Deliver Us from Evil (ให้มันจบที่นรก) เป็นหนังที่ต้องขอให้คำจำกัดความสั้นๆว่า อีควาย! เท่านั้น 2/10
.
ขอบอกก่อนว่าหนังล็อตนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเลย พยายามอยากเข้าโรงหนังก็มาสะดุดเรื่อง Deliver Us from Evil นี้แหละ ที่ว่าเครดิตพระเอก ฮวังจองมิน จาก Wailing กับ อีจองแจ และมันทำเงินในเกาหลีค่อนข้างเยอะมาก ว่ากันว่าชนะเพนนินซูล่าด้วย เลยคาดหวังว่าจะดีจะเหี้ยดูเอาสนุกก็ได้วะ แต่พอเข้าไปดูนีคืออุทานว่า อีควายหลายรอบมาก มันมีความป่วงและความพินาศหลายจุดมาก ไม่ได้อยากจะมาบ้าบอกับเรื่องภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นโลเคชั่นหลักของเรื่องนะ คือเราพอหลับตาข้างเดียวมองผ่านได้นะ แต่ดีเทล ความสมเหตุสมผลและตรรกะมันเบาบางมาก เบาบางจนมีความรู้สึกว่ากูไปนั่งดูละครลิงหรือไม่ก็ไปนั่งเกาคอให้หมาที่บ้านแม่งยังเพลินและรู้สึกบันเทิงและไม่รู้สึกเสียเวลาอะไรขนาดนี้
.
พระเอกคือฮวังจองมินมีแพลนว่าจะเลิกอาชีพนักฆ่าไปใช้ชีวิตที่ปานามา แต่เค้าก็มีเหตุให้ต้องมาตามหาเด็กผู้หญิงซึ่งมีความหมายกับเค้ามากโดนเด็กได้โดนลักพาตัวหายไปที่ประเทศไทย โดยการเข้ามาตามสืบทีประเทศไทยนี้เองเค้าก็ต้องโดน เรย์ นักฆ่าบ้าเลือดที่ชอบเชือดและชำแหละคนมาคอยตามไล่ล่าอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งพระเอกจะมีกะเทยชาวเกาหลีที่มาทำงานในไทยโดยใ้ชีชื่อว่า ยุ้ย คอยช่วยและคอยไปหาเด็กตามสถานที่ต่างๆ เนื้อหาไม่มีอะไรมากมาย ประเด็นหลักๆก็แค่นี้แหละ แต่อีดอกอารัมภบทแก๊งยากูซ่าสี่แปดปาเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมง และเนื้อเรื่องพอเข้ามาโฟกัสในประเทศไทยเท่านั้นแหละ ความฉิบหายก็บังเกิดกับหนังเกือบทั้งเรื่อง
.
คือเอาไงดีกว่า ผมว่าสิ่งที่น่าตำหนิที่สุดเลยก็คืองานโปรดักชั่นในประเทศไทยเนี่ย ทีมงานควรหาข้อมูลอะไรให้มันแน่นกว่านี้ไหม ส่วนหนึ่งพอจะทำใจได้แหละเรื่องข้อมูลไม่เป๊ะ อย่างประกาศจับนี่ก็ยังใช้คำว่า กรมตำรวจ แทนที่จะใช้คำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เข้าใจได้ว่าคนต่างชาติไม่จำเป็นต้องเข้าใจ แต่เราคนไทยดูแล้วขัดมาก หนังย้อมสีประเทศไทยออกเป็นสีส้มและดูรู้สึกว่าประเทศไทยร้อนมากเหมือนเป็นประเทศทะเลทราย ตัวละครเหงื่อออกเหมือนอาบน้ำทั้งเรื่อง และแน่นอนว่า ตำรวจไทยในเรื่องก็เป็นคนก่ออาชญากรรมเองก็มี และไม่มีน้ำยาตามอะไรไม่ได้ เข้ามาก็เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน มีแต่ห่าไรก็ไม่รู้ และที่สำคัญ เดินไปไหนมาไหนแป๊บนึงเจอเวทีมวย อีดอก คือเข้าใจแหละว่าคนเกาหลีที่เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วเจอเวทีมวยไทยก็คงอยากให้มีมวยไทยใส่ไปในหนัง แต่เอาจริงๆ อีห่า เวทีมวยนี่มันไม่ได้ไปเจอกลางวันแสกๆกลางตลาด ตามย่านชุมชนรึเปล่า เราดูแล้วแปลกประหลาดมาก และที่อะเมซิ่งสุด ความสมเหตุสมผลคือไม่มีเลย พระเอกกับกะเทยยุ้ยเดินเข้าไปที่กบดานคนร้ายได้แบบโต้งๆ ไม่ต้องกลัวห่าไรเลย และพีคสุดคืออีผู้ร้ายรัวปืนกลมาบนรถตุ๊กๆ อีดอก!!! ได้เหรอ อย่างนี้ก็ได้เหรอ รถตุ๊กตุ๊กนี่มันไม่ได้มีความเร็วหรือสะดวกในการขับเคลื่อนห่าไรเลย และที่งงสุด อีคนขับตุ๊กตุ๊กมึงต้องจิตแข็งขนาดไหนที่มีคนมารัวปืนกลอยู่ที่เบาะหลังเนี่ย และคิวบู๊เหมือนหนังไทยเกรดซีเมื่อสามสิบปีก่อน ประมาณยิงกระท่อมย้อมหน้าปาระเบิดอ่ะ คือเอะอะสต็อปบ้างสโลว์บ้าง นักแสดงไทยพูดภาษาอังกฤษแบบท่อง บางคนก็ใชเ้สียงพากย์ คิวบู๊ไม่มีความสนุกเลย ดูหมากัดกันยังบันเทิงเสียกว่า
.
หนังมีความเตอริโอไทป์เรื่องเพศอย่างกะเทยและมีความเหยียดเพศอย่างรุนแรง จนเรารู้สึกว่าอีผู้กำกับเหมือนคนไม่ค่อยทันโลกเท่าไหร่ และเคยมาศึกษาอะไรบ้างเกี่ยวกับโลกใบนี้บ้างไหม หลายฉากหลายตอนเราดูแล้วเราไม่โอเคยเลย หนังมันดูบู๊แบบรัวปืนกลมันๆได้เท่านี้จริงๆนะ มันไม่มีอะไรรองรับไม่มีเหตุผลรองรับ ถ้าจะกะดูเอาเพลินๆยังขัดตาเลย เรื่องภาพลักษณ์เมืองไทยแน่นอนว่ามันออกมาดแย่ๆแน่ๆ แต่เรามองข้ามได้ในฐานะที่มันเป็นหนัง แต่สิ่งที่แย่คือการเล่าเรื่องที่ขาดเหตุผลที่มาที่ไป รวมถึงตอนจบที่อยากบอกมากว่า หนังหี!
.
ดูจบอยากจะร้องกรี๊ดหน้าโรงว่า อีควาย! หนังวายป่วงมากอีดอก พักเถอะ เสียดายเงินไม่เท่าเสียดายเวลา เอาเวลาไปนั่งหาเห็บหมาเอาเวลาไปนั่งเกาคางให้หมาเกาท้องให้หมาเอาหมาไปเดินเล่นยังรู้สึกมีความสุขและเพลินใจมากกว่าเยอะ เอาไป 2/10 พอนะครับ ให้ได้เท่านี้แหละ อย่าหาทำ!!
