กรณีศึกษา ทำไม ALL NEW MG 5 ถึงกลายเป็นรถกระแสแรงในช่วงนี้
All New MG 5 X ลงทุนแมน
แม้ปีนี้ ประเทศไทย ต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด 19
ส่งผลให้สถานการณ์เศรษฐกิจดูซบเซา
แต่รู้หรือไม่ว่า ช่วงครึ่งปีหลังต่อจากนี้ บรรดาค่ายรถยนต์ต่าง ๆ
เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอยู่หลายรุ่นเลยทีเดียว
และหนึ่งในรถที่หลายคนจับตามองความเคลื่อนไหวมากสุดรุ่นหนึ่งก็คือ ALL NEW MG 5
เพราะนี่คือรถที่สร้างกระแสไปทั่วโลกและมีการพูดถึงกันข้ามปีเลยทีเดียว
ทำไมรถคันนี้ถึงเป็นกระแสให้คนทั่วไปได้พูดถึง
มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ที่รถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้วในงาน Beijing Auto Show 2020 ที่ประเทศจีน
หนึ่งในไฮไลต์ของงานนี้คือการเปิดตัว ALL NEW MG 5 เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร
เพราะรถรุ่นนี้ มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวสไตล์รถยุโรป อีกทั้งยังสวยเท่ไม่แพ้รถสปอร์ตหรูในกลุ่ม Luxury
และที่เพิ่มกระแสความฮือฮาเข้าไปอีกขั้น
ก็คือราคาขายไม่ได้แพงอย่างที่ใครคิด นั่นคือ 80,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 391,000 บาท
พอเป็นแบบนี้ทำให้เกิดคำถามว่าแล้ว ALL NEW MG 5
มีโอกาสความเป็นไปได้แค่ไหน ที่จะมาโลดแล่นบนถนนเมืองไทย
ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ก็คงต้องย้อนถามกลับไปว่า
แล้วโอกาสในการสร้างยอดขายของรถ ALL NEW MG 5 มีมากน้อยแค่ไหน ?
รู้หรือไม่ว่า ในแต่ละปีกลุ่มรถเล็กเครื่องยนต์ 1.2-1.5 ลิตร
หรือที่เรียกกันว่า Eco Car และรถ B-Segment มียอดขายรวมกันมากกว่า 1 แสนคัน
ด้วยมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ สิ่งที่ตามมาคือค่ายรถต่าง ๆ เลือกผลิตรถประเภทนี้มาแย่งชิงยอดขาย
จนกลายเป็น Red Ocean สมบูรณ์แบบ
เหตุผลที่ทำให้รถประเภทนี้สร้างยอดขายได้ดีในทุก ๆ ปี
ข้อแรก คือราคาที่เข้าถึงง่าย โดยรุ่นเริ่มต้นจนถึงรุ่นท้อปจะอยู่ระหว่าง 3 แสนต้น ๆ จนถึง 7 แสนปลาย ๆ
โดยราคาส่วนใหญ่ก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์เป็นหลัก
ข้อสอง คือเป็นรถเล็ก ใช้งานในเมืองคล่องตัว แต่ห้องโดยสารกว้างขวาง
ข้อสาม คือดีไซน์ที่แต่ละค่ายพยายามสร้างคาแรคเตอร์ของรถให้ถูกใจลูกค้ามากที่สุด
สุดท้าย ก็คือสมรรถนะเครื่องยนต์และการขับขี่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีจัดเต็ม
ทีนี้ก็คงต้องหันกลับมามองที่ตัวรถ ALL NEW MG 5 ว่ามีจุดขายเหล่านี้ครบทุกข้อหรือไม่
เรื่องแรกสุดคือราคา หากอ้างอิงราคารถในกลุ่ม B-Segment เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรในเมืองไทย
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันกับทาง ALL NEW MG 5
และโดยส่วนใหญ่ค่ายรถต่าง ๆ ก็จะตั้งราคาขายในรุ่นเริ่มต้นที่ 5 แสนกว่าบาท
ขณะที่ราคาเปิดตัวของ ALL NEW MG 5 ในจีนนั้นคิดเป็นเงินไทยราว 391,000 บาท
และหากสังเกตการเปิดตัวรถรุ่นที่ผ่าน ๆ มาของ MG มักจะตั้งราคาขายไล่เลี่ยกับคู่แข่งในตลาด
ความน่าจะเป็นของราคาขายรถรุ่นนี้ก็น่าจะเริ่มต้นอยู่ที่ราว ๆ 5 แสนบาทขึ้นไป
เพียงแต่สิ่งที่ MG คิดคือในราคาขายที่ไล่เลี่ยกับคู่แข่งในตลาดนั้น
