Nordic กลุ่มประเทศ ที่คนมีความสุข อันดับต้น ๆ ของโลก /โดย ลงทุนแมน
“เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน”
ถ้าพูดถึงประเทศที่น่าอยู่ที่สุด หลายคนคงจะนึกถึง 5 ประเทศนี้
5 ประเทศนี้ ถูกเรียกรวมกันว่า กลุ่มประเทศ “Nordic”
ซึ่งได้รับการขนานนามว่า เป็นกลุ่มประเทศที่
คนในประเทศมีความสุขเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
เรื่องราวของประเทศเหล่านี้ น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
กลุ่มประเทศนอร์ดิก เป็นกลุ่มประเทศ ที่ตั้งอยู่ในแถบยุโรปตอนเหนือ
ประกอบด้วย 5 ประเทศ คือ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน
ซึ่งก็ต้องหมายเหตุด้วยว่า ประเทศในกลุ่มนี้ ยังรวมไปถึง กรีนแลนด์ หมู่เกาะแฟโร
ที่เป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก
และหมู่เกาะโอลันด์ ที่เป็นเขตการปกครองตนเองของฟินแลนด์
กลุ่มประเทศนอร์ดิก มีการจัดตั้งคณะมนตรีนอร์ดิก ขึ้นในปี 1952 เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือกันระหว่างสภาและรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ภายในกลุ่ม เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพ ความมั่นคง การพัฒนาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งกันและกัน
แล้วข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญของกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่น่าสนใจมีอะไร
- พื้นที่รวม 3.4 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก
- มูลค่าขนาดเศรษฐกิจรวม 50 ล้านล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก
- รายได้เฉลี่ยต่อหัว 1.8 ล้านบาทต่อคนต่อปี มากเป็นอันดับที่ 13 ของโลก
- จำนวนประชากร 27.4 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 49 ของโลก
จากข้อมูลดังกล่าวก็พอจะสังเกตได้ว่า กลุ่มประเทศนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ มีประชากรไม่มาก แต่ถือว่ามีขนาดเศรษฐกิจและรายได้เฉลี่ยต่อหัวในระดับที่สูง
แล้วจุดเด่นของกลุ่มประเทศนอร์ดิกมีอะไรบ้าง ?
เรื่องแรกเป็นเรื่องของทรัพยากรพลังงานที่มีปริมาณมาก
และการมีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ถือว่า ก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ยกตัวอย่างเช่น
- นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ มากเป็นอันดับที่ 21 ของโลก
- เดนมาร์กเป็นประเทศแรก ที่สามารถสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งเพื่อการผลิตไฟฟ้า
- ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตพลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพ ที่ใช้สำหรับทำความอบอุ่น แก่ที่พักอาศัยและอาคารสำนักงาน
กลุ่มประเทศนอร์ดิก เป็นแหล่งกำเนิดของบริษัทรายใหญ่ของโลกหลายแห่ง ตัวอย่างเช่น
- IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของโลก จากสวีเดน
- MAERSK บริษัทขนส่งทางทะเล และขนส่งสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่สุดของโลก จากเดนมาร์ก
- Telenor บริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติรายใหญ่ของโลกจากนอร์เวย์ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ DTAC บริษัทที่ให้บริการโทรคมนาคมในประเทศไทย
- NOKIA บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลก จากฟินแลนด์
ประเทศในกลุ่มนอร์ดิก อย่างสวีเดน ยังเป็นต้นกำเนิดของเทคโนโลยีรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย “บลูทูธ”
ซึ่งรู้ไหมว่า ชื่อ บลูทูธ ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์นามว่า “ฮารัลด์ บลูทูธ (Harald Bluetooth)” ที่เคยปกครองดินแดนแถบนอร์ดิกนี้ในยุคไวกิง
อีกเรื่องที่ถือว่ามีความสำคัญและน่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มประเทศนอร์ดิก
คือประเทศในกลุ่มนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็น
กลุ่มประเทศที่ประชากรมีความสุขเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
