#想把防疫好物帶回家? #趕快看留言喔!
🙋♀️植物酒精是什麼?https://pse.is/3gtgfq
目前疫情高峰導致市面滿滿抗菌噴霧的廣告
為什麼黃太太我要挑 #木酢達人 的這組呢?
因為他們是 #綠色生活 為主要訴求的商品
木酢產品來自林木剩餘資材再運用
製作木作、天然清潔劑、甚至身體清潔用品
內含物以他們研發環境友善的 #木酢液 為主軸
不然防疫是防疫了但環境卻很受傷(如亂丟的口罩)
所以 #木酢乾洗手 是對自己跟環境的雙重保障
下單這組再輸入【mangomom】#7日有效
廠商會再多贈送一瓶
保存期限是三年不用怕一次買多
主要現在真的不能忘記帶出門
我就各個包包都放、芒果書包也放
其實根本不怕多
木酢乾洗手有別於他人使用植物酒精配方
還有獨家木酢液
加上護手成分如甘油、橄欖油、沙棘油、酪梨油、澳洲堅果油
最後還有甜橙、尤加利、澳洲茶樹、檸檬精油
噴孩子小手手也才安心
記得要加入會員哦!
💰購物金100元可以立刻抵用
🎁也一樣享有官網滿額贈優惠
🚛還有目前全館不限金額免運
由於免運之後不一定有(或是門檻提高)
黃太太我再推薦幾樣覺得好用的商品
🔴木酢環境清潔抗菌液
若是每天仍需要外出的跟阿爸阿母
可利用木酢環境清潔抗菌液清潔居家環境
自己跟孩子的肌膚會碰到(腳踩過去、手碰到)之處
木酢達人溫和配方才是防疫長久之計
木酢達人不只環境清潔、身體清潔用品也很多
像是芒果這七天沒出門可都有洗澡!!!
#媽媽就算自己沒洗頭也會幫孩子洗😁
🔴Baby低敏木酢艾草泡泡露
木酢的弱酸配方+上艾草
芒果都說艾草非常好聞
媽媽雖然沒有洗頭但都有洗澡啦(解釋什麼
洗澡我就都有用他們的 🔴私密清潔露
他們私密清潔名字還韓文的呢!
叫做私密達/습니다...........私密的啊??
#之前收到商品一看整個大爆笑
#還沒法講給黃先生聽因為他也不知道笑點在哪🤷♀️
因為他們商品組合蠻多
記得翻翻看看有沒有家裡目前需要的環境、身體清潔用品
跟木酢乾洗手一趟帶回去!!
同時也有8部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅SkyHashi,也在其Youtube影片中提到,습니다が入っているよく使っている韓国語のセリフ10つ! 알겠습니다/고맙습니다/반갑습니다/다녀오겠습니다/다녀왔습니다 여기 있습니다/정리했습니다/질문 있습니다/퇴근하겠습니다/수고하셨습니다 Instagram ▶ https://www.instagram.com/skyhashi...
습니다 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ภาษา เป็นตัวกำหนดความคิด ของคนประเทศนั้น /โดย ลงทุนแมน
หลายศตวรรษที่ผ่านมา หลายคนมักคิดว่าภาษาเป็นเพียงแค่การใช้คำศัพท์
หรือการเรียงประโยคที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว กรอบความคิดและทักษะส่วนหนึ่งของเราเอง
อาจจะถูกครอบงำจากภาษา โดยที่เราก็ไม่ทันรู้ตัว
ทำไม คนจีนถึงมีความชำนาญด้านตัวเลข
ทำไม คนอังกฤษกับสเปนอาจมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกัน ไม่เหมือนกัน
รวมถึงว่าทำไม ประเทศไทยถึงมีการปลูกฝังเรื่องความอาวุโสตั้งแต่ยังเล็ก
ทุกอย่างนี้สามารถอธิบายได้ โดยสิ่งที่เรียกว่า “ภาษา”
แล้วภาษา มีอิทธิพลต่อเราขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บนโลกนี้มีภาษาที่ใช้สื่อสารถึงกว่า 7,000 ภาษาด้วยกัน
ซึ่งแต่ละภาษามีความแตกต่างในหลายแง่มุม
ทั้งจากการออกเสียง คำศัพท์ และโครงสร้างที่ไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ สังเกตได้ว่าคนในแต่ละประเทศ
มีทั้งวัฒนธรรมและความคิดแตกต่างกันไป
นั่นจึงเป็นที่มาให้บรรดานักภาษาศาสตร์ศึกษาว่า
ภาษานั้นส่งผลต่อความคิดและการกระทำหรือไม่
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์
จึงได้ทำการวิจัยและทดลองคนแต่ละประเทศ
แล้วพบว่าภาษาไม่ได้เพียงแค่ส่งผลต่อความคิดและทักษะเท่านั้น
แต่มันอาจจะเป็น “ตัวกำหนดความคิดของเรา” เลยด้วยซ้ำ
จึงเกิดเป็นทฤษฎี Linguistic Relativity หรือ ทฤษฎีสัมพันธภาพทางภาษา
ถูกคิดโดยเอ็ดเวิร์ด ซาเพียร์ และเบนจามิน วอร์ฟ
ซึ่งแบ่งย่อยได้อีก 2 แนวคิดคือ
1. Linguistic Determinism ภาษาเป็นตัวกำหนดความคิดของเรา
2. Linguistic Relativity คนที่ใช้ภาษาต่างกัน จะมีมุมมองและวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน
แล้วทฤษฎีนี้ มีเหตุผลสนับสนุนอะไรบ้าง ?
