ตำแหน่งในนามบัตร
---
วันก่อน ตอนโปรโมตว่าจะสัมภาษณ์ 'เทนนิส พาณิภัค' มิตรสหายท่านหนึ่งเข้ามาแซวว่า "ตกลงทำอาชีพอะไร" อ่านแล้วถึงกับหัวเราะออกมา เพราะได้ยินเสียงมิตรชัดเจน
จึงได้แรงบันดาลใจเขียนสิ่งนี้
ผมเคยคิดอยากทำนามบัตรนานแล้วแต่ไม่ได้ทำเสียที ยิ่งยุคนี้แล้วการแลกไลน์อาจง่ายกว่า แต่ก็รู้สึกเสียมารยาทนิดๆ เวลาไม่มีนามบัตรไว้แลกเวลาพี่น้องหยิบยื่นมา ถ้าทำจะใส่ตำแหน่งหรืออาชีพใต้ชื่อตัวเองว่า 'รับจ้างทั่วไป'
นั่นคือหากคิดว่าผมพอทำอะไรได้ก็ยินดีทดลอง
หนึ่งสิ่งที่คณะสถาปัตย์ปลูกฝังติดตัวก็คือเราสามารถ 'ร่างแบบ' ต่างๆ ขึ้นมาได้โดยแบบนั้นไม่จำเป็นต้องเป็น 'แบบไฟนอล' กระบวนการออกแบบคือการร่างแบบซ้ำๆ โยนทิ้งหลายหน คิดและแก้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอแบบที่ดีที่สุดภายใต้เงื่อนเวลา ซึ่งถ้าถ่างเวลาออกไปชั่วกาลนาน 'แบบที่ดีที่สุด' ก็จะคิดต่อได้ไม่รู้จบ (ซึ่งเหนื่อยเกิ๊น)
ผมมองชีวิตตัวเองเป็นกระบวนการออกแบบ เชื่อว่าทุกการงานคือการสเก็ตช์แบบขึ้นมา บางชิ้นก็น่าพอใจ บางชิ้นก็ต้องปรับแก้ แต่ทุกชิ้นทำให้เรารู้ว่าเราเก่งอะไร-ไม่เก่งอะไร ถนัดสิ่งไหน-ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่ม ฯลฯ ซึ่งสรุปรวมได้ว่างานทุกอย่างที่ทำนำมาซึ่งความเข้าใจตัวเองมากกว่าเดิม
🔸️🔸️🔸️
ทุกวันนี้การงานค่อนข้าง 'จับฉ่าย' แต่ผมชอบรสชาติของจับฉ่ายเพราะพืชผักนานาชนิดเมื่อนำมาคลุกเคล้าในหม้อเดียวจะผสมกันเป็น 'ความอร่อยใหม่' ผมเชื่อเรื่องความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ว่ามักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ
เช่นนี้แล้ว บางครั้งการงาน A เราอาจทำได้ประมาณ 4/10 แต่พอนำทักษะบางอย่างจากมันไปใช้รวมกับงาน B ที่ทำได้ 8/10 กลับทำให้งาน B นั้นเจ๋งขึ้นกลายเป็น 12/10 และให้รสชาติแปลกไปจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน B เขาทำกันอยู่--เรื่องเหล่านี้สนุกเสมอ
คำว่า 'ทั่วไป' สำหรับผมจึงเป็นความหมายที่ดี เพราะมันคือการปล่อยให้ตัวเองได้ทดลองวิ่งเล่น 'ไปทั่ว' เพื่อเก็บเกี่ยววัตถุดิบหลายอย่างมาผสมกันในหม้อ 'จับฉ่าย' จนเกิดความอร่อยในแบบเรา
ค่อนข้างชัดเจนว่าผมเชื่อในวิถีแห่งเป็ด ยอมรับว่าตัวเองเป็นเป็ดตัวหนึ่งซึ่งบินไม่สวยแบบนก ว่ายน้ำไม่เก่งเหมือนปลา เดินก็ช้ากว่าคน (ทั้งที่สองขาเหมือนกัน) แต่ความสนุกของเป็ดคือเกิดมาชีวิตหนึ่งมันได้ลองทำหลายอย่าง อยู่หลายที่ สนุกหลายสิ่ง ผมอาจวัดชีวิตตัวเองด้วยเกณฑ์นี้ ไม่ต้องเก่งกว่าใคร แต่ได้สนุกกับสิ่งที่อยากทำ
🔸️🔸️🔸️
ถึงวันนี้ผมยังคง 'รับจ้างทั่วไป' อยู่เสมอ หลายงานที่ทำก็เกี่ยวโยงกัน บางงานก็งอกออกมาเป็นแขนงใหม่ บางงานทำมานานแล้ว บางงานอยู่ในช่วงฝึกงานแต่ยังพยายามฝึกฝน
