ มีเหตุผลสนับสนุนอะไรบ้าง ?
เรามาดูตัวอย่างงานวิจัยและทดลองที่ผ่านมา
เบนจามิน วอร์ฟ ได้ยกตัวอย่างโดยการเทียบ
ระหว่างภาษายุโรปกับภาษาอเมริกันอินเดียนหรือ Hopi
ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพว่า ภาษาที่มีไวยากรณ์ที่แตกต่างกันนั้นส่งผลต่อความคิดของเรา
โดยภาษายุโรป จะมองว่าเวลานั้นมีตัวตนเหมือนสิ่งของทั่วไป
สามารถนับเป็นหน่วยได้ เช่นเดียวกับสิ่งของที่นับเป็นชิ้น
แต่เวลาจะนับเป็นหน่วยวินาทีหรือชั่วโมงแทน
ซึ่งการมองว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีตัวตนนี้เอง ส่งผลให้เกิดสิ่งที่ตามมา
เช่น การให้ความสำคัญกับเวลา ซึ่งนำมาสู่สิ่งประดิษฐ์อย่าง ปฏิทินและนาฬิกา
หรือกระทั่งความสนใจในอดีต อย่างการบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
หรือแม้กระทั่งหลักไวยากรณ์ในหลายภาษา เช่น ภาษาอังกฤษก็จะมีรูปประโยคที่แสดงถึง อดีต ปัจจุบัน อนาคต
ในขณะที่ Hopi เองนั้นมองเวลาเป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่มีตัวตน เป็นเพียงแค่สิ่งที่วนเวียนเหมือนเดิม
จึงไม่แปลกที่จะไม่มีการจดบันทึกเหตุการณ์ด้วยภาษา Hopi และก็สะท้อนมายังสังคมของชาว Hopi ที่ให้ความสำคัญกับการกระทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะพูดถึงสิ่งเดียวกัน
แต่ความคิดและมุมมองจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภาษา
นอกจากความคิดแล้ว
ภาษายังส่งผลต่อทักษะอีกด้วย
สะท้อนมาจากงานวิจัยของเลรา โบโรดิตสกี
ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์
ที่ได้ไปเจอกับชุมชนชาวอะบอริจินในออสเตรเลีย
ซึ่งผู้คนในชุมชนนี้ไม่รู้จักคำว่าซ้ายหรือขวาเลย
แต่จะบอกทิศทางโดยการใช้ศัพท์ตามเข็มทิศ
ตัวอย่างรูปประโยคแปลเป็นภาษาไทย
เช่น “มีมดเกาะอยู่บนขาข้างตะวันตกเฉียงใต้”
นอกจากนี้ พวกเขามักจะทักทายด้วยคำว่าสวัสดี
แล้วต่อด้วยการถามเส้นทางของคู่สนทนา
เช่น “สวัสดี คุณกำลังไปทางไหน”
ซึ่งจากการใช้ภาษาแบบนี้ ทำให้ชาวอะบอริจินมีความเชี่ยวชาญในการระบุทิศทางได้ดี
นี่ถือเป็นตัวอย่างแรกที่ชี้ให้เห็นว่าภาษาส่งผลต่อทักษะเช่นกัน
ตัวอย่างถัดไปก็คือ การแยกเฉดสีของชาวรัสเซีย
ปกติแล้ว ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษมักจะเรียกสีฟ้าเข้มและอ่อนว่า Blue ทั้งหมด
แต่ชาวรัสเซียกลับต้องจำแนกเฉดสี
ระหว่างสีฟ้าอ่อน ที่เรียกว่า “โกลูบอย” กับสีฟ้าเข้ม ที่เรียกว่า “ซีนีย์”
นั่นจึงทำให้พวกเขามีความสามารถในการแยกแยะสีได้เร็วกว่าชาติอื่น
และตัวอย่างสุดท้ายคือ ทักษะด้านตัวเลขของชาวจีน
ชาวจีนเก่งการนับเลขมากกว่าผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ
นั่นก็เพราะว่าตัวเลขมีการสื่อสารที่เรียบง่าย
ในขณะที่เลข 11 ภาษาอังกฤษ คือ Eleven
หรือ 12 คือ Twelve ซึ่งจะเป็นการสร้างคำพูดใหม่ขึ้นมา
แต่สำหรับเลขจีน กลับเป็นคำพูดที่เรียบง่าย เช่น เลข 11 หรือ 十一
อ่านว่า สืออี ซึ่งเป็นการนำคำศัพท์เลข 10 กับเลข 1 มาผสมกัน เท่านั้น
ทีนี้ เรามาดูอีกผลวิจัยที่พิสูจน์ว่าแต่ละภาษาส่งผลต่อการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันด้วย
ซึ่งเป็นการทดลองโดยการฉายภาพเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา
ในรูปแบบคลิปวิดีโอเกี่ยวกับแจกันแตก
เพราะมีคนบังเอิญเดินมาชนอย่างไม่ตั้งใจ
และมีผู้เข้าร่วมทดสอบ 2 ประเภท คือผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ และผู้ที่ใช้ภาษาสเปน
ผลทดลองพบว่า สิ่งที่คนอังกฤษสรุปออกมาได้ก็คือ แจกันแตกเพราะมีคนชนมันตกลง
ในขณะที่คนสเปนจะจดจำได้เพียงแค่ว่า มีแจกันแตกเท่านั้น
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนสเปนถึงจำได้แค่นั้น
นั่นก็เพราะว่าภาษาสเปนจะคำนึงถึงเจตนาด้วย
หากเป็นอุบัติเหตุ ชาวสเปนจะตัดเรื่องราวส่วนผู้กระทำออกไป