เรามาดูตัวอย่างงานวิจัยและทดลองที่ผ่านมา
เบนจามิน วอร์ฟ ได้ยกตัวอย่างโดยการเทียบ
ระหว่างภาษายุโรปกับภาษาอเมริกันอินเดียนหรือ Hopi
ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพว่า ภาษาที่มีไวยากรณ์ที่แตกต่างกันนั้นส่งผลต่อความคิดของเรา
โดยภาษายุโรป จะมองว่าเวลานั้นมีตัวตนเหมือนสิ่งของทั่วไป
สามารถนับเป็นหน่วยได้ เช่นเดียวกับสิ่งของที่นับเป็นชิ้น
แต่เวลาจะนับเป็นหน่วยวินาทีหรือชั่วโมงแทน
ซึ่งการมองว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีตัวตนนี้เอง ส่งผลให้เกิดสิ่งที่ตามมา
เช่น การให้ความสำคัญกับเวลา ซึ่งนำมาสู่สิ่งประดิษฐ์อย่าง ปฏิทินและนาฬิกา
หรือกระทั่งความสนใจในอดีต อย่างการบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
หรือแม้กระทั่งหลักไวยากรณ์ในหลายภาษา เช่น ภาษาอังกฤษก็จะมีรูปประโยคที่แสดงถึง อดีต ปัจจุบัน อนาคต
ในขณะที่ Hopi เองนั้นมองเวลาเป็นเพียงแค่สิ่งที่ไม่มีตัวตน เป็นเพียงแค่สิ่งที่วนเวียนเหมือนเดิม
จึงไม่แปลกที่จะไม่มีการจดบันทึกเหตุการณ์ด้วยภาษา Hopi และก็สะท้อนมายังสังคมของชาว Hopi ที่ให้ความสำคัญกับการกระทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะพูดถึงสิ่งเดียวกัน
แต่ความคิดและมุมมองจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภาษา
นอกจากความคิดแล้ว
ภาษายังส่งผลต่อทักษะอีกด้วย
สะท้อนมาจากงานวิจัยของเลรา โบโรดิตสกี
ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์
ที่ได้ไปเจอกับชุมชนชาวอะบอริจินในออสเตรเลีย
ซึ่งผู้คนในชุมชนนี้ไม่รู้จักคำว่าซ้ายหรือขวาเลย
แต่จะบอกทิศทางโดยการใช้ศัพท์ตามเข็มทิศ
ตัวอย่างรูปประโยคแปลเป็นภาษาไทย
เช่น “มีมดเกาะอยู่บนขาข้างตะวันตกเฉียงใต้”
นอกจากนี้ พวกเขามักจะทักทายด้วยคำว่าสวัสดี
แล้วต่อด้วยการถามเส้นทางของคู่สนทนา
เช่น “สวัสดี คุณกำลังไปทางไหน”
ซึ่งจากการใช้ภาษาแบบนี้ ทำให้ชาวอะบอริจินมีความเชี่ยวชาญในการระบุทิศทางได้ดี
นี่ถือเป็นตัวอย่างแรกที่ชี้ให้เห็นว่าภาษาส่งผลต่อทักษะเช่นกัน
ตัวอย่างถัดไปก็คือ การแยกเฉดสีของชาวรัสเซีย
ปกติแล้ว ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษมักจะเรียกสีฟ้าเข้มและอ่อนว่า Blue ทั้งหมด
แต่ชาวรัสเซียกลับต้องจำแนกเฉดสี
ระหว่างสีฟ้าอ่อน ที่เรียกว่า “โกลูบอย” กับสีฟ้าเข้ม ที่เรียกว่า “ซีนีย์”
นั่นจึงทำให้พวกเขามีความสามารถในการแยกแยะสีได้เร็วกว่าชาติอื่น
และตัวอย่างสุดท้ายคือ ทักษะด้านตัวเลขของชาวจีน
ชาวจีนเก่งการนับเลขมากกว่าผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ
นั่นก็เพราะว่าตัวเลขมีการสื่อสารที่เรียบง่าย
ในขณะที่เลข 11 ภาษาอังกฤษ คือ Eleven
หรือ 12 คือ Twelve ซึ่งจะเป็นการสร้างคำพูดใหม่ขึ้นมา
แต่สำหรับเลขจีน กลับเป็นคำพูดที่เรียบง่าย เช่น เลข 11 หรือ 十一
อ่านว่า สืออี ซึ่งเป็นการนำคำศัพท์เลข 10 กับเลข 1 มาผสมกัน เท่านั้น
ทีนี้ เรามาดูอีกผลวิจัยที่พิสูจน์ว่าแต่ละภาษาส่งผลต่อการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันด้วย
