คิวบา ประเทศที่มี แพทย์ต่อประชากร มากสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ชาวคิวบามีอายุขัยเฉลี่ยสูงถึง 79 ปี
ใกล้เคียงกับชาวอเมริกัน
และมากกว่าชาวไทยที่มีอายุขัยเฉลี่ย 77 ปี
ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตของเด็กทารก มีเพียง 3.7 คน ต่อ 1,000 คน
น้อยกว่าไทยถึง 2 เท่า
คิวบามีระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมสำหรับทุกคน
และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขดีที่สุดในโลก
เทียบเท่ากับประเทศพัฒนาแล้วในยุโรปตะวันตก
ทั้งๆ ที่คิวบายังถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
และประสบปัญหาทางเศรษฐกิจมานานเนื่องจากถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา
อะไรทำให้ประเทศเกาะกลางทะเลแคริบเบียน ที่มีประชากรเพียง 11 ล้านคนแห่งนี้
ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการแพทย์ของภูมิภาคลาตินอเมริกา?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“ฟิเดล กัสโตร”
เป็นผู้นำการปฏิวัติของคิวบาในปี ค.ศ. 1959
และเป็นผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองของคิวบาให้กลายเป็นระบอบคอมมิวนิสต์
ทำให้คิวบาเกิดความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกา ประเทศมหาอำนาจใกล้เคียง
จนถูกสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรทางการค้านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960
ในปัจจุบัน คิวบาเป็นเพียง 1 ใน 5 ประเทศบนโลก
ที่ยังคงปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์
หนึ่งในอุดมการณ์ที่สำคัญของรัฐบาล ฟิเดล กัสโตร คือการสร้างความเท่าเทียมให้กับประชาชน
ให้ทุกคนได้เข้าถึงบริการของรัฐที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการศึกษา และสาธารณสุข
โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข มีการจัดให้สถานพยาบาลทุกแห่งเป็นของรัฐ
วางรากฐานนโยบายหลักประกันสุขภาพให้ประชาชน ให้การรักษาพยาบาลไม่มีค่าใช้จ่าย
และค่ายาส่วนใหญ่ จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
รัฐบาลทุ่มเทการลงทุนในการผลิตบุคลากรด้านสุขภาพ
โดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลเพื่อให้รองรับกับนโยบายนี้
ส่งผลให้จำนวนแพทย์และพยาบาลของคิวบาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รู้หรือไม่ว่า คิวบา เป็นประเทศที่มีสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรมากที่สุดในโลก
ในประชากร 1,000 คน จะมีแพทย์อยู่ถึง 8.2 คน
หรือแพทย์ 1 คน ดูแลประชากรเพียง 122 คน
หากลองดูข้อมูลสัดส่วนของประเทศอื่นๆ
เยอรมนี แพทย์ 1 คน ดูแลประชากร 238 คน
สหรัฐอเมริกา แพทย์ 1 คน ดูแลประชากร 385 คน
ไทย แพทย์ 1 คน ดูแลประชากร 1,250 คน
เช่นเดียวกับสัดส่วนพยาบาล 1 คน ที่ดูแลประชากรคิวบาเพียง 128 คน
ซึ่งน้อยกว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่า
นอกจากจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีมากแล้ว
สัดส่วนเตียงโรงพยาบาลต่อประชากรก็สูงมากเช่นกัน
ประชากรคิวบา 1,000 คน จะมีเตียงโรงพยาบาลรองรับถึง 5.2 เตียง
ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ดีกว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน และในยุโรปตะวันตกอีกหลายประเทศ
การทุ่มงบประมาณดูแลด้านสาธารณสุขอย่างมหาศาล
ส่งผลให้สุขอนามัยของชาวคิวบาจัดอยู่ในระดับเดียวกับประเทศพัฒนาแล้ว
และทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
การมีแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีการส่งทีมแพทย์บางส่วนไปให้ความช่วยเหลือในต่างประเทศ โดยเฉพาะในแถบลาตินอเมริกาซึ่งใช้ภาษาสเปนเช่นเดียวกัน
เวเนซุเอลา นับเป็นประเทศหนึ่ง ที่คิวบาได้ให้การช่วยเหลือด้วยการส่งแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์
เพื่อไปพัฒนาระบบสาธารณสุขของเวเนซุเอลา
แลกกับการนำเข้าน้ำมันดิบในราคาไม่แพง
แต่เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
ทำให้คิวบาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคที่นำเข้าจากสหรัฐฯ
โดยเฉพาะ “ยารักษาโรค”
ความขาดแคลนทำให้รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการวิจัยทางการแพทย์อย่างหนัก
โดยเฉพาะเวชภัณฑ์และยารักษาโรค เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในประเทศ
ทำให้นอกจากด้านการแพทย์แล้ว
คิวบายังเป็นผู้นำในด้านชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceutical) ของภูมิภาคลาตินอเมริกาอีกด้วย
ชีวเภสัชภัณฑ์ คือ ยาหรือเวชภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิต ด้วยกระบวนการเทคโนโลยีชีวภาพ
เช่น วัคซีน, ฮอร์โมน และโปรตีนสำหรับรักษามะเร็ง
การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของคิวบา
เริ่มต้นจากการที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่
และส่งนักวิจัยไปฝึกอบรมยังศูนย์วิจัยประเทศต่างๆ
รัฐบาลยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยและบริษัทยาหลายแห่ง
ทั้งสถาบัน CIGB (Center for Genetic Engineering and Biotechnology)
บริษัท BioCubaFarma
บริษัท CIMAB S.A.
เพื่อเน้นด้านการวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพอย่างเข้มข้นทั้งภายในประเทศ
และทำการร่วมทุนเพื่อวิจัยร่วมกันกับประเทศอื่นๆ
เช่น CIGB ร่วมทุนกับสถาบันในประเทศจีน, CIMAB S.A. ร่วมทุนกับบริษัทในประเทศไทย
การมีแพทย์เป็นจำนวนมากของคิวบา ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างโรงเรียนแพทย์กับสถาบันวิจัยต่างๆ
จนคิวบาสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ด้วยตัวเอง เช่น วัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
รัฐบาลคิวบาเชื่อว่าเทคโนโลยีชีวภาพจะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในท้ายที่สุด
ปัจจุบันยารักษาโรคเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นสินค้าส่งออกหลักอันดับ 9 ของคิวบาในปี 2018
ด้วยมูลค่า 1,200 ล้านบาท
นับว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อย สำหรับประเทศเล็กๆ ที่ถูกมหาอำนาจกีดกันทางการค้า
แม้แต่ในยามเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่ลุกลามมาถึงภูมิภาคลาตินอเมริกา
คิวบามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงหลักพันคน
และไม่สามารถนำเข้ายาจากสหรัฐอเมริกาได้ เนื่องจากถูกกีดกันทางการค้า
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา..
สถาบัน CIGB ซึ่งมีการร่วมทุนกับบริษัทยาในประเทศจีน
ได้มีการเตรียมผลิตยาในกลุ่ม Interferon ซึ่งเป็นหนึ่งในยาชีวภาพที่ใช้ในการรักษาโควิด-19
ในขณะที่ BioCubaFarma ก็ได้เตรียมการผลิตยากลุ่มอื่นๆ ที่ใช้รักษาโควิด-19
เช่น ยาต้านไวรัส HIV ให้เพียงพอกับความต้องการในประเทศ
ผลจากการที่มีระบบสาธารณสุขที่ดี มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และการมีสถาบันวิจัยที่แข็งแกร่ง
ทำให้คิวบาสามารถควบคุมการระบาดได้ดีในระดับหนึ่ง
อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ในคิวบาอยู่ที่ประมาณ 4%
น้อยกว่าหลายประเทศในยุโรป
ทั้งๆ ที่สัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ของคิวบามีอยู่ถึง 16% ของประชากร ซึ่งใกล้เคียงกับของยุโรป
คิวบาจึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เพราะ 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์ คือ “ยารักษาโรค”
การทุ่มเทพัฒนาด้านการแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพมาอย่างยาวนาน
จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเล็กๆ แห่งนี้เติบโตขึ้น
จากเดิมที่สินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของคิวบา คือ “ซิการ์”
ในอนาคตอันใกล้
จาก ซิการ์ อาจเป็นเปลี่ยน ยารักษาโรค ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://data.worldbank.org/indicator/SP.DYN.LE00.IN?locations=CU
-https://www.statista.com/statistics/806771/infant-mortality-in-cuba/
-https://data.worldbank.org/indicator/SH.MED.PHYS.ZS?locations=CU
-http://www.mfa.go.th/aspa/th/information/9392/109579-คิวบา.html
-http://www.mfa.go.th/aspa/th/relation/7076/77739-ไทย---คิวบา.html
-http://www.tpa.or.th/publisher/pdfFileDownloadS/tn230a_p38-42.pdf
-http://www.worldstopexports.com/cubas-top-10-exports/
-https://peoplesworld.org/article/despite-u-s-blockade-cuban-pharma-industry-producing-needed-covid-19-medicines/
-https://www.populationpyramid.net/cuba/2020/
10 ปี ฮอร์โมน 在 Here's Jae Facebook 的最佳貼文
#10yearschallenge
10 ปีที่แล้ว จัดไปฮะ 55555
จริงๆ ลงในไอจีสตอรี่นานแล้วนะ
แต่เอามาลงในเพจด้วยก็ได้
ตอนนั้นน่าจะม.6 ปี 2553
ยังไม่ได้เล่นกล้าม หน้าตอบๆ ตัวบางๆ แขนฟีบๆ
เผาผลาญดีจัด กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
เป็นกำลังใจให้คนผอมๆ แห้งๆ
ผ่านความดาร์ก ช่วงม.ต้น ม.ปลายไปให้ได้นะครับ
เข้าใจว่าไทม์มิ่งมันยังไม่ได้ ทั้งเรื่องทรงผม (เรียนรด.)
สิวขึ้นเยอะ (ฮอร์โมน) กล้ามเนื้อ รูปร่างอีก
พอถึงวัยแล้วมันจะเริ่มมาเองนั่นแหละ
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูแลตัวเองไปด้วยนะ
อยู่เฉยๆ อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรครับ ♥
10 ปี ฮอร์โมน 在 horrorclub.net Facebook 的最佳解答
[PR News] แนะนำละครเวทีน่าดู "คืนนั้นฉันรักโจชัว หว่อง" ละครเวทีแนวตลกร้ายวายป่วงที่พร้อมจะทำให้คุณขำเลือดซิบกับเรื่องราวเสียดสีสะท้อนยอกย้อนสังคม พร้อมแปะป้ายเรต 15+
.
จะมีสักกี่เหตุผลที่เราอยากฆ่าคนในครอบครัวทิ้ง!?
.
เรื่องราวของ "โคโค่" กะเทยแก่หัวเอียงขวา อนุรักษ์นิยม ที่อยู่ดีไม่ว่าดี ดันมองเห็นหลานชายตัวเอง "แฟรงค์" กลายเป็น "โจชัว หว่อง" นักกิจกรรมเสรีนิยมที่เธอเกลี๊ยดเกลียดดดด เพื่อยับยั้งความเกลียดชังในตัวที่ผุดขึ้น โคโค่ จึงต้องไปขอบำบัดกับจิตแพทย์ชื่อดัง "แองเจลีน่ารัตน์ จัง" แต่กลายเป็นว่าการไปพบหมอครั้งนี้ ดันเป็นการขุดคุ้ยบาดแผลในใจของเธอให้ยิ่งปะทุขึ้น อคติที่ซ่อนเร้น ความเจ็บปวดวัยเด็ก มันพร้อมระเบิดออกมา และปลายทางของมันอาจจบลงด้วยการที่เธอจะต้องฆ่าหลานตัวเองทิ้งกับมือ! บอกเลยว่างานนี้ #กูจะแจ้ง #ปาราชิก
.
"คืนนั้นฉันรักโจชัว หว่อง" จากคณะละคร Qrious Theatre เป็นละครเวทีสุดแสบ แซบซ่องแตกแหกไส้ฉีก ขับเคลื่อนด้วยบทสนทนาเผ็ดร้อนดุจพริกหมาล่า ทว่าภายใต้ความรุนแรงของเรื่อง ยังมีสาระสำคัญที่สะท้อนไปถึงเรื่องการเลี้ยงดูที่อาจเป็นต้นตอของบาดแผลในชีวิต เสรีภาพในแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการก้าวข้ามความเกลียดชังในสังคม (เมื่อเราต้องอยู่ร่วมกับคนที่คิดต่าง หรือไม่เป็นอย่างที่เราหวัง)
.
นอกจากนั้นละครเรื่องนี้ยังเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ "ก้อย ฮอร์โมน" จากเด็กทะโทนแสบซ่าที่คุณคุ้นหน้าในจอทีวี คราวนี้เธอจะขอท้าทายตัวเองด้วยการรับบท "แฟรงค์" เด็กหนุ่มอนาคตไกลที่ตกเป็นเหยื่อความชิงชังของอาแท้ ๆ ซึ่งบทของเธอจะต้องปะทะกับดาราตัวแม่แห่งวงการละครโรงเล็กอย่าง ณัฐญา นาคะเวช (แม่เฟิร์ส ฮอร์โมน) มินตา ภณปฤณ (เคยเล่นหนังที่ถูกแบนอย่างเชคสเปียร์ต้องตาย) ณภัทร เกียรติกวานกุล (เดือนเกี้ยวเดือน ซีซั่น 1)
.
จัดแสดง ณ Goose Life Space (ติด BTS สนามเป้า)
วันที่ 14 - 17, 21 - 24 พ.ย. เวลา 19.30
สั่งจองบัตรราคาพิเศษ 400 (จาก 500 บาท) ได้ทาง INBOX ของเพจ Qrious Theatre หรือโพสต์ในหน้า Event http://bit.ly/2nqUtZ5
.
*ละครมี surtitles ภาษาอังกฤษ
*ละครเหมาะกับผู้ชมอายุ 15 ปี ขึ้นไป
*ละครเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลละครกรุงเทพ 2019
#คืนนั้นฉันรักโจชัวหว่อง #QriousTheatre #BTF2019