關於 หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

#เมื่อหมอต้องต่อสู้กับโควิด

ตั้งแต่เขียนเพจมา โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่มีความยากลำบากที่สุดในการตัดสินใจเขียน 😂

อยากเรียนให้ทราบว่า

“หมอและครอบครัวติดเชื้อโควิดแล้วนะคะ” 😞

……………………

หมอมีประวัติสัมผัสบุคลากรที่มาทราบทีหลังว่ามีการติดเชื้อ หมอใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลาขณะทำงาน และไม่ได้กินข้าวร่วมกับใครในระยะเวลาที่มีความเสี่ยง ทาง IC รพ.ประเมินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ แต่ให้ไปตรวจ เพราะเป็นบุคลากรทางการแพทย์

ตรวจครั้งแรก ผลเป็นลบ ทางหน่วยสอบสวนโรคติดเชื้อของรพ. ประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำ เพราะ “ฉีดวัคซีนครบ” ใส่แมสก์ตลอดเวลา ให้ทำงานได้ตามปกติ

ช่วงค่ำๆ ก่อนวันตรวจซ้ำ หมอมีไข้ต่ำๆ คัดจมูก กินอาหารเหมือนไม่ค่อยรู้รส เลยชวนสามีไปตรวจด้วยกันเลย

ผลเป็นบวกทั้ง 2 คน

จากการสอบสวนโรค คาดว่าเราน่าจะได้รับเชื้อมาจากโรงพยาบาล เพราะไม่มีความเสี่ยงอื่นๆ

หมอส่งไทม์ไลน์ให้ทาง IC ของรพ. และได้แจ้งกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
………………………….

เราสองคนทำงานเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ เราไม่ได้เป็นบุคลากรด่านหน้า แต่ก็ยังต้องทำงานพบปะกับคนไข้มากมาย

ขณะนี้มีบุคลากรในโรงเรียนแพทย์ ทะยอยติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก มีหอผู้ป่วยต้องปิดไปหลายวอร์ด

เราสองคนมีความระมัดระวังสูงมากพอสมควร ไม่ได้ถอดแมสก์ขณะทำงาน และไม่ได้ทานข้าวกับใครในระยะที่มีความเสี่ยง (การ์ดสูงกว่านี้ก็ต้องเชียร์ลีดเดอร์แล้วค่ะ 😂)

เราทั้งคู่ฉีด Sinovac ครบสองเข็ม เข็มสุดท้าย เมื่อประมาณสองเดือนก่อนพอดี
……………………..

เมื่อรู้ว่าติดโควิด…

สิ่งที่ยากลำบากไม่ใช่เพียงแค่การต้องเผชิญกับความกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น แล้วแค่ปลอบใจตัวเองได้ว่า เราไม่น่าตาย เพราะฉีดวัคซีนที่น่าจะช่วยกันตายได้

แต่มันหมายถึงความเสี่ยงของทุกคนที่อยู่รอบข้างเรา …

ถ้าลูกตรวจมาว่ายังไม่ติด หมอจะเอาลูกไปอยู่ที่ไหน? เพราะทุกบ้านที่ส่งไปเราก็ไม่อยากให้เค้าต้องรับกับความเสี่ยง?

แล้วลูกจะติดจากเราไหม? ถ้าลูกเป็นอะไรเราไปดูลูกไม่ได้ เราต้องใจจะขาดแน่ๆ 😭😭😭

คุณพ่อที่มีโรคเรื้อรังมากมายจะติดไหม? ถ้าคุณพ่อติดไป หมอก็คงต้องเตรียมทำใจบ๊ายบายคุณพ่อได้เลย 😭😭

แม่บ้านที่อยู่กับเรายังไม่ได้วัคซีนเพราะยังไม่ถึงคิว เขาจะแย่มากไหม?

คนไข้ที่เราเจอเค้ามากมายขณะที่เราไม่รู้ตัว จะติดไปรึเปล่า?

คนรอบตัวที่เรายังเจอเขาอยู่บ้าง จะโกรธเรามั้ยที่ทำให้เขาต้องเดือดร้อน

งานที่กำลังต้องทำมากมาย ใครจะเป็นคนทำ

ฯลฯ

นี่ขนาดหมอ คือ คนที่ถือว่ามี privilege ในสังคม มีบ้านที่มีห้องแยกหลายห้องถ้าจะต้องรอเตียง มีความเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำให้เราน่าจะเข้าถึงบริการได้ไม่ยาก ยังรู้สึกว่าอะไรๆ มันยากไปหมด ต้องใช้พลังใจสูงมากๆ

แล้วชาวบ้านทั่วไปล่ะ…
………………………….