นับตั้งแต่องค์การสหประชาชาติได้เริ่มเผยแพร่รายงานชื่อ “World Happiness Report” ครั้งแรกในปี 2012 ซึ่งเป็นรายงานผลสำรวจข้อมูลดัชนีความสุขมวลรวมของแต่ละประเทศทั่วโลก
ประเทศในกลุ่มนอร์ดิก มักได้รับการจัดอันดับ เป็นประเทศที่มีความสุขอันดับต้น ๆ ของโลกมาโดยตลอด
ซึ่งตัวชี้วัดระดับความสุขของรายงานดังกล่าว จะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้เฉลี่ยต่อหัว, อายุขัยของประชากร, การสนับสนุนทางสังคม, ความเอื้ออาทรของคนในสังคม, อิสรภาพจากการใช้ชีวิต และดัชนีชี้วัดอันดับการคอร์รัปชันของประเทศ
โดยในปี 2020 นั้นมีจำนวนประเทศที่ได้รับการประเมินจำนวน 156 ประเทศ
เราลองมาดูผลการจัดอันดับว่า ประเทศในกลุ่มนอร์ดิกนี้ได้รับการจัดอันดับเท่าไรกันบ้าง
- ฟินแลนด์ อันดับ 1
- ไอซ์แลนด์ อันดับ 2
- เดนมาร์ก อันดับ 3
- สวีเดน อันดับ 6
- นอร์เวย์ อันดับ 8
โดยเฉพาะฟินแลนด์ ที่ดูแล้วคนในประเทศคงจะฟินสมชื่อ
เพราะครองตำแหน่งชาติที่มีความสุขมากที่สุดในโลกได้อย่างเหนียวแน่น เป็นระยะเวลาถึง 4 ปีซ้อน
ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนอร์ดิก ก็มักจะติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกมาโดยตลอด
อีกประเด็นคือ ประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ขึ้นชื่อเรื่องต้องจ่ายภาษีในอัตราที่สูงอันดับต้น ๆ ของโลก
ปัจจุบัน อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศในกลุ่มนอร์ดิก อยู่ในช่วง 38-57%
โดยฟินแลนด์ เป็นประเทศที่จัดเก็บอัตราภาษีดังกล่าวสูงที่สุดในกลุ่ม ที่ 56.95% ในขณะที่ประเทศอย่างเดนมาร์กและสวีเดน ก็มีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่า 50%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประชาชนของประเทศเหล่านี้ จะเสียภาษีในอัตราที่สูง แต่ก็ได้รับบริการจากภาครัฐหรือรัฐสวัสดิการที่ถือว่าคุ้มค่า จนสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนนั้นดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ประชาชนในประเทศมีความเต็มใจที่จะจ่ายภาษีในอัตราสูง ๆ ให้ภาครัฐ
ตัวอย่างที่นอร์เวย์ มีการลงทุนในระบบผลิตน้ำประปา รวมไปถึงการตรวจสอบคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ เพื่อทำให้ประชาชนสามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำสาธารณะได้อย่างปลอดภัย
ปัจจุบัน คุณภาพน้ำประปาที่นอร์เวย์มีคุณภาพดีที่สุด 3 อันดับแรกของโลก
การเรียนการสอนของโรงเรียนในฟินแลนด์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพในระดับแนวหน้าของโลก
และหลายประเทศในกลุ่มนี้ สามารถจัดหาการเรียนการสอน รวมทั้งการรักษาพยาบาล ในราคาที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้
บางประเทศสามารถให้บริการดังกล่าวฟรีแก่ประชาชน โดยทั้งสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาล จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลที่มาจากภาษีของประชาชน
นอกจากการจัดหารัฐสวัสดิการ ที่มีความจำเป็นขั้นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิตให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว อีกเรื่องคือ เรามักไม่ค่อยได้ยินข่าวการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยจากประเทศในกลุ่มเหล่านี้มากนัก
เรื่องนี้ก็สะท้อนออกมาจากข้อมูลของ Global Peace Index Rankings ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงถึงความสงบสุขของแต่ละประเทศนั้นพบว่า ในปี 2019 ประเทศที่มีความสงบสุขอันดับ 1 ของโลกคือ ไอซ์แลนด์
และประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนอร์ดิก ก็ติดอันดับ 1 ใน 20 ของดัชนีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
จากเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ ก็คงไม่แปลกใจ
ที่ทำไมเวลาพูดถึงประเทศที่คนมีความสุขที่สุดในโลก
จะต้องพูดถึงชื่อของประเทศในกลุ่มนอร์ดิกเหล่านี้ขึ้นมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Nordic_countries
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/World_Happiness_Report
