รู้จักสมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจรอย่างละเอียดและการนำมารักษาอาการป่วยของผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ฟังสรรพคุณต่างๆ การใช้และข้อห้ามต่างๆ
รายการ "เล่าเรื่องไทย ๆ กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง"
ตอน ฟ้าทะลายโจร กับ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (COVID-19)
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม 2564
ทางยูทูป : เล่าเรื่องไทย ๆ กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง
#ฟ้าทะลายโจร
#สมุนไพรไทย
#โควิด19
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅HorizonLive ฮอไรซันไลฟ์,也在其Youtube影片中提到,---อ่านก่อนรับชมคลิป--- ถ้าคุณดูคลิปแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หงุดหงิดไม่มีความสุขกรุณาปิดคลิปไปทำอย่างอื่นครับ (อย่าคาดหวังอะไรกับการดูช่องนี้ โม้ม้าเย็ดไป...
ฟๆ ๆ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
“สถานะทางกฎหมายของ “มติคณะรัฐมนตรี”
คณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในปัจจุบันภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 ได้กำหนดให้คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน
เมื่อพิจาณาถึงการกระทำของคณะรัฐมนตรี สามารถแยกการกระทำออกได้ เป็น 2 ลักษณะ
ลักษณะที่ 1 เป็นการกระทำโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ถือว่า กระทำการในฐานะที่เป็น “รัฐบาล” หรือ เรียกว่า “การทำทางการเมือง”
ลักษณะที่ 2 เป็นการกระทำโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติหรือกฎหมายอื่นที่มีค่าบังคับระดับเดียวกับพระราชบัญญัติ ถือว่ากระทำการในฐานะที่เป็น “องค์กรฝ่ายปกครอง” หรือ “เจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง” ซึ่งเฉพาะแต่การกระทำที่อาศัยอำนาจตามกฎหมายในระดับกฎหมายบัญญัติ (พระราชบัญญัติหรือกฎหมายอื่นที่มีค่าบังคับระดับเดียวกับพระราชบัญญัติ) เท่านั้นที่ถือว่าเป็น “การกระทำทางปกครอง”
การกระทำของคณะรัฐมนตรีทั้ง 2 ส่วนนี้ยากที่แยกออกจากันได้อย่างเด็ดขาด เพราะมีความเกี่ยวพันกันอยู่เสมอ จึงมีปัญหาสถานะและผลทางกฎหมายของมติคณะรัฐมนตรีว่ามีเพียงใด
ข้อพิจารณาสถานะทางกฎหมายของมติคณะรัฐมนตรี
ในอดีตมีความเข้าใจว่า “มติคณะรัฐมนตรีมิใช่กฎหมาย” เนื่องจากเข้าใจกันว่า “กฎหมาย” หมายถึง กฎที่มีศักดิ์ระดับสูง เช่น กฎหมายในระดับกฎหมายบัญญัติ กฎหมายลำดับรอง หรือ กฎ แต่ในปัจจุบันนักกฎหมายได้ยอมรับแล้วว่า หากมติคณะรัฐมนตรีใดมีลักษณะเป็นการสร้างกฎเกณฑ์และระบบกฎหมายยอมรับบังคับใช้กฎเกณฑ์ตามนั้น มติคณะรัฐมนตรีก็ย่อมเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” หรือ บางกรณีคณะรัฐมนตรีใดใช้อำนาจกระทำผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลเพื่อเปลี่ยนแปลงระงับสิทธิของประชาชน ย่อมเป็น “คำสั่งทางปกครอง”
ดังนั้น ในการพิจารณาสถานะทางกฎหมายของมติคณะรัฐมนตรี จึงต้องพิจารณาเนื้อหาและผลบังคับใช้ของมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งสามารถจำแนกมติคณะรัฐมนตรีออกเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
1.มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็นการกระทำทางนโยบาย
มติคณะรัฐมนตรีในลักษณะนี้เป็นการกำหนดแนวทางการบริหารงานแผ่นดินอย่างใดอย่างหยึ่ง นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เช่น ในความสัมพันธ์กับต่างประเทศหรือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หรือในการกำหนดแนวทางปฏิบัติทางสังคมและวัฒนธรรม เช่น การใช้ศัพท์ภาษต่างๆ เป็นต้น จึงไม่ใช่กฎเกณฑ์แห่งกฎหมาย นอกจากนี้มติคณะรัฐมนตรีในบางกรณีก็เป็นเพียงการดำเนินงานภายในของฝ่ายปกครองที่ยังไม่ผลกระสิทธิของบุคคลใด ๆ ไม่มีผลทางกฎหมายโดยตรงสู่บุคคลภายนอกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงไม่เป็นกฎ และคำสั่งทางปกครอง เป็นเพียงแต่มาตรการภายในของฝ่ายปกครองเท่านั้น
ตัวอย่างตัวอย่างคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็น “การกระทำทางนโยบาย”
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.14/2546
