“ประเทศที่คุณไปแล้ว
อาจไม่เจอเจ้าของประเทศ! “
บันทึกโดย @pontanin trisavatdivit
..............
ลองนึกถึงประเทศๆนึงที่ประชากรทุกคนรวย ไม่มีใครจนเลยสิ
ใครจะเปิดร้านขายของชำเล็กๆริมถนนให้เราได้ซื้อยามจำเป็นหล่ะ
ใครจะเป็นช่างตัดผมหล่ะ
ใครจะทำอาหารในร้านอาหารหล่ะ
ใครจะขับรถบรรทุกหล่ะ
รถพังใครจะเป็นช่างซ่อม?
สาวๆจะอยากเป็นแอร์สายการบินมั้ย
.
"ดูไบ" ไข่มุกตะวันออกกลาง ที่ที่มีคนพูดถึง ความรวย ความเว่อร์ และอากาศที่ร้อน... ได้ยินมาเยอะก็อยากจะมาสัมผัสที่นี่กับเค้าบ้าง
.
จนเมื่อโอกาสเหมาะเจาะที่สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ได้เปิดโปรโมชั่นสุดเจ๋งซื้อ 1 แถม 1 เหยื่อการตลาดแบบเราจึงไม่รีรอกดจองตั๋วดั่งได้ของฟรี การทำวีซ่าดูไบบินมากับสายการบินแถบตะวันออกกลาง เราสามารถยื่นสมัครวีซ่าออนไลน์ได้ไม่ต้องไปสถานทูต สนนราคาค่าธรรมเนียมหัวละ3700บาท
.
การเดินทางมาดูไบถ้าบินตรงก็คงใช้เวลาร่วมๆ 6-7ชม แต่เราต้องมาต่อเครื่องที่กาต้าร์ การเดินทางของเราใช้เวลาร่วม 10 ชม เมื่อยใช้ได้เลยฮะ
.
เมื่อถึงสนามบินดูไบด้วยความปวดฉี่จึงตรงเข้าห้องน้ำและsurpriseแรกก็ได้เริ่มทำงาน ห้องน้ำห่วยมาก ดูไม่ค่อยสะอาด ผิดกับที่คิด สนามบินประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศที่ร่ำรวยส่วนใหญ่ มันจะดูดีมากกว่านี้อ่ะ กระเต็นถึงกับไม่กล้าเข้าห้องน้ำหญิง บอกว่าเห็นส้วมเป็นหลุมๆเลยเดินออก
.
ด่านตรวจคนเข้าเมืองมีคนรอหลายร้อยคน เจ้าหน้าที่ก็หน้าตาตูดมาก ตูดจนผมต้องมองหน้ากับกระเต็นแล้วขำในความหน้าตูดของเค้ากันเลย
.
การเดินทางจากสนามบินไปในตัวเมืองสะดวกมากด้วยรถmetroวิ่งครอบคลุมจุดสำคัญต่างๆรวมถึงจุดที่เราพักคือ "Downtown Dubai" ตั๋วรถmetroที่นี่ราคาน่ารัก Day Pass ราคา 22AED (เดอร์ฮัม) ประมาณ220บาท เราสามารถใช้เดินทางโดยMetroไม่จำกัดเที่ยวหรือระยะทางได้จนถึง24:00 และยังสามารถใช้ต่อรถเมล์ได้อีกด้วย ที่สำคัญ มีแต่แขก หลับตาไม่มองหน้าใคร กลิ่นก็ยังโชยมาให้ได้บรรยากาศ
.
โรงแรมที่เราจะมาพักกันในครั้งนี้คือ Sofitel Downtown Dubai ราคาที่พักต้องบอกว่าเอาเรื่อง ราคามันพอๆกับโรงแรม4ดาวใน Manhattan เลยทีเดียว แต่เลือกที่นี่เพราะว่าทำเลมันดีมาก อยู่ติดกับสถานีmetroเลย และสามารถเดินไปตึก Burj Kalifa ตึกสูงที่สุดในโลก ได้ด้วย
.
อากาศเป็นเรื่อง Surprise เรื่องที่สอง เพราะว่า อากาศมันดีมากกกกกกกก เย็นสบายเหมือนหน้าหนาวเมืองไทย 28-30ตอนกลางวัน 24-26ตอนกลางคืน เดินเที่ยวสบายเหงื่อไม่ออกเลย มารู้ทีหลังว่าดันมาถูกเวลาพอดีเพราะถ้าพลาดมาเที่ยวช่วงเดือน 4-9 แล้วละก็ ร้อนตับแล่บแน่ หน้าร้อนที่นี่อากาศตอนกลางวันร้อนถึง 50องศา!!!! เคยมีสถิติ 55องศาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วย อยากรู้ว่าร้อนขนาดไหนก็คิดถึงห้องซาวน่าร้อนๆแล้วเพิ่มความร้อนเข้าไปอีกหน่อยอ่ะประมาณนั้น คนที่นี่จะเรียกช่วงนี้ว่าช่วงนรก
.