รถทุกรุ่นก็จะถูกสร้างขึ้นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดี มาพร้อมเทคโนโลยีที่เกินราคา
และแน่นอน ALL NEW MG 5 ก็อยู่ในแนวคิดนี้เช่นกัน
หากเราอ้างอิงสเปก ALL NEW MG 5 ที่เปิดตัวในประเทศจีนไปก่อนหน้านี้
ว่าเป็นสเปกเดียวกันกับที่น่าจะวางขายในประเทศไทย
นอกจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรที่ทำให้เราขับขี่ได้ง่ายและสนุกกว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็กอย่าง เบนซิน 1.0 ลิตร เทอร์โบ, เบนซิน 1.2 ลิตร แล้วนั้น
รู้หรือไม่ว่า รถคันนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัย ที่จะทำให้ทุกจังหวะการขับขี่อุ่นใจ
ภายใต้ระบบ MG Pilot ที่มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
Adaptive Cruise Control เป็นระบบช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้สอดคล้องกับสภาพของการจราจรอย่างอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้ส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งในรถเก๋งและรถ SUV ราคาระดับล้านบาทขึ้นไป
อีกทั้งยังมีระบบเตือนป้องกันการชนทางด้านหน้า ระบบอ่านป้ายจราจร เป็นต้น
ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารนอกจากดูกว้างขวางแล้วนั้น
ยังถูกออกแบบให้ดูหรูหราเกินกว่าที่จะเป็นรถในกลุ่ม B-Segment
ด้วยการออกแบบที่สะดุดตาโดนใจ ไม่ว่าจะเป็น เบาะหนังทรงสปอร์ตโอบกระชับ,
พวงมาลัยหนังสปอร์ต 3 ก้าน, หน้าจอเรือนไมล์และจอกลางที่มีขนาดใหญ่
ซึ่งจะทำให้เราสามารถดูหนังและสารพัดความบันเทิงในรถคันนี้ได้อย่างสบายตา
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ดีไซน์ภายนอกตัวรถ
เพราะต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่สร้างกระแสให้แก่ ALL NEW MG 5 ได้มากที่สุดจนใคร ๆ ก็พูดถึง
หากดูจากในรูปจะเห็นว่าด้านข้างตัวรถถูกออกแบบให้เหมือนดูมีกล้ามเนื้อแฝงไปด้วยความปราดเปรียว
ตรงด้านท้าย ไม่ว่าจะเป็นส่วนไฟท้าย LED สปอยเลอร์
ที่มองดูแล้วก็ทำให้เรานึกไปถึงรถสปอร์ตหรู ๆ ราคาแพงเลยทีเดียว
สำหรับในประเทศไทย แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ALL NEW MG 5
จะเปิดขายเมื่อไร ราคาดึงดูดใจมากแค่ไหน
สเปกรถต่าง ๆ จะเหมือนกับที่เปิดตัวในประเทศจีนหรือไม่
แต่ก็ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้สูง
เพราะ ณ เวลานี้ทั้งกระแสการพูดถึงของสื่อรถยนต์ต่าง ๆ
จนถึงการเป็นรถที่คนในโลกโซเชียลเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
MG ประเทศไทย คงไม่น่าจะพลาดโอกาสที่จะทำตลาด ALL NEW MG 5
ให้ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย
เหมือนอย่างที่ทำสำเร็จมาแล้วในรถหลาย ๆ รุ่นก่อนหน้านี้
References
-https://www.saicmg.com/vehicles/sedan/mg5.html
-https://www.ridebuster.com/all-new-mg-5-hint-coming-thailand/?fbclid=IwAR3DBekis8KDgTF-RkgczBN8IWtcnIvziewrmJA2qAXfUF4LnkZMLbxojqg
-https://mgronline.com/motoring/detail/9640000051108
同時也有33部Youtube影片,追蹤數超過76萬的網紅Singha ha Channel,也在其Youtube影片中提到,เปิดตัว F150 RAPTOR 2021 สาดความโหดอย่างสมบูรณ์แบบ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ จากรุ่นก่อนหน้า คาดว่าไม่ต่ำกว่า 450 แรงม้า และเค...
「เครื่องยนต์เบนซิน」的推薦目錄:
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 Singha HA Channel Facebook 的最佳貼文
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 Singha ha Channel Youtube 的最讚貼文
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 การทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน (แก๊สโซลีน) | Car of Know 的評價
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 เครื่องยนต์เบนซินกับดีเซลแบบไหนดีกว่ากัน | Car of Know - YouTube 的評價
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 ล้วงลึกจุดกำเนิดระบบ Direct Injection ของเครื่องยนต์เบนซิน | X-RAY 的評價
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 รถยนต์นั่ง (เครื่องยนต์เบนซิน) | PTT Lubricants - pttor 的評價
- 關於เครื่องยนต์เบนซิน 在 เครื่องยนต์ดีเซลกับเครื่องเบนซินต่างกันอย่างไร - Kid Rangers 的評價
เครื่องยนต์เบนซิน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สยบทุกข่าวลือของ “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี”
เดือนที่แล้วมีข่าวใหญ่ในแวดวงตลาดรถยนต์บ้านเรา
เมื่อ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกาศเปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ รุ่นใหม่
ผ่านทาง Amazon Live ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร
โดยจะวางขายในทวีปอเมริกาเหนือ ช่วงเดือนเมษายน
พอเป็นแบบนี้ ก็เลยทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า
แล้ว “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว
รถรุ่นไหนกันแน่ ที่เป็นโมเดลใหม่ล่าสุดของทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
แล้วรุ่นที่เปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ มีโอกาสไหม ที่จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย
ล่าสุด ลงทุนแมน ได้มีโอกาสไปงานมอเตอร์โชว์
และได้พูดคุยกับทีมการตลาดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในประเด็นนี้
ซึ่งได้รับข้อมูลหลายอย่าง ที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า Mitsubishi Outlander ที่เตรียมเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ
มีฐานการผลิตในประเทศญี่ปุ่นและส่งออกไปขายยังทวีปอเมริกาเหนือ
ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาป 100%
ส่วนโมเดลที่ขายในประเทศไทยจะเป็น Plug-in Hybrid Electric Vehicle
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า PHEV ที่สามารถสลับพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร
ที่น่าสนใจคือ ประเทศไทย เป็นประเทศแรก ที่ผลิต “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” นอกประเทศญี่ปุ่น
เมื่อนำมาเปรียบเทียบระหว่าง มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ที่จะวางขายในทวีปอเมริกาเหนือ
ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สันดาป ที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์มานาน
ส่วนรุ่นที่ขายในประเทศไทยเป็นเครื่องยนต์ PHEV เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นมา
แค่นี้ก็พอจะยืนยันได้แล้วว่า “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี”
ที่วางขายในบ้านเรา ณ ตอนนี้ เป็นโมเดลที่ใหม่และสดกว่า
สาเหตุก็เป็นเพราะ การมีฐานผลิตในประเทศไทย ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จะได้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากมาย ผลที่ตามมาก็คือ สามารถทำราคาขายเข้าถึงลูกค้าและแข่งขันในตลาดได้
ก็น่าคิดเหมือนกันว่าหาก มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่วางขายในไทยตอนนี้เป็นรูปแบบ “นำเข้า”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าราคาขายจะแพงกว่า 1.6 - 1.7 ล้านบาท
ที่ขายอยู่ในตอนนี้ ด้วยส่วนต่างเท่าไร
กลับกันหากสมมติ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร
ที่จะเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ หากนำเข้ามาขายในบ้านเรา
ก็จะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าสูงถึง 80%
ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนสูง ผลที่ตามมาก็คือราคาขายไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้
คำถามต่อมาก็คือ
แล้วมีความเป็นไปได้แค่ไหนที่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ โมเดลที่ขายในอเมริกาเหนือ
จะผลิตและมาทำตลาดในประเทศไทย
เรื่องนี้ทางทีมการตลาดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย ตอบกลับมาสั้นๆ
“ตอนนี้ไม่มีแผนแน่นอน และก็ไม่รู้ว่าจะมีการผลิต หรือนำเข้ามาขายในเมืองไทยหรือไม่
ส่วนรุ่นที่ขายในไทยที่เป็น พีเอชอีวี เราจะยังทำตลาดอีกนาน”
ก็น่าจะจริงตามนั้น เพราะหากใครที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์
น่าจะรู้ดีว่า Life Cycle ของรถ 1 รุ่นจะมีอายุ 5 - 6 ปี
ก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมใหม่หมดเป็น All New และในช่วงเวลาระหว่างนี้
ค่ายผู้ผลิตรถก็อาจจะมีปรับเปลี่ยนรถนิด ๆ หน่อย
ที่เรียกว่า Minor Change เพื่อกระตุ้นยอดขาย นั่นเอง
พอฟังแบบนี้ก็น่าจะสรุปได้ว่า “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” ที่วางขายอยู่ในตอนนี้
ยังไม่มีแผนที่จะผลิตรุ่นใหม่ ๆ ออกมาวางขายอย่างแน่นอน
ส่วน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ในอเมริกาเหนือ
ก็ยังไม่มีแผนที่จะนำเข้าหรือผลิตในเมืองไทยเร็ว ๆ นี้
และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย จริงจังกับรถรุ่นนี้เป็นพิเศษ
เหตุผลเพราะ “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” คือรถที่สร้างความภูมิใจให้กับทางบริษัท
เมื่อในปีที่ผ่านมา มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดในทวีปยุโรป
ด้วยยอดขาย 26,673 คัน และมียอดขายสะสมทั่วโลก 270,000 คัน
ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย เชื่อว่า
“มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” เป็นรถที่เหมาะสมกับตลาดเมืองไทยในช่วงนี้ที่สุด
เพราะเวลานี้ เป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปมาสู่พลังงานไฟฟ้า
และถ้าใครกังวลว่า หลายอย่างในประเทศไทยอาจยังไม่พร้อม โดยเฉพาะสถานีชาร์จ
ความกังวลนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ “มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี”
ที่ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า จึงเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้
เพราะหากพลังงานไฟฟ้าหมด ไม่เจอที่ชาร์จ ก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เบนซิน เต็มสูบ ได้ทันที
ส่วนในกรณีที่เรามีพลังงานไฟฟ้าอยู่ในแบตเตอรี รถก็จะขับเคลื่อนในโหมดไฟฟ้า
ซึ่งเราจะได้สัมผัสถึงขุมพลังไฟฟ้าด้วยอัตราการเร่งที่เหนือกว่า เงียบกว่า รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่าย
และช่วยลดมลพิษให้แก่โลกใบนี้อีกด้วย..
เครื่องยนต์เบนซิน 在 Singha HA Channel Facebook 的最佳貼文
มาละจร้าาา มาช้านิสนึงขออภัยด้วยคร้า
https://www.youtube.com/watch?v=mBI325a6vUA
ปิดตัว F150 RAPTOR 2021 สาดความโหดอย่างสมบูรณ์แบบ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ จากรุ่นก่อนหน้า คาดว่าไม่ต่ำกว่า 450 แรงม้า
และเครื่องยนต์ V8 คาดว่าจะทะยานขึ้นไปถึง 550 แรงม้า แรงบิดทะลุเกิน 800 นิวตันเมตร จากการปรับจูนของวิศวกรในสำนักแต่ง Ford Performance
และรุ่นใหม่อีกรุ่น 2022 All New Nissan Frontier เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.8 ลิตร 310 แรงม้า 381 นิวตัน-เมตร น่าเสียดายที่บ้านเราไม่นำโฉมนี้เข้ามาจำหน่ายแต่อย่างใด ราคายังไม่เปิดเผยแต่คาดการณ์ว่า จะเริ่มต้นที่ $27,090 หรือ 813,282.44 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า
เครื่องยนต์เบนซิน 在 Singha ha Channel Youtube 的最讚貼文
เปิดตัว F150 RAPTOR 2021 สาดความโหดอย่างสมบูรณ์แบบ เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ จากรุ่นก่อนหน้า คาดว่าไม่ต่ำกว่า 450 แรงม้า
และเครื่องยนต์ V8 คาดว่าจะทะยานขึ้นไปถึง 550 แรงม้า แรงบิดทะลุเกิน 800 นิวตันเมตร จากการปรับจูนของวิศวกรในสำนักแต่ง Ford Performance
และรุ่นใหม่อีกรุ่น 2022 All New Nissan Frontier เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.8 ลิตร 310 แรงม้า 381 นิวตัน-เมตร น่าเสียดายที่บ้านเราไม่นำโฉมนี้เข้ามาจำหน่ายแต่อย่างใด ราคายังไม่เปิดเผยแต่คาดการณ์ว่า จะเริ่มต้นที่ $27,090 หรือ 813,282.44 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า
––––––––––––––––––––––––––––––
Music: Cut It - Silent Partner https://youtu.be/EPijcymwqP4
––––––––––––––––––––––––––––––
Music: Garage - Topher Mohr and Alex Elena https://youtu.be/V3n78uCYdso
เครื่องยนต์เบนซิน 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
เปิดตัวในไทย พร้อมราคา The new Suzuki Swift 2021-2022 ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมใหม่ เริ่มต้นที่ 557,000 บาท
‘ซูซูกิ’ เปิดตัว NEW SUZUKI SWIFT อีโคคาร์สปอร์ตพรีเมี่ยมล่าสุด ภายใต้แนวคิด “Power You Up” แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ในราคาเริ่มต้น ที่ 557,000 บาท ตั้งเป้ายอดขาย 12,000 คันในปีนี้ หลังเติบโตสวนกระแสตลาด ที่ 7% กับยอดจำหน่ายรวมในปี 2563 ที่ 25,528 คัน พร้อมเป้าหมายยอดขายรวมทุกรุ่นในปีนี้ ที่ 30,000 คัน
‘NEW SUZUKI SWIFT ได้รับการพัฒนาใหม่ นำเสนอผ่านดีไซน์อันโดดเด่น และสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม อัพพาวเวอร์ให้กับทุกการขับขี่ ด้วย 3 ไฮไลท์ คือ
1. อัพความสนุก ในทุกความเคลื่อนไหว ไปกับความแรงของเครื่องยนต์ K12M พร้อมเทคโนโลยี DUALJET และแพลตฟอร์ม HEARTECT
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ที่จัดวางไว้ใกล้กับห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และทำงานโดยการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปที่กระบอกสูบ พร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น อัดฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำ และเป็นการลดอุณหภูมิในกระบอกสูบ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้
นอกจากนี้ การมีขนาดห้องเผาไหม้ที่เหมาะสม และมีอัตราส่วนกำลังอัดของกระบอกสูบ ที่ 11.5 ซึ่งเป็นกำลังอัดที่มากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิง เกิดการเผาไหม้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีการจุดระเบิด ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ DUALJET ยังมีระบบ EGR ที่ลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ระบายความร้อนแก๊สไอเสียด้วยน้ำ และหมุนวนเข้าท่อร่วมไอดี เป็นการลดการเผาไหม้ที่ผิดปกติ ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20
ด้านความปลอดภัย ยังคงโดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ยกระดับการขับขี่ ด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบา
รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก อีกทั้งยังอัดแน่นไปด้วย ระบบ ESP ช่วยควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และระบบ IDLING STOP ที่ลดมลพิษ และลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน ขณะรถหยุดนิ่ง เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เสริมด้วยระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ให้ขับสบายตลอดทาง พร้อมมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน พร้อมทั้งถุงลมนิรภัย ถึง 6 ตำแหน่ง
2. อัพดีไซน์ใหม่ สปอร์ตสุดเร้าใจ ด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมี่ยมและล้ออัลลอยปัดเงา
อัพดีไซน์สไตล์สปอร์ตสุดเร้าใจ สะท้อนภาพลักษณ์ และตัวตนของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี NEW SUZUKI SWIFT ได้รับการปรับโฉม เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียวที่กระจังหน้า ตกแต่งโครเมี่ยมแบบใหม่ และล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาใหม่ ขนาด 16 นิ้ว ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED โดยมิติของตัวรถ มีความยาว 3,845 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 มิลลิเมตร ความสูง 1,495 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร
3. อัพความสบายในห้องโดยสารดีไซน์สปอร์ต หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว
NEW SUZUKI SWIFT จัดเต็มระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบครัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้สามารถขับขี่ตลอดเส้นทาง ได้อย่างสบายและสนุก ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อ ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth
ภายในห้องโดยสารสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต กว้างสบาย รองรับการใช้งานได้หลากหลาย มาตรวัดตกแต่งลายเส้นสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขา และปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งทรงสปอร์ต โอบกระชับสรีระ
รองรับทุกไลฟ์สไตล์ในการเดินทาง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระ ขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย ด้วย Keyless Push Start สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ ได้ในปุ่มเดียว และเสริมความปลอดภัยในการถอยจอดทุกพื้นที่ ด้วยกล้องมองหลังสุดคมชัด
ฟีเจอร์ใหม่ในเกรด GL ที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อนได้แก่ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งลายเส้นโครเมียม, กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ/ Keyless entry, Keyless Push Start, สัญญาณเตือนเมื่อลืมกุญแจ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ในเกรด GLX ที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นก่อน ได้แก่ กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ตกแต่งลายเส้นโครเมียม, ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว, วัสดุตกแต่งคอนโซลและแผงประตูหน้าสีเงิน, กล้องมองหลัง จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
NEW SUZUKI SWIFT มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic (ZYH), สีแดง Ablaze Red Pearl (ZTW), สีขาว Pure White Pearl (ZYG), สีเทา Star Silver Metallic (ZTS), สีเทา Mineral Gray Metallic (ZTU) และสีดำ Super Black Pearl (ZTT) มาใน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น GL ราคาเริ่มต้น 557,000 บาท และรุ่น GLX ราคาเริ่มต้น 629,000 บาท ซูซูกิพร้อมมอบโปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด เพียง 1.99% และสามารถผ่อนเริ่มต้น ได้ที่ 3,333 บาท
อีกทั้งซูซูกิ จัดให้มีกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ NEW SUZUKI SWIFT ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 จึงขอเชิญทุกท่าน ร่วมสัมผัสและทดลองขับ NEW SUZUKI SWIFT ที่โชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้าน ครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 130 แห่ง
เครื่องยนต์เบนซิน 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
เปิดตัว ราคา โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส 2021 Toyota Corolla Altis 1.8 Sport โฉมใหม่ล่าสุด พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ในรุ่น 1.8 GR- SPORT และรุ่นไฮบริด Hybrid Premium
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แนะนำรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย โคโรลล่า อัลติส Make it through กับรุ่น 1.8 SPORT ใหม่ล่าสุด พร้อมเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ในรุ่น 1.8 GR- SPORT และรุ่น Hybrid Premium
ในปีนี้ บริษัท โตโยต้า ได้เสริมทัพรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเติมเต็มการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ กับโคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.8 SPORT ใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลาย อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ขนาด 7 นิ้ว แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และหน้าจอสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก
ในด้านสมรรถนะการขับขี่ สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA เพิ่มความมั่นคงของรถ จากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแกร่ง และเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot welding) รองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน อีกทั้งยังออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ ให้ความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ (Fun-to-drive) พร้อมมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ กับช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ในรุ่น 1.8 GR- SPORT และรุ่น Hybrid Premium (ชื่อเดิมคือ Hybrid Mid)
สำหรับราคาจำหน่าย Toyota Corolla Altis ใหม่ในรุ่นต่างๆ มีดังนี้
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
- Hybrid Premium Safety (เดิม Hybrid High) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท
- Hybrid Premium (เดิม Hybrid Mid) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 994,000 บาท
- Hybrid Smart (เดิม Hybrid Entry) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
-1.8 GR- SPORT 3 เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,009,000 บาท
3มี 3 สี Platinum White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica
- ใหม่ 1.8 SPORT เกียร์อัตโนมัติ ราคา 964,000 บาท
- 1.6G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 879,000 บาท
- Limo เกียร์อัตโนมัติ ราคา 839,000 บาท
*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid และเครื่องยนต์ 1.8 GR- SPORT และ1.8 SPORT เพิ่ม 10,000 บาท
ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ
เครื่องยนต์เบนซิน 在 เครื่องยนต์เบนซินกับดีเซลแบบไหนดีกว่ากัน | Car of Know - YouTube 的推薦與評價
Car_of_Know #ระบบเครื่องยนต์ #เครื่องยนต์เบนซิน #เครื่องยนต์ดีเซล หรือ ลิ้งค์ https://goo.gl/uLS66H Car of Know ช่องเรื่องเกี่ยวกับ รถยนต์ ... ... <看更多>
เครื่องยนต์เบนซิน 在 ล้วงลึกจุดกำเนิดระบบ Direct Injection ของเครื่องยนต์เบนซิน | X-RAY 的推薦與評價
X-Ray คลิพนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับระบบ Direct Injection ของเครื่องยนต์เบนซินที่มีอยู่ในรถยนต์บนท้องถนนทุกวันนี้ ว่ามีจุดกำเนิดมาจากอะไร ... ... <看更多>
เครื่องยนต์เบนซิน 在 การทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน (แก๊สโซลีน) | Car of Know 的推薦與評價
ระบบเครื่องยนต์ #Car_of_Know หรือ ลิ้งค์ https://goo.gl/uLS66H Car of Know ช่องเรื่องเกี่ยวกับ รถยนต์ และ มอเตอร์ไซค์ รถ หมายถึง พาหนะ ... ... <看更多>