การติดเชื้อของคนๆ หนึ่ง ส่งผลกระทบต่อคนหลายคน โดยเฉพาะคนที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ คนไข้จำนวนมากของหมอถูกยกเลิก สามีต้องยกเลิกเคสที่นัดผ่าตัด คนใกล้ชิดต้องกักตัว

ที่สำคัญ….

ขณะนี้หมอกำลังมองลูกสาววัย 8 ขวบที่ไข้ขึ้นสูง ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไปด้วย

กับแม่บ้านที่ยังไม่ได้วัคซีน แต่เริ่มมีอาการเหมือนเหนื่อยๆ

พร้อมได้ยินคำพูดแว่วๆ ว่า “อย่าเห็นแก่ตัว”

ด้วยหัวใจที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ

………………………………..

สุดท้ายนี้…

🙏🙏 หมออยากกราบขอบพระคุณ คุณหมอรุ่นใหม่ๆ หลายท่าน ที่ออกมายืนยันด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เริ่มต้น ว่าเราควรมีวัคซีน mRNA ให้กับประเทศไทย โดยต้องทนแรงกดดัน ทนการถูกต่อว่าจากผู้มีอำนาจ ทนการถูกกล่าวหาว่าชังชาติ แต่ยังยึดมั่นในหลักวิชาการที่ถูกต้อง และมีความกล้าหาญทางจริยธรรม 🙏🙏

🙏🙏 อยากเชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีนเท่าที่มี เพราะอย่างน้อยมันก็อาจทำให้เรามีโอกาสที่จะรอด

🙏🙏 อยากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งเสียงเรียกร้องวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดีพอ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ มันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่นี้คือเรื่องของส่วนรวม “เพราะเมื่อเราล้ม คุณจะล้ม”

🙏🙏 ขอบคุณ ที่มองเห็น ว่าทุกวันนี้เราไม่ควรต้องประสบชะตากรรมที่เจออยู่นี้ และควรจะมีคุณภาพชีวิตของทุกคนที่ดีกว่านี้ และต้องช่วยกันวางแผนที่จะป้องกันไม่ให้อะไรๆ เลวร้ายไปกว่านี้

ส่วนตัวหมอเชื่อว่า “พลังบวก” ไม่ได้แปลว่าเราควรเลือกเขียนถึงแต่สิ่งดีๆ โดยละเลยทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาที่มีอยู่ตรงหน้าเต็มไปหมด

แต่พลังบวกเกิดขึ้นจากการ พูด “ความจริง” ที่เกิดขึ้น วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นแบบตรงไปตรงมา มี “empathy” กับคนที่เขามีความเดือดร้อน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่อยู่ในสถานะที่มี Privilege อย่างพวกหมอ

ที่สำคัญ คือ “ช่วยส่งเสียง” สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียง

ยังเชื่อมั่นใน “พลังบวก” ของสังคมเสมอนะคะ

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้ที่วันนี้พบว่าเราไม่ควรต้องเดินทางมาถึงจุดนี้เลยจริงๆ

ป.ล. ต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งข่าวตั้งแต่วันแรกนะคะ พอดีมีอะไรต้องทำหลายอย่าง และอยากเตรียมตัวลูกสาววัย 8 ขวบให้พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก่อน

ที่มา

ประเด็นน่าสนใจจากหมอโอ๋ หลายๆบ้านน่าจะเจอปัญหานี้กันอยู่ ลองอ่านกันดูจัา

#เมื่อเราและลูกเห็นต่างทางการเมือง

คลินิกวัยรุ่นของหมอ เริ่มมีพ่อแม่มาบ่นกลุ้มใจที่ลูกเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องของการเมือง

“ห้ามก็ไม่ฟัง นี่ขู่ตัดแม่ตัดลูกไปละ”

“ส่งเสียเรียนมาขนาดนี้ ยังโง่ให้เค้าจูงจมูก”

“หมอคุยกับมันให้หน่อย ว่าไม่ให้เข้าไปยุ่งกับอะไรพวกนี้” 😂😂

หมอมีคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ ดังนี้นะคะ

1. ให้ดีใจที่ลูกมองว่า “การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน” ประเทศจะไม่พัฒนาด้วยวัยรุ่นที่มองแต่ปัญหาของตัวเอง

2. จงเชื่อมั่นว่าวัยรุ่นที่ “ตั้งคำถาม” นำมาซึ่งความงอกงามเสมอ

3. หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดตัดสิน ดูถูก บั่นทอนคุณค่า “โง่” “อุตส่าห์เรียนสูง” “ให้เค้าจูงจมูก” เพราะนั่นไม่ได้ทำให้เกิดการสื่อสารที่สร้างสันติ