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2533 เรื่อง ห้ามส่งงูมีชีวิตและหนังงูที่ยังไม่แปรรูปออกนอกราชอาณาจักร ไม่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ที่มีผลบังคับกับหน่วยงานหรือบุคคลภายในองค์กรบริหาร ไม่มีสภาพเป็นกฎตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ เป็นแต่เพียง “นโยบายของฝ่ายบริหาร” เกี่ยวกับการส่งออกงูมีชีวิตทุกชนิดทั้งหนังงูทุกชนิดที่ยังไม่แปรรูปออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีผลทางกฎหมายโดยตรงไปสู่ภายนอก โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จะต้องรับไปดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เช่นออกกฎกระทรวงหรือประกาศ หรือมีคำสั่งไม่อนุญาตในเรื่องดังกล่าว มติคณะรัฐมนตรีจึงไม่มีสภาพเป็นกฎ
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.5/2546
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2538 และวันที่ 17 กันยายน 2549 เรื่อง การนับอายุบุคคลเพื่อคำนวณวันเกษียณอายุราชการ ที่ให้ถือปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 16 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้ตรวจชำระใหม่ เป็นเพียงการอธิบายบทบัญญัติของกฎหมายเพื่อการปฏิบัติตามเท่านั้น มิได้มีสภาพเป็นกฎ
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.9/2549 มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2548ที่อนุมัติให้บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ซึ่งแปรรูปมาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยระดมทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมทั้งเห็นชอบให้มีการจัดสรรกำลังการผลิตให้กับบริษัทดังกล่าว ในปี 2549-2558 เป็นเรื่อง “การกำหนดนโยบาย” เกี่ยวกับการให้บริการสาธารณะในด้านของการผลิตไฟฟ้าจำหน่ายประชาชนของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มิได้มีลักษณะเป็นบทบัญญัติที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ จึงไม่มีลักษณะเป็นกฎ
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.51/2549
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ที่เห็นชอบให้แปลงสภาพองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)โดนการแปลงทุนขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นทุนเรือนหุ้นและให้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง บมจ. อสทม ไม่มีสภาพเป็นกฎ
2. มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง”
มติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดหลักเกณฑ์ให้ส่วนราชการและข้าราชการถือปฏิบัติเป็นการทั่วไป แม้ไม่มีผลเป็นกฎหมายโดยตรง แต่ส่วนราชการต่าง ๆ สามารถนำมติคณะรัฐมนตรีไปใช้บังคับกับข้อเท็จจริงกรณีต่าง ๆ ให้เกิดผลในทางกฎหมายได้เท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น เช่น การกำหนดวันหยุดราชการ เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม หากส่วนราชการหรือข้าราชการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามก็จะต้องได้รับผลกระทบในทางร้าย โดยถือเป็นความผิดทางวินัยโดยตรงฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ดังนั้น มติคณะรัฐมนตรีในกรณีนี้จึงมีผลบังคับตามความเป็นจริงและย่อมมีฐานะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” เช่น มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2543 ที่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ที่ให้สิทธิพิเศษแก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ด้วยการให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ขององค์การโทรศัพท์เป็นลำดับแรก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามมติคณะรัฐมนตรีที่วางกฎเกณฑ์ให้ส่วนราชการหรือข้าราชการปฏิบัตินี้ ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของกฎเกณฑ์แห่งกฎหมายของฝ่ายบริหารที่กฎหมายรองรับ จึงต้องถือว่ามติดังกล่าวไม่มีผลบังคับให้ประชาชนหรือบุคคลนอกระบบราชการต้องปฏิบัติตามโดยตรงแต่ถือเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” ได้เช่นกัน เช่น
ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีกระทำการในฐานะที่เป็นองค์กรของรัฐฝ่ายปกครอง อาจมีกรณีเรื่องใดเรื่องหนึ่งบัญญัติไว้โดยตรงให้คณะรัฐมนตรีออกกฎหมายลำดับรองได้ ซึ่งในกรณีต้องถือว่ามติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวมีสภาพเป็น “กฎหมายลำดับรอง” หรือเป็น “กฎ” ที่เป็นลูกบท เช่น คณะรัฐมนตรีมีมติให้วางระเบียบ โดยที่มติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติราชการ มีข้อแตกต่างจากมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบกฎเกณฑ์แห่งกฎหมายของฝ่ายบริหาร โดยมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติราชการมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์ แต่มติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบกฎเกณฑ์แห่งกฎหมายของฝ่ายบริหารเป็นเพียงการใช้อำนาจให้ความเห็นชอบกฎเกณฑ์รูปแบบนั้น ๆ ในฐานะที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด จึงไม่ใช่กฎเกณฑ์ตามรูปแบบ ตัวอย่างมติคณะรัฐมนตรีที่วางระเบียบถือว่าเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” และที่สำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 คือ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าที่ พ.ศ.2539 เป็นต้น
เมื่อพิจารณาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542ให้ความหมายของ กฎ หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใด หรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ เห็นว่า “กฎ” ตามบทบัญญัตินี้เป็น “กฎหมายลำดับรอง” ที่ออกโดยองค์กรบริหารหรือองค์กรฝ่ายปกครอง ซึ่งนอกจากพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ อันเป็นกฎหมายตามแบบพิธีหรือเป็นกฎตามรูปแบบแล้ว ยังรวมถึงมาตรการหรือหลักเกณฑ์ทั่วไปที่มีผลให้ผู้อยู่ในบังคับต้องปฏิบัติตาม ซึ่งมิใช่มีผลทางกฎหมายโดยตรงในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไร อันเป็นกฎหมายตามเนื้อความหรือเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” โดยสภาพ คำว่า “มีผลบังคับ “เป็นการทั่วไป” ไม่ได้หมายความว่าต้องมีผลบังคับแก่ประชาชนทุกคน อาจมีผลบังคับเฉพาะประเภทของบุคคลก็ได้ โดยไม่คำนึงว่าบุคคลที่อยู่ในบังคับนั้นจะมีจำนวนเท่าใดเพียงแต่ไม่ใช่มีผลบังคับเจาะจงตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น”
สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเป็นการใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินในการตัดสินใจร่วมกันของคณะรัฐมนตรี อำนาจนี้อาจมาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หรือบทบัญญัติของกฎหมายในระดับกฎหมายบัญญัติต่างๆ รวมทั้งระเบียบ หรือธรรมเนียมปฏิบัติ
ดังนั้นคณะรัฐมนตรีมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในงานด้านนโยบายเท่านั้น แต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นองค์กรสูงสุดของฝ่ายปกครองด้วย มติคณะรัฐมนตรีจึงอาจมีลักษณะเป็นงานนโยบายซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางและนโยบายเกี่ยวกับการบริหารงานอย่างใดอย่างหนึ่งที่หน่วยงานที่ควบคุมดูแล หรือรับผิดชอบในเรื่องนั้นจะต้องรับไปดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี หรืออาจมีลักษณะเป็นคำสั่งซึ่งมีผลทางกฎหมายโดยตรงเป็นกรณีเฉพาะราย หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรืออาจมีลักษณะเป็นกฎซึ่งมีผลเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไปที่ผู้อยู่ในบังคับต้องปฏิบัติตามมิได้มีผลทางกฎหมายโดยตรงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ในกรณีที่เป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” นั้น อาจเป็นกฎที่เป็นลูกบท เช่น กฎหมายบางฉบับกำหนดให้คณะรัฐมนตรีออก “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” หรือ อาจใช้อำนาจออก “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” ได้อิสระ โดยอาศัย “หลักการทั่วไป” ที่คณะรัฐมนตรีเป็นองค์กรบริหารประเทศตามรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องมีอำนาจดูแลการใช้บังคับกฎหมายและการจัดการองค์กรให้เป็นไปโดยเรียบร้อย ทำนองเดียวกับอำนาจของผู้บังคับบัญชาขององค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นอำนาจทั่วไปในการจัดองค์กรและเป็นเรื่องการวางหลักเกณฑ์ที่สามารถนำไปใช้บังคับกับข้อเท็จจริงในกรณีต่างๆ ให้เกิดผลทางกฎหมายได้เท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายอื่น มติคณะรัฐมนตรีที่เป็น “กฎ” นี้มุ่งต่อผลในกฎหมายแก่บุคคลในองค์กรฝ่ายบริหารโดยหน่วยงานและบุคคลในองค์กรฝ่ายบริหารต้องปฏิบัติตาม ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดินมีบทบัญญัติหลายมาตราที่บัญญัติรองรับการดำเนินงานของกระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เช่น การไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีถือเป็นความผิดทางวินัยอย่างหนึ่งและคณะรัฐมนตรีเคยมีมติให้หน่วยราชการกำชับเจ้าหน้าที่ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเคร่งครัด หากฝ่าฝืนให้พิจารณาลงโทษทางวินัยทุกราย นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมีอำนาจกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายจัดตั้งองค์กรเหล่านั้นและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลพนักงานของรัฐในองค์กรดังกล่าวด้วย มติคณะรัฐมนตรีในลักษณะนี้จึงมีสภาพบังคับในทางปกครอง หรือมีผลทางกฎหมายให้หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมตลอดถึงข้าราชการและพนักงานของรัฐในหน่วยงานดังกล่าวต้องปฏิบัติตาม หากฝ่าฝืนย่อมมีความรับผิดตามมา
ดังนั้น มติคณะรัฐมนตรีที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางปฏิบัติที่ผู้อยู่ในบังคับต้องปฏิบัติตาม จึงมีสถานะทางกฎหมายเป็นกฎตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 แม้จะมิได้ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตาม มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนได้ด้วยทั้งที่ประชาชนไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งบางกรณีอาจเป็นผลกระทบที่สำคัญที่ต้องให้ความเยียวยาทางกฎหมาย(คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ 26/2546)
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็น “กฎ” หรือ กฎหมายลำดับรอง
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.26/2546
มติคณะรัฐมนตรีที่มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์หรือแนวทางปฏิบัติซึ่งบุคคลในองค์กรฝ่ายบริหารต้องปฏิบัติตามโดยมีสภาพบังคับ มีสถานะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ ดังนั้น มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ให้สิทธิพิเศษแก่ ทศท. ในการให้บริการเลขหมายโทรศัพท์แก่หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการวางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษตามข้อ 26 (2) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุฯ อันมีสภาพบังคับเป็นการทั่วไปกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ต้องปฏิบัติตาม จึงมีสถานะเป็นกฎ การให้สิทธิพิเศษแก่ ทศท. ตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีข้างต้น อันมีผลทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นคู่สัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนกับ ทศท. ไม่อาจให้บริการแก่หน่วยงานของรัฐได้ ถือว่าเป็นการออกกฎอันเป็นการลดสิทธิหรือจำกัดสิทธิตามสัญญาฯ ของผู้ฟ้องคดี ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการให้ความคุ้มครองสิทธิแก่ผู้เข้าทำสัญญาจัดทำบริการสาธารณะหรือสัญญาสัมปทานกับรัฐตามนัยมาตรา 335 (2) ของรัฐธรรมนูญฯ และมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อสิทธิตามสัญญาฯ ของผู้ฟ้องคดี ซึ่งขัดกับหลักความเสมอภาคตามที่มาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญฯ บัญญัติรับรองไว้ กรณีจึงเป็นการใช้อำนาจทางปกครองของผู้ถูกฟ้องคดีมาจำกัดสิทธิของผู้ฟ้องคดีที่มีอยู่ตามสัญญา
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ ฟ.14/2548
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2544 ซึ่งรับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสมอคณะรัฐมนตรีที่ให้จ่ายเงินเพิ่มพิเศษในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานรัฐวิสาหกิจ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นพนักงานในตำแหน่งสายงานหลักซึ่งหาบุคลากรทดแทนได้ยาก และปฏิบัติงานด้าน Science and Technology ซึ่งเคยได้รับเงินเพิ่มเติมพิเศษอยู่เดิมก่อนที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับการจ่าย และมีตำแหน่งต่ำกว่าระดับผู้อำนวยการฝ่ายหรือตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกซึ่งเป็นอย่างอื่นลงมา มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็ฯการเฉพาะ จึงมีลักษณะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง”