โดยไม่ให้ความสำคัญกับส่วนนั้นและมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องจดจำ
ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่า
แม้เราจะเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน แต่เรากลับมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งมันก็จะนำไปสู่วิธีคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
เรื่องดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปถึงการพิพากษาคดี หรือแม้แต่การตัดสินใจร่วมกันของคนต่างชาติ ต่างภาษา อีกด้วย
นอกจากนี้ ภาษาก็ส่งผลต่อความเชื่อและค่านิยมอีกเช่นกัน
เช่น ประเทศไทย เป็นหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องลำดับขั้นหรือความอาวุโส
ซึ่งก็สะท้อนมาจากการใช้คำว่า ครับ หรือ ค่ะ ท้ายประโยคแทนความเคารพ
แตกต่างจากประเทศฝั่งตะวันตก
ในขณะเดียวกัน เราก็มีคำสรรพนามที่ใช้เรียกผู้อื่นหรือตัวเองที่มีอยู่มากมาย
ตั้งแต่ เรา ผม หนู ฉัน ดิฉัน กระผม ข้า ข้าพเจ้า หม่อมฉัน
ซึ่งแต่ละสรรพนามก็ใช้แตกต่างกันตามสถานะของอีกฝ่าย
เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเอง ก็เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับความอาวุโสเช่นกัน
จึงเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเทศมีคำที่ใช้สื่อสารต่อผู้คนที่แตกต่างกัน
เช่น เกาหลีใต้ คำว่า 요 หรือ -습니다
จะถูกใช้ท้ายประโยคเหมือนคำว่า ครับ หรือ ค่ะ ของคนไทย
และเหล่าคำกริยาก็สามารถผันเป็นรูปอื่น
เพื่อแสดงความเคารพต่อคนที่อาวุโสกว่า
ภาษาญี่ปุ่น はい แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เป็นการตอบแบบสุภาพ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์
ในขณะที่ ええ แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เช่นกัน แต่ใช้ได้แค่คนระดับเดียวกันหรือรองลงมา
ในทางกลับกัน ชาวเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาอย่างมาก
แต่ประเทศไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าคำศัพท์ของไทยไม่มีการผันตามเวลา
ซึ่งต่างจาก 2 ประเทศข้างต้น ที่มีการผันคำศัพท์ที่แตกต่างตามช่วงเวลา
จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าภาษาคือสิ่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความคิดของผู้คนแต่ละพื้นที่ จึงไม่แปลกใจที่คนพูดได้หลายภาษาจะสามารถมองโลกได้กว้างกว่า
และนี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมบางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศหนึ่ง
อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในบางประเทศ
จากเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นความสำคัญว่า ทำไมเราจึงควรเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่น
เพราะสิ่งที่เราได้รับ นอกจากจะได้ภาษาใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างมุมมองใหม่อีกด้วย
ซึ่งการมีมุมมองที่รอบด้าน ก็จะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นตามไปด้วย
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-biolinguistic-turn/201702/how-the-language-we-speak-affects-the-way-we-think
-https://www.ted.com/talks/lera_boroditsky_how_language_shapes_the_way_we_think?language=th
-https://so04.tci-thaijo.org/index.php/abc/article/view/60825/50088
-https://itdev.win/14215/13.pdf
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅Channel RL,也在其Youtube影片中提到,กด Subscribe ติดตามทาง YouTube ช่วยแชร์ด้วยบอกต่อเล่าต่อเขียน comment มาคุยกันบ้าง มะพร้าว เป็นพืชยืนต้นชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลปาล์ม มะพร้าว เป็นพืชซึ...