งานเขียน พิธีกร นักสัมภาษณ์ บล็อกเกอร์ พอดแคสเตอร์ บรรยาย น่าจะทำมานานประมาณหนึ่ง ตอนนี้ก็หัดเป็นยูทูบเบอร์กับเขาอยู่ ขยับเมาส์ออกแบบกราฟิกกิ๊กก๊อกระดับที่พอรับใช้ตัวเองได้ในชิ้นงานพื้นฐาน ถ่ายภาพมาประดับหนังสือหรือบางทีเป็นปก หัดวาดภาพอยู่เนืองๆ พยายามหัดทักษะกระบวนกรเพื่อจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่วนงานกำกับโฆษณา ถ้าสนุกและน่าสนใจก็ยังชอบทำ ใฝ่ฝันอยากเขียนบทหนัง อยากทำสารคดีในประเด็นที่ตัวเองสนใจ ยังอยากจัดนิทรรศการภาพถ่าย หัดจัดดอกไม้ ปั้นดิน เขียนเพลง จัดสวน ฯลฯ
อีกอย่างที่ชอบคือคุยกับคน
ถามว่ามีความสนใจหรือมีความรู้เรื่องไหนเป็นพิเศษไหม อาจตอบว่าไม่ แต่ใคร่รู้หลายเรื่อง และสนุกที่จะถามเสมอถ้าอีกฝ่ายสนุกตอบ เอาผมไปหย่อนไว้กับผู้รู้เรื่องใดสักคนผมสามารถจ่อมอยู่ตรงนั้นได้ทั้งวัน ถ้าท่านไม่รังเกียจ 555
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าตัวเองอาจคล้าย 'นักเก็บของป่า' หรือ 'นักจ่ายตลาด' ซึ่งแหล่งวัตถุดิบก็คือโลกทั้งใบ การเดินทาง ผู้คน หนังสือ หนัง เพลง ธรรมชาติรอบตัวล้วนแล้วแต่คือครู--เป็นแหล่งวัตถุดิบรุ่มรวยไม่รู้จบ
เมื่อได้วัตถุดิบแล้วก็นำมาหั่น เฉือน ปรุง สับ ทุบ โขลก คลุกเข้าด้วยกัน แล้วจัดการผัด ทอด ต้ม ยำ ตำ หมัก บ่ม จนออกมาเป็นผลลัพธ์ใหม่พร้อมเสิร์ฟให้ผู้คนลองชิม
🔸️🔸️🔸️
คนทำอาชีพ 'รับจ้างทั่วไป' น่าจะมีอยู่เยอะ แต่ละคนมีเคล็ดลับต่างกันไป แต่ถ้าถามผมว่าอะไรคือเคล็ดลับของอาชีพนี้ คำตอบคือ "อย่ามาตรฐานสูง" เพราะถ้าตั้งมาตรฐานไว้สูงว่าต้องทำให้ดีสมบูรณ์แบบ เราจะไม่ได้ทดลองทำอะไรเลย
เราควรทำงานทุกอย่างสุดฝีมือโดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ทำในแบบของเรา ทุ่มเทเต็มที่ แล้วเรียนรู้จากมัน ผมเชื่อเสมอว่างานที่ทำเต็มที่ไม่เคยออกมาขี้ริ้วขี้เหร่ และถ้าพรุ่งนี้เต็มที่อีกก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก
สิ่งสำคัญที่สุดคือเราได้เริ่มกรุยทางให้ตัวเองแล้ว กรุยไปแบบที่ยังไม่เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์นี่แหละ แต่ 'ทาง' เปิดออกแล้วด้วยมือของเราเอง
ฉะนั้น หากตกปากรับคำอะไร ผมไม่แน่ใจหรอกว่ามันจะออกมา 'ดีที่สุด' แต่มั่นใจว่าจะทำ 'เต็มที่ที่สุด' และไม่ว่าผลออกมาเป็นแบบไหน วันต่อไปมันจะ 'ดีขึ้น' และ 'ดีกว่าเดิม' ไปเรื่อยๆ
เป็ดน้อยตัวนี้อาจไม่ได้เก่งแบบนก แต่มันเป็นเป็ดที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ และความเก่งในแบบของมันนั้นเองที่พอไปถึงจุดหนึ่งมันจะทำในสิ่งที่นกก็ทำไม่ได้เช่นกัน
แต่นั่นไม่สำคัญอะไรเลย เพราะเป็ดนั้นไม่ได้ต้องการแข่งกับนกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณค่าสำคัญในชีวิตของมันไม่ใช่ 'ชัยชนะ' หากคือ 'ความสนุก' และคุ้มค่ากับที่ได้เกิดมาเพื่อทดลองทำในสิ่งที่เป็นไปได้
ไม่เก่งที่สุด แต่สนุกที่สุด
ไม่แหลมคมที่สุด แต่กว้าง
นั่นคือนิยาม 'รับจ้างทั่วไป' สำหรับผม
🔸️🔸️🔸️
เขียนมาเสียยาว แค่อยากกระซิบว่า เมื่อวานนี้เพิ่งปล่อย 'สารคดีสั้น' ที่มีโอกาสได้ไปทำร่วมกับทีม UnderDoc และบริษัท Roll wit It เป็นเรื่องราวของคนสามคนที่ล้มลงแล้วลุกขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้เป็ดตัวนี้รับหน้าที่ผู้กำกับ
