กำลังเกรียวกราว เมื่อพระ 2 รูป ได้ไลฟ์สนทนากัน มีผู้ติดตามเรือนแสน เขาวิจารณ์กันทั่วว่า "ไม่สำรวม - ไม่เหมาะสม" แต่เจ้าตัวโต้คอเป็นเอ็น "เป็นการสอนธรรมะอย่างหนึ่ง"
ล่าสุด ทั้ง 2 รูป อื้อฉาวหนักข้อขึ้น โทรศัพท์ไปร่วมรายการตอบปัญหาทางเพศ ลงท้ายด้วยพิธีกรอวยพร "ขอให้มีความสุขทางเพศ"
ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็มุดแทรกผ้าเหลือง
เมื่อเช้า มีผู้ประกาศคนหนึ่งมาคุย "ผิดมั๊ยถ้าจะเรียกชื่อเขาเฉยๆ ว่า นาย... ไม่เรียกพระมหา... เรียกไม่ลงจริงๆ"
"ใจเย็นๆน่ะ อย่างน้อย เขายังไม่สึก เห็นแก่ผ้าเหลืองละกัน ถ้าไม่เรียกพระมหา ก็เรียกพระ..แล้วตามด้วยชื่อก็ได้" ผมตอบ
"ผมเคยโดนติติงมาแล้ว ตอนที่สัมภาษณ์เจ้าอาวาสวัดมณฑป ไม่รับเผาศพตำรวจ ท่านบอกว่า น้ำเสียงดุดัน รุกไล่เกินไป" เรากลับมาพิจารณา ก็เป็นจริงตามนั้น
กรณีพระ 2 รูปนี้ ชัดเจนว่า ไม่สำรวม ผิดหลักเสขิยวัตร (วินัยบัญญัติ ว่าด้วยการสำรวมของภิกษุ เป็นส่วนหนึ่งของศีล 227 ข้อ)
ที่เจ้าตัวแย้งว่า เป็นการสอนธรรมะตามยุคสมัยนั้น ก็หามีไม่ ได้ยินแต่พูดแซะ ส่อเสียด เรื่องวัคซีนของจีน เรื่องการเมือง..
"ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่อย่าตำนาน เดี๋ยวมันจะแหลก แหลกหมดแล้ว ประเทศชาติแหลกหมดแล้ว ตำมา 7 ปีแล้ว..."
"ฝากถึงรัฐบาลว่า ยามเหนื่อย ยามท้อ ยามสิ้นหวัง ยามหมดกำลังใจ เปลี่ยนยามใหม่เถอะครับ..."
ไม่มีตรงไหนเป็นการสอนธรรมะ พูดไปหัวเราะร่วน หัวสั่นหัวคลอน
คนหนึ่งเป็นพระ 3 กีบ แสดงตนมานานแล้ว อีกคนก็ออกนอกกรอบหนักขึ้น หลังจากเคยเป็นพรีเซนเตอร์ พูดขายสินค้าออกสื่อ
ไม่รู้พระผู้ใหญ่ในสายบังคับบัญชาจะว่าอย่างไร ?
เมื่อไม่นานมานี้ พระที่เคยให้กำลังใจ ผู้กำกับโจ้ ถึงขนาดหิ้วน้ำอาหารไปฝากถึงโรงพัก ยังถูกท่านเจ้าอาวาสวัดภัทรสิทธาราม เชิญให้กลับวัดต้นสังกัดที่เพชรบูรณ์
แล้วท่านก็สึกออกจากผ้าเหลือง ด้วยยอมรับว่าสิ่งที่ตนทำนั้น ไม่เหมาะสม ก็อนุโมทนา สาธุ
แต่เท่าที่ดู พระ 2 รูปนี้ ฟังจากที่ออกมาโต้แย้ง และเดินหน้าไปออกรายการทางเพศด้วยแล้ว.. คงยากจะสำนึก หรือคงไม่เห็นแก่พระพุทธศาสนา ?
หนำซ้ำ.. ยังสำคัญตนผิดว่า ตัวเองกำลังทำเพื่อพระพุทธศาสนา ก็หวังว่า พระผู้ใหญ่คงลงมาจัดการ สะสาง อย่าให้เหลือบ ริ้นไร ก่อตัวเป็นมารศาสนาต่อไปเลย
.
" วันพระ "
วันจันทร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๔
แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีฉลู