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 101/2546
มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่นกับทางราชการที่มีผลกระทบจากการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา มีลักษณะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” และมีสภาพบังคับเป็นการทั่วไปให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต้องถือปฏิบัติตาม
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 501/2548
มติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบมาตรการและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างและผู้ประกอบอาชีพงานอื่น และให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นถือปฏิบัติ นั้น มีลักษณะเป็นหลักเกณฑ์ภายในของฝ่ายบริหารที่มีขึ้นเพื่อคุ้มครองและให้ประโยชน์แก่เอกชนที่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติตาม จึงมีสถานะเป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง”
3.มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็นคำสั่งทางปกครอง
มติคณะรัฐมนตรีที่มีผลทางกฎหมายโดยตรงเป็นกรณีเฉพาะราย ได้แก่ การแต่งตั้งคณะกรรมการตามกฎหมายต่างๆ เช่น กรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ อาจมีลักษณะเป็นคำสั่งในทางสาระของเรื่องเฉพาะเรื่อง เช่น การวินิจให้กระทรวง ทบวง กรมใดปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการพลเรือน เป็นต้น หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการในตำแหน่งระดับสูงต่างๆ ถือว่ามีสถานะเป็น “คำสั่งทางปกครอง”
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด มติคณะรัฐมนตรีที่มีสถานะเป็น “คำสั่งทางปกครอง”
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 465/2547
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เป็นคณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรี โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และจำนวนเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีผลกระทบต่อบุคคล จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ และมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ให้ผู้ใดมีสิทธิและไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินชดเชยพิเศษฯ เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ เป็น “คำสั่งทางปกครอง” ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิของบุคคล จึงเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.240/2553
ที่ดินพิพาทดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอันเกิดขึ้นและเป็นอยู่ตามสภาพของที่ดินและจากการใช้ร่วมกันของราษฎรมานาน โดยไม่ต้องมีประกาศพระราชกฤษฎีกาสงวนไว้ หรือขึ้นทะเบียน หรือทางราชการประกาศกำหนดให้เป็นที่สาธารณประโยชน์เช่นนั้น ตามมาตรา 1304 (2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และต่อมาสภาพบริเวณที่ดินพิพาท เมื่อมีราษฎรเข้าไปเก็บหาของป่า ตัดไม้ปลูกบ้าน ทำฟืน เพื่อการดำรงชีวิต หรือประกอบอาชีพ จนทำให้กลายสภาพเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า และมีราษฎรบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน โดยทางราชการจะได้กำหนดให้ที่ดินพิพาททั้งหมดเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านาอินและป่านายาง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 60 (พ.ศ. 2502) ออกตามความใน พ.ร.