4. “รับฟัง” แบบเปิดใจไม่รีบตัดสิน ลูกรู้สึกอะไร อึดอัดอะไร มีความต้องการอะไร ให้คุณค่ากับอะไร ทำไมถึงคิดหรือเชื่อสิ่งนั้น ฟัง... ด้วยความต้องการที่จะเข้าใจ ไม่ใช่ฟังเพื่อสั่งสอน

5. เคารพการให้ “คุณค่า” ในสิ่งที่แตกต่าง (สมัยพ่อแม่อาจให้คุณค่าเรื่องการไม่ตั้งคำถามกับคนที่เคารพหรือมีอำนาจ เด็กสมัยนี้ให้คุณค่ากับสิทธิความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม)

6. ตั้งคำถามกับสิ่งที่ลูกให้คุณค่า (เราอาจพบว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะมันคือสิทธิขั้นพื้นฐาน) บอกลูกได้ ถึงสิ่งที่เราให้คุณค่า และที่มาของความเชื่อนั้น

7.อย่ารีบปักใจว่าลูกโง่ เด็กสมัยนี้โตมากับความรู้มหาศาล ให้สงสัยความไม่รู้ของตัวเองอยู่ด้วยเสมอ

8. สอนลูกตั้งคำถาม กับสิ่งที่ลูกเชื่อหรือถูกบอกมา อันไหนจริง อันไหนใช่ เพราะอะไรถึงเชื่อสิ่งนั้น ช่วยลูกฝึกการวิเคราะห์แยกแยะ

9. การที่วัยรุ่นลงมือลงแรงเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เชื่อมั่น นั่นคือพลังงานของวัยหนุ่มสาว ที่เราควรรักษาไว้

10. สอนลูกเรื่อง การเรียกร้องสิทธิ ไม่ควรกระทำโดยการละเมิดสิทธิของผู้อื่น

11. สอนลูก(และตัวเอง) ว่าการใช้ hate speech สร้างความเกลียดชัง หรือการสร้างภาพเลวร้ายให้ตัวบุคคล อาจไม่นำไปสู่การสร้างความเข้าใจในสิ่งที่ตนต้องการ

12. อธิบายลูกว่าความรักความศรัทธาของคนหลายคน อาจไม่ต้องมีเหตุผล แต่เป็นเรื่องที่เราควรให้คุณค่า อย่าทำลายหรือดูถูกความศรัทธาของผู้อื่น

หมอเชื่อว่าความขัดแย้ง การตั้งคำถาม นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเสมอ

การรับฟัง สร้างพื้นที่ปลอดภัย โอบกอดความเห็นต่างด้วยความเข้าใจ การหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง น่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

สุดท้าย ถ้าเข้าใจและเห็นด้วยในสิ่งที่ลูกเชื่อมั่น

“จงเป็นพลังให้พวกเขา”

ถ้าลูกยืนยันจะไปม๊อบ
ก็เตรียมแมสก์ แอลกอฮอล์ ร่มกันฝน และเงินประกันตัว 😂

ถ้าไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ลูกเชื่อมั่น แต่ก็ห้ามมันไม่ได้

ก็ช่วยเตรียมแมสก์ แอลกอฮอล์ ร่มกันฝน😂
แต่บอกลูกได้ว่า พ่อแม่จะมีขอบเขตการช่วยเหลืออยู่แค่ไหน ลูกต้องตัดสินใจ เรียนรู้ และรับผิดชอบกับทางเลือกของตัวเอง

และไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ อยากให้กอดลูกและบอกตัวเองว่า

“โลกข้างหน้า คือโลกที่เป็นของลูก”

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้อยากขออภัยหลายคนที่ไม่อยากให้ใช้พื้นที่ตรงนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองนะคะ

ส่วนตัวหมอว่าการเมืองควรเป็นเรื่องพูดได้นะ และการเมืองคือเรื่องของเราทุกคน เราจะเป็นพ่อแม่ที่มีเงิน มีเวลาเลี้ยงลูกได้มากแค่ไหน ลูกจะมีการศึกษาที่ดีพอหรือเปล่า เราจะแก่ไปแบบพึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องทวงบุญคุณลูกมั้ย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างเลี่ยงเป็นเรื่องอื่นไม่ได้จริงๆ 😂

ป.ล. เขียนความเห็นต่างกันได้ แต่อย่าถึงขั้นให้ต้อง #saveหมอโอ๋ กันเลยนะคะ 😂

ขอบคุณภาพจาก BBC News
#เมื่อเราและลูกเห็นต่างทางการเมือง

The doctor's teenage clinic is starting to have parents. I'm not worried that the child is messing with politics.