-https://en.wikipedia.org/wiki/Maersk
-https://tradingeconomics.com/country-list/personal-income-tax-rate
-https://www.usnews.com/news/best-countries/articles/10-safest-countries-ranked-by-perception?slide=8
-https://www.sjwater.com/our-company/news-media/water-blogged/three-countries-best-water-quality-world
-https://finance.yahoo.com/quote/MAERSK-B.CO/financials?p=MAERSK-B.CO
-https://www.worldatlas.com/articles/scandinavian-countries.html
「เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์」的推薦目錄:
- 關於เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 ลงทุนแมน - ประเทศไอซ์แลนด์ ทำธุรกิจอะไร? / โดย ... - Facebook 的評價
- 關於เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 'ไอซ์แลนด์ ชาติสุดปลอดภัย' เผชิญอาชญากรรมพุ่งสูง - YouTube 的評價
- 關於เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的評價
เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
ประเทศแถบหนาว เจริญกว่า ประเทศแถบร้อน จริงหรือ? /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่ไหน ?
คำตอบคือ ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ ที่ตั้งอยู่ในเขตที่มีอากาศหนาวเย็น
ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ จะอยู่ในทวีปเอเชียและแอฟริกา ที่มีอากาศร้อนกว่า
จึงมีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่า จริง ๆ แล้วสภาพอากาศ
อาจมีอิทธิพลต่อการพัฒนาประเทศ
ประเทศแถบหนาว ต้องเจริญกว่า ประเทศแถบร้อน จริงหรือ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลเหล่านี้กันก่อนว่า แนวคิดดังกล่าวสะท้อนความจริงของเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
รู้ไหมว่า ประเทศที่มีมูลค่าเศรษฐกิจขนาดใหญ่เมื่อวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตหนาว และส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
โดย 10 ประเทศ ที่มี GDP มากที่สุดในโลก เมื่อเอา GDP มาบวกรวมกันแล้ว จะมีมูลค่าประมาณ 1,980 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 70% ของ GDP ทั้งโลก
ซึ่ง 10 ประเทศนั้นมาจาก
- ทวีปอเมริกาเหนือ 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
- ทวีปยุโรป 4 ประเทศ คือ เยอรมนี สหราชอาณาจักร อิตาลี และฝรั่งเศส
- ทวีปเอเชีย 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และอินเดีย
ถ้าไม่นับจีนและอินเดีย ที่มี GDP สูงจากจำนวนประชากรที่มาก
ประเทศที่เหลือทั้งหมดจะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตที่มีอากาศหนาว
อีกประเด็นคือ ประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุด 10 อันดับแรกของโลก มาจาก
- ทวีปยุโรป 6 ประเทศ คือ ลักเซมเบิร์ก สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และเดนมาร์ก
- ทวีปอเมริกาเหนือ 1 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา
- ทวีปเอเชีย 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และกาตาร์
- ทวีปออสเตรเลีย 1 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีอากาศหนาว
ยกเว้น สิงคโปร์และกาตาร์ ที่ตั้งอยู่เขตอากาศร้อน
และออสเตรเลียนั้น เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่
ที่มีพื้นที่ทั้งที่มีอากาศหนาวเย็น และบางพื้นที่มีอากาศอบอุ่นถึงร้อน
ซึ่งที่น่าสนใจคือ เมืองดาร์วินที่เป็นเมืองหลวงของรัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี รัฐทางตอนเหนือของออสเตรเลีย เป็นเมืองหลวงที่ร้อนที่สุดในประเทศ และเป็นเมืองหลวงที่ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวน้อยที่สุดในบรรดา 6 รัฐของออสเตรเลีย
จากข้อสังเกตเหล่านี้ จึงทำให้เกิดความเชื่อกันว่า ประเทศหรือพื้นที่ที่มีอากาศหนาวมักจะเจริญกว่าประเทศหรือพื้นที่ที่มีอากาศร้อน
David Landes อาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Harvard เคยกล่าวไว้ว่า สำหรับประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศในแถบร้อน การจะมีชีวิตอยู่รอดได้ ผู้คนเหล่านั้นควรต้องทำงานช้าลง เพราะเหงื่อจะออกมาก ซึ่งนั่นอาจหมายถึง ผลิตภาพในการผลิต (Productivity) จะลดลงไปด้วย
สำหรับประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า สภาพอากาศที่เย็น ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องมีการวางแผนและร่วมมือมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในฤดูหนาว
เช่น ในสมัยโบราณ การล่าสัตว์และการหาอาหารนั้น ถือว่าทำได้ยากในฤดูหนาว ทำให้มนุษย์ในสมัยก่อนต้องวางแผนล่วงหน้า ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านั้น
การอาศัยในพื้นที่ที่หนาวเย็น ยังบังคับให้ผู้คนบริเวณนั้น ต้องหาทางสร้างที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความหนาวเย็น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือระหว่างคนหลายฝ่ายเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในขณะที่ถ้าลองเทียบกับประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบร้อน จะพบว่า มนุษย์ที่อาศัยในภูมิอากาศแบบเขตร้อนที่มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องสร้างที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมมากเท่าไรนัก
ขณะที่การล่าสัตว์และหาอาหาร ก็สามารถทำได้สะดวกกว่าตลอดทั้งปี
แม้หลักฐานหลายอย่างจะบอกว่า สภาพอากาศเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาประเทศหรือระดับของคุณภาพชีวิตของประชากรในพื้นที่หรือประเทศนั้น ๆ
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง เราก็จะเห็นว่า มีหลายประเทศที่ไม่ได้มีอากาศหนาว แต่กลับสามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวขึ้นไปเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
เช่น สิงคโปร์ และหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ก็เพราะว่า การพัฒนาประเทศมันไม่ได้มีแค่ ปัจจัยเรื่องอุณหภูมิในประเทศเพียงเท่านั้น
แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน เช่น ความมั่นคงทางการเมือง เสถียรภาพของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ ความมั่งคั่งของทรัพยากรทางธรรมชาติของแต่ละประเทศ และคุณภาพประชากร
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ กรณีของสิงคโปร์
ที่แม้ว่าจะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ทั้งยังเป็นประเทศที่เพิ่งเกิดขึ้นในปี 1959 หรือเมื่อ 62 ปีที่แล้วเท่านั้น แต่ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในปัจจุบัน
ด้วยความที่สิงคโปร์นั้นเป็นเกาะขนาดเล็กและไม่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มากมายเหมือนหลายประเทศในเอเชีย ทำให้ในอดีตสิงคโปร์เคยถูกมองว่า จะเป็นประเทศที่ไม่สามารถพัฒนาจนร่ำรวยได้
อย่างไรก็ตาม การที่ผู้นำของสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศที่มุ่งเน้นพัฒนาทรัพยากรบุคลากร ให้มีความรู้ทั้งด้านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี
มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างกรณีของท่าเรือที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีการขนถ่ายสินค้าผ่านตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
หลังจากนั้นก็ต่อยอดมาเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จนตอนนี้ได้ตั้งเป้าเพื่อเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและสตาร์ตอัปของภูมิภาค ด้วยการดึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีให้เข้ามาทำงานในประเทศมากขึ้น
ยังไม่รวมการที่รัฐบาลสิงคโปร์มุ่งมั่นในการปราบคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใส (Corruption Perceptions Index) สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2020
สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยทำให้เกาะเล็กอย่างสิงคโปร์ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศพัฒนาแล้วและมีรายได้ต่อหัวของประชากรมากเป็นอันดับ 8 ของโลกในวันนี้
กรณีของประเทศในตะวันออกกลาง ที่อยู่ในเขตร้อนอย่าง กาตาร์ ก็เช่นเดียวกัน
