สำหรับคุณแม่ทุกท่านคงต้องพบเจอกับความลำบากในการจัดสรรเวลาในการดูแลลูกและการทำงาน บางคนถึงกับต้องออกจากงานมาเพื่อทุ่มเทดูแลลูก เพราะหน้าที่ของแม่เป็นงานที่ต้องทำตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่สามารถลาพักได้ ถึงอย่างนั้นหลายคนก็รู้สึกเสียโอกาสในการที่จะได้ทำงานหรือทำธุรกิจที่ตัวเองอยากทำ และหากจะให้กลับไปทำงานหลังจากที่ลูกโตแล้วก็คงยากที่จะมีคนรับเข้าทำงานต่อ วันนี้เลยจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Mompreneur ที่จะทำให้คุณสามารถเลี้ยงดูลูกไปพร้อมกับการทำธุรกิจที่อยากทำไปควบคู่กัน และวิธีการเริ่มต้นเป็นซุปเปอร์คุณแม่นักธุรกิจ
.
1. สำรวจความชอบและงานอดิเรกของตนเอง
ก่อนที่คุณจะเริ่มงานเป็นผู้ประกอบการและคุณแม่แบบ Full-time ไปพร้อมๆ กัน คุณต้องหาก่อนว่างานอดิเรกหรือสิ่งที่คุณชอบคืออะไร รวมถึงสิ่งเหล่านั้นต้องสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณได้ด้วย เมื่อคุณค้นพบแล้วให้คุณใช้เวลาต่อในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนทำธุรกิจ ตั้งแต่ตลาดที่คุณสนใจนั้นมีโอกาสในการทำธุรกิจมากน้อยแค่ไหน วิจัยคู่แข่ง บริษัทชั้นนำในตลาดเพื่อจะได้เรียนรู้จากพวกเขาและวางแผนธุรกิจออกมาได้ดีที่สุด
.
2. แบ่งเวลาให้กับตัวเองในทุกๆ วัน
ในฐานะแม่การต้องออกห่างจากลูกถือเป็นสิ่งที่ยากแต่ถึงอย่างนั้นถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จในฐานะ Mompreneur คุณต้องแบ่งเวลาของตัวเองให้กับเป้าหมายทางธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยอาจจะให้คู่รักหรือคนในครอบครัวคอยดูแลในช่วงเวลาที่คุณทำงานแทน รวมไปถึงการจัดพื้นที่การทำงานให้เป็นสัดส่วนเพื่อจะได้มีสมาธิในการทำงาน ดังนั้นคุณควรกำหนดตารางเวลาบางส่วนให้กับตัวเองบ้างหากคุณคิดที่จะทำธุรกิจอย่างจริงจัง
.
3. ตั้งกลุ่มเป้าหมายและทำความรู้จักคู่แข่ง
เมื่อคุณได้ประเภทธุรกิจที่อยากทำแล้วควรตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นมาเพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหาของพวกเขาได้อย่างตรงจุด จากนั้นคุณต้องค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งของคุณ โดยเฉพาะคู่แข่งเจ้าใหญ่ๆ การทำความรู้จักคู่แข่งจะทำให้คุณสามารถสร้างสินค้า/บริการออกมาได้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด รวมไปถึงวิธีการโปรโมททำการตลาด หน้าเว็บไซต์ หรือช่องทางอีคอมเมิร์ซต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของคุณ
.
4. สร้างช่องทางติดต่ออย่างเป็นทางการ
ถึงแม้ว่าสินค้า/บริการของคุณยังไม่ได้ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแต่การมีช่องทางการติดต่อ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์แอด อินสตาแกรม หรือเบอร์ติดต่ออย่างเป็นทางการก็จะช่วยให้คุณนั้นสามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น โดยที่คุณอาจจะปล่อยตัวอย่างสินค้า อัปเดตสินค้าตัวใหม่ ข้อมูลสินค้า ทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจหรือเพื่อให้ผู้คนรู้จักตัวตนของแบรนด์มากขึ้นก็ได้เช่นกัน และการมีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือรวมทั้งสามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่สนใจในธุรกิจของคุณโดยเฉพาะได้อีกด้วย
.
5. ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารกับลูกค้า
นอกจากโซเชียลมีเดียจะสามารถให้คุณโปรโมทสินค้าหรืออัปเดตข้อมูลข่าวสารแล้ว คุณยังสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงด้วยการตอบข้อซักถามหรือข้อวิจารณ์เชิงลบที่ได้รับจากช่องทางโซเชียลสาธารณะอย่างมืออาชีพ ซึ่งช่องทางนี้อาจจะเป็นดาบสองคมที่ใครก็ตามสามารถเข้ามาตำหนิหรือวิจารณ์ธุรกิจของคุณโดยไม่สามารถห้ามได้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางที่คุณจะสามารถไขข้อสงสัยและแก้ไขความเข้าใจผิดของคนอื่นที่มีต่อธุรกิจคุณได้เช่นกัน
.