′′ Don't listen to this. I'm threatening to cut off the mother and cut the

′′ Paying for studying like this. Still stupid. Let him leash his nose ′′

′′ Doctor, talk to him not to mess with these things ′′ 😂😂

Doctor has recommendations for parents as follows.

1. Let's be glad that you think that ′′ politics is about everyone The country will not develop with teenagers who only look at their own problems.

2. Believe that teenagers who ′′ question ′′ always bring flourish.

3. Avoid using words, judges, insults, cripples, values of ′′ stupid Oops. High study Let him leash his nose ′′ because that doesn't cause peace communication.

4. ′′ listen ′′ open-minded, don't judge the child. Feel uncomfortable, what do you want, what do you value, why think or believe... with the need to understand, not listen to teach.

5. Respect ′′ value ′′ in different things. (When parents may value asking no questions about respectful or powerful people. Children nowadays value human rights, justice and equality)

6. Questioning what you value (we may find that it's not wrong because it's basic rights). Tell the child what we value and the source of faith.

Haha. Don't be quick to think that stupid kids. Kids nowadays grow up with huge knowledge. They always doubt their ignorance.

8. Teach kids to question what they believe or are told. Which one is true? Why why do they believe? Helping kids practice analysis. Digest.

9. The way teenagers act, calling for change to what they believe. That's the energy of young people we should keep.

10. Teach children about claiming rights. Should not act by violating the rights of others.

11. Teach your child (and yourself) that using hate speech creates hate or bad image for a person may not lead to understanding what they want.

12. Explaining the love, faith of many people may not have reason, but it's something that we should value. Don't destroy or insult other people's faith.

Doctors believe conflicts, questions always bring change.

Listening creates a safe space. Embracing different opinions with understanding. Avoiding violence should be the solution to conflicts.

Finally, if you understand and agree with what you believe in.

′′ Be their power

If the kid confirms that he will go to mob.
I'm preparing for alcohol masks, umbrella, rain protection and bail money. 😂

If you don't agree with what you believe in, you can't stop it.

Help prepare alcohol masks, rain protection 😂
But tell the child how much parents have to have a helping hand. The child must decide to learn and take responsibility for their own choices.

And whether or not I want to hug my baby and tell myself that

′′ The world ahead is the world that belongs to the child

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
Many sorry people who don't want to use this area to involve politics.

Personally, the doctor said politics should be said and politics is our business. We will be parents with money and time to raise kids. Will we have good education? We can grow old without asking for merit. Etc. These are politics related things. Really inevitable. 😂

P.S. L L L L You can write different opinions, but don't reach the level. You have to #save Doctor O 😂

Thank you for the photo from BBC NewsTranslated

เห็นด้วยครับ เลิกๆไปตะ ไอ้ป้ายแบบ โรงเรียนนี้มีเด็กสอบหมอติดสิบคน สิบห้าคน บลาๆ

#ป้ายบอกคุณค่าที่หน้าโรงเรียน?

ป้ายแสดงความชื่นชมนักเรียนกำลังถูกประธานกพฐ. ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสม และไม่อยากให้โรงเรียนใช้การเข้าแพทย์ วิศวะ มาโฆษณาถึงความดีงามของโรงเรียน

หลายคนตั้งคำถาม ว่าทำไมเด็กเก่งจะถูกชื่นชมไม่ได้?
...........................

ป้ายหน้าโรงเรียน... บอกคุณค่าที่โรงเรียนยึดถือ

ป้ายที่ทำรูปใหญ่ๆ ตัวหนังสือโตๆ กับเด็กที่ติดหมอ วิศวะ (ในขณะที่ติดคณะอื่นอาจจะเหลือแต่ชื่อ) กำลังส่งข้อความบอกเด็กๆว่า เราให้คุณค่าเพียงอาชีพเหล่านี้
👉🏼 ทั้งๆที่ทุกอาชีพควรถูกทำให้ได้เห็นถึงคุณค่า

ป้ายหน้าโรงเรียน บอกว่าเราให้คุณค่ากับการเรียนเก่ง กีฬาดี ดนตรีเลิศ
👉🏼ทั้งๆที่ทักษะและคุณสมบัติของมนุษย์ มีให้ชื่นชมหลากหลายมากมายมากกว่านั้น

ป้ายหน้าโรงเรียน บอกว่าเราให้คุณค่ากับการทำชื่อเสียง
👉🏼ความสำเร็จที่ต้อง “เหนือใคร” ทั้งๆที่ในโลกยุคใหม่ เราควรเน้นเรื่องการทำงานเป็นทีม