ขอชวนชิม 'จับฉ่าย' หม้อล่าสุดกันครับ 😊
มาเสิร์ฟแล้ว คลิกได้เลย!
https://bit.ly/3g1O3I1
同時也有4534部Youtube影片,追蹤數超過385萬的網紅JZB Studio,也在其Youtube影片中提到,คลิปต้นฉบับ = https://www.youtube.com/watch?v=-VHA9MwqxeQ&t=1s ★ Follow Me ★ ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่ Facebook = https://www.facebook.com/JZBstudio Cha...
เพลง หนัง 在 Roundfinger Facebook 的最佳解答
เพื่อนในเฟซบุ๊กของผมมีรุ่นน้องในวัย 20-35 ปีอยู่ไม่น้อย สัมผัสได้ถึงพลังความฝันและความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานมากมายตามเส้นทางที่ตัวเองถนัด จำนวนมากเป็นคนเก่ง ไม่ใช่เก่งธรรมดา แต่เก่งมาก หากมีพื้นที่และโอกาสเชื่อว่าเขาสามารถทำผลงานในระดับเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเก่งๆ ในโลกนี้ได้เลย จะว่าไปในภาพรวมคนรุ่นนี้เก่งกว่าคนรุ่นผมอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงสามปีมานี้ สิ่งที่พบเจอผ่านสเตตัสของเพื่อนรุ่นน้องสะท้อนอารมณ์ทำนองเดียวกันออกมา นั่นคือหมดแรง ท้อใจ เลยไปจนถึงสิ้นหวัง ผมคิดว่าความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้เกิดจากตัวเขาเอง หากเกิดจากความรู้สึกสะสมที่ต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจ การบริหารงานของรัฐบาล รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่หมักหมมมาเนิ่นนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นนี้เชื่อมโยงชีวิตตัวเองเข้าเป็นเนื้อเดียวกันไปแล้ว
พวกเขาทราบดีว่าตัวเองย่อมมีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่านี้หากรัฐแห่งนี้มีความเสมอภาคในเรื่องต่างๆ มากกว่าที่เป็นอยู่ หากมีตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง (ไม่ใช่ตัวแทนสว.) เข้าไปดำเนินนโยบายที่ส่งผลดีต่อคนวงกว้าง ไม่ใช่ทุนใหญ่ หากมีสวัสดิการสังคมที่ดี ค่ารักษาพยาบาล การศึกษา สิ่งเกื้อกูลทางปัญญาและชีวิตที่เป็นสาธารณะ พวกเขาจะไม่ต้องแบกรับภาระไว้บนบ่าหนักหนาแบบที่เป็นอยู่
แต่นั่นก็เป็นความหนักหนาเรื่องการดำเนินชีวิต ทว่าที่กัดกร่อนอยู่ข้างในดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับ 'ผู้ใหญ่' ที่มีอำนาจในบ้านเมืองที่ให้ความรู้สึกเหมือนครูฝึกดุๆ ในค่ายฝึกวินัย ที่มีบุคลิกภาพไม่เปิดกว้างและไม่ค่อยเป็นไปอย่างที่ผู้นำในโลกยุคใหม่ควรเป็น การตื่นเช้ามาเจอ 'ครูฝึก' แบบนี้ทุกวันก็บั่นทอนจิตใจของหนุ่มสาวในวัยก่อร่างความฝัน ยังไม่นับถึงการเปิดพื้นที่สำหรับการมีส่วนร่วมในการคิด ฝัน และทำอย่างมีเสรีภาพ ถกเถียงกันในเรื่องที่ควรเถียง วิพากษ์วิจารณ์เพื่อปรับปรุงแก้ไข ซึ่งคับแคบเหลือเกิน
เหมือนดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้เมฆดำที่พร้อมจะมีฟ้าผ่าลงมาทุกเมื่อ หากทำอะไรไม่ถูกใจ หากฝันก็ฝันอยู่ภายใต้เมฆดำแห่งอำนาจนี้ ที่คนรุ่นนี้เศร้าก็เพราะไม่รู้ว่าจะออกไปจากเมฆยักษ์นี้ยังไง แล้วเมื่อไหร่จะเคลื่อนผ่านไป
...