6. เรียนรู้พื้นฐานของการตลาดดิจิทัล
การเรียนรู้พื้นฐานของการตลาดดิจิทัลถือเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยที่รูปแบบการตลาดดิจิทัลที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันทั้งสตาร์ทอัพหรือธุรกิจขนาดใหญ่ได้แก่
- การตลาดแบบ PPC (Pay-Per-Click)
- การตลาดตาม SEO (ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหา)
- การตลาดทางอีเมล
- การกำหนดเป้าหมายใหม่ / รีมาร์เก็ตติ้งแคมเปญ
- การตลาดโซเชียลมีเดีย
- VDO / Podcast
- Third-Party Ad
- สัมมนาผ่านเว็บไซต์
.
7. เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ
การเข้าร่วมกิจกรรมหรืออีเวนต์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคุณจะช่วยให้คุณมีเครือข่ายหรือความสัมพันธ์ทางธุรกิจเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการพบปะกับ Mompreneur หรือธุรกิจในตลาดที่คล้ายคลึงกัน จะช่วยให้คุณรู้ถึงปัญหาการทำธุรกิจรวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาของพวกเขาและสามารถนำมาปรับใช้หรือวางแผนเพื่อป้องกันการเกิดปัญหานั้นๆ ให้กับธุรกิจของคุณได้ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ทางธุรกิจจากกากรพบปะกันผ่านทางอีเวนต์เหล่านี้อาจจะมีประโยชน์ต่อคุณในอนาคตก็เป็นได้
.
8. กำหนดเวลางดใช้เทคโนโลยีในแต่ละวัน
การเป็น Mompreneur นอกจากความกดดันในการดูแลลูกให้ดีแล้วคุณยังจะต้องเผชิญกับความกดดันทางด้านธุรกิจอีกด้วย แม้ว่าคุณแม่อยากจจะคอยอัปเดตข่าวสารและเทรนด์ทางธุรกิจเพื่อจะจะไม่พลาดสิ่งสำคัญไป แต่การใช้เวลาโดยออกห่างจากเทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาร์ทโฟนจะช่วยให้คุณได้พักผ่อนสมองและทำให้คุณไม่เสี่ยงกับการเป็นโรคเครียดได้ รวมไปถึงจะช่วยให้คุณได้ใช้เวลากับลูกๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
.
9. วางเส้นทางของชีวิตคุณเอง
องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการประสบความสำเร็จก็คือการวางแผนและเส้นทางธุรกิจและชีวิตของคุณเอง แทนที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับความสำเร็จของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ให้คุณลองเปลี่ยนมายึดมั่นในเป้าหมายของตนเองที่วางไว้และให้ความใส่ใจกับการเติบโตของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบรูปแบบธุรกิจตัวเองกับคนอื่นถ้าหากวิธีการที่คุณทำอยู่สามารถพาคุณไปถึงจุดที่สำเร็จได้ การวางเส้นทางของคุณในฐานะเจ้าของธุรกิจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นในฐานะ Mompreneur ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะสูงแค่ไหนก็ตาม
.
การใช้ชีวิตในฐานะ Mompreneur ซุปเปอร์คุณแม่นักธุรกิจนั้นอาจไม่สามารถสำเร็จได้เพียงชั่วข้ามคืน แม้ว่าคุณจะมีความชอบในสิ่งที่คุณทำหรือพร้อมใจบริการลูกค้ามากแค่ไหน แต่การทำงานเต็มเวลาในฐานะผู้ประกอบการควบคู่ไปการทำหน้าที่คุณแม่มืออาชีพนั้นต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณเพิ่งเริ่มต้นเป็นครั้งแรก แต่ในขณะเดียวกันการเริ่มต้นด้วยแรงจูงใจที่มุ่งมั่นของคุณจะนำพามาซึ่งความสำเร็จได้ในวันนึงอย่างแน่นอน
.
ที่มา : https://www.solopreneurinstitute.com/become-a-mompreneur/
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Mompreneur #หางานคุณแม่ #หางาน #ทำงานเลี้ยงลูก #Business #ธุรกิจ #ไอเดียธุรกิจ #การตลาด #Marketing
หางานคุณแม่ 在 12อาชีพเหมาะสำหรับคุณแม่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ต้องการสร้างรายได้เพิ่ม 的推薦與評價
12อาชีพเหมาะสำหรับ คุณแม่ อยู่บ้านเลี้ยงต้องการ หา รายได้เพิ่มแอปเชื่อว่าใน ... แต่ งาน หลักๆ ของแม่บ้าน ก็คือ การเลี้ยงลูกอยู่บ้าน และเป็นแม่บ้าน ... ... <看更多>
หางานคุณแม่ 在 หางานทำงานที่บ้านแม่ลูกอ่อนแม่บ้านก็ทำได้ | Facebook 的推薦與評價
คนที่หางานทำที่บ้าน หรืองานเสริม แนะนำ. อ่าน อ่าน อ่านไห้จบครับ เเล้วคุณจะมีอาชีพที่มั่นคง. #เราอยากไห้คุณอ่าน. ... <看更多>