ป้ายหน้าโรงเรียน... บอกเราว่า คุณไม่น่าภูมิใจ ถ้าคุณเป็นได้แค่ “คนธรรมดา”
👉🏼ทั้งๆที่เด็กทุกคนควรเติบโตมาแบบรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง

ป้ายหน้าโรงเรียน บอกว่าโรงเรียนให้คุณค่ากับผลสำเร็จ มากกว่าคุณค่าของความพยายาม
👉🏼ซึ่งหลายครั้งทำให้เกิด fixed mindset (วิถีคิดติดกรอบ) ฉันเก่ง ฉันเจ๋งกว่าใคร หรือ
ฉันโง่ ฉันไม่ได้เรื่อง ฉันไม่ได้เป็นคนที่ใครๆก็ยอมรับ

ป้ายหน้าโรงเรียน ที่ยกเด็กบางคน
👉🏼 แต่อาจกำลังเหยียบย่ำหัวใจของเด็กๆ หลายคน

ป้ายหน้าโรงเรียน บอกเราว่าโรงเรียนนี้ดีกว่า เพราะสร้างมนุษย์ออกมาได้ตามแบบ
👉🏼แบบ ที่ออกโดยค่านิยมของสังคม

..................................

โรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่ทำให้เด็กได้ค้นพบศักยภาพ เคารพความแตกต่างหลากหลาย เจอเส้นทางที่จะไปตามสิ่งที่ฝัน มุ่งเน้นการพัฒนาคุณสมบัติที่ดี มากกว่าแค่ทำให้ออกมาหน้าตาเหมือนเด็กกึ่งสำเร็จรูปตามความต้องการของท้องตลาด

ป้ายหน้าโรงเรียน...

จึงควรถูกตั้งคำถาม

ว่าเรากำลังบอกอะไรให้เด็กๆ

และจริงๆ การศึกษาของประเทศไทย

... ต้องการอะไรจากเด็กๆ ของเรา

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ผู้อยากให้ผู้ใหญ่ตั้งคำถามว่าเราต้องการอะไรจากการศึกษาในโรงเรียนของพวกเขา

ป.ล. ไม่ได้เขียนว่าจะชื่นชมเด็กไม่ได้นะคะ แต่อยากชวนให้ตั้งคำถาม ว่าเด็กๆได้หรือเสียอะไร เรามองได้รอบด้านมั้ย ใครกำลังได้ประโยชน์อะไรจากเด็กอยู่รึเปล่า และมีอะไรที่เราควรพัฒนาให้ดีกว่าเดิมได้ แทนที่จะทำตามไปเหมือนๆกัน

ขอบคุณภาพจาก @ข่าวสด
#ป้ายบอกคุณค่าที่หน้าโรงเรียน?

Student admiration sign. Student is being taken by the president of the government. Questioning about decency and don't want school to use engineering medical to advertise the goodness of school.

Many people question why good kids can't be appreciated?
...........................

The front of the school... says the value that the school is holding on to.

Big tags, big letters with kids who are addicted to engineering doctors (while other faculty members may have names left) are messaging the kids that we value these careers.
👉🏼 Even when every occupation should be made valuable.

The front stop of the school says that we value good at studying. Good sports. Great music.
👉 In spite of human skills and qualities, there are many more to admire.

The school front stop says we value reputation.
👉 Success that you need to be ′′ over ′′ even in the new world, we should focus on teamwork.

School front stop... Tell us you're not proud if you can only be ′′ ordinary ′′
👉 In spite of every child should grow up to feel their own worth.

The school front stop says the school values the success more than the value of effort.
👉 Many times make fixed mindset (framework way). I'm good. I'm cooler than anyone.
I'm stupid, I'm lame, I'm not the one I accept.

Next stop at school that lifts some kids
👉🏼 but may be stomping on many children's hearts

The front stop of the school tells us that this school is better because it can be created by human beings.
👉 Designed by values of society

..................................

School should be a place where children discover potential, respect different differences. Find a path to follow what they dream of. Focus on developing good qualities rather than just making them look like instant children on market demand.

The front stop of the school...

So it should be questioned.

What are we telling the kids

And really, Thailand's education.

... What do you want from our kiddos?

#หมอโอ๋เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
Those who want adults to question what we want from their school education

P.S. L L L L I didn't say that I can't admire the kid. But I want to ask you to ask what the kid has or broken. We can see around the side. Is there anybody who is benefiting from the kid and has something that we should improve instead of doing the same thing.

Thank you for the photo fromTranslated