"เยอรมันค่อยๆ ถอยๆ เพื่อให้เจ็บน้อยที่สุด"
จากการแถลงมาตรการครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า
"รัฐบาลเยอรมันเริ่มทยอยถอย และปลดล็อกมาตรการแล้ว"
ซึ่งถือว่าเป็นแผนที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะทางการเยอรมันนั้น ได้ทำแผนถอยออกเป็นระยะๆ โดยจะใช้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นหลักในการผ่อนคลายมาตรการ
โดยสิ่งที่ดีที่สุดของการผ่อนคลายมาตรการนี้ก็คือการที่รัฐบาลยอมถอยให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินธุรกิจต่อได้ตามปกติ ถ้าสามารถรักษาตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่เกินไปกว่าที่รัฐบาลกำหนด
การที่เยอรมันกล้าดำเนินนโยบายแบบนี้พ่อบ้านมีความเห็นดังนี้
1. รัฐบาลเกิดการเรียนรู้ จากความผิดพลาดในรอบแรกแล้วที่ปลดล็อกแบบสายฟ้าแลบ เลยทำให้เกิดการแพร่ระบาดในระลอกที่ 2 ดังนั้นรอบนี้จึงต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เรียกว่าช้าแต่ชัวร์
2. ปริมาณของวัคซีนที่ฉีดไปประมาณ 5% ของประชากร และปริมาณของการฉีดวัคซีนในตอนนี้เรียกได้ว่า ไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ไม่ได้ช้าจนเกินไป (พ่อบ้านว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้คือประมาณ 2 แสนกว่าคนต่อวัน) โดยรัฐที่มีจำนวนคนฉีดมากที่สุดคือ NRW, Bayern และ Baden-Württemberg ตามลำดับ และแน่นอนว่าปริมาณของวัคซีนของเยอรมันจะเพียงพอกับประชากรทั้งประเทศภายในหน้าร้อนปีนี้
3. ปริมาณผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ค่อยๆ มีจำนวนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
4. การที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของในส่วนไวรัสกลายพันธ์ได้ (อย่างน้อยก็ในตอนนี้)
5. รัฐบาลเยอรมันกล้าทุ่มงบประมาณและปูพรมให้ประชาชนให้ประชาชนทุกคนใช้ชุดตรวจไวรัสด้วยตัวเองทั่วประเทศ และรวมไปถึงเวลาที่จะใช้บริการบางประเภท
6. ต้องรีบดำเนินการเปิดการดำเนินธุรกิจให้ได้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ
ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างจึงน่าจะทำให้รัฐบาลมีความกล้าและมีความจำเป็นที่จะค่อยๆ ปลดล็อก โดยให้แต่ละพื้นที่บริหารกันเอง(ข้อดีคือไวเพราะทุกอย่างไม่ต้องวิ่งเข้าส่วนกลาง แต่มีข้อเสียคือข้อมูลเช็คค่อนข้างยาก เพราะแต่ละเขตมีนโยบายแตกต่างกัน จึงต้องให้คนพื้นที่นั้นๆ เช็คกัน)
และถ้าถามว่าหลังจากนี้เยอรมันน่าจะเดินไปในทิศทางไหนพ่อบ้านเลยนั่งนึกดูและคิดว่าน่าจะออกมาเป็นในรูปแบบนี้
1. เตรียมดำเนินนโยบายในเรื่องของ Vaccine Passport ให้เร็วที่สุด เพื่อใช้เป็นเอกสารและเตรียมเปิดประเทศให้ท่องเที่ยว โดยอาจจะใช้นโยบายเดียวกันกับหลายๆ ประเทศ ที่จะเริ่มใช้ในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้
โดยจะทำการใช้ Vaccine Passport ร่วมกับผลตรวจโควิด ก็จะสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ โดยอาจจะร่วมกับประเทศใน EU ด้วยกัน หรือประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูง หรือมีนโยบายเดียวกัน
2. เตรียมฟื้นฟูเศรษฐกิจ และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งพ่อบ้านเชื่อว่าน่าจะต้องมีมาตรการที่จะออกมาสนับสนุนในส่วนนี้เพิ่มเติมอย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ นี่ก็ใกล้เลือกตั้งใหญ่แล้วหล่ะจ้า รัฐบาลต้องกู้คะแนนเสียงแล้วหล่ะ 555
3. การแก้ไขปัญหาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส อาทิ การแก้ไขตัวเลขคนตกงาน ปัญหาความเครียด ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่พุ่งสูงขึ้น และรวมไปถึงปัญหาเรื่องการศึกษาที่ปล่อยให้นักเรียนๆ ออนไลน์มานาน
4. รัฐบาลน่าจะต้องรีบหารายได้มาชดเชยที่ต้องจ่ายไปเป็นเงินจำนวนมหาศาลในการแก้ไขปัญหาไวรัส
ส่วนตัวพ่อบ้านค่อนข้างพอใจกับการที่รัฐบาลถอยแบบนี้จริงๆ นะ ดีกว่า เปิดตูม!! แล้วกลับมาเป็นคลื่นลูกที่ 3 อีก ซึ่งมันค่อยดูเป็นระบบ และค่อนข้างเป็นระเบียบ สมกับเป็นเยอรมัน
แต่ก็ต้องขอติในเรื่องของการข้อมูลในการสื่อสารบางครั้งที่ค่อนข้างสับสน อย่างในเรื่องร้านนวด เปิดได้หรือเปิดไม่ได้กันแน่ แต่ตอนนี้เท่าที่รับทราบก็ต้องขอแสดงความยินดีที่หลายๆ รัฐอนุมัติให้สามารถเปิดได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย
แล้วเดี๋ยวเรามาดูกันครับว่านโยบายที่เยอรมันออกมาแบบนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ แต่เท่าที่พ่อบ้านมอง พ่อบ้านขอคาดว่าภายในปีนี้น่าจะมีการเปิดการท่องเที่ยวอย่างน้อยก็ภายใน EU ด้วยกันเองอย่างแน่นอนครับ
คุณคิดอย่างไรครับ?
มาแสดงความคิดเห็นของคุณให้พ่อบ้านฟังหน่อยนะครับ?
#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German
ที่มาของข้อมูลในบทความ:
https://impfdashboard.de/
ปัญหาความเครียด 在 ความเครียด ต้นเหตุของทุกปัญหาสุขภาพ : โรงพยาบาลธนบุรี 的推薦與評價
โรงพยาบาลธนบุรี # เครียด #ซึมเศร้า เครียด สะสม เป็นภาวะที่สร้างความกังวลและรบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือคนรอบข้างได้ หากมีอาการผิดปกติกับร่างกายหรือจิตใจ ... ... <看更多>