「ประเภท ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳解答
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 Channel RL Youtube 的最讚貼文
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 ฝึกพูดอังกฤษ What kind of ..? ถามว่า ประเภทไหน ชนิดไหน ประโยค ... 的評價
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษา ... 的評價
- 關於ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 ในภาษาอังกฤษมีคำประเภทหนึ่งที่เรียกว่า... - พ่อผมเป็นคนอังกฤษ 的評價
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
" ข้อสังเกตุ เกี่ยวกับ ความหมายของคำว่า Administrative act"
เมื่อพิจารณาศึกษาถึง คำว่า “Administrative act” จะพบว่า งานวิจัย ตำรา หนังสือ เอกสารต่างๆ ทางกฎหมายปกครองของนักวิชาการแต่ละท่านจะให้ความหมายของ ว่า “การกระทำทางปกครอง” กับ “นิติกรรมทางปกครอง” ทั้ง 2 คำนี้ ในตำรา กฎหมายปกครอง ทุกเล่ม จะใช้ ภาษาอังกฤษ ในคำเดียวกัน คือ Administrative act ทั้ง 2 นี้ มันแตกต่างกันหรือคล้ายกันอย่างไร คำไหนใช้ถูกต้อง เพราะในหนังสือกฎหมายปกครอง อยู่ 2 เล่ม ที่ผู้เขียนศึกษาเปรียบเทียบคำว่า “การกระทำทางปกครอง” กับ คำว่า “นิติกรรมทางปกครอง” คือ หนังสือกฎหมายปกครองของ อาจารย์ ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. กมลชัยชัย รัตนสกาววงศ์ กับ หนังสือ การควบคุมฝ่ายปกครองของ ศาสตราจารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ จะอธิบายความหมาย การกระทำทางปกครองที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. หนังสือกฎหมายปกครอง ของ ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. กมลชัยชัย รัตนสกาววงศ์ ได้อธิบาย การกระทำทางปกครอง มีอยู่ 4 ประเภท คือ
1) นิติกรรมทางปกครอง ที่เป็น “กฎ” กับ “คำสั่งทางปกครอง”
2) คำสั่งทั่วไปในทางปกครอง
3) ปฏิบัติการทางปกครอง
4) สัญญาทางปกครอง (อ้างใน กมลชัย รัตนสกาววงศ์ “สาระสำคัญและหลักกฎหมายพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539”, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์นิติธรรม,2539 หน้า 7-8 ) ในหนังสือของศาสตราจารย์ พิเศษ ดร.กมลชัย รัตนสกาววงศ์ แสดงให้เห็นว่า “การกระทำทางปกครอง” จะเป็นคำที่ให้ความหมายกว้าง เป็นการกระทำหรือผลิตผลจากการใช้อำนาจรัฐ ของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย มีอยู่ 4 ประเภท ดังนี้
1) นิติกรรมทางปกครองที่เป็น “กฎ” กับ “คำสั่งทางปกครอง”
2) คำสั่งทั่วไปในทางปกครอง
3) ปฏิบัติการทางปกครอง
4) สัญญาทางปกครอง ส่วนคำว่า “นิติกรรมทางปกครอง” จะเป็นความหมายอย่างแคบเป็นผลิตผลจากการใช้อำนาจรัฐของหน่วยของรัฐ ที่ เป็น “กฎ” และ “คำสั่งทางปกครอง”
2. หนังสือ การควบคุมฝ่ายปกครอง ของ ศาสตราจารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ ได้อธิบาย การกระทำทางปกครอง มี 2 ประเภท คือ
1) ปฏิบัติการทางปกครอง กับ
2) การกระทำทางกฎหมาย ซึ่งการกระทำทางกฎหมาย แบ่งได้ ออกได้ คือ “กฎ” “คำสั่งทางปกครอง” “สัญญาทางปกครอง” (อ้างใน บรรเจิด สิงคะเนติ “หลักกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมฝ่ายปกครอง” กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน,พิมพ์ครั้งที่ 5, 2556) แสดงเห็นได้ว่า ศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ จะไม่ใช้คำว่า “นิติกรรมทางปกครอง”
ส่วนปัญหาการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ “Administrative act” นี้ควรให้ความหมายอย่างไร ระหว่าง “การกระทำทางปกครอง” กับ “นิติกรรมทางปกครอง” ผู้เขียนขอใช้ “การ กระทำทางปกครอง” ในความหมายอย่างกว้างอย่างกว้าง ส่วน “นิติกรรมทางปกครอง” ในความหมายอย่างแคบ
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳解答
“บทสนทนาระหว่างศิษย์กับอาจารย์”
วันนี้ ได้โทรไปกราบคารวะ อาจารย์ ศ.ดร.คณิต ณ นคร เรื่องแรกที่ผมถาม คือ เรื่องสุขภาพของอาจารย์ อาจารย์ว่ายังแข็งแรง สบายดี จากนั้นก็คุยเรื่องงานทางวิชาการ แลกเปลี่ยนความเห็นกับท่านอาจารย์ เกี่ยวกับกฎหมายปกครอง มีประเด็นที่สนทนา กันอยู่ 2 เรื่อง
เรื่องแรก หลักกฎหมายปกครอง นี้ประเทศไทยเราเดินตามแนวประเทศฝรั่งเศส หรือประเทศเยอรมัน กันแน่ ผมได้แสดงความคิดเห็นต่ออาจารย์ ว่า เดินตามแนวฝรั่งเศส เมื่อพิจารณา กฎหมาย 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กับ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จะกล่าวการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ในการออก “กฎ” และ ออก “คำสั่งทางปกครอง” ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับ ประเทศฝรั่งเศส ส่วนประเทศเยอรมันไม่ได้ให้อำนาจฝ่ายบริหารออก “กฎ” แต่สามารถใช้อำนาจในการออก “คำสั่งทางปกครอง” ได้เท่านั้น
แต่เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติวิธิปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 แล้ว จะพบว่า จะกล่าวถึง “กฎ” เพียงแค่การให้คำนิยามความหมายไม่มีส่วนไหนมาตราไหนพูดถึงการกระทำของ “กฎ” เนื้อหาทั้งเกี่ยวการกระทำ กระบวนพิจารณาทางปกครอง การอุทธรณ์ การบังคับทางปกครอง การฟ้องเพิกถอน เกี่ยวกับ “คำสั่งทางปกครอง” เท่านั้น ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้มีเยื่อใยแนวคิดของกฎหมายปกครองประเทศเยอรมัน เป็นหลัก ส่วนพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มีเชื้อความคิดจากประเทศฝรั่งเศส อย่างชัดเจน
เรื่องที่ 2 คำว่า “การกระทำทางปกครอง” กับ คำว่า “นิติกรรมทางปกครอง” ทั้ง 2 คำนี้ ในตำรา กฎหมายปกครอง ทุกเล่ม จะใช้ ภาษาอังกฤษ ในคำเดียวกัน คือ Administrative act ทั้ง 2 นี้ มันแตกต่างกันหรือคล้ายกันอย่างไร คำไหนใช้ถูก ประเด็นนี้ ผมรู้สึกว่า ยังไม่เคลียร์เพราะยังมีความสังสัย อยู่ตลอดเวลา เพราะในตำรากฎหมาย หนังสือ รายงานวิจัย จะอธิบาย ในความหมายในลักษณะเดียวกัน ผมเลยยกความเห็น หนังสือกฎหมายปกครอง ของ อาจารย์ ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. กมลชัยชัย รัตนสกาววงศ์ กับ หนังสือกฎหมายปกครองของ ศาสตราจารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ มาอธิบายให้ความเห็นต่ออาจารย์ คณิต ดังนี้