บ. คุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช 2481 เป็นผลให้มีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองจากเดิมซึ่งที่ดินพิพาทตั้งอยู่อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มาเป็นตำบลดงประคำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และกำหนดให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2507 และพื้นที่จัดสรรห้วยน้ำเลาหรือห้วยคำเลาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2509 ก็หามีผลทำให้ที่ดินพิพาทเปลี่ยนแปลงไปจนกลายเป็นที่ดินที่มิใช่ที่สาธารณสมบัติ ของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เพราะมติคณะรัฐมนตรีมีฐานะเป็นเพียงคำสั่งของฝ่ายบริหาร (คำสั่งทางแกครอง) จึงไม่อาจนำมาลบล้างผลทางกฎหมายกับกรณีนี้ได้ ข้ออ้างของผู้ถูกฟ้องคดี (นายอำเภอพรหมพิราม) ที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ซึ่งอาจออกเอกสารสิทธิให้ราษฎรผู้เข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์ตามมาตรา 1304 (1) แห่งประมวลกฎหมายเดียวกัน จึงฟังไม่ขึ้น
สรุปได้ว่า มติคณะรัฐมนตรีมีหลากหลายสถานะ บางกรณีถือเป็นการกระทำที่เป็น “กฎ” หรือ “กฎหมายลำดับรอง” บางกรณีถือเป็นการกระทำที่เป็น “คำสั่งทางปกครอง” บางกรณีถือเป็น “การกระทำทางนโยบาย” ซึ่งต้องทำการศึกษาพิจารณาศึกษาจำแนกเนื้อหาและผลบังคับใช้ของมติคณะรัฐมนตรีถึงจะทราบถึงสถานะทางกฎหมายของมติคณะรัฐมนตรีได้
ฟๆ ๆ 在 Drama-addict Facebook 的最佳解答
https://oryor.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2/detail/media_news/1974?ฟ ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏว่า พิธีกรชื่อดัง กาละแมร์- พัชรศรี เบญจมาศ ทำคลิปวีดีโอบรรยายสรรพคุณผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตกก็เป็นตา 2 ชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เคยทำจมูกอะไรใด ๆ ตอนนี้กินแต่ผลิตภัณฑ์ตัวเองเท่านั้น” โดยคลิปดังกล่าวได้มีการแชร์ทางสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมากนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าวเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โบเทรา ดริ้งค์ เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0229 และ โบเทรา ชอต เครื่องดื่มชนิดผง เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0233 ทางอินสตราแกรม “hipowershot” และเฟซบุ๊ก “Botera โบเทรา สวยทรงพลัง” โอ้อวดสรรพคุณว่าช่วยกระชับผิวหน้า ลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้าเพิ่มชั้นตา อีกทั้งมีการเปรียบเทียบว่าสามารถทดแทนการศัลยกรรมได้ ซึ่ง อย. ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงไม่มีผลิตภัณฑ์อาหารตัวใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือการทำงานของร่างกายได้ตามที่กล่าวอ้าง การโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณอันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร มีโทษตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ อย. ได้สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางปกครอง และมีหนังสือถึงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ก่อนหน้านี้ อย. ได้ดำเนินคดีโฆษณากับ บริษัท พาวเวอร์ชอต จำกัด และนางสาวพัชรศรี เบญจมาศ หรือ กาละแมร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว ฐานโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาสรรพคุณอาหารอันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร ทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม มาแล้ว 7 คดี
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรับประทานเพื่อเสริมจากการบริโภคอาหารตามปกติ แต่อย่าคาดหวังว่าจะมีผลในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง หรือรักษาโรค และขอเตือนบุคคลสาธารณะทั้งหลาย ก่อนคิดจะรีวิวผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ๆ ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ให้ข้อมูลกับผู้บริโภค เพราะตามกฎหมายระบุชัดเจนว่าผู้พูดต้องรับผิดชอบในเนื้อหาที่พูด หากพูดบรรยายสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เกินไปจากความจริงหรือโอ้อวดสรรพคุณทำให้หลงเชื่อหรือคล้อยตาม ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ที่ผ่านมา อย. ได้ดำเนินคดีไปแล้วหลายราย หากผู้บริโภคพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพโอ้อวดเกินจริงหรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย.1556 หรือผ่านทาง Oryor Smart Application หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศfbclid=IwAR1hLzWc_0acu54kqPyBS7x8X3R7szeWY2q6YiBcSpSaLq_nejghwNqjz94
