The Queen’s Gambit ที่สุดของซีรีส์ในช่วงนี้เลย ไม่ดูคือพลาดมากกกก น้องจอยคือฟาด ฟาด ฟาด เอาไปแบบ 10/10
.
ไม่คิดว่ามันจะสนุกได้ขนาดนี้เลย ในใจคิดตอนแรกเลยคือหมากรุกไทยยังเล่นไม่เป็น หมากรุกฝรั่งกูจะรอดเหรอ แต่อีคนทำซีรีส์อีดอกกกกกกก มึง มึงเก่งมากกกกกกกกก ทำให้คนครึ่งค่อนโลกที่เล่นหมากรุกไม่เป็นสามารถจอยไปกับหนังและรู้สึกสะพรึงไปกับความงาม ความฟาดด้วยฝีมือของน้องจอย ที่เป็นตัวเดินเรื่องทั้งเรื่องได้อย่างมีมนต์ขลัง สะพรึงด้วยการเล่าเรื่องและงานโปรดักชั่นระดับเวิลด์คลาสผ่านมินิซีรีส์ 7 ตอนจบแบบไม่มีต่อ(น่าจะไม่มีแล้วนะ) มันสมบูรณ์แบบมาก!!!!!
.
เบธ ฮาร์มอน เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกส่งมาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในเคนตักกี้ เธอรู้สึกแปลกแยก และได้รับยาระงับประสาทต้องกินก่อนนอนทุกคืน จนสมองจินตนาการถึงกระดานหมากรุกเป็นเพื่อนในจินตนาการ และเธอมีโอกาสได้ฝึกการเล่นหมากรุกจาก คุณลุงไชเบลภารโรงในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้น จนมีทักษะในการเล่นหมากรุกในระดับเด็กอัจฉริยะ จนต่อมามีคนเอาเธอออกไปเลี้ยงดูและเริ่มเดินสายแข่งหมากรุกชิงแชมป์ระดับรัฐไปจนได้เป็นแชมป์ระดับประเทศและ วาร์สิลี บอร์กอฟ แชมป์โลกชาวรัสเซีย คือเป้าหมายในชีวิตของเธอที่เธอจะต้องโค่นให้ได้ เนื้อหาคร่าวๆก็แค่นี้ แต่ดีเทลรายละเอียดเยอะมาก และตัวซีรีส์มันสุดแสนจะทรงพลัง
.
ข้อดีของมินิซีรีส์คือด้วยความยาวเกือบ 7 ชั่วโมง ที่ผมใช้เวลาดูสองคืนจบ ก็คือ แม้จะเดินเรื่องด้วยความฉับไว แต่เค้าใส่รายละเอียดของตัวละครลงไปเยอะมาก และทำให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตัวเบธ ที่รับบทโดย น้องจอย ( Anya Taylor-Joy ) ที่ขอสารภาพว่า น้องจอยเป็นดาราทีออร่าความเป็นสตาร์พุ่งทะยานมาก หน้าตาเธอสวยสะกดทรงเสน่ห์ชวนมองชนิดที่ว่ากระพริบตาไม่ได้เลย ไม่ใช่ว่าแค่ความสวยของเธอจะสะกดเท่านั้น แต่บทบาทการแสดงคือทรงพลังมาก!!! ตามงานน้องจอยมาทุกเรื่อง นางคือดาราวัยรุ่นที่ควรค่ากับคำว่า ระเบิดปรมาณู ของฮอลลีวู๊ดเลย (ตั้งให้เอง) นางลีดเรื่องตลอดความยาว 7 ชั่วโมง ด้วยพลังการแสดงที่ล้นเหลือมาก เอาอยู่ทุกตอน บทของเบธเนี่ย ไม่ใช่แค่เด็กสาวกำพร้าที่เล่นหมากรุกเก่งอย่างเดียว ถ้ามองแบบนั้นคือตื้นเขินเกินไป แต่ปมในใจของเบ็ธ ตั้งแต่การเป็นเด็กกำพร้า การใช้ยาระงับประสาท ไปจนถึงการเดินรอยตามแบบอย่างของแม่บุญธรรมเรื่องการติดเหล้า (แม่บุญธรรมเหมือนคนที่เดินเคียข้างเธออยู่ตลอดการแข่งขัน) ไปจนถึงความตึงเครียดในใจของนางที่จะต้องการเอาชนะหมากรุกให้ได้ เหมือนว่าในสมองเธอคิดแต่หมากรุกตลอดเวลา มันเป็นบทที่แสดงยากมาก แต่น้องจอยแสดงลึก สีหน้า แววตา น้ำเสียง ส่งผ่านพลังการแสดงออกมาจนคนดูอย่างผมนี่อ้าปากหวอเลย สวย สง่า ละสายตาไม่ได้ น่ามองไปหมด การเดินทางสู่แชมป์ของเบ็ธ ต้องผ่านประสบการณ์ ผ่านผู้คนที่เข้ามาในชีวิตมากหน้าหลายตา จะว่าเธอสนใจแต่หมากรุกจนละทิ้งความเป็นมนุษย์ก็ไม่ได้ เพราะในอีกหลายๆแง่มุม หนังก็นำเสนอส่งผ่านความเป็นมนุษย์ผู้เปราะบางของเธอออกมาได้อย่างสุดพลัง สุดติ่งมาก!