1.หนังสือกฎหมายปกครอง ของ อาจารย์ ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. กมลชัยชัย รัตนสกาววงศ์ ได้อธิบาย การกระทำทางปกครอง มีอยู่ 4 ประเภท คือ
1) นิติกรรมทางปกครอง ที่เป็น “กฎ” กับ “คำสั่งทางปกครอง”
2) คำสั่งทั่วไปในทางปกครอง
3) ปฏิบัติการทางปกครอง
4) สัญญาทางปกครอง
แสดงให้เห็นว่า “การกระทำทางปกครอง” มีความหมายกว้างกว่า “นิติกรรมทางปกครอง”
2.หนังสือ การควบคุมฝ่ายปกครอง ของ ศาสตราจารย์ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ ได้อธิบาย การกระทำทางปกครอง มี 2 ประเภท คือ
1)ปฎิบัติการทางปกครอง กับ
2)การกระทำทางกฎหมาย ซึ่งการกระทำทางกฎหมาย แบ่งได้ ออกได้ คือ “กฎ” “คำสั่งทางปกครอง” “สัญญาทางปกครอง”
จะเห็นได้ว่า ศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ จะไม่ใช้คำว่า “นิติกรรมทางปกครอง”
ท่านอาจารย์ แนะนำให้ผมศึกษาเพิ่มเติมจากตำรา ทั้ง 2 นี้ โดยเฉพาะตำราในต่างประเทศที่เกี่ยวกับ คำว่า “Administrative act” แปลเป็นภาษาไทย ระหว่าง “การกระทำทางปกครอง” กับ “นิติกรรมทางปกครอง” คำไหนที่เหมาะสมและถูกต้อง
จากประเด็นที่สนทนาพูดคุยทางโทรศัพท์กับอาจารย์ ศาสตราจารย์ ดร. คณิต ณ นคร ไม่กี่นาที อาจารย์ให้ผมได้ความรู้วิธีคิดหรือการมอง กฎหมาย การใช้เหตุผลทางกฎหมาย เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ เป็นประเด็น ที่ทำให้ผมต้องขยันพัฒนาตนเองในค้นคว้างานทางวิชาการให้มากยิ่งขึ้น กว่าเดิม ถ้าเราคิดเดินบนเส้นทางในทางวิชาการ ต่อไป
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างมากครับ ที่เอื้ออาทรต่อศิษย์ตลอดเวลา
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 Channel RL Youtube 的最讚貼文
กด Subscribe ติดตามทาง YouTube ช่วยแชร์ด้วยบอกต่อเล่าต่อเขียน comment มาคุยกันบ้าง
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้นชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลปาล์ม มะพร้าว เป็นพืชซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายทาง เช่น น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อนใช้รับประทาน เนื้อในผลแก่นำไปขูดและคั้นทำกะทิ กะลานำไปประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ เช่น กระบวย โคมไฟ ฯลฯ นอกจากนี้มะพร้าวจัดเป็นพรรณไม้มงคลชนิดหนึ่ง ตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง ได้กำหนดให้ปลูกมะพร้าวไว้ทางทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล
Quick facts: คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์), พลังงาน …
Quick facts: คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์), พลังงาน …
Quick facts: การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์, ชื่อทวินาม …
ลักษณะทั่วไป
