ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับ PASSIVE INCOME
.
วันนี้มีเวลานั่งดูรายการในช่อง YouTube จับพลัดจับผลูเปิดไปเจอช่องรายการสอนรวยของกูรูธุรกิจและการลงทุน ตอนแรกว่าจะข้ามไป แต่เห็นเขาพูดถึง PASSIVE INCOME แถมยกหนังสือ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก) ที่ผมเป็นคนเรียบเรียงขึ้นมาอ้าง ก็เลยนั่งฟังดูสักหน่อย
.
เผลอแพร๊บเดียว นั่งดูไปตั้งหลายคนหลายตอน แต่บทสรุปที่ได้รับจากการดู ก็คือ ทุกคนพูดเรื่อง PASSIVE INCOME ดีเกินจริง ดีเกินไป เหมือนมีแล้วไม่ต้องทำอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เลย
.
วันนี้ผมเลยอยากหยิบยก 5 ความเข้าใจผิดๆ ที่พูดถึงกันบ่อยๆ เกี่ยวกับ Passive Income มาเล่าให้ฟังกันครับ
.
1) PASSIVE INCOME เป็นเรื่องง่ายๆ
.
ที่จริงประเด็นนี้ก็ใช่ว่าจะผิดไปทั้งหมดหรอกนะครับ เพราะ PI ที่ทำได้ง่าย มันก็มีจริงๆ อย่างเช่น “เงินฝาก” แค่เอาเงินไปฝากธนาคาร เราก็ได้ “ดอกเบี้ย” เป็น Passive Income แล้ว เพียงแต่อาจต้องมีเงินฝากเป็นกอบเป็นกำจริงๆ ดอกเบี้ยถึงจะพอเลี้ยงตัวเราได้
.
แต่ถ้าเป็น Passive Income จากธุรกิจและการลงทุน ในรูป “ค่าเช่า” “เงินปันผล” หรือ “ค่าลิขสิทธิ์” เช่น เป็นเจ้าของกิจการ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนรวม รวมไปถึงลิขสิทธิ์ในงานที่เราสร้างขึ้น อันนี้ต้องใช้ทักษะและความรู้เพิ่มขึ้นมาเยอะเลย ถึงจะมีรายได้จากทรัพย์สินได้
.
ทั้งนี้ไอ้ประเภท จ่ายเงินครั้งเดียว กินกำไรกันไปตลอด ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ และน่าจะเป็นการหลอกลวงเสียมากกว่า ยิ่งถ้าโฆษณาการันตีผลตอบแทนสูง ๆ อันนี้ยิ่งต้องระวังครับ
.
2) มี Passive Income แล้วเป็นเสือนอนกิน ไม่ต้องทำอะไร
.
ประเด็นนี้คิดว่าน่าจะเป็น Gimmick เอาไว้หลอกคนขี้เกียจอยากรวย อยู่เฉยๆ แล้วอยากได้เงิน ซึ่งก็ไม่่มีจริงหรอกครับ ผมเองมี Passive Income จากทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ย ค่าเช่า เงินปันผล และค่าลิขสิทธิ์ บอกได้เลยว่า ไม่ต้องทำอะไรแล้วจะได้รายได้ เป็นเรื่องไม่จริง
.
การมีทรัพย์สินที่สร้างรายได้ อาจช่วยผ่อนแรงให้คุณไม่ต้องทำงานทุกวัน และเลือกจัดสรรเวลาทำงานได้ แต่ไม่ทำงานเลย อันนี้คงไม่ใช่ ยกตัวอย่างเช่น
.
ถ้าคุณมีธุรกิจ: คุณอาจไม่ได้เข้าออฟฟิศทุกวัน เพราะมีลูกน้องคอยช่วยคุณทำงาน แต่คุณไม่ทำงานเลย ไม่บริหารจัดการ ไม่พบปะลูกค้า ไม่มีปัญหาอะไรให้คุณแก้เลย ก็คงจะไม่ใช่
.
ถ้าคุณมีบ้านเช่า: คุณก็ไม่ต้องทำงานทุกวัน สิ้นเดือนคอยเก็บค่าเช่าก็จริง แต่ระหว่างเดือนมีปัญหามาได้ตลอดนะ ไอ้โน่นเสีย ไอ้นี่พัง ผู้เช่ามีเรื่องทะเลาะกับบ้านข้างๆ วันดีคืนดีผู้เช่าย้ายออก ค่าเช่าหายแว๊บเลยนะ
.
ถ้าคุณมีลิขสิทธิ์: คุณก็ต้องคอยบริหารลิขสิทธิ์และผลประโยชน์ของตัวเอง มีเรื่องสู้กับคนละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บ่อยๆ
.
ถ้าคุณมีหุ้น: คงไม่มีหุ้นที่ซื้อไว้ครั้งเดียวแล้วกินปันผลจนตายได้หรอกครับ เวลาเปลี่ยน ธุรกิจมีทั้งเติบโตล้มตาย พอร์ตหุ้นก็ต้องปรับ มีข้อมูลให้ต้องติดตามอยู่ตลอด
.
โดยสรุปการมี Passive Income ไม่ใช่ว่ามีแล้วจะมีไปตลอด มันก็มีเพิ่มมีลดตามความสามารถในการสร้างรายได้ของทรัพย์สินที่เราถือครอง ดังนั้นมันจะขาดการทำงานของเจ้าของทรัพย์สินไปไม่ได้หรอกครับ
.
เพียงแต่ว่าถ้าคุณมีทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสด มันจะเหมือนคุณมี “เครื่องผ่อนแรง” ให้คุณได้พักจากการทำงานแลกเงิน (Active Income) อยู่บ้าง ช่วยให้คุณจัดสรรเวลาในชีวิต มีอิสระทางเวลาที่มากขึ้นเท่านั้น
.
จะสังเกตผมใช้คำว่า “เครื่องผ่อนแรง” เพราะมันทำงานให้เราได้ มันก็หยุดเสียหยุดซ่อมได้ อะไรที่มีคำว่า “เครื่อง” นำหน้า มีลักษณะแบบนี้เหมือนกันหมดครับ
.
3) Passive Inome จะทำเงินให้เราไปตลอด
.
ประเด็นนี้ก็ไม่จริงนะครับ ไม่มีอะไรเป็นอมตะนิรันดร์กาลขนาดนั้นหรอก จำไว้ว่า ทรัพย์สินใดๆ ในโลกล้วน Dynamic มีขึ้น มีลง มีเติบโต มีตกต่ำ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ด้วยกันทั้งหมดทั้งปวง (สาธุ)
.
ธุรกิจที่เคยทำเงิน วันหนึ่งก็กลายเป็นธุรกิจที่ล่มสลายได้ (ลองนึกธุรกิจที่เราเห็นในตอนเป็นเด็ก แต่วันนี้ไม่อยู่แล้วดู)
บ้านเช่าที่เคยมีคนอยู่อาศัยไม่เคยขาด วันหนึ่งก็อาจร้าง ไม่มีผู้เช่าได้เหมือนกัน (ช่วงโควิดนี่ชัดเลย)
.
ลิขสิทธิ์เพลง หนังสือ ที่เคยได้รับความนิยม วันหนึ่งคนก็ลืม ไม่ซื้อ ไม่โหลด (วันนึงโค้ชหนุ่มหันหลังให้ยุทธจักร ก็คงไม่มีคนซื้อหนังสือโค้ชหนุ่มแล้ว 555)
.
หุ้นที่เคยปันผล วันหนึ่งกิจการไม่ดี ไม่ทำกำไร ก็คงไม่มีปันผล
.
ไม่มีอะไรทำครั้งเดียวแล้วสบายไปตลอดชาติหรอกครับ ทุกอย่างมันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเสมอ ดังนั้นอย่าเผลอติดกับดักหลอกลวงแบบนี้ การรู้เท่าทันในทรัพย์สินที่เราลงทุน ความรู้ทางการเงินต่างหาก ความพร้อมในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง คือ สิ่งที่จะช่วยให้เรามั่งคั่งและมั่นคงได้จริง
.
4) PASSIVE INCOME ดีกว่า ACTIVE INCOME
.
ได้ยินการพูดถึง Passive Income ที่ไหน ก็มักจะมีการหยิกกัดรายได้จากการทำงาน หรือ Active Income เสียทุกครั้งไป พาลกันไปว่าการเป็นพนักงานประจำนั้นไม่ดี เงินเดือนมีเพดาน ไม่ทำหรือหยุดทำก็ไม่มีรายได้
.
โดยส่วนตัวผมมองว่า รายได้จากการทำงานไม่ใช่สิ่งเลวร้าย และหลายคนก็ใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรายได้จากทรัพย์สิน ด้วยการเก็บออม แล้วก็นำเงินไปลงทุนต่อยอด และจากเหตุผลในข้อ 3 ที่ว่า ไม่มีรายได้ช่องทางใดที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล Passive Income ที่เรามี อยู่ดีๆ ก็อาจวูบหายไปเลยก็เป็นได้
.
ทางที่ดีผมว่าเราควรมีแหล่งรายได้จากหลายช่องทาง หรือ Multi-Income Stream คือ มีทั้งรายได้จากทรัพย์สินคอยช่วยผ่อนแรง ไม่ให้เราต้องเหนื่อยไปตลอด และมีรายได้จากการทำงาน คอยเติม คอยสะสมต่อยอดความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้น่าจะดีกว่า
.
นอกจากนี้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกจากใจของคนที่มี Passive Income พอเลี้ยงตัวแล้วก็คือ ผมเองยังรักและชอบรายได้จากการทำงาน หรือ Active Income อยู่นะ เพราะแม้มันจะต้องทำงานถึงได้เงิน ต้องเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ผมรู้สึกว่าการทำงานมันทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า และได้รับความรู้สึกดีๆ ที่ได้ทำงาน ยิ่งถ้าได้ทำงานที่รัก ที่เราชอบ และเลือกทำมันด้วยตัวเองแล้วละก็ ยิ่งแจ่มกันไปใหญ่ ส่วน Passive Income ผมชอบที่มันช่วยผ่อนแรง ช่วยลดความกังวลทางการเงิน ทำให้เรามีเวลามากขึ้น และมีทางเลือกที่มากขึ้น
.
สรุปเลยดีกว่าไอ้โค้ช ชอบอะไรมากกว่าระหว่าง Active กับ Passive Income
คำตอบคือ “ทำอะไรที่สนุกแล้วได้ตังค์ กูเอาหมดครับ” 555
.
5) ต้องมี Passive Income ถึงจะมีอิสรภาพการเงิน
.
ถ้ายึดเอาตามนิยามหนังสือพ่อรวยสอนลูก ที่ว่าคนเราจะมีอิสรภาพการเงินได้ ก็ต่อเมื่อมีรายได้จากทรัพย์สินมากกว่ารายจ่ายรวม อิสรภาพทางการเงินแบบนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ Passive Income แต่ถ้าเรามองว่า อิสรภาพทางการเงินนั้น แก่นของมันคือ อิสระทางเวลา และการเบาบางความกังวลทางการเงิน ก็อาจไม่จำเป็นที่จะต้องมี Passive Income เยอะแยะมากมาย
.
ตัวผมเองตอนเริ่มต้นไม่ได้ตั้งโจทย์ว่าต้องมีรายได้จากทรัพย์สินดูแลตัวเองไปได้ตลอดชีวิต เพราะคิดว่าชีวิตคนเรามันเปลีี่ยนตลอด โจทย์มันถูกปรับตลอดตามเวลาและสถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ตอนนั้นเลยคิดโจทย์ง่ายๆ ว่า จะเก็บสะสมเงินให้พอใช้ได้ 5 ปี ให้ได้เร็วที่สุด
.
ลองนึกภาพว่า ถ้า 5 ปีต่อจากนี้ ไม่มีเงินรายได้เลยแม้แต่บาทเดียว เป็นเวลา 1,825 วัน แต่คุณมีเงินพอใช้จ่ายได้ทุกวัน ไม่เดือดร้อน มันทำให้คุณรู้สึก 1) มีอิสระทางเวลาขึ้นนิดนึงหรือเปล่า และ 2) มันเบาบางความกังวลทางการเงินของคุณไปได้บ้างมั้ย
.
ถ้าใช่! ในมุมมองผมนี่ก็เป็น “อิสรภาพทางการเงินเล็กๆ” แล้วเหมือนกันนะครับ ตัวผมเองตอนเก็บเงินพอใช้ 5 ปี มีหยุดพักเที่ยวอยู่ช่วงใหญ่ๆ เลย ประมาณว่าอยากซึมซับอิสระทางเวลาสักหน่อย ตอนแรกกะว่าจะพักผ่อนเต็มๆ 1 ปี สุดท้ายผ่านไปได้ 3 เดือน ก็เหมือนได้พักเต็มที่ คราวนี้กลับมาจัดหนักกว่าเดิม ขยับสู่ความสำเร็จทางการเงินที่เติบโตมากขึ้นได้อีก
.
นี่คือ 5 ประเด็นที่ผมอยากจะเคลียร์และอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับ Passive Income หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับคนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว และสร้างชีวิตกันทุกคนนะครับ
.
สุดท้ายแล้วการมีรายได้จากทรัพย์สิน ก็ดีกว่าไม่มีแหละครับ แต่การมีความคิดความเข้าใจที่ผิด จะทำให้เราเสียเวลาและไปสู่ความสำเร็จทางการเงินได้ช้า ยังไงก็ลองนำข้อคิดในวันนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ
.
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากมีอิสรภาพการเงินครับ
.
#โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過46萬的網紅เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth,也在其Youtube影片中提到,ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย 0193426433 บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด นะครับ ขอบพระคุณมากครับ หรือจะร่วมเป็นผู้สนับสนุน...
「เป็นเจ้าของกิจการ」的推薦目錄:
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 Money Coach Facebook 的最讚貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的精選貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth Youtube 的最讚貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 FUJISAKI FUJI Youtube 的精選貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 FUJISAKI FUJI Youtube 的最佳貼文
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 อยากเป็นนักธุรกิจ/เจ้าของกิจการ ต้องเรียนอะไร? เริ่มต้นอย่างไรดี? 的評價
- 關於เป็นเจ้าของกิจการ 在 ได้เป็น “เจ้าของกิจการ” สมใจอยาก... - อายุน้อยร้อยล้าน | Facebook 的評價
เป็นเจ้าของกิจการ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最佳貼文
หลายคนอาจวาดภาพฝันการทำธุรกิจไว้อย่างสวยงาม แต่ใครจะรู้ว่าการเป็นเจ้าของกิจการไม่ได้สบายอย่างที่หลายคนคิด! แม้จะมาพร้อมความภาคภูมิใจเมื่อกิจการประสบความสำเร็จและไปได้ดี เพราะเบื้องหลังความสำเร็จต้องแลกมาด้วยอะไรที่มากกว่านั้น แบบที่คนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการด้วยตนเองไม่มีวันเข้าใจ
.
วันนี้เราจะเปิดเผยอีกมุมหนึ่งของเจ้าของกิจการ กับ 10 เรื่องชวนปวดหัว ไมเกรนขึ้น! ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ ระหว่างทางนั้นพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
.
“จดทะเบียนบริษัท”
การจดทะเบียนบริษัท คือด่านแรกที่ต้องเจอเมื่อต้องการก่อตั้งบริษัท ซึ่งการจดทะเบียนบริษัทจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจได้ บางคนจดเพื่อรองรับการรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น บางคนจดเพื่อลดภาระด้านภาษี แต่ปัญหาคือ หลายคนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง และมองว่าเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะทำ แต่ที่จริงแล้วการจดทะเบียนบริษัทไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่มีหลายขั้นตอน และต้องใช้ความรอบคอบในการเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ ผู้ประกอบการหลายคนจึงเลือกจ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้มาทำแทน แต่อย่างไรก็ตามถ้าเจ้าของกิจการสามารถทำด้วยตัวเองได้ จะช่วยลดเวลาในการประสานงานไปได้ ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนอื่น รวมถึงยังได้ฝึกทักษะด้านเอกสารอีกด้วย
.
“ไม่มีเวลา อยู่กับงานมากกว่าคนรัก”
ปัญหาใหญ่ที่เมื่อคุณก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของกิจการต้องเจออย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นกิจการ ที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและเวลาทั้งหมดในการทำธุรกิจ อาจไม่ได้เลิกงานตามเวลา รวมถึงอาจไม่มีวันหยุดเหมือนคนอื่น ๆ เมื่อเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็อาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคุณกับครอบครัวหรือคนรักแย่ลง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ ควรจัดสรรเวลาหรือหากิจกรรมเพื่อทำร่วมกับครอบครัวหรือคนรัก พร้อมกับพูดคุยด้วยเหตุผลเพื่อให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่คุณทุ่มเท
.
“คิดราคางาน ให้ลูกค้า “Say yes!”
การดีลงานกับลูกค้า นอกจากรายละเอียดงาน รูปแบบงาน อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ว่าจะร่วมงานกับเราหรือไม่นั้น คือ “ราคางาน” ซึ่งการที่คุณเป็นเจ้าของกิจการ การคิดราคาจะไม่ใช่แบบเดียวกับการเป็นฟรีแลนซ์ เนื่องจากเมื่อเป็นบริษัท จะมีค่าใช้จ่ายแฝงมากมายที่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบในการคิดราคางาน ทั้งค่าเช่าออฟฟิศ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต เงินเดือนพนักงาน ฯลฯ
.
ดังนั้น ก่อนคิดราคางาน ต้องพูดคุยกับลูกค้าอย่างละเอียดถึงเนื้องานที่ลูกค้าต้องการ เช่น งานหรือสินค้าคืออะไร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร คอนเซ็ปต์คืออะไร เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลแล้ว คุณก็สามารถคำนวณราคาได้ แต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ลูกค้าพึงพอใจ และบริษัทเองก็ไม่ขาดทุน ยิ่งมีกำไรก็ยิ่งดีต่อบริษัทด้วย
.
“การเลือกพนักงานที่ใช่สำหรับบริษัท”
การเลือกใครสักคนเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ต่อให้ผ่านไปนาน เจอคนหลายรูปแบบ ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของกิจการรวมถึงฝ่ายบุคคล แล้วยิ่งเป็นพนักงานคนแรกของบริษัท ยิ่งเป็นเรื่องยากต่อการตัดสินใจว่าอยากได้คนแบบไหนเข้าร่วมทีม การสัมภาษณ์จึงต้องพูดคุยตั้งแต่แนะนำบริษัท รวมถึงการวางแผนในอนาคตของบริษัท ประกอบกับพูดคุยกับคนที่มาสัมภาษณ์ทั้งเรื่องงานและทั่วไป เพื่อดูว่าจะเข้ากับบริษัทได้หรือไม่
.
“การเชิญพนักงานออก”
การรับพนักงานคนแรกว่ายากแล้ว การจะตัดสินใจเชิญพนักงานสักคนออกก็ยากไม่ต่างกัน แม้จะคล้ายกับการบอกเลิกแฟนตรงที่ว่าความรู้สึกแย่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายทั้งคนบอกเลิกและคนโดนบอกเลิก แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือ การบอกเลิกพนักงานไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง เพราะการตัดสินว่าใครจะอยู่หรือไป จะต้องใช้เหตุผลเป็นหลัก แต่สิ่งที่ยากคือ จะทำอย่างไรให้การเชิญออกไม่ดูเป็นการพูดด้วยอารมณ์ สิ่งที่ควรพูดก็คือควรพูดอย่างตรงไปตรงมาบนหลักของเหตุผล ว่าเพราะอะไรจึงต้องให้เขาออก หากเขารับรู้ถึงสิ่งนั้นก็จะช่วยให้เขาพัฒนาและปรับปรุงเพื่อการทำงานในอนาคตได้
.
“กดดัน อยู่บนความคาดหวังของทุกคน”
การเป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัทหนึ่ง ความรับผิดชอบจะตกมาอยู่ที่เราเพียงผู้เดียว ตั้งแต่รายได้บริษัท พนักงาน งานต่างๆ ทำให้คนเป็นเจ้าของกิจการมีความกดดันและต้องอยู่บนความคาดหวังอยู่เสมอ ทางแก้ปัญหาคือ คุณต้องปล่อยวาง คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง เรื่องที่ไหนที่ไม่ถนัด ก็อาจหาที่ปรึกษามืออาชีพด้าน มาช่วยดูแลในด้านนั้นๆ เพื่อลดความกดดันให้ตัวเอง
.
“โดนลูกค้ายกเลิกงาน / ปฏิเสธลูกค้า”
ไม่ว่าจะโดนลูกค้ายกเลิกงาน หรือต้องปฏิเสธที่จะทำให้ลูกค้า ล้วนมาจากปัจจัยเดียวกันคือ การมีเป้าหมายไม่ตรงกัน และไม่เหมาะต่อการทำงานร่วมกัน สิ่งที่ ควรทำคือ การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรก และมีความซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน อธิบายลูกค้าให้เข้าใจถึงรูปแบบ ขั้นตอน เป้าหมายในการทำงาน พร้อมกับสอบถามในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เมื่อคิดว่าไม่น่าใช่ ก็อย่าฝืนที่จะไปต่อไป เพราะสุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้มักไม่ค่อยดีเท่าไหร่
.
“กว่าจะลงทุนซื้ออะไรสักอย่าง ต้องคิดแล้วคิดอีก”
เจ้าของกิจการมือใหม่ที่ยังมีเงินในบัญชีไม่หนามาก เป็นเรื่องธรรมดาที่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการมีในออฟฟิศ แต่ก็ไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ การจะซื้ออะไรสักอย่างจึงเป็นเรื่องยาก เพราะค่าใช้จ่ายของออฟฟิศมีอีกหลายอย่างที่เจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นจึงต้องเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละอย่างว่าอะไรสำคัญและไม่สำคัญบ้าง เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของได้ง่ายขึ้น
.
“เงินเดือนทุกคนออก ยกเว้นตัวเอง”
ช่วงแรกของการเปิดบริษัท เจ้าของกิจการอาจยังไม่ได้ให้เงินเดือนตัวเอง เพราะต้องนำเงินไปลงทุนในธุรกิจก่อนรวมถึงเงินเดือนพนักงานทุกคน แต่เมื่อผ่านไปเริ่มมีงานลูกค้าเข้ามา มีเงินเข้ามาในบัญชีมากขึ้น เจ้าของกิจการก็จะสามารถให้เงินเดือนตัวเองได้ หรือแม้แต่ช่วงที่เกิดวิกฤตกับบริษัท สภาพคล่องทางการเงินติดขัด ทางเลือกที่เจ้าของกิจการมักทำเพื่อต่ออายุให้บริษัทและพนักงานก็คือ การงดหรือลดเงินเดือนตัวเอง
.
“หยุดนิ่งไม่ได้ ต้องปรับตัวอยู่เสมอ”
เจ้าของกิจการ ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ ปรับตัวและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจตอบโจทย์สำหรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเพื่อเป็นการรักษาธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ต่อไปท่ามกลางการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง เพราะระหว่างที่เราปรับตัว คู่แข่งของเราเองก็ต่างปรับตัวเพื่อแย่งชิงลูกค้าอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน
.
จาก 10 ข้อเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้ากิจการต้องเจอในการทำธุรกิจ หากคุณคือคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากมีธุรกิจส่วนตัว เป็นเจ้าของกิจการ จำเป็นต้องเรียนรู้อยู่เสมอและยอมรับเรื่องเหล่านี้ให้ได้ เพราะสิ่งที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการต้องเจอในการทำธุรกิจจริงๆ ไม่ได้มีเพียง 10 ข้อเท่านั้น แต่อาจมีอีก 108 ปัญหาให้ได้ปวดหัวมากกว่านี้แน่นอน ถ้าคุณพร้อมจะเป็นเจ้าของกิจการแล้วก็ลุยเลย!!
.
ที่มา : https://bowkraivanich.com/10-experiences-entrepreneur/
https://www.leaderwings.co/leadership/business-4/
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#เจ้าของกิจการ #ผู้ประกอบการ #Businessowner
เป็นเจ้าของกิจการ 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的精選貼文
มีหลายคนที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่มักมีกำแพงที่ว่า การเริ่มต้นทำธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการ จะต้องเป็นเรื่องยากและไกลเกินเอื้อม สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ ความรู้ เพียงเพราะกลัวว่าจะ “ล้มเหลว”
.
และแน่นอนว่า การทำธุรกิจส่วนตัว เป็นเรื่องยากจริง แต่ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมแต่อย่างใด เพราะถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่คุณสามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งไอเดียทั้ง 6 ข้อต่อไปนี้ คือ ไอเดียสุดเจ๋งที่จะช่วยพาคุณไปสู่การเริ่มต้นธุรกิจที่คุณต้องการ โดยบางครั้งคุณอาจคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่า มันจะช่วยคุณได้!
.
1.พบปะกับคนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือ พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีแต่คนทำธุรกิจเก่งๆ เขาอยู่กัน
หลายคนอาจคิดว่า จะต้องลงคอร์สเรียนแพงๆ หรือพาตัวเองไปเจอกับนักธุรกิจชื่อดัง ถึงจะได้แนวคิดการทำธุรกิจที่ถูกต้อง ซึ่งความจริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลย แค่คุณกล้าที่จะออกไปพบปะกับผู้คนภายนอกทั่วไป ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
.
ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน ลูกค้า พ่อค้าแม่ค้า และการพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่เจอตามสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่การตอบอีเมลสุ่ม การแสดงความคิดเห็นในโพสต์ที่น่าสนใจร่วมกับคนแปลกหน้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ อาจทำให้คุณผุดไอเดียหรือแนวคิดที่จะไปต่อยอดในการทำธุรกิจของคุณด้วยก็ได้ ไม่เพียงแค่นั้น การพบปะกับคนมากขึ้น ยิ่งเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากขึ้นอีกด้วย
.
2.อย่ารอจนกว่าจะพร้อม เพราะการเริ่มต้นธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องรอความพร้อมหรือเวลาที่เหมาะสม แต่คุณต้อง “กล้า” และอย่า “กลัว” ที่จะเริ่ม
หากคุณมัวแต่รอให้ตัวเองพร้อม หรือรอเวลาที่เหมาะสม เช่น รอให้โตก่อน รอให้มีเงินก่อน แล้วค่อยเริ่มทำธุรกิจหรือเริ่มศึกษามันอย่างจริงจัง เพราะกลัวว่าจะล้มเหลว กลัวว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ? ที่คุณจะพร้อมสักที
.
ดังนั้น คุณต้องกล้าลงมือทำ แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป หากวันนี้ยังมีปัจจัยบางอย่างทำให้คุณไม่พร้อม อาจลองศึกษา หาความรู้ดูก่อน ทั้งจากในตำราเรียน รวมถึงการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากคนเก่งมากประสบการณ์ เช่น เข้าไปทำงานในธุรกิจที่ตัวเองอยากทำ เพื่อดูว่าเขาทำงานอย่างไร บริหารจัดการอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเก่งและรู้มากขึ้น ทั้งในแง่ของธุรกิจและตัวเองว่า คุณชอบมันจริงหรือเปล่า และทำมันได้หรือไม่
.
3.จุดเริ่มต้นของธุรกิจ อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “แผนธุรกิจ” เพียงอย่างเดียว ลองใส่ไอเดีย ความคิดสุดครีเอทของคุณลงไปในธุรกิจโดยไม่ต้องสนใจว่าจะสามารถทำเงินจากสิ่งนั้นได้หรือเปล่า
แผนธุรกิจ คือ สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้สิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจ แต่ถ้าคุณยึดติดกับมันมากเกินไปอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากกว่า มีผู้ประกอบการหลายคน ที่ประสบความสำเร็จและธุรกิจของพวกเขาก็สร้างรายได้แบบมหาศาล จากการนำความคิด ไอเดียแปลกๆ มาต่อยอดทำในธุรกิจโดยที่พวกเขาไม่สนใจเลยว่ามันจะทำเงินได้หรือไม่
.
แต่พวกเขาสนใจแค่ว่า ความคิด ไอเดียที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขานั้นจะพาเขาไปที่ใด และมันจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า มันกลายมาเป็นธุรกิจสร้างเงินที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะทำมัน
.
4.ไอเดียของธุรกิจ หรือแม้แต่คำพูดที่ว่า “ฉันกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ” มักเป็นสิ่งที่นำไปสู่ข้อจำกัด ทั้งในแง่ความคิดและจิตใจ
เพราะการเริ่มต้นทำธุรกิจ มักมาพร้อมกับหลายๆอย่าง ทั้งความกดดัน ความคาดหวัง และกลัวความล้มเหลว ถ้าคุณให้ค่ากับสิ่งพวกนี้มากเกินไป จะกลายเป็นว่า คุณตีกรอบตัวเองให้อยู่ในพื้นที่จำกัดทางความคิด จนทำให้คุณไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย ที่สำคัญมันจะทำให้คุณทำงานได้อย่างไม่เต็มที่เท่าที่ควรด้วย
.
ลองเปลี่ยนความคิด อย่าตีกรอบงานและความคิดในหัวให้แคบจนเกินไป แต่ลองคิดให้แตกต่างออกไปจากเดิม คิดให้กว้างขึ้นว่า คุณอยากทำอะไร คุณจะลงมือทำ และคุณจะทำมันสำเร็จแน่นอนไม่ว่าจะต้องเผชิญอุปสรรคคุณก็พร้อมสู้เสมอ
.
5.มองให้ลึกลงไปว่า แท้จริงแล้วความหลงใหลที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณ คืออะไร? แล้วนั่นแหละคือคำตอบของ “สิ่งที่คุณปรารถนาที่จะทำ”
คนบางคนอาจมีความชอบที่โดดเด่น รู้ว่าตัวเองชอบอะไร หลงใหล หรือเสพติดในสิ่งไหน แต่สำหรับบางคน ก็อาจยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองชอบ หลงใหลอะไร เช่น ชอบเล่นเกม ชอบพูดคุย ชอบสังสรรค์ ชอบประดิษฐ์สิ่งของ รวมถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณด้วย
.
คุณอาจต้องลองพินิจพิจารณาดูว่า แท้จริงแล้วคุณชอบอะไรกันแน่ ซึ่งก็สังเกตดูง่ายๆ ว่า คุณทำอะไรแล้วมีความสุข นั่นแหละคือความชอบที่แท้จริงของคุณ ซึ่งความชอบเหล่านี้ คุณก็สามารถแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังงานในการทำงานหรือมาเป็นแนวทางในการทำธุรกิจได้ เพราะเขาว่ากันว่า คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คือ คนที่รักในงานที่ทำ
.
6.อย่าเก็บธุรกิจสุดเจ๋งนี้ให้แค่คนบางกลุ่มรู้จัก แต่จงเปิดเผยทุกมุมของธุรกิจบนโลกออนไลน์ เพื่อให้โลกรู้ว่า ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นสุดยอดธุรกิจของจริง!
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร ขายสินค้าอะไร หรือให้บริการอะไร อีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้คุณมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และทำให้มีคนรู้จักธุรกิจคุณมากขึ้น คือ “ช่องทางออนไลน์” เนื่องจากเป็นช่องทางที่ให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถสร้างสรรค์สื่อต่าง ๆ ในการโปรโมท ประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักและสนใจมากยิ่งขึ้น
.
ทั้งการโพสต์ข้อความสั้นๆ บทความยาวๆ ภาพประกอบ และวิดีโอ ซึ่งไม่ว่าคุณจะโพสต์แบบไหน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ “กลุ่มเป้าหมาย” ว่าเขามีความสนใจอะไร โพสต์แบบไหนถึงจะดึงความสนใจได้มากกว่า ที่สำคัญคือ ต้องคอยอัปเดตความเคลื่อนไหว หากใครที่ขายสินค้า ก็ต้องอัปเดตข้อมูลสินค้าสม่ำเสมอด้วย และต้องเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นความจริง ไม่หลอกลวง และสร้างสรรค์ ยิ่งคุณทำได้โดนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเอาชนะใจลูกค้าได้มากเท่านั้น ซึ่งรับรองว่าไม่ใช่แค่เริ่มต้น แต่คุณจะสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคงแน่นอน
.
ที่มา : https://entrepreneurshandbook.co/these-six-tiny-ideas-can-lead-to-a-business-you-never-thought-youd-start-760ca605b999
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#ไอเดียธุรกิจ #เริ่มต้นธุรกิจ #เจ้าของกิจการ #idea #Business #entrepreneur #ธุรกิจ
เป็นเจ้าของกิจการ 在 เจาะข่าวตื้น Shallow News in Depth Youtube 的最讚貼文
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0193426433
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
นะครับ ขอบพระคุณมากครับ
หรือจะร่วมเป็นผู้สนับสนุนแบบรายเดือนให้พวกเราก็คลิกที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
https://www.youtube.com/c/ShallowNewsinDepth/join
แล้วเข้ามาดูของแปลกกันในกลุ่มนะ 555 ?
เจาะข่าวตื้น SpokeDark : กลับมาอีกครั้งกับรายการข่าวบั่นทอนสติปัญญาของท่าน กับนายจอห์น วิญญู และ พ่อหมอ ทวิตเตอร์ลุกเป็นไฟ ชาวทวิเตอร์ไทยท็อปฟอร์มระดับเอเชีย เกิดศึกระหว่างไทย-จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน ชานมข้นกว่าเลือดแน่นอนขอบอก กกต.เดินหน้าฟ้องอาญากับ ธนาธร ข้อหารู้ตัวว่าไม่มีคุณสมบัติแต่มาสมัครลงเลือกตั้ง อ้าว! แล้วใครเป็นคนรับรองเนี่ย!? งามหน้าโครงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 “เราไม่ทิ้งกัน” เละเทะ หลายคนยังไม่ได้ หลายคนถูกเปลี่ยนอาชีพเป็นเกษตรกร เป็นเจ้าของกิจการ เป็นนักเรียน ชาวบ้านเดือดร้อนจัด ไปตามหาตัว รมต.อุตม ถึงในกระทรวง ขณะที่โลกคู่ขนานการอุ้มคนรวยยังเป็นไปแบบรวดเร็ว มีการออก พ.ร.ก. กู้เงินให้ธนาคารแห่งชาติอุ้มหุ้นกู้หรือตราสารหนี้จำนวน 4 แสนล้านบาท และ อุ้มคนขายของดิวตี้ฟรีให้ส่วนลดล่วงหน้าถึง 2 ปี!! โธ่ อุตส่าห์ประมูลแบบไม่ผูกขาดแล้วแท้ๆ อิๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม : แบงก์ชาติ เปิดกับดัก พักชำระหนี้บ้านไม่จ่ายต้น-จ่ายดอก ยิ่งทำหนี้เพิ่ม คำนวณให้ดูกันเลย
https://money.kapook.com/view224116.html?fbclid=IwAR25nJkWiwStbHh2-RfPBYvJ34FEycZyuVHELovJPxNwHCX-Tplkk0HYOgk
#เราไม่ทิ้งกัน #รัฐบาล #ทวิตเตอร์
เป็นเจ้าของกิจการ 在 FUJISAKI FUJI Youtube 的精選貼文
เพจ : Dr.Fuji fujisaki
โทร: 02-6530860
ติดต่อ Line: @fujifujisaki
เป็นเจ้าของกิจการ 在 FUJISAKI FUJI Youtube 的最佳貼文
เพจ : Dr.Fuji fujisaki
โทร: 02-6530860
ติดต่อ Line: @fujifujisaki
เป็นเจ้าของกิจการ 在 ได้เป็น “เจ้าของกิจการ” สมใจอยาก... - อายุน้อยร้อยล้าน | Facebook 的推薦與評價
คอยมองภาพรวมและบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพที่ สุด จริงอยู่ที่ว่าเจ้าของกิจการ ควรเข้าใจและทำงานทุกอย่างเป็น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ... <看更多>
เป็นเจ้าของกิจการ 在 อยากเป็นนักธุรกิจ/เจ้าของกิจการ ต้องเรียนอะไร? เริ่มต้นอย่างไรดี? 的推薦與評價
อยาก เป็น นักธุรกิจ/ เจ้าของกิจการ ต้องเรียนอะไร? อยาก เป็น นักธุรกิจต้องทำอย่างไรถ้าคุณอยากรู้ว่าคุณต้องเรียนบริหาร การตลาด บัญชี วิศวะ หมอ ... ... <看更多>