ฟๆ ๆ 在 HorizonLive ฮอไรซันไลฟ์ Youtube 的最佳解答
---อ่านก่อนรับชมคลิป---
ถ้าคุณดูคลิปแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หงุดหงิดไม่มีความสุขกรุณาปิดคลิปไปทำอย่างอื่นครับ
(อย่าคาดหวังอะไรกับการดูช่องนี้ โม้ม้าเย็ดไปวันๆเท่านั้นครับช่องนี้ เล่นเกมเป็นแค่ภาพประกอบ)
........................................................................................................................
--==โดเนทหรือบริจาคได้ที่==--
กสิกร : 008-3-87990-4
True Wallet : 084-4586922
โดเนทไม่มีแจ้งเตือนนะครับ เงินทั้งหมดจะนำไปซื้อเกมมาไลฟ์และใช้จ่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไลฟ์สตรีมเท่านั้น ไม่มีการเอาเงินไปจ่ายในแง่อโคจรหรือเรื่องส่วนตัว
------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้ามาพูดคุยตามประสาเกมเมอร์ได้ที่ : https://discord.gg/ZjCHDzK (Discord ประจำช่อง)
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชื่อ จิน อายุ 30 อาชีพทำเกี่ยวกับนำเข้าสินค้า
คติประจำใจ : คอมเม้นอะไรคิดให้ดีๆก่อนเม้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
สเปคคอม : เปิดเกมเล่นได้พอใจแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พื้นที่ขายของ
สนใจสินค้าของสะสมจากเกม ทั้งมือ 1 และมือ 2 ติดต่อเพจ J Collector
https://www.facebook.com/Jcollector
หรือสินค้านำเข้าสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่ฟิกเกอร์ก็ติดต่อได้ ทักมาที่เฟสส่วนตัวได้เลยครับ รับหาของและนำเข้าจากต่างประเทศสินค้าทุกประเภทยกเว้นสินค้าผิดกฏหมาย
.
สนใจติดต่อเจ้าช่องผ่านทางเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/mrhorizonlive/ เจ้าเฟสชอบโม้ม้าเย็ดเหมือนในไลฟ์นั้นเหละ
ฟๆ ๆ 在 Indysong Kids & Dark เรื่องผี การ์ตูนตลก อนิเมชั่น เพลงสนุกๆ Youtube 的最讚貼文
วันนี้น้องไข่เจียวจะมาสอนเพื่อนๆ ท่อง ก-ฮ นะคะ เราเป็นคนไทยก็ต้องรู้จักอักษรไทยให้ครบทุกตัว ตัวอักษรไทยมีทั้งหมด 44 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็เขียนต่างกัน ออกเสียงต่างกัน มีความหมายต่างกันด้วย
เราจะมาเรียนรู้อักษรไทยไปพร้อมกับความหมายของอักษรแต่ละตัวกันนะคะ มาเริ่มกันเลย
ก ไก่ คือสัตว์ปีกที่บินได้ในระยะสั้น จิกหาอาหารกินตามพื้นดิน ออกไข่มาให้เรากิน
ข ไข่ คือสิ่งที่มีรูปร่างกลม มีเปลือกแข็งบ้างก็สีขาว บ้างก็สีเหลือง
ฃ ขวด คือตัวอักษรในอดีต ใช้เขียนคำว่า ฃวด
ค ควาย คือสัตว์เคี้ยวเอื้อง มีกีบคู่ ลำตัวสีดำหรือเทาแก่ มีเขายาวแหลมโค้งไปทางด้านหลัง
ฅ คน คืออักษรในยุคก่อน ปัจจุบันไม่ค่อยมีการใช้ หมายถึงคน
ฆ ระฆัง คือเครื่องตีอย่างหนึ่ง รูปร่างคล้ายกระดิ่งขนาดใหญ่ ใช้ตีให้เกิดเสียงเป็นอาณัติสัญญาณ
ง งู คือสัตว์เลื้อยคลาน ไม่มีขา มีเกล็ดปกคลุมผิวหนังทั่วทั้งลำตัว มีเขี้ยว 2 ซี่
จ จาน คือภาชนะใส่อาหาร ทำจากกระเบื้องหรือพลาสติก
ฉ ฉิ่ง คือเครื่องตีกำหนดจังหวะชนิดหนึ่ง รูปร่างกลมคล้ายถ้วย เจาะรูตรงกลางไว้ร้อยเชือกให้เป็นคู่กันสําหรับถือตีบอกจังหวะเข้ากับดนตรี
ช ช้าง คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เป็นสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจมูกยื่นยาวออกมาเรียกว่างวง กินพืชเป็นอาหาร
ซ โซ่ คือของที่ทำจากโลหะเช่นเหล็ก ทำเป็นข้อ ๆ เกี่ยวกันเป็นสายยาว ใช้ล่ามแทนเชือก
+++
ฌ เฌอ คือ คำเรียกต้นไม้ที่เป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่
ญ หญิง คือมนุษย์เพศหญิง มักใช้ในความหมายของผู้ใหญ่
ฎ ชฎา คือเครื่องสวมศีรษะรูปคล้ายมงกุฎ มียอดแหลม ด้านนอกตกแต่งอย่างสวยงาม
ฏ ปฏัก คือไม้ยาวๆ ที่ฝังเหล็กแหลมไว้ที่ปลายด้านล่าง ใช้แทงเพื่อบังคับสัตว์พาหนะ
ฐ ฐาน คือแท่นหรือที่รอง ไว้ใช้สำหรับตั้งวางของต่างๆ เช่น พระพุทธรูป
ฑ นางมณโฑ คือ พระมเหสีของทศกัณฐ์ จากเรื่องรามเกียรติ์ มีชาติกำเนิดเดิมเป็นกบ เป็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องราวของรามเกียรติ์
ฒ ผู้เฒ่า คือคนชราหรือคนที่มีอายุมากแล้ว มักจะเดินช้าๆ ต้องใช้ไม้เท้า ผมหรือหนวดมักจะมีสีขาว