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าช่วงเวลา 20-35 ปีเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตมีพลัง มีความฝัน และความคิดอยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ เราเรียนจบมา ทำงาน สะสมประสบการณ์มาถึงจุดหนึ่ง เราก็อยากแสดงพลัง ปล่อยแสง สร้างอาณาจักรให้เกิดขึ้นบนโลกและสังคมที่เราอาศัย
นี่คือวันวัยที่เป็นกำลังสำคัญของสังคม
จะน่าเสียดายแค่ไหนถ้าเราทำให้คนในวัยนี้ต้องบอบช้ำ หมดไฟ หมดพลังสร้างสรรค์ มากกว่านั้นคือจิตตกหดหู่ไปจนถึงซึมเศร้า กลายเป็นหัวใจที่มีบาดแผล
ตามข้อมูลมักบอกว่าเจนวายเป็นรุ่นที่ชีวิตไม่ง่าย เพราะเกิดมาในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนไว ข้อมูลล้นทะลัก การเปรียบเทียบผ่านโซเชียลมีเดีย แถมยังต้องแบกความคาดหวังของพ่อแม่และตัวเอง หากมองกันเฉพาะสังคมไทย เจนวายมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย เมื่อเผชิญสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้บวกกับโควิดเข้าไปอีก เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยจริงๆ
ในช่วงเวลาที่การงานและธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบ คนรุ่นนี้หลายคนที่กำลังไปได้ดีกลับต้องสะดุดลง งานที่กำลังทุ่มเทต้องหยุด กิจการคึกคักต้องปิด บางคนต้องเลิก บางทีมต้องแยกย้าย เมื่อหันไปมองการบริหารงานของภาครัฐในแต่ละวันก็ได้แต่ส่ายหัว กลุ้มใจ ไม่แปลกอะไรเลยที่เราจะได้เห็นคำด่ามากมายออกจากนิ้วของคนรุ่นนี้ (ซึ่งจะว่าไปก็ทุกรุ่นนั่นแหละ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับคนที่แก่กว่าก็อาจบ่นน้อยกว่านี้หากมองภาพรวม เพราะคนรุ่นนี้อยู่ในวัยที่มีฝัน มุ่งมั่น คาดหวังกับตัวเองได้ พวกเขากำลังสร้างโลกที่อยากเห็น แต่ดูเหมือนสิ่งแวดล้อมจะไม่เอื้ออำนวยนัก)
...
เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่มีข้อสรุปใดๆ แค่รู้สึกเห็นใจและเสียดาย เวลาที่เห็นคนรุ่นนี้ต้องใช้พละกำลังและหัวจิตหัวใจไปกับความเครียดรวมถึงปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่อ และแม้อยากช่วยแก้ไขก็ไม่ได้รับอนุญาต จะถูกกล่าวหาเป็นเด็กดื้อ
บรรยากาศของยุคสมัยในรุ่นของพวกเขาตื่นเช้ามาเจอข่าวร้าย ตกตอนสายไทม์ไลน์ท่วมด้วยคำด่าและความโกรธ (ซึ่งสมเหตุสมผล) บ่ายก็เจอพฤติกรรมน่าเหนื่อยหน่ายของผู้มีอำนาจ ตกเย็นก็อดด่าอีกรอบไม่ได้ จะเข้านอนก็รู้สึกหมดแรง ความรู้สึกลบยังเวียนวน บางคนอาจโทษตัวเองว่าทำไมฉันทำได้แค่นี้ ทั้งที่ฉันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ มากกว่านี้
อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่า จะเป็นยังไงถ้าคนหนุ่มสาวรุ่นนี้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เปิดกว้าง มีผู้นำที่รับฟัง เห็นศักดิ์ศรีของคนเท่าเทียมกัน มีพื้นที่ร่วมกันสร้างสรรค์อย่างหลากหลาย มีนโยบายสนับสนุนคนมีฝันทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ มิใช่หนุนหลังยักษ์เท่านั้น จะเป็นยังไงถ้าแวดวงต่างๆ ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ อาหาร หนัง เพลง หนังสือ ศิลปะ แฟชั่น เกม กีฬา วิทยาศาสตร์ ฯลฯ โดยไม่มีอุดมการณ์คับแคบมาครอบงำ จะเป็นยังไงถ้ามีคนที่เป็นตัวแทนของพวกเขาได้เข้าไปในสภา อยู่ในคณะรัฐมนตรี มองไปข้างหน้า แก้ปัญหาเรื้อรังต่างๆ กำหนดนโยบายที่ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ เลือกวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาขยายผล ผลักดันคนเก่งๆ ดันหลังสตาร์ทอัพ ลดความเหลื่อมล้ำทางโอกาส ไม่มีเส้นสาย นามสกุลอะไรก็แข่งอย่างเท่าเทียม ไม่มีการได้เปรียบจากมรดก เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน รวมถึงรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์
ชีวิต ความฝัน และความรู้สึกของพวกเขาจะเป็นยังไง
จะเปลี่ยนไปจากตอนนี้มากน้อยแค่ไหน
...
จิตใจที่บอบช้ำจากสิ่งที่สังคมเป็น จากการที่ผู้มีอำนาจกระทำทุกวี่วัน เป็นบาดแผลที่น่าเสียดาย ทุกครั้งที่มีเรื่องราวบิดเบี้ยวศีลธรรมอย่างแป้งมันหรือนาฬิกาเพื่อน มันฝากบาดแผลไว้ในใจคน ทุกครั้งที่มีข่าวที่อธิบายไม่ได้อย่างการจัดซื้อวัคซีน มันบั่นทอนความรู้สึก คอร์รัปชั่น การด้อยความสามารถ ความไม่จริงใจ การถือตนเป็นใหญ่ไม่ฟังใคร รวมถึงกริยาอาการที่ไม่เห็นหัวคนอื่น เหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนหัวใจที่เปี่ยมฝันให้กลายเป็นใจที่บอบช้ำและสิ้นไร้เรี่ยวแรง
จากคนเก่งค่อยๆ ร่วงหล่นกลายเป็นคนสิ้นหวัง
เราเสียโอกาสที่จะเกิดจากพลังสร้างสรรค์ไปเท่าไหร่แล้ว?
สังคมนี้และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองกระทำอะไรกับ 'ความฝัน' และ 'ความหวัง' ของสังคม เหมือนพวกเขาตกเป็นเหยื่อของโครงสร้างอัปลักษณ์ที่แข็งทื่อไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ยืดหยุ่น ไม่รับฟัง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะค่อยๆ เห็นคนหนุ่มสาวร่วงหล่นไปตามทางเรื่อยๆ ไม่ใช่ไม่สู้ แต่พวกเขาสู้จนเหน็ดเหนื่อยและสิ้นหวังแล้ว หลายคนจำเป็นต้องหลบไปเยียวยาจิตใจตัวเองก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
'ความหวัง' เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตและความฝัน ไม่ว่าของคนรุ่นไหน แต่ยิ่งในวันวัยที่เราให้ความสำคัญกับความฝันและการก่อร่างชีวิต หากปราศจากความหวังในชีวิตและบ้านเมืองเสียแล้ว ชีวิตที่ตื่นมาทุกวันย่อมน่าหดหู่
ผมค่อยๆ เห็นสเตตัสของเพื่อนรุ่นน้องร่วงหล่นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นใจและเสียดาย
ยอมรับว่าบางครั้งผมเองก็รู้สึกสิ้นหวังไม่ต่างจากพวกเขา
เพลง หนัง 在 Online Station Facebook 的最佳貼文
🌟เปิดรับสมัครพนักงานตำแหน่ง "Creative" 🌟
ตามหาครีเอทีฟสาย Game & ESports ร่วมงานกับ Online Station ใครที่มั่นใจว่าตัวเองรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับวงการ เกม และ ESports ไทยและเทศ สมัครเข้ามาได้เลย!