มะพร้าว เป็นพืชยืนต้น ใบมีลักษณะเป็นใบประกอบแบบขนนก ผลประกอบด้วยเอพิคาร์ป (epicarp) คือเปลือกนอก ถัดไปข้างในจะเป็นมีโซคาร์ป (mesocarp) หรือใยมะพร้าว ถัดไปข้างในเป็นส่วนเอนโดคาร์ป (endocarp) หรือกะลามะพร้าว ซึ่งจะมีรูสีคล้ำอยู่ 3 รู สำหรับงอก ถัดจากส่วนเอนโดคาร์ปเข้าไปจะเป็นส่วนเอนโดสเปิร์ม หรือที่เรียกว่าเนื้อมะพร้าว ภายในมะพร้าวจะมีน้ำมะพร้าวซึ่งน้ำมะพร้าวเกิดจากเอนโดสเปิร์มของมะพร้าวซึ่งจะมีเอนโดสเปิร์มทั้งของแข็งและของเหลว คือ เอนโดสเปิร์มของแข็งจะเป็นเนื้อมะพร้าว และเอนโดสเปิร์มทั้งของเหลวจะเป็นน้ำมะพร้าว ซึ่งเมื่อมะพร้าวแก่ เอนโดสเปิร์มก็จะดูดเอาน้ำมะพร้าวไปหมด ขณะที่มะพร้าวยังอ่อน ชั้นเอนโดสเปิร์ม (เนื้อมะพร้าว) ภายในผลมีลักษณะบางและอ่อนนุ่ม ภายในมีน้ำมะพร้าว ซึ่งในระยะนี้เรามักสอยเอามะพร้าวลงมารับประทานน้ำและเนื้อ เมื่อมะพร้าวแก่ ซึ่งสังเกตได้จากการที่เปลือกนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ชั้นเอนโดสเปิร์มก็จะหนาและแข็งขึ้น จนในที่สุดมะพร้าวก็หล่นลงจากต้น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะพร้าว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cocos nucifera L. อยู่ในตระกูล Palmae มีระบบรากเป็นรากฝอยมีขนาดเท่าๆ กัน แผ่กระจายออกรอบต้น
ลำต้น มีลำต้นเดียว ไม่แตกแขนง มีรอยแผลจากการหลุดร่วงของใบตลอดลำต้น สามารถคำนวณอายุของต้นมะพร้าวได้จากรอยแผลนี้ คือ ในปีหนึ่งมะพร้าวจะสร้างใบประมาณ 12- 14 ใบ ดังนั้นใน 1 ปี จะมีรอยแผลที่ลำต้น 12 – 14 รอยแผล
ใบ เป็นใบประกอบ ออกอยู่ตามส่วนของลำต้น ประกอบด้วยก้านทาง ( rechis ) มีขนาดใหญ่และยาว และมีใบย่อย ( leaflet ) บนก้านทางประมาณ 200 – 250 ใบ
ดอก ออกเป็นช่อชนิดพานิเคิล มีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย อยู่ในช่อเดียวกัน ดอกมีกลีบดอก 6 กลีบ สีครีมหรือสีเหลืองนวล ไม่มีก้านดอกย่อยดอกตัวเมียจะมีกลีบดอกหนาและแข็งกว่ากลีบดอกตัวผู้
ผล มะพร้าวเป็นชนิดไฟบรัสดรุป ( fibrous drupe ) เรียกว่า นัท ( nut ) มีเปลือก 3 ชั้นคือ
1. เปลือกชั้นนอก ( exocarp ) เป็นเส้นใยที่เหนียวและแข็ง เมื่อแก่อาจมีสีเขียว แดง เหลืองหรือน้ำตาล
2. เปลือกชั้นกลาง ( mesocarp ) มีลักษณะเป็นเส้นใย มีความหนาพอประมาณ
3. เปลือกชั้นใน ( endocarp ) มีลักษณะแข็งหรือที่เรียกกันว่า กะลา ( shell )
เมล็ด ( seed of kernel ) คือ เนื้อมะพร้าว ภายในเมล็ดเป็นช่อกลวงขณะผลอ่อนจะมีน้ำอยู่เต็ม ผลแก่น้ำมะพร้าวจะแห้งไปบางส่วน
พันธุ์ มะพร้าวเป็นพืชผสมข้ามพันธุ์ แต่ละต้นจึงไม่เป็นพันธุ์แท้ อาศัยหลักทางการผสมพันธุ์ที่เป็นไปโดยธรรมชาติ อาจแบ่งมะพร้าวออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทต้นเตี้ยและประเภทต้นสูง
ประเภทต้นเตี้ย มะพร้าวประเภทนี้ มีการผสมตัวเองค่อนข้างสูง จึงมักให้ผลดกและไม่ค่อยกลายพันธุ์ ส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อรับประทานผลอ่อน เพราะในขณะที่ผลยังไม่แก่ อายุประมาณ 4 เดือน เนื้อมีลักษณะอ่อนนุ่ม และน้ำมีรสหวาน บางพันธุ์น้ำมีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีกลิ่นหอม
