4 โรคหลัก ที่นำไปสู่
การ #ฆ่าตัวตาย
และ #ภาวะซึมเศร้า
จาก #วันทอง #ละครย้อนยุค
สู่ #โรคคนเมือง
ที่ขุนช้างเป็น..!!
คืนที่
ดึงจิตวิญญาณ
ขยี้ใจคนดูได้แหลก
แถมด้วยแกงถ้วยสุดท้าย
ที่เรียกได้ว่า จะสุขก็ไม่สุด
จะยิ้มก็แอบฝืน
ความทุกข์และน้ำตา
ที่เสียใจเกินเยียวยา
ยังอาบแก้ม
งานนี้
ถ้าปิดไฟนอน
ตั้งแต่ตอนหัวกระเด็น
คือพลาดมากกกก
#สะเทือนใจจนเกินจะทน
คนที่เล่นได้พลิกบทบาท
สุดทุกตอนที่ออกมา
จนถึงนาทีสุดท้าย
ต้องยกนิ้วให้ #ขุนช้าง
บทที่แสนจะน่าเกลียดด้วยรูปลักษณ์
แถมความพลิกลิ้น เล่ห์เหลี่ยมอุบาย
จนไม่อยากดูรูปขุนช้างอีกเลย
แต่
ถ้าเจาะลึกๆแล้ว สิ่งที่ขุนช้างเป็น
สะท้อนให้เห็นถึงโรคยอดฮิต
ที่แสนใกล้ตัวในปัจจุบัน
แยกออกมาได้ 4 โรคใหญ่ๆ
ลองเช็คดูว่า อยู่ใกล้ตัวเรา
หรืออยู่ในตัวเราบ้างหรือเปล่า
#โรคแรก
....
1.
โรคขาดความรักความเคารพตัวเอง
(Lack Of Self Esteem)
ด้วยแบคกราวนด์ของขุนช้าง
ที่เติบโตมาอย่างอัปลักษณ์
ผู้คนรอบตัวพากันรังเกียจยังไม่พอ
แถมแม่ตัวเองยังรู้สึกอับอายขายขี้หน้า
ที่มีลูกรูปชั่วตัวดำ จึงเลี้ยงดูมาด้วยคำด่า
และอารมณ์ที่เกรี้ยวกาด
ทำให้ขุนช้างโตมาไร้ซึ่ง
#ความภาคภูมิใจในตัวเอง
ขาดพื้นที่ของความรัก และลึกๆแล้ว
ก็ไม่เข้าใจเรื่อง #ความรักตัวเอง ด้วย
พอมีนางวันทอง ซึ่งดีกับขุนช้าง
เลยผูกจิตผูกความรู้สึกนี้
เป็นแกนหลักในชีวิต ยึดนางวันทอง
เป็นของรัก โอบรัด
สิ่งที่ตัวเองเข้าใจว่าคือความรัก
เอาไว้แน่น ดูแลนางวันทอง
ในแบบที่สะท้อนให้เห็นชัด
ว่าแท้จริงแล้ว ขุนช้างเอง
อยากได้รับความรักในแบบนี้
แบบที่ตนไม่เคยมี
“เมื่อเราไม่เข้าใจในความรัก
และไม่รู้จักรักตัวเอง
เราจะขาดความนับถือตัวเองด้วย
และกระหายอยากจะได้ในสิ่งที่ขาด
แต่
ไม่รู้วิธีของการให้ เพราะจริงๆ
สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ขาด แต่ไม่เคยมีต่างหาก”
การขาด Self Esteem มามากขึ้นเรื่อยๆ
ในทุกวันนี้
สาเหตุหนึ่งคือ
ลูกถูกเลี้ยงดูมาในสังคมที่แข่งขัน
พ่อแม่ บางทีไม่มีเวลากอด ใส่ใจลูก
พอว่างก็ยื่นมือถือ ซื้อของให้
จนลูกเข้าใจว่านี่คือรูปแบบของความรัก..!
#โรคที่สอง
....
2.
รักแบบเจ้าเข้าเจ้าของ
(Possession Disorder Symtom)
คือรักเพื่อให้ได้ครอบครอง
ไม่ใช่เพื่อให้ได้รัก
เข้าใจไปเองว่า การได้เป็นเจ้าของ
คือได้รัก..!!
โรคนี้เมื่อเป็นหนักขึ้น จะลามไปถึง
การเป็นเจ้าของในทุกสิ่ง
เจ้าของชีวิต ไม่ให้ไปไหน
จะทำอะไรต้องรู้ ต้องทำด้วย
ต้องได้อยู่ด้วยกัน
ถือสิทธิ์ครอบครองในทุกอย่าง
รวมทั้งความคิดและจิตใจด้วย
#ขุนช้าง เข้าใจว่า
ตัวเองเป็นเจ้าของชีวิตนาง
จะไปไหน ทำอะไรนอกสายตา ไม่ได้ทั้งนั้น
โรคนี้คล้ายกับโรคแรก
คือมักเกิดกับคนะที่ #ขาดความรัก
โตมาแบบ #ขาดความอบอุ่น
หรือ ไม่มีพื้นที่ของตัวเอง เช่น
เกิดมาท่ามกลาง พี่น้องที่เก่งล้ำ
จนตัวเองต่ำต้อยไปเลย รู้สึกว่า
ไปไหนใครๆก็มองข้าม
หรือ
พ่อแม่ ตามใจ
แสดงความรักด้วยข้าวของ
จนไม่เข้าใจความไม่ได้ ไม่มี
เมื่อรักใครแล้ว จึงต้องครอบครอง
ยึดเหนี่ยวแน่น แบบหวงแหน
เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
#โรคที่สาม
....
3.
เสียไม่ได้ แพ้ไม่เป็น
(Prejudice Disease)
การที่ #ขุนช้าง ไปขโมยนางวันทอง
พานางวันทองหนี ตั้งแต่วันแรก
วันที่นางท้องแก่
จนถึงวันรอประหาร
สะท้อนได้ชัด ถึง #ความเสียไม่ได้
โรคนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะเป็นภาระสังคม
แต่จะเป็นปัญหาสำหรับตัวของเขาเอง
และอาจนำมาซึ่ง #การฆ่าตัวตาย
ได้เลย
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะเป็นเด็กที่
มีความโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง
ไม่ว่าจะทางบวกหรือทางลบมากๆไปเลย
ไม่ต้องพูดถึงคนที่แพ้ว่าจะเป็นอย่างไร
ผู้ใหญ่ปลูกฝังให้เขาเป็นผู้ชนะโดยไม่รู้ตัว
เด็กบางคนไม่เคยแพ้ และแพ้ไม่ได้
คิดว่า “เพราะอย่างไรก็ชนะ”
#โรคที่สี่
....
4.
ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
(Lack of Guilty Conscience)
ฟังแล้วคุ้น เหมือนได้ยินคำนี้มาตั้งแต่เด็ก
จริงๆแล้วโรคนี้มีรอบตัวเลย
ในทุกตอนที่ #ขุนช้าง ออกมา
เกือบ 100% ที่ต้องมีทำอะไรผิด
ไม่ชอบมาพากล หรือมีเล่ห์เหลี่ยม
แต่
ไม่มีซักตอนเดียว ที่ #ขุนช้าง
จะสำนึกผิด
แม้แต่ตอนสุดท้าย ที่รู้แน่ว่า
นาง #วันทองจะต้องถูกประหาร
ขุนช้างออกอุบาย ให้เอาผ้าคลุมหัว
หญิงอื่น มาแทนนางวันทอง เพื่อเข้าพิธีประหาร
ตัดหัวนางคนนั้นไปซะ
สะท้อนชัดเจนว่า ไม่ว่าเรื่องอะไร
เวลาไหน ขุนช้างจะออกไอเดียได้เสมอ
โดยไม่เข้าใจ อะไรคือถูกผิด
อะไรที่ใช่ และถูกใจ ย่อมถูกต้อง
ไม่มีวันต้องขอโทษ
ขอให้บรรลุเป้าหมายเป็นพอ
โรคนี้เป็นกันเยอะ
ในทุกวงการ โดยเฉพาะบ้านเรา
ทั้ง ใต้โต๊ะ ปกปิด พูดเท็จ ใส่ความ
ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว
พวกมากลากไป มีทุกสิ่ง
กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว
ทำผิดไม่แปลก
แต่ ไม่เข้าใจด้วยว่า
เรื่องที่ทำคือถูกหรือผิด
ไม่มีต่อมแยกแยะ
ทั้ง 4 โรคนี้ ยังมีโรครายย่อย
เช่น
#ไบโพลา #โรคซึมเศร้า
#โรคปฏิเสธสังคม
และอื่นๆ
#ดูละครแล้วย้อนดูตัว
คำนี้ฟังมาตั้งแต่เด็ก ยังใช้ได้เสมอ
3 โรคแรก สร้างปัญหาให้ตัวเอง
และคนรอบข้าง
เป็นสาเหตุหนึ่ง
ของ #โรคซึมเศร้า ลามไปจน
ปัญหา #การฆ่าตัวตาย
ที่มีตัวเลขมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนโรคสุดท้าย
เป็นปัญหาใหญ่
อันตรายของสังคม
ไม่ถึงกับฆ่าตัวเองตาย แต่อาจฆ่าสังคม
และวัฒนธรรมสังคม ความสามารถจริงๆของคน
ให้ตายจากไปได้..!!
#RIPขุนช้าง
เอ๋ อภัยลักษณ์
สุดท้าย
ขอไท-อิน
อยากชวนทุกคนมาเรียน #EmpowerME
คอร์สหนึ่งในดวงใจ
ที่สะท้อน เยียวยา
ช่วยได้มาก กับทุกโรคที่ว่ามา..
มีหลายเคสที่ทานยารักษาโรคซึมเศร้ามานาน
เรียนแล้วดีขึ้น ไปหาหมอและหยุดยาได้
บางเคสเลือกล้มความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
หรือ หลายคู่ หลายครอบครัว
กลับมาคุยกันได้ มารักสามัคคี
และเข้าใจกันใหม่
เราไม่ใช่หมอ
คอร์สนี้ไม่ได้รักษานะคะขอย้ำ
แต่ ทำให้เราเข้าใจตัวเอง
ตามหาหัวใจ
และความรู้สึกที่ขาดหายไป
จนกลับมาตกหลุมรักตัวเอง
และสร้างคุณค่าได้อีกครั้ง
Inbox มาคุยสิ
ทุกคำถามมีคำตอบ
หรือ
โทร. 098-914-5443
#ศีลเสมอแล้วเจอกัน
#ApailuckTan
ไบโพลา 在 สังเกตอย่างไร ใครเป็นไบโพลาร์ ? : รู้ทันกันได้ - YouTube 的推薦與評價
ชวนมาสังเกตตัวเองและคนรอบข้าง ว่ามีอาการเสี่ยงต่อการเป็น "โรค ไบโพลา ร์" หรือไม่ ? ซึ่งโรคนี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยฆ่าตัวตาย ... ... <看更多>