แม้กาตาร์จะมีความโชคดี ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่จำนวนมหาศาล
มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 25,244 ล้านบาร์เรล หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 55 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก
แต่กาตาร์ก็รู้ว่า ในอนาคตรายได้จากน้ำมันมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น รายได้ดังกล่าวจึงต้องถูกนำมาใช้และบริหารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อย่างในปี 2008 รัฐบาลกาตาร์ได้ออกแผน Qatar National Vision 2030 ซึ่งเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกาตาร์ เพื่อพัฒนาด้านบุคลากร เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม สำหรับรองรับความท้าทายและกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก
หนึ่งในนั้นคือ การลงทุนด้านการศึกษาซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ
อย่างเช่น การจัดตั้ง Education City ด้วยการดึงมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกทั้งจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส เข้ามาตั้งเป็นวิทยาเขตในประเทศ
วันนี้ ประชาชนชาวกาตาร์ มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงเป็นอันดับที่ 10 ของโลก และถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นกัน
สรุปคือ แม้เราจะเห็นหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นกันมาก และแม้ว่าความหนาวเย็นของอากาศในประเทศ จะมีผลต่อ Productivity ของคนในประเทศนั้นไม่มากก็น้อย
แต่อย่าลืมว่า การจะเป็นประเทศที่คนมีรายได้สูง และเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น มันไม่สามารถตัดสินได้ด้วยปัจจัยเรื่องความสูงต่ำของอุณหภูมิเพียงอย่างเดียว
ซึ่งเราคงบอกได้ว่า ถ้าประเทศนั้นมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศที่ชัดเจน
ใช้จุดเด่นของประเทศให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ไม่ว่าประเทศนั้นจะตั้งอยู่ตรงไหนของแผนที่โลก
อากาศในประเทศจะร้อนหรือจะหนาว
ประเทศนั้น ก็คงสามารถกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้เช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.sgsep.com.au/assets/main/SGS-Economics-and-Planning-Economic-performance-fo-asutralias-cities-and-regions-report.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://www.dailymail.co.uk/news/article-8477297/Why-colder-countries-richer-hot-nations.html
-https://data.worldbank.org/
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_proven_oil_reserves
-https://www.transparency.org/en/cpi/2020/index/nzl
-https://en.wikipedia.org/wiki/Education_City
- http://www.futurecasts.com/Landes,%20Wealth%20&%20Poverty%20of%20Nations.html
-https://blogs.worldbank.org/opendata/new-world-bank-country-classifications-income-level-2020-2021
เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 'ไอซ์แลนด์ ชาติสุดปลอดภัย' เผชิญอาชญากรรมพุ่งสูง - YouTube 的推薦與評價
ไอซ์แลนด์ ประเทศปลอดภัยที่สุดในโลก เพราะมีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาหลายสิบปี กำลังเผชิญปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูง เกิดเหตุกราดยิง 4 ... ... <看更多>
เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的推薦與評價
มิติด้านเศรษฐกิจ ... โบแนร์, โบลิเวีย, ประเทศซิมบับเว, ประเทศไลบีเรีย, ประเทศไอซ์แลนด์ ... โอลันด์, ไอร์แลนด์, ไอวอรี่โคสต์, ฮ่องกง, ฮอนดูรัส, ฮังการี, เฮติ. ... <看更多>
เศรษฐกิจ ไอซ์แลนด์ 在 ลงทุนแมน - ประเทศไอซ์แลนด์ ทำธุรกิจอะไร? / โดย ... - Facebook 的推薦與評價
โดย ลงทุนแมน เมื่อพูดถึงไอซ์แลนด์ ภาพที่หลายคนนึกถึงก็คงจะเป็น ... มีระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แม้จะเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2008 แต่ก็ยังฟันฝ่ามาได้ ... <看更多>