ทริปนี้เราได้ไกด์นำเที่ยว "อาเมต"คอยตอบข้อสงสัยเราหลายๆเรื่องจนทำให้เราเข้าใจ พื้นฐานของประเทศนี้มากขึ้น
ดูไบเป็นหนึ่งในเจ็ด มณฑล ของ UAE เป็นเมืองที่ร่ำรวยและมีขนาดอันดับสองรองจากพี่ใหญ่ อาบูดาบี อีกห้ามลฑลที่เหลือ Ajman, Fujairah, Sharjah,Ras al-Kkhaimah, Umm al-Qaiwain ไม่ค่อยมีทรัพยากรอะไรจึงไม่แปลกใจที่เราไม่ค่อยจะเคยได้ยินชื่อบ่อยนัก
.
น้ำมันเป็นทรัพยากรที่ทำให้ ดูไบกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวย แต่ข่าวร้ายคือ น้ำมันกำลังจะหมดไปจากดูไบภายในปี 2040 หรืออีก14ปีข้างหน้า! วิสัยทัศน์ของผู้ปกครองเมืองดูไบจึงต้องการทำให้เมืองของตัวเองเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของโลกอาหรับ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และรักษาความร่ำรวยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำมัน ปี2020ที่จะถึงนี้ ดูไบจะจัดงาน Dubai Expo และหวังจะประกาศตัวเองเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งภูมิภาคอย่างเป็นทางการ ระหว่างนี้เราจึงเห็นโครงการก่อสร้างใหญ่ๆในดูไบผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด รวมถึงรถไฟฟ้าอีกสองสายที่ทำไว้รองรับ Dubai Expo โดยเฉพาะอีกด้วย
.
อาเมตบอกว่า ดูไบเป็นเมืองที่เมื่อ60ปีที่แล้วเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆจนๆแห่งหนึ่ง จนเมื่อปี 1960 ก็ได้พบแหล่งน้ำมันและทำให้ประเทศนี้พลิกจากประเทศยากจนแร้นแค้นเป็นประเทศเศรษฐีน้ำมันในชั่วข้ามคืน คนแก่ที่เป็นคนท้องถิ่นจึงได้ผ่านความเปลี่ยนแปลงของประเทศแบบรวดเร็วมากจนบางคนถึงกับรับไม่ได้เพราะความเจริญทางวัตถุได้ทำลายจิตวิญญานดั้งเดิมของดูไบออกไปด้วย
.
ประชากรในดูไบมีทั้งหมด สองล้านสองแสนคน แบ่งออกเป็นต่างด้าว 1.9ล้านคน คนท้องถิ่นเพียง 3แสนคน ด้วยความที่คนดูไบท้องถิ่นรวยมากจนประเทศนี้ไม่มีคนชั้นแรงงาน จึงนำเข้าแรงงานมาจากประเทศยากจนหลายประเทศ บังคลาเทศ อินเดีย ปากีสถาน เราถึงกับบางอ้อ วันแรกๆที่มาก็ว่าทำไมประเทศนี้คนมันเหมือนคนอินเดียเลยวะ ประชากรประเทศนี้ส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวชาวอินเดีย และคนท้องถิ่นเป็นชนกลุ่มน้อย!!! บ้าไปเเล้ว
.
อาเมตบอกว่า คนที่เป็นคนอิมิเรตจริงๆหาดูยากมากในประเทศนี้ ถ้าเราอยากเห็นก็ให้ไปดูตามสถานที่ราชการ เพราะคนท้องถิ่นชอบรับราชการกันเพราะได้ตังค์เยอะ งานอื่นๆพวกขายของในห้าง งานบริการ งานเล็กๆ ต่างด้าวชาวอินเดีย ฟิลิปปินส์ จะเป็นคนรับหน้าที่ เวลาเดินห้างใหญ่ๆหรูๆ จะเห็นแขกขาว ราศีดีๆมีออร่าเดินเป็นลูกค้า และต่างชาติ จะเป็นบริกร
.