.
งานโปรดักชั่นคือยอดเยี่ยม! หนังเดินเรื่องย้อนยุคไปช่วงยุค60 ในช่วงปี 1963 ไปจนถึงเกือบๆจะปี 70 รายละเอียดดีเทล สถานที่ บ้านช่อง ร้านขายของ โรงแรม ห้างสรรพสินค้าในเรื่อง ผ่านการคิดมาหมดทุกเม็ด ออกมาสมจริงมาก รวมไปถึงสนามแข่งหมากรุกทั้งในระดับโรงเรียนมัธยม ระดับรัฐ ระดับประเทศ และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือสนามแข่งที่ประเทศรัสเซีย ท่ามกลางฉากหลังในช่วงสงครามเย็น ในความเป็นอเมริกันที่เข้าไปแข่งหมากรุกชิงแชมป์โลกที่รัสเซีย กับมาตรการของรัฐบาลที่ต้องปกป้องความมั่นคงทุกอย่าง หนังเก็บรายละเอียดดีมาก The Queen’s Gambit คือหนังซีรีส์ชั้นเยี่ยมในตำนานที่สามารถเอาเก็บขึ้นหิ้งหยิบมาดูได้อีกเป็นสิบๆรอบ
.
สำหรับคนที่เล่นหมากรุกไม่เป็น ผมอยากจะบอกว่าเราอาจจะงงๆ นิดหน่อยกับศัพย์แสง เทคนิคในการเล่นหมากรุกที่หนังนำเสนอในตอนแรกๆ แต่ถ้าดูไปนานๆ เริ่มรู้จักหมาก รู้จักเบี้ยบนกระดาน เราจะเข้าใจและสนุกไปกับหนังได้ไม่ยาก หรือถ้าไม่เข้าใจจริงๆ การติดตามเรื่องราวของ เบ็ธ ผ่านการแสดงของน้องจอย ถือเป็นความเป็นเทิงที่เราไม่สามารถที่จะหยุดดูได้จริงๆนะครับ อ้อไม่พูดถึงไม่ได้ Thomas Brodie แชมป์หมากรุกในเรื่องที่มาเข้าขากับน้องจอย เป็นดาราหนุ่มที่หน้าเด็กมาก อายุสามสิบแล้ว แต่แสดงโคตรดีเลย เป็นคนที่น่าจดจำ รองมาจากน้องจอยในเรื่องเลย
.
ถ้าใครอยากหามินิซีรีส์ฝรั่งชั้นเยี่ยม ดูสนุก ชวนติดตามทุกตอนไม่มีตอนไหนดร็อป หรืออยากพักสายตาจากซีรีส์เกาหลี ผมแนะนำ The Queen’s Gambit นี่เลย ครับ สนุกมากกกครับดูสนุกดูเพลิน รับชมได้ทาง Netflix เลยครับ เสียค่าสมาชิกมาเดือนนึงดูเรื่องนี้เรื่องเดียวยังคุ้มเลยครับ ส่วนตัวอยากบอกว่าเอาไปเลย 10/10 !!!