ณ เณร คือ เด็กชายที่ออกบวช ผู้บวชเป็นเณรต้องมีอายุ 7 ขวบเป็นอย่างน้อย ใส่จีวรสีเหลือง โกนผมและคิ้ว
ด เด็ก คือ มนุษย์ที่อยู่ระหว่างการเกิดและวัยแรกรุ่น เด็กจะแบ่งออกเป็นเด็กชายและเด็กหญิง .
ต เต่า คือสัตว์เลื้อยคลาน ตัวมีกระดองหุ้ม มีขา ๔ ขา และหัวโผล่ออกมาจากกระดอง
ถ ถุง คือเครื่องใช้สําหรับใส่สิ่งของ ทําด้วยผ้าหรือกระดาษ มีหูรูดหรือหูหิ้ว
+++
ท ทหาร คือ ผู้มีหน้าที่ในเรื่องรบ นักรบ ผู้เป็นกำลังรักษาความมั่นคง บำรุงประเทศ และทำหน้าที่อื่นๆ ในยามสงคราม
ธ ธง คือผืนผ้า หรือกระดาษที่มีสีและมีลวดลายเป็นรูปต่าง ๆ ใช้เป็นสัญลักษณ์หรือถ้าใช้เป็นเครื่องหมายบอกถึงประเทศชาติ
น หนู คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีฟันแทะคู่หน้าที่แหลมยาวและคมทั้งบนและล่าง 2 คู่ มีหางเรียวยาว อาศัยอยู่ทั่วไปตามบ้านเรือน และในธรรมชาติ
บ ใบไม้ คือส่วนหนึ่งของพืชที่ติดกับกิ่งและก้าน รูปทรงแบน ๆ มีสีเขียว
ป ปลา คือสัตว์น้ำเลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง มีครีบ มีเกล็ด
ผ ผึ้ง คือแมลงประเภทหนึ่ง มีปีกบางใส 2 คู่ ลำตัวปกคลุมด้วยขน มีเหล็กในเป็นอาวุธติดตัวซึ่งจะใช้ได้เพียงครั้งเดียว
ฝ ฝา คือเครื่องปิดภาชนะต่าง ๆ มีทั้งฝาหม้อ ฝาโอ่ง ฝาท่อ
พ พาน คือภาชนะมีเชิงประเภทหนึ่ง มีหลายชนิด และหลายรูปทรง ใช้ใส่สิ่งของต่างๆ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน อาหาร
ฟ ฟัน คือกระดูกซี่เล็ก ๆ ในปาก ทำหน้าที่กัด ฉีก บด และเคี้ยวอาหาร
ภ สำเภา คือเรือเดินทะเลชนิดหนึ่งแบบจีนใช้แล่นด้วยใบ เป็นเรือที่มีท้ายเรือสูงและยื่นออกไป หัวเรือต่ำ
ม ม้า คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีกีบเดี่ยว ขายาว มีขนแผงคอยาว ใช้เป็นพาหนะขับขี่ และเทียมเกวียนเทียมรถ
+++
ย ยักษ์ คืออมนุษย์ในนิยาย มีจิตใจโหดร้าย รูปร่างใหญ่โตน่ากลัว มีเขี้ยว
ร เรือ คือยานพาหนะที่ใช้เดินทางทางน้ำ สามารถลอยน้ำได้ แยกเป็นแบบที่ใช้ใบเรือ ใช้คนพาย หรือใช้เครื่องยนต์
ล ลิง คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีลักษณะคล้ายคน ตีนหน้าและตีนหลังใช้จับเกาะได้ มีทั้งชนิดที่มีหางและชนิดที่ไม่มีหาง
ว แหวน คือเครื่องประดับสําหรับสวมนิ้วทําด้วยเงินหรือทอง
ศ ศาลา คืออาคารทรงไทยที่เปิดโล่ง ใช้เป็นที่พักชั่วคราว
ษ ฤาษี คือนักบวชพวกหนึ่ง นุ่งห่มหนังสัตว์ สละบ้านเรือนออกไปแสวงหาความสงบตามสถานที่สงัดต่างๆ ในป่าเขาหรือถ้ำ
ส เสือ คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เป็นสัตว์สี่เท้า ดุร้าย รูปคล้ายแมว แต่ตัวใหญ่กว่ามาก
ห หีบ คือ ภาชนะใส่สิ่งของ รูปทรงสี่เหลี่ยม มีฝาปิด
ฬ จุฬา คือชื่อว่าวชนิดหนึ่ง มีรูปร่างขนาดใหญ่ เป็นรูปดาว 5 แฉก
อ อ่าง คือภาชนะสำหรับใส่น้ำ มักมีลักษณะกลม ปากผายก้นตื้น
ฮ นกฮูก คือสัตว์ปีกชนิดหนึ่ง มีรูปใบหน้าคล้ายแมว ออกหากินในเวลากลางคืน
อักษรไทยทั้งหมดมี 44 ตัว เพื่อนๆ พยายามท่องจำและเขียนให้ถูกต้องนะคะ
#กเอ๋ยกไก่indysong #กไก่indysongKids #indysong
ติดตามช่อง Indysong Kids https://www.youtube.com/user/indysong
แฟนเพจ Facebook Fanpage https://www.facebook.com/IndysongKids
Playlist รวมผลงานของเราสำหรับน้องๆหนูๆ
►►เพลงและการ์ตูนความรู้สำหรับน้องๆ
เพลงเด็กอนุบาลดั้งเดิม http://bit.ly/23Mlj6f
เพลงเด็กน่ารักแต่งใหม่ http://goo.gl/ZrH7Xb
เพลงสอนลูกให้เป็นเด็กดี https://goo.gl/cp2ovT
เพลงเด็กมีเนื้อเพลงคาราโอเกะ ร้องตามได้ https://goo.gl/RmQqoM
เพลงเด็กภาษาอังกฤษ https://goo.gl/C91x14
เพลง ก เอ๋ย ก ไก่ (พยัญชนะไทย 44 ตัว) สอนภาษาไทย http://bit.ly/1YpnUlf
เพลง ABC การ์ตูนฝึกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ http://bit.ly/1Ta8ddX
สอนนับเลข คณิตศาตร์อนุบาล https://goo.gl/pmmLNz
►►นิทานสำหรับเด็ก
นิทานสอนใจ https://goo.gl/Ni13Tj
นิทานอีสป นิทานสนุกๆ http://bit.ly/1VVlFrP
นิทานจากเพลงเด็ก https://goo.gl/FTYoCB
รวมนิทานน้องไข่เจียว https://goo.gl/LzChHu
ฟๆ ๆ 在 Mr.Halogogo Youtube 的最佳解答
facebook เพจ : https://www.facebook.com/Mr.Halogogo/
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วยกด subscribers เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะครับ
http://www.youtube.com/channel/UCE5jveSfiagnMWhHdHtjLQQ?sub_confirmation=1