อาเมตยังบอกอีกว่าถ้าเราอยากเห็นบ้าน เศรษฐีดูไบ ให้ออกไปที่ทะเลทราย คนรวยไม่ชอบอยู่ในเมืองปะปนกับคนทั่วไป กลัวสูญเสียจิตวิญญานความเป็นคนท้องถิ่นของตัวเอง เนื่องจากในเมืองเต็มไปด้วยคนชั้นใช้แรงงานชาวต่างด้าว จึงอยากรักษาระยะเอาไว้ อีกเหตุผลนึงก็คือ ประชาชนประเทศนี้ไม่จำเป็นต้องทำงานก็มีชีวิตกินดีอยู่ดีได้แล้ว ไม่ต้องทำงานแล้วจะอยู่ในเมืองทำไมกัน จริงป่ะ
.
Surprise ที่สาม ดูไบไม่มี Seven Eleven นะฮะ รวมถึงร้าน convenient store ก็หาไม่ค่อยจะมีเลยนักท่องเที่ยวที่พักแถบ New Downtown ถ้าอยากจะได้อะไรต้องไปซื้อในMall สถานเดียว และขอบอกว่าราคานี่แพงเหมือนกับฝันไป อาหารที่นี่เริ่มที่จานละ400-900บาท!!! ประมาณร้านอาหารในห้างอ่ะ น้ำสมูทตี้ในคาเฟ่ แก้วละ 370บาท!!! น้ำเปล่าขวดละร้อย ฆ่ากูเหอะ สวนน้ำเข้าไปเล่นสิ 3-4000บาท ขึ้นลิฟท์ตึก Kalifaไปดูวิว 3000บาท เล่นสกีในร่ม 3500!!! ปล้นกูเหอะอีบ้า จะแพงไปไหนเนี่ย ถ้าอยากได้ของราคาย่อมลงมา อาหารราคาย่อมลงมา ก็ห้ามอยู่ในเมืองใหม่ ต้องไปใช้ชีวิตอยูใน Old Down Town ย่านที่เดินๆอยู่นึกว่ามาเที่ยวอินเดีย เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่คนอินเดีย
.
ทริปนี้ก็มีบางวันที่เช่ารถขับเที่ยวเองบ้าง ก็ขับรถไปเที่ยวเมือง อาบูดาบี และเมือง Al Ain (อัล เลน)ด้วย แม่เจ้า!!!! แม่งรวยมาก!!!! เมืองอาบูดาบี มีขนาดไม่ใหญ่มาก น่าจะใหญ่กว่าเมืองพัทยาไม่เยอะหรอก แต่ทุกอย่างที่นี้เนี๊ยบไม่มีที่ติ สะอาดมากกก ต้นไม้ใหญ่เขียวไปทั้งเมือง นี่มันเมืองในทะเลทรายนะครับ หยั่งกับเมืองในสวนลุมแหนะ บนถนนย่านแลนด์มาร์คของอาบูดาบีชื่อ Corniche เป็นที่ตั้งของโรงแรมโครตแพงแห่งนึ่งชื่อ Emirates Palace Hotel ที่มีมูลค่าการก่อสร้างรวมแล้ว 3000ล้าน USD หรือประมาณ หนึ่งแสนล้านบาท!!! เกือบเท่างบประมาณแผ่นดินเราทั้งประเทศเลยนะนั่น ขนาดของโรงแรมไม่ได้ใหญ่มากมายแต่งบสูงมาก สูงกว่าตึก Burj Kalifaที่สูงที่สุดในโลกอีกเท่าตัว! เข้าไปกินขนมในโรงแรมนี้มา เด็กเสริร์ฟถามว่าเค้กพี่จะใส่ทองด้วยมั้ยครับ.... บ้าป่ะหละ และอาบูดาบียังเป็นที่ตั้งของมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ดีงามมาก
.
อีกวันก็ขับรถไปเมืองอัลเลน เพื่อที่จะไปเที่ยวเขาชื่อ Jebel Hafeet จะบอกว่ามันสวยแปลกตามาก แต่มันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือบ้านคนแถวนี้ครับ นึกภาพบ้านใหญ่ขนาด อัครคฤหาสน์ ประมาณบ้านเจ้าสัวซีพี อยู่เรียงติดๆๆๆๆกันออกมั้ยครับ เป็นแบบนั้นทั้งเมือง บางหลังมีป้อมยามเป็นหอคอยสูงเอาไว้สังเกตการณ์เพราะบริเวณบ้านมันใหญ่มากกก รั้วบ้านบางบ้านยาวไฟแดงนึงไปอีกไฟแดงนึง!!! บางบ้านข้างในต้นไม้ใหญ่เต็มบริเวณเขียวไปทั้งพื้นที่ บางบ้านมีภูเขาขนาดย่อมๆในบริเวณบ้าน แล้วเอาหญ้ามาปลูกคลุมเขาทั้งลูกให้มันดูเขียวๆ นี่มันทะเลทรายนะครับ หญ้ามันต้องใช้น้ำรดเยอะมาก และที่นี่ฝนไม่ตกทั้งปีก็มี ปลูกไปได้ บนเขาทั้งลูก!!! เพิ่งรู้ทีหลังว่าเมืองนี้อยู่ในเขตของอาบูดาบีฮะ
.