ลักษณะทั่วไปของประเภทต้นเตี้ย ลำต้นเล็ก โคนต้นไม่มีสะโพก ต้นเตี้ย โตเต็มที่สูงประมาณ 12 เมตร ทางใบสั้น ถ้ามีการดูแลปานกลางจะเริ่มให้ผลเมื่ออายุ 3-4 ปี ให้ผลผลิตประมาณ 35-40 ปี มะพร้าวประเภทต้นเตี้ยมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เปลือกสีเขียวเหลือง นวล (สีงาช้าง) น้ำตาลแดง หรือสีส้ม น้ำมีรสหวาน มีกลิ่นหอม มะพร้าวต้นเตี้ยทุกพันธุ์จะมีผลขนาดเล็ก เมื่อผลแก่มีเนื้อบางและน้อย ซึ่งได้แก่พันธุ์ นกคุ่ม หมูสีเขียว หมู่สีเหลือง หรือนาฬิกา มะพร้าวเตี้ย น้ำหอม และมะพร้าวไฟ แต่ปัจจุบันมะพร้าวน้ำหอมกำลังเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมใช้ในการบริโภคสดและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
ประเภทต้นสูง ตามปกติมะพร้าวต้นสูงจะผสมข้ามพันธุ์ คือ ในแต่ละช่อดอก (จั่น) หนึ่ง ๆ ดอกตัวผู้จะค่อย ๆ ทยอยบาน และร่วงหล่นไปหมดก่อนที่ดอกตัวเมียในจั่นนั้นจะเริ่มบาน จึงไม่มีโอกาสผสมตัวเอง มะพร้าวประเภทนี้เป็นมะพร้าวเศรษฐกิจส่วนใหญ่ปลูกเป็นสวนอาชีพ เพื่อใช้เนื้อจากผลแก่ไปประกอบอาหาร หรือเพื่อทำมะพร้าวแห้งใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันพืช
ลักษณะทั่วไปของประเภทต้นสูง ลำต้นใหญ่ โคนต้นมีสะโพกใหญ่ ต้นสูง โตเต็มที่สูงประมาณ 18 เมตร ทางใบใหญ่และยาว ถ้ามีการดูแลปานกลางจะเริ่มให้ผลเมื่ออายุ 5-6 ปี อายุยืนให้ผลผลิตนานประมาณ 80 ปี มะพร้าวต้นสูงมีผลโตเนื้อหนาปริมาณเนื้อมาก มีลักษณะภายนอกหลายอย่างที่แตกต่างกัน เช่น ผลขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รูปผลกลม ผลรี บางพันธุ์เปลือกมีลักษณะพิเศษ คือ ในขณะที่ผลยังไม่แก่ เปลือกตอนส่วนหัวจะมีรสหวานใช้รับประทานได้ จึงมีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน ได้แก่พันธุ์กะโหลก มะพร้าวใหญ่ มะพร้าวกลาง ปากจก ทะลายร้อย เปลือกหวานและมะแพร้ว มะพร้าวพันธุ์ลูกผสมแม้ว่ามะพร้าวพื้นเมืองที่เกษตรกรปลูกกันมาแต่ดั้งเดิม จะมีลักษณะดีหลายอย่าง เช่น มีขนาดผลค่อนข้างโต และทนทานต่อสภาพอากาศแล้งได้ดี แต่ในวงการอุตสาหกรรมมะพร้าวในปัจจุบันได้พัฒนาทางด้านคุณภาพมะพร้าวมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตรมีหน้าที่รับผิดชอบด้านวิจัยและพัฒนามะพร้าวได้ผลิตมะพร้าวพันธุ์ลูกผสม แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai)
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 คำทั้ง 8 ประเภทในภาษาอังกฤษ (Parts of Speech) ที่คนเรียนภาษา ... 的推薦與評價
ตามไปเรียน ภาษาอังกฤษ กับครูหวานต่อที่ Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonairInstagram: ... ... <看更多>
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 ในภาษาอังกฤษมีคำประเภทหนึ่งที่เรียกว่า... - พ่อผมเป็นคนอังกฤษ 的推薦與評價
ในภาษาอังกฤษมีคำประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "contronym" หลายคนอาจจะไม่เคยเจอเลย แต่มันทำให้นักเรียนสายภาษาปวดประสาทมานักต่อนัก contronym คือ... ... <看更多>
ประเภท ภาษาอังกฤษ 在 ฝึกพูดอังกฤษ What kind of ..? ถามว่า ประเภทไหน ชนิดไหน ประโยค ... 的推薦與評價
ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ กดตรงนี้ https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/joinเรียน ภาษาอังกฤษ ... ... <看更多>