.
- วุฒิการศึกษาปริญญาตรีสาขานิเทศศาสตร์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง (พิจารณาพิเศษ)
- มีประสบการณ์ด้านครีเอทีฟและโปรดิวเซอร์ (พิจารณาพิเศษ)
- คิด Content ต่างๆ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดนอกกรอบเดิมๆได้
- ดูแล และรับผิดชอบ เนื้อหาของรายการ เพื่อลงช่องทาง Facebook และ YouTube
- ควบคุมการผลิตทาง ทั้งด้านการถ่ายทำ ด้านการตัดต่อ เพื่อลงช่องทาง Facebook และ YouTube
- ออกแบบ สคริปของรายการ
- ควบคุมและดูแลรายการ ขณะออกอากาศ(รายการสด) เพื่อลงช่องทาง Facebook และ YouTube
- มีความสนใจใน Popular culture หนัง/เพลง/เกม/การ์ตูน
.
⚠ หมายเหตุการสมัคร ⚠
- จำเป็นจะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเป็นของตัวเอง
- สถานที่ทำงาน True Digital Park 101
- ส่งตัวอย่างผลงานมาที่อีเมลล์ "[email protected]
- หัวข้อเมลล์ "สมัครงานตำแหน่ง Creative : ชื่อ - สกุล "
.
#OnlineStation
เพลง หนัง 在 JZB Studio Youtube 的最佳貼文
คลิปต้นฉบับ = https://www.youtube.com/watch?v=-VHA9MwqxeQ&t=1s
★ Follow Me ★
ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่
Facebook = https://www.facebook.com/JZBstudio
Chanel Youtube = https://www.youtube.com/c/jamezabang
สมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Online Station เพื่อช่วยพัฒนาให้ช่อง Youtube ของคุณเติบโตขึ้น http://caster.online-station.net
---------------------------------------- ---------------------------------------- ---------------------
::: สนใจติดต่อโฆษณาหรือสปอนเซอร์ :::
ติดต่อทีมงาน Online Station (เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น)
[email protected] โทร 090-974-8645 (คุณมุก)
เพลง หนัง 在 Wongnai Youtube 的精選貼文
เรียกได้ว่าเป็นการสืบคดีที่เผ็ดร้อนที่สุด ? เมื่อสาวัตรแคทยาลากหนูซัง ผู้ต้องหาคนที่ห้ามาสอบสวนด้วย 'กะเพราตาแป๊ะ' ? กะเพราสูตรเด็ดเผ็ดร้อนแรงย่านอโศก ? และงานนี้หนูซังยังได้คายความลับที่น่าตกใจออกมาด้วย ? ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญที่จะชี้ไปหาบทสรุปนั่นเอง❗
.
? ติดตามร้านกะเพรารสจัดจ้านย่านอโศกจากกะเพราเลิฟเว่อร์ตัวจริง ที่ 'ร้านกะเพราตาแป๊ะ'
⭐️ : ดูพิกัด และ รีวิวเพิ่มเติม ?? https://www.wongnai.com/restaurants/402009gs
________________________
#Saveร้านอาหาร ? ช่วงนี้กินร้อน แยกจาน ล้างมือบ่อย ๆ น้าเป็นห่วง
? ค้นหาข้อมูลร้านอาหารจากทั่วประเทศพร้อมอ่านและร่วมแบ่งปันรีวิวกันได้ที่แอป Wongnai
? ดาวน์โหลดฟรีที่นี่ bit.ly/2MRnppt
เพลง หนัง 在 JZB Studio Youtube 的精選貼文
วันนี้จะมาจัดอันดับหนังภาคต่อที่โคตรกาก มีเรื่องอะไรบ้างมาชมกัน
★ Follow Me ★
ติดตามผลงานอื่นๆได้ที่
Facebook = https://www.facebook.com/JZBstudio
Chanel Youtube = https://www.youtube.com/c/jamezabang
สมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Online Station เพื่อช่วยพัฒนาให้ช่อง Youtube ของคุณเติบโตขึ้น http://caster.online-station.net
---------------------------------------- ---------------------------------------- ---------------------
::: สนใจติดต่อโฆษณาหรือสปอนเซอร์ :::
ติดต่อทีมงาน Online Station (เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น)
[email protected] โทร 090-974-8645 (คุณมุก)