เต็นกับภณคุยกันว่า ดูไบอ่ะ รวย แต่ที่โครตรวยอ่ะ อาบูดาบีตะหาก เมืองไม่ต้องใหญ่เพราะไม่ต้องทำธุรกิจอะไร ที่เห็นคือทำไว้อยู่ไว้ดูเอง ไม่จำเป็นต้องมีนักท่องเที่ยว เด๋วจะขาดความเป็นส่วนตัวเหมือนดูไบ คนอาบูดาบีไม่ค่อยมีใครทำงานกัน ที่ทำงานก็เห็นแต่คนต่างด้าวล้วนๆคนท้องถิ่นก็ใช้ชีวิตไปตามประสาคนรวย ร้อนมากก็ไปยุโรป บ้านตัวเองอากาศดีก็กลับมา อยากสนุกก็ไปขับรถเล่นในทะเลทราย
.
ทริปนี้เป็นทริปที่ให้มุมมองเกี่ยวกับประเทศอาหรับเพิ่มขึ้นมาก ได้ข้อสรุปใหม่ๆเพียบ
-Dubai เป็นเมือง มิใช่ประเทศ
-มา UAE สิ่งแรกๆที่เราจะเห็นเลยคือคนอินเดีย
-ค่าครองชีพแพงจิมๆ
-คนอิมิเรสต์ รวยมากจนทำให้คนที่อยู่ในประเทศนี้ที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น รวมถึงฝรั่งดูกระจอกไปเลย
-น้ำทะเลที่นี่ใส
-อาบูดาบี พ่อ ดูไบ
-น้ำมันลิตรละ17บาท
-น้ำมันในโลกมาจาก UAE 7%
-ประเทศนี้ เจ้าของประเทศ หาดูยากมาก
-วันศุกร์เป็นวันหยุดถ้าจะไปmuseumให้เช็คตารางให้ดี
-เดือน Nov-Jan อากาศดีมาก
-Toyota Land Cruiser เป็นรถยอดนิยม
-ประปาที่นี่กรองจากน้ำทะเล
-บ้านและอาคารในดูไบสร้างแล้วไม่มีคนซื้อเยอะมาก
-ห้างส่วนใหญ่จอดรถไม่เสียตังค์
-ถนนที่นี่ดีกว่าในยุโรปอีก ไฟทางเปิดทั้งประเทศ
-ประเทศนี้ก็มีโสเภณี ราคาถูกไปแพง (จีน,อินเดีย,ยุโรปตะวันออก,อาหรับ)
-Speed Limit 120 kmph
-ขับรถไม่ยาก เช่าไม่แพง พวงมาลัยซ้าย
-ห่างจากอาบูดาบี130กม
-มากับแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงานห้ามนอนห้องเดียวกัน
-จูบกลางถนนติดคุก28วัน
-สกุลเงิน เดอร์ฮัม = 10บาท
-Marlboroซองละ110บาทไทยฮะ😋
-ไม่น่าช็อป ของไม่ถูกและหลายอย่างจะแพงกว่าบ้านเราอีก
ขอบคุณที่ทนอ่านฮะ 😄😄😄😄
.....
บันทึกโดย@pontanin trisavatdivit
เมื่อครั้งไปเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน
เป็นครั้งแรก
ที่เต็นได้รู้จักทะเลทรายจริงๆ
และได้เรียนรู้หลายสิ่ง
ในโลกตะวันออกกลาง
พระอาทิตย์ตกที่ทะเลทราย-สวยมาก
ลมหนาวที่ะเลทราย-หนาวมาก เช่นกัน
#healthisthenewwealth
#happykraten #happy #healthy
ฟิลิปปินส์ สกุลเงิน 在 "ค่าเงินเปโซ" ฟิลิปปินส์ จะอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบเงินสกุลอื่นใน ปี ... 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
รายละเอียดเพิ่มเติมใน กองทุนบัวหลวง Morning Brief : www.bblam.co.th ทุกเช้าวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 6.30 น. ... <看更多>
ฟิลิปปินส์ สกุลเงิน 在 Join - Facebook 的推薦與評價
สกุลเงิน ประเทศฟิลิปปินส์ - ใช้สกุลเงิน เปโซ (สัญลักษณ์: ₱ ) - รหัสสกุลเงินมาตรฐานสากล PHP ... <看更多>