ซึ่งเป็นการทดลองโดยการฉายภาพเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา
ในรูปแบบคลิปวิดีโอเกี่ยวกับแจกันแตก
เพราะมีคนบังเอิญเดินมาชนอย่างไม่ตั้งใจ
และมีผู้เข้าร่วมทดสอบ 2 ประเภท คือผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ และผู้ที่ใช้ภาษาสเปน
ผลทดลองพบว่า สิ่งที่คนอังกฤษสรุปออกมาได้ก็คือ แจกันแตกเพราะมีคนชนมันตกลง
ในขณะที่คนสเปนจะจดจำได้เพียงแค่ว่า มีแจกันแตกเท่านั้น
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนสเปนถึงจำได้แค่นั้น
นั่นก็เพราะว่าภาษาสเปนจะคำนึงถึงเจตนาด้วย
หากเป็นอุบัติเหตุ ชาวสเปนจะตัดเรื่องราวส่วนผู้กระทำออกไป
โดยไม่ให้ความสำคัญกับส่วนนั้นและมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องจดจำ
ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่า
แม้เราจะเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน แต่เรากลับมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งมันก็จะนำไปสู่วิธีคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
เรื่องดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปถึงการพิพากษาคดี หรือแม้แต่การตัดสินใจร่วมกันของคนต่างชาติ ต่างภาษา อีกด้วย
นอกจากนี้ ภาษาก็ส่งผลต่อความเชื่อและค่านิยมอีกเช่นกัน
เช่น ประเทศไทย เป็นหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องลำดับขั้นหรือความอาวุโส
ซึ่งก็สะท้อนมาจากการใช้คำว่า ครับ หรือ ค่ะ ท้ายประโยคแทนความเคารพ
แตกต่างจากประเทศฝั่งตะวันตก
ในขณะเดียวกัน เราก็มีคำสรรพนามที่ใช้เรียกผู้อื่นหรือตัวเองที่มีอยู่มากมาย
ตั้งแต่ เรา ผม หนู ฉัน ดิฉัน กระผม ข้า ข้าพเจ้า หม่อมฉัน
ซึ่งแต่ละสรรพนามก็ใช้แตกต่างกันตามสถานะของอีกฝ่าย
เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเอง ก็เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับความอาวุโสเช่นกัน
จึงเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเทศมีคำที่ใช้สื่อสารต่อผู้คนที่แตกต่างกัน
เช่น เกาหลีใต้ คำว่า 요 หรือ -습니다
จะถูกใช้ท้ายประโยคเหมือนคำว่า ครับ หรือ ค่ะ ของคนไทย
และเหล่าคำกริยาก็สามารถผันเป็นรูปอื่น
เพื่อแสดงความเคารพต่อคนที่อาวุโสกว่า
ภาษาญี่ปุ่น はい แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เป็นการตอบแบบสุภาพ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์
ในขณะที่ ええ แปลว่า ครับ หรือ ค่ะ เช่นกัน แต่ใช้ได้แค่คนระดับเดียวกันหรือรองลงมา
ในทางกลับกัน ชาวเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาอย่างมาก
แต่ประเทศไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าคำศัพท์ของไทยไม่มีการผันตามเวลา
ซึ่งต่างจาก 2 ประเทศข้างต้น ที่มีการผันคำศัพท์ที่แตกต่างตามช่วงเวลา
จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าภาษาคือสิ่งที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความคิดของผู้คนแต่ละพื้นที่ จึงไม่แปลกใจที่คนพูดได้หลายภาษาจะสามารถมองโลกได้กว้างกว่า
และนี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่า
ทำไมบางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศหนึ่ง
อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักในบางประเทศ
จากเรื่องนี้ก็ทำให้เห็นความสำคัญว่า ทำไมเราจึงควรเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่น
เพราะสิ่งที่เราได้รับ นอกจากจะได้ภาษาใหม่แล้ว ยังเป็นการสร้างมุมมองใหม่อีกด้วย
ซึ่งการมีมุมมองที่รอบด้าน ก็จะกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นตามไปด้วย
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-biolinguistic-turn/201702/how-the-language-we-speak-affects-the-way-we-think
-https://www.ted.com/talks/lera_boroditsky_how_language_shapes_the_way_we_think?language=th
-https://so04.tci-thaijo.org/index.php/abc/article/view/60825/50088
-https://itdev.win/14215/13.pdf
습니다 在 Daily韓語 Facebook 的最佳解答
<初級生活韓語>잘 먹었습니다謝謝你的招待(,我吃得很開心)
跟別人一起吃飯,對方請客時,韓國人吃完後一定表示謝意,說잘 먹었습니다。不一定對方請你吃,你跟朋友一起用餐,吃得很開心就彼此說잘 먹었습니다。反正這句表示 ‘吃得很滿意開心’。
잘指’好好地’的副詞。韓語常用잘來表示’程度厲害’,有時也表示頻率’常常’。
‘吃了먹었습니다’的基本形為먹다吃。
時態變化為먹어요(現)-먹었어요(過)-먹을 거예요(未)。
먹었습니다為먹었어요(過去式)的格式體說法。
습니다一般在比較正式場合使用的語尾。但有些습니다語尾會慣用,如’잘 먹었습니다吃得很開心, 감사합니다感謝您, 죄송합니다抱歉, 알겠습니다好,我知道了’等。
잘 먹었습니다為’感謝你的招待,我吃得很開心’的意思。那麼,開始用餐前該說哪句? 你要說’잘 먹겠습니다(感謝你,)我要開動了’。
不管對方請你吃或者各付各的,要開始吃之前一般都說 잘 먹겠습니다。
가:오늘 제가 살게요. 많이 드세요.今天我請客。請多吃。
나:감사합니다. 잘 먹겠습니다~謝謝你。我要開動了~
가:맛있게 먹었어요?吃得開心嗎?
나:네. 잘 먹었습니다~~~ 근데 너무 많이 먹었어요…
對。謝謝你的招待,我吃得很開心~~但好像吃太多…
가:진짜! Oo 씨 오늘부터 다이어트 하잖아요…
真的! Oo 씨你今天開始減肥不是麻…
습니다 在 SkyHashi Youtube 的精選貼文
습니다が入っているよく使っている韓国語のセリフ10つ!
알겠습니다/고맙습니다/반갑습니다/다녀오겠습니다/다녀왔습니다
여기 있습니다/정리했습니다/질문 있습니다/퇴근하겠습니다/수고하셨습니다
Instagram ▶ https://www.instagram.com/skyhashi
습니다 在 阿敏與雷吉娜的超有趣韓文 Learn Korean with us Youtube 的最讚貼文
大家好 我是阿敏
上次教了大家怎麼把原型變成現在式
今天來學學現在式的不規則變化吧~
《韓語初級文法》格式體(습니다)與非格式體(아/어요)尊敬形的現在式→ https://youtu.be/gQDJPl_lsEA
습니다 在 阿敏與雷吉娜的超有趣韓文 Learn Korean with us Youtube 的最佳貼文
大家好 我是阿敏
大家期待已久的文法影片終於來啦!
今天講解的是韓文動詞與形容詞變成現在式的規則
訂閱破6000後就會每週在YOUTUBE直播教韓文文法唷~
可以到這支影片底下去留言許願開直播的時段喔
→https://www.youtube.com/watch?v=XiS1ZO2dUbE
最後大家不要忘記訂閱我和按讚喔!!!
偷偷宣傳一下阿敏有在新竹開韓文班唷~~
新竹的朋友們歡迎來上課!
歡迎合作邀約,請寄信到:
amin820217@gmail.com
有想看的主題都可以留言~
阿敏的粉專: https://www.facebook.com/s8534815/
阿敏的IG : aminkorean
最後大家不要忘記訂閱我和按讚喔!!!
★發音系列:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLALgy_Ym2kZkFr5bSGJj_NC_8z5r_VhEe
★防彈系列:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLALgy_Ym2kZnSGyZIdj4JO71RcqMyC0Xh
★聽歌學韓文:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLALgy_Ym2kZn2lAS9uZe6LMqTMgtRdEOA
#韓文教學 #韓文文法 #韓文現在式
습니다 在 韓語情報網 - 雙語多元閱讀 ch46 : 뵙겠습니다 的 뵙 和 봬요 里 ... 的推薦與評價
雙語多元閱讀 ch46 : 뵙겠습니다 的 뵙 和 봬요 里的 봬 到底是什麽差異呢? 뵈다 + 어요 -> 봬요;뵈다 + ㅂ겠습니다 -> 뵙겠